สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนเลยยย
อันนี้เป็นกระทู้ที่สองของผม อาจจะไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ถ้าใครสนใจก้อติดตามมาได้เน้าะ
เริ่มเรื่องเลย " ปีใหม่ไม่รู้จะไปไหน คิดเเล้วคิดอีกๆ 5555(เป็นคนเยอะ) มีเพื่อนชี้ทางมาว่า "พ่อจะพาไปเชียงใหม่ ไปปะ" (คำว่าไปปะ โดนใจจีง5555) ก้อเลยตอบตกลงไป เอาละ เรานัดหมายกันแล้วว่าจะไปกันวันที่30 ธันวา 58 กลับ 3 มกรา 59 ถือโอกาสได้ไปเคาท์ดาวน์ที่นู้เลยแล่วกัน เย้!
พร้อมแล้วไปเลย
Go Go Go !

เราออกเดินทางช่วงบ่าย ถึงนู้นก้อ ตี 1 ตี 2 นั่งรถครอบครัว ฟอร์จูน ไปกัน หลับๆตื่นอยู่งั้นอ่ะ เราไปถึงนู้ก้อขึ้นดอยกันก่อนเลยอ่ะ "ดอยอินทนนท์" คือจุดหมายต่อไป
เรามาถึงดอย ทหารจะยังไม่ให้ขึ้น ต้องมีการขึ้นเปนเวลา พอถึงเวลาก็ขับขึ้นไป ขอบอกก่อนว่าขับตอนกลางคืนค่อนข้างอันตรายบอกกับรถสวนกัรเยอะ ระมัดระวังด้วย พอไปถึง โอ้ววแม่จ้าววว!! 8° (เขาที่สูงที่สุดในไทยเน้าะ 555) สั่นทั้งตัวเลยเทเดียววว
จุดหมายต่อไป ที่ไหนคิดไม่ออก 5555 คนขับเลยแวะน้ำตกชะเบยย
จัดไป! เย็นๆ ละอองน้ำมาเป็นสึนามิเลยทีเดียว 555555

แสงก็เริ่มออก อากาศคือสบายมาก
ที่ต่อไปเราจะแวะ "ผาช่อ "

ผาช่อเป็นลักษณะคล้ายเมืองลับแล
เข้าไปในซอยค่อนข้างลึก (มากกก) พอเข้าไปถึงต้องเดินเข้าไปในป่าอีก เหนื่อยลำแข้งมาก 5555
แต่พอไปเห็น อะๆๆๆๆ คุ้มก้อได้ 555

ก้อคุ้มกับที่เดินมาวะ 55
รู้สึกว่าท้องจะร้องเลยไปกินข้าวแล้วก้อจะเข้าที่พักเลย





ประมาณสี่โมวเย็นเราถึงที่พัก พากันพักผ่อนก่อนสักชั่วโมง สองชั่วโมง
พอห้าโมงเราแต่งตัวที่จะไปกินข้าวที่ประตูท่าแพกัน เพราะจัดงานเคาท์ดาวน์ด้วย
พอไปถึงประตูท่าแพ ก้อพากันเดินหาของกิน และช๊อปปิ้งไปในตัว 555555

พอหาของกิน ซื้อของเสร็จ เตรียมจะเคาท์ดาวน์ก็เดินเล่นแถวนั้นเรื่อยๆ คือบรรยากาศที่นี่แตกต่างจากกรุงเทพนะ ต้องมาสัมผัสเองถึงจะรู้ อิอิ

พอเดินเล่นเคาท์ดาวน์เสร็จ ก็นั่งรถแดงกลับที่พัก
เอ้ย! ลืมบอกที่พักเราห่างจากท่าแพไม่ไกลมาก เราเหมารถแดงมาคนละ 50 บาท นั่งกินลมชมวิว สบายยย
พอมาถึงเช้า ทางโรงแรมก็มีบุฟเฟ่จัดหนักไม่อั่นไว้รองรักนักท่องเที่ยว หรือคนที่มาพัก
จุดหมายต่อไป "ดอยหลวงเชียงดาว"
แต่เราจะขึ้นดอยปุยก่อน ไปเล้ยยยย
ดอยปุยจะอยู่บนยอดเขาที่มีม้งอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีร้านจำหน่ายของฝากเยอะเลย

เป็นร้านของฝากสะส่วนใหย่ และวิวสวยมา
กก มีดอกไม้ สวนดอกไม้ มีชุดชาวดอยให้เช่า มีทุกไซค์ 55555
พอลงจากดอยปุย เราก็มาที่ "สำนักภูพิงค์"
น่าจะเป็นสถานที่ตากอากาศของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน
ข้างในจะมีสวนดอกไม้เต็มเลย ดอกกุหลาบเพียบ
กฎที่นี่ก้อต้องแต่งตัวเรียบร้อย ห้ามส่งเสียงดัง
(ผิดพลาดประการใดขออภัย)
ที่ต่อไป "ดอยสุเทพ"

ดอยสุเทพ เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่คนเยอะมาก ข้างบนก็จะมีพระธาตุ เหลืองทองมาก สวยมาก ที่นี่เขามีลิฟให้ด้วย สำหรับคนที่เหนื่อยหรือไม่อยากเดินขึ้นบันไดนาค อำนวยความสะดวกทุกอย่าง แต่คนอาจจะเยอะเป็นธรรมดา

ปะๆๆๆๆ กินข้าวเที่ยงกัน เวลาเร็วมากกก55
เราแวะกินข้าวประมาณชั่งโมง เราก้อเดินทางต่อไป
ดอยหลวงเชียงดาว
ดอยหลวงเชียงดาวห่าวออกจากตัวเมืองไม่ไกลโพ้นมากเท่าไหร่ พอไปถึงทางขึ้นดอย เอาหละยาแก้เมารถ 55555 โค้งค่อนข้างเยอะ ขับขี่ระมัดระวังด้วย
หวัดดี เชียงดาวววว
บอกก่อนเลยว่าข้างบนอากาศจะเย็นมาก สัญญาณต่างๆไม่มีเลยนะจะบอกให้ 5555(เตรียมใจในเรื่องนี้)
เราพักกันที่รีสอร์ทที่ใกล้กับบ้านสายหมอก บรรยากาศดีมาก อยู่กลางหุบเขา ตื่นเช้ามาก็เจอหมอกตีเข้าตัว (อย่าได้โดนน้ำเชียว55555)
เราค้างกันที่นี่คืนนึ่ง วันรุ่งขึ้นก็ออกแต่ช้าววเลยยยยย โอ่ยยยหนาววว!
เราลงดอยมา มาแวะที่ "วัดถ้ำเชียงดาว"

เป็นวัดธรรมดา แต่จะมีถ้ำให้เดินชมกันด้วย ภายในถ้ำก็จะมีพระประดิษฐานอยู่
เขาจะมีไกด์นำเดินในถ้ำ ราคา 100 บาท ที่นี่ห้ามเดินโดยไม่มีไกด์นำทางถ้าอยู่ในถ้ำนะ
ต่อไป กินข้าวเช้ากันๆ 555


โอเค กินเสร็จแล้ว เราจะไปที่ที่มีโค้งเยอะที่สุด นั้นคืออ!! "ปายยยยยย" (กี่พันโค้งละ 5555)
เดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณร้อยถึงสองร้อยโล เพื่อไปปาย เรานั่งรถอย่างทรมาณ555 ใครที่เมารถ หรือเมาโค้ง แนะนำให้กินยาเมารถก่อนขึ้นรถประมาณครึ่งชั่วโมง
หลังจากที่ผ่านวิกฤตโค้งมาแล้ว ก็มาถึงปาย เราวนหาที่พักที่ราคาถูกและใกล้กับถนนคนเดิน ซึ่งเราก็ได้ที่
"บ้านสวน รีสอร์ท"

เรามาถึงนี่ประมาณสี่โมงเย็น เราขอพักผ่อนก่อนแล้วกัน 5555
พอประมาณหกโมง พวกเราก็ออกไปถนนคนเดินปายกัน จะบอกว่าฝรั่ง95%คนไทย 5% ก็ว่าได้ 55555
แต่ก็ชิลดีมาก สไตล์ฮิปสเตอร์ต้องมา อิอิ

ตลอดทางมีทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึกต่างๆ เยอะแยะไปหมด

หันมาฟังเพลงสไตล์ล้านนาก็เพลินไปอีกแบบ 555555
หลังจากที่เราดื่มดั่มกับบรรยากาศเสร็จแล้ว เราก็เดินเข้าที่พักกัน เพราะร่างกายต้องการปะทะหมอนมากตอนนั้น 5555
พอตื่นเช้า เราเก็บของ อาบน้ำพร้อมที่จะกลับกรุงเทพ
งึมๆๆๆ ไม่อยากกลับเลยย TT
ก่อนที่เราจะกลับเราก็เเวะดูพระอาทิตย์ขึ้นที่
"ปาย อินเลิฟ" ก่อนกลับ

คือดีมาก มีหมอกด้วย

และอีกที่นึ่งต้องมาถ่ายคือปิ่นโตยักที่ปาย และก็
สะพาน ประวัติศาสตร์ เมืองปาย
และแล้วเราก็ต้องโบกมือบ้ายบายเมืองปาย และไปเผชิญ ทางโค้งอีกรอบก่อนกลับ 5555555
เดินทางกลับผ่านลำปาง เอ้าแวะหน่อยๆ555
เราแวะที่ "วัดพระธาตุลำปางหลวง"
วัดนี้เขามีโบสที่มีช่องหน้าต่างแล้วพระธาตุลอดเข้ามาในโบสเห็นเป็นรูปพระธาตุลำปางหลวงอยู่ในโบสอย่างชัดเจน......

ที่นี่เขามีรถม้าให้ขี่ด้วย รอบละ 200บาท วนรอบวัด หรือใครอยากจะมาถ่ายรูปเขาก็มีจัดไว้ให้ และที่นี่ก็มีของฝากมากมายไว้ให้จับจ่ายกันด้วย
ทริปครั้งนี้ เสียตังกับค่ารถ ค่ากิน ค่าจุกจิก ไม่ถึง 5000
บางคนบอกแพงไปแต่มันก็น่าจะคุ้มสำหรับคนที่อยากมามากๆ อย่างตัวเราอยากมามาก ได้ทำตามใจตัวเอง ความสุขคือตรงนี้
[ กระทู้นี้มีอะไร ผิดพลาดหรือบกพร่องตรงไหน ก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย หรือคอมเม้นมาก็ได้เลย)
ใครอยากดูรูปเพิ่มเติม
Ig:maruaytees
[SR] "ที่นี่เชียงใหม่" [ เมืองที่ไปแล้วต้องไปอีก ]
อันนี้เป็นกระทู้ที่สองของผม อาจจะไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ถ้าใครสนใจก้อติดตามมาได้เน้าะ
เริ่มเรื่องเลย " ปีใหม่ไม่รู้จะไปไหน คิดเเล้วคิดอีกๆ 5555(เป็นคนเยอะ) มีเพื่อนชี้ทางมาว่า "พ่อจะพาไปเชียงใหม่ ไปปะ" (คำว่าไปปะ โดนใจจีง5555) ก้อเลยตอบตกลงไป เอาละ เรานัดหมายกันแล้วว่าจะไปกันวันที่30 ธันวา 58 กลับ 3 มกรา 59 ถือโอกาสได้ไปเคาท์ดาวน์ที่นู้เลยแล่วกัน เย้!
พร้อมแล้วไปเลย
Go Go Go !
เราออกเดินทางช่วงบ่าย ถึงนู้นก้อ ตี 1 ตี 2 นั่งรถครอบครัว ฟอร์จูน ไปกัน หลับๆตื่นอยู่งั้นอ่ะ เราไปถึงนู้ก้อขึ้นดอยกันก่อนเลยอ่ะ "ดอยอินทนนท์" คือจุดหมายต่อไป
เรามาถึงดอย ทหารจะยังไม่ให้ขึ้น ต้องมีการขึ้นเปนเวลา พอถึงเวลาก็ขับขึ้นไป ขอบอกก่อนว่าขับตอนกลางคืนค่อนข้างอันตรายบอกกับรถสวนกัรเยอะ ระมัดระวังด้วย พอไปถึง โอ้ววแม่จ้าววว!! 8° (เขาที่สูงที่สุดในไทยเน้าะ 555) สั่นทั้งตัวเลยเทเดียววว
จุดหมายต่อไป ที่ไหนคิดไม่ออก 5555 คนขับเลยแวะน้ำตกชะเบยย
จัดไป! เย็นๆ ละอองน้ำมาเป็นสึนามิเลยทีเดียว 555555
แสงก็เริ่มออก อากาศคือสบายมาก
ที่ต่อไปเราจะแวะ "ผาช่อ "
ผาช่อเป็นลักษณะคล้ายเมืองลับแล
เข้าไปในซอยค่อนข้างลึก (มากกก) พอเข้าไปถึงต้องเดินเข้าไปในป่าอีก เหนื่อยลำแข้งมาก 5555
แต่พอไปเห็น อะๆๆๆๆ คุ้มก้อได้ 555
ก้อคุ้มกับที่เดินมาวะ 55
รู้สึกว่าท้องจะร้องเลยไปกินข้าวแล้วก้อจะเข้าที่พักเลย
ประมาณสี่โมวเย็นเราถึงที่พัก พากันพักผ่อนก่อนสักชั่วโมง สองชั่วโมง
พอห้าโมงเราแต่งตัวที่จะไปกินข้าวที่ประตูท่าแพกัน เพราะจัดงานเคาท์ดาวน์ด้วย
พอไปถึงประตูท่าแพ ก้อพากันเดินหาของกิน และช๊อปปิ้งไปในตัว 555555
พอหาของกิน ซื้อของเสร็จ เตรียมจะเคาท์ดาวน์ก็เดินเล่นแถวนั้นเรื่อยๆ คือบรรยากาศที่นี่แตกต่างจากกรุงเทพนะ ต้องมาสัมผัสเองถึงจะรู้ อิอิ
พอเดินเล่นเคาท์ดาวน์เสร็จ ก็นั่งรถแดงกลับที่พัก
เอ้ย! ลืมบอกที่พักเราห่างจากท่าแพไม่ไกลมาก เราเหมารถแดงมาคนละ 50 บาท นั่งกินลมชมวิว สบายยย
พอมาถึงเช้า ทางโรงแรมก็มีบุฟเฟ่จัดหนักไม่อั่นไว้รองรักนักท่องเที่ยว หรือคนที่มาพัก
จุดหมายต่อไป "ดอยหลวงเชียงดาว"
แต่เราจะขึ้นดอยปุยก่อน ไปเล้ยยยย
ดอยปุยจะอยู่บนยอดเขาที่มีม้งอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีร้านจำหน่ายของฝากเยอะเลย
เป็นร้านของฝากสะส่วนใหย่ และวิวสวยมา
กก มีดอกไม้ สวนดอกไม้ มีชุดชาวดอยให้เช่า มีทุกไซค์ 55555
พอลงจากดอยปุย เราก็มาที่ "สำนักภูพิงค์"
น่าจะเป็นสถานที่ตากอากาศของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน
ข้างในจะมีสวนดอกไม้เต็มเลย ดอกกุหลาบเพียบ
กฎที่นี่ก้อต้องแต่งตัวเรียบร้อย ห้ามส่งเสียงดัง
(ผิดพลาดประการใดขออภัย)
ที่ต่อไป "ดอยสุเทพ"
ดอยสุเทพ เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่คนเยอะมาก ข้างบนก็จะมีพระธาตุ เหลืองทองมาก สวยมาก ที่นี่เขามีลิฟให้ด้วย สำหรับคนที่เหนื่อยหรือไม่อยากเดินขึ้นบันไดนาค อำนวยความสะดวกทุกอย่าง แต่คนอาจจะเยอะเป็นธรรมดา
ปะๆๆๆๆ กินข้าวเที่ยงกัน เวลาเร็วมากกก55
เราแวะกินข้าวประมาณชั่งโมง เราก้อเดินทางต่อไป
ดอยหลวงเชียงดาว
ดอยหลวงเชียงดาวห่าวออกจากตัวเมืองไม่ไกลโพ้นมากเท่าไหร่ พอไปถึงทางขึ้นดอย เอาหละยาแก้เมารถ 55555 โค้งค่อนข้างเยอะ ขับขี่ระมัดระวังด้วย
หวัดดี เชียงดาวววว
บอกก่อนเลยว่าข้างบนอากาศจะเย็นมาก สัญญาณต่างๆไม่มีเลยนะจะบอกให้ 5555(เตรียมใจในเรื่องนี้)
เราพักกันที่รีสอร์ทที่ใกล้กับบ้านสายหมอก บรรยากาศดีมาก อยู่กลางหุบเขา ตื่นเช้ามาก็เจอหมอกตีเข้าตัว (อย่าได้โดนน้ำเชียว55555)
เราค้างกันที่นี่คืนนึ่ง วันรุ่งขึ้นก็ออกแต่ช้าววเลยยยยย โอ่ยยยหนาววว!
เราลงดอยมา มาแวะที่ "วัดถ้ำเชียงดาว"
เป็นวัดธรรมดา แต่จะมีถ้ำให้เดินชมกันด้วย ภายในถ้ำก็จะมีพระประดิษฐานอยู่
เขาจะมีไกด์นำเดินในถ้ำ ราคา 100 บาท ที่นี่ห้ามเดินโดยไม่มีไกด์นำทางถ้าอยู่ในถ้ำนะ
ต่อไป กินข้าวเช้ากันๆ 555
โอเค กินเสร็จแล้ว เราจะไปที่ที่มีโค้งเยอะที่สุด นั้นคืออ!! "ปายยยยยย" (กี่พันโค้งละ 5555)
เดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณร้อยถึงสองร้อยโล เพื่อไปปาย เรานั่งรถอย่างทรมาณ555 ใครที่เมารถ หรือเมาโค้ง แนะนำให้กินยาเมารถก่อนขึ้นรถประมาณครึ่งชั่วโมง
หลังจากที่ผ่านวิกฤตโค้งมาแล้ว ก็มาถึงปาย เราวนหาที่พักที่ราคาถูกและใกล้กับถนนคนเดิน ซึ่งเราก็ได้ที่
"บ้านสวน รีสอร์ท"
เรามาถึงนี่ประมาณสี่โมงเย็น เราขอพักผ่อนก่อนแล้วกัน 5555
พอประมาณหกโมง พวกเราก็ออกไปถนนคนเดินปายกัน จะบอกว่าฝรั่ง95%คนไทย 5% ก็ว่าได้ 55555
แต่ก็ชิลดีมาก สไตล์ฮิปสเตอร์ต้องมา อิอิ
ตลอดทางมีทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึกต่างๆ เยอะแยะไปหมด
หันมาฟังเพลงสไตล์ล้านนาก็เพลินไปอีกแบบ 555555
หลังจากที่เราดื่มดั่มกับบรรยากาศเสร็จแล้ว เราก็เดินเข้าที่พักกัน เพราะร่างกายต้องการปะทะหมอนมากตอนนั้น 5555
พอตื่นเช้า เราเก็บของ อาบน้ำพร้อมที่จะกลับกรุงเทพ
งึมๆๆๆ ไม่อยากกลับเลยย TT
ก่อนที่เราจะกลับเราก็เเวะดูพระอาทิตย์ขึ้นที่
"ปาย อินเลิฟ" ก่อนกลับ
คือดีมาก มีหมอกด้วย
และอีกที่นึ่งต้องมาถ่ายคือปิ่นโตยักที่ปาย และก็
สะพาน ประวัติศาสตร์ เมืองปาย
และแล้วเราก็ต้องโบกมือบ้ายบายเมืองปาย และไปเผชิญ ทางโค้งอีกรอบก่อนกลับ 5555555
เดินทางกลับผ่านลำปาง เอ้าแวะหน่อยๆ555
เราแวะที่ "วัดพระธาตุลำปางหลวง"
วัดนี้เขามีโบสที่มีช่องหน้าต่างแล้วพระธาตุลอดเข้ามาในโบสเห็นเป็นรูปพระธาตุลำปางหลวงอยู่ในโบสอย่างชัดเจน......
ที่นี่เขามีรถม้าให้ขี่ด้วย รอบละ 200บาท วนรอบวัด หรือใครอยากจะมาถ่ายรูปเขาก็มีจัดไว้ให้ และที่นี่ก็มีของฝากมากมายไว้ให้จับจ่ายกันด้วย
ทริปครั้งนี้ เสียตังกับค่ารถ ค่ากิน ค่าจุกจิก ไม่ถึง 5000
บางคนบอกแพงไปแต่มันก็น่าจะคุ้มสำหรับคนที่อยากมามากๆ อย่างตัวเราอยากมามาก ได้ทำตามใจตัวเอง ความสุขคือตรงนี้
[ กระทู้นี้มีอะไร ผิดพลาดหรือบกพร่องตรงไหน ก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย หรือคอมเม้นมาก็ได้เลย)
ใครอยากดูรูปเพิ่มเติม
Ig:maruaytees