วัยทำงานเมื่ออกหักแล้ว มีความคิดแบบนี้เรียกว่าผิดปกติรึเปล่าครับ

สวัสดีครับ

ก่อนที่จะเล่าถึงปัญหาของตัวเอง ขออนุญาตเกริ่นถึงที่มาก่อนนะครับ
ผมเป็น ช วัยทำงานอายุยี่สิบกลางๆครับ โปรไฟล์ก็จบป.ตรีม. รัฐที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนครับ
สืบเนื่องจากต้นปีที่ผ่านมาผมอกหักจากผู้หญิงคนนึง เธอคนนี้ถือว่าใช่สำหรับผมเลยล่ะ ทั้งหน้าตา รูปร่าง ความคิด และโปรไฟล์
เรามีโอกาสคุยศึกษาดูใจกันโดยที่ผมเป็นฝ่ายจีบเธอ แต่ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนครับเพราะเธอบอกว่ารู้สึกดีกับผมเฉยๆ
ระหว่างนั้นเธอก็ได้เจอกับผู้ชายอีกคน ซึ่งเธอก็บอกกับผมตามตรงว่าคุยกับคนนี้แล้วคลิกกว่าและภายในเวลาไม่นานเธอก็ขอเลิกคุยกับผม โดยเธอให้เหตุผลว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่ใช่

ยอมรับเลยครับว่าเสียใจมากเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอคนที่ตรงใจขนาดนี้ก้าวเข้ามาในชีวิต และไม่รู้ว่าจะได้เจอคนที่ใช่อย่างนี้อีก
ไหมถึงตอนนี้ผมก็ไม่ได้โกรธ หรือเกลียดเธอครับ ยังคงนึกถึงช่วงเวลาดีๆเสมอ

แต่ประเด็นคือผู้ชายคนนี้เธอบอกว่าเค้าโปรไฟล์ดีกว่าผมครับ ทั้งการศึกษา และหน้าที่การงาน นั่นทำให้ผมเริ่มโทษตัวเองครับ
นับตั้งแต่วันนั้นมาเป็นเวลา 1 ปีกว่าๆผมวางแผน พัฒนาตัวเองมาตลอด เช่น วางแผนเก็บเงินเรียนต่อระดับปริญญาโท ทั้งทำงานหนักขึ้นทั้งในและนอกบริษัท (หัวหน้าบอกว่าปีนี้ได้เลื่อนตำแหน่ง) เสาร์ อาทิตย์ก็ไม่ทำงานก็อ่านหนังสืออยู่บ้าน

ปัญหาของผมมีอยู่ว่า ทุกวันนี้ชีวิตก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขอะไร เบื่อไม่อยากเจอเพื่อน ไม่อยากสุงสิงกับใคร จะคุยกันก็มีแต่เรื่องงานก็พอจบๆไป ในสมองคิดอยู่อย่างเดียวว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ทั้งหมดที่ทำมาเกิดจากความคิดในใจที่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้มันช่างไร้ค่า ต่ำต้อย ไม่เอาไหน ทุกๆวันก็มีแต่คำด่า และดูถูกตัวเองเป็นแรงจูงใจครับ เคสอย่างที่ผมเป็นมันเรียกว่าอะไร และเป็นอาการผิดปกติรึเปล่าครับ?

ปล. ขอบคุณ pantip.com ครับถึงแม้ผมจะไม่ได้คำตอบแต่มีพื้นที่ให้ผมระบายก็โอเคแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่