คนไข้สมควรตาย.......... 1.รักฉันทรมาณฉันทำไม

กระทู้สนทนา
เรื่องราวที่ผมจะมาเล่าให้ฟังตอนนี้เป็นเรื่องที่ผมต้องประสบกับตัวเองแทบทุกวัน เป็นเรื่องที่วันๆหนึ่งพวกเราทุกคนก็ต้องเจอแต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นกับเราตอนไหน แต่ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องราวต่อไปนี้ ผมอยากให้ทุกคนทำใจให้เป็นกลางเรื่องที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่เกิดจากมุมมองในใจของผม ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากเรื่องที่เล่า มันทำให้ใครหลายคนไม่สบายใจขอให้คิดเพียงว่ามันเป็นแค่นิยายเรื่องหนึ่ง
               มีคุณตาคนหนึ่งถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลชุมชนเพื่อที่จะมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลของผมด้วยอาการไข้สูงตลอด และมีเกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ คุณตามาถึงที่ตึกของผมถามตอบไม่รู้เรื่อง มีไข้สูงฟังเสียงลมหายใจของปอดแทบไม่ได้ คุณตามีประวัติเป็นมะเร็งที่ปอดแต่ลูกหลาน ได้ปฏิเสธที่จะพาคุณตาไปรักษาโรคมะเร็งนี้ต่อ ด้วยระยะของโรค เราทุกคนรู้ดีว่าคุณตาต้องทรมาณด้วยโรคภัยนี้อย่างน่าเวทนา มีการคุยกับญาติถึงการดูแลในระยะสุดท้าย แต่ลูกหลานต้องการรักษาเต็มที่ แต่ไม่รักษามะเร็งที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวต่างๆ คุณตามีปัญหาเรื่องส่วนประกอบของเลือดที่ผิดปกติจึงต้องเจาะเลือดตรวจทุกวัน ทุกครั้งที่เจาะคุณตาจะดิ้นด้วยความเจ็บ อยู่ไม่นิ้งเพราะเสียสติสัมปะชัญญะแล้ว ขณะที่ผมเจาะเลือด คุณตางอแขนทำให้เข็มแทงทะลุเข้าชั้นกล้ามเนื้อเพราะแกมีเกล็ดเลือดที่ต่ำทำให้มีเลือดออกในชั้นกล้ามเนื้อ2 วันต่อมาแขนข้างนั้นพองช้ำลูกหลานถามว่าเป็นเพราะอะไรผมก็อธิบายสาเหตุไป ต่อมาคุณตาทานอาหารได้น้อย แทบไม่ทานเลย ลูกหลานจึงขอให้อาหารทางสายยาง เราก็ต้องใส่สายให้อาหารทางจมูกต่อลงถึงกระเพาะอาหาร ตอนที่ใส่เลือดคุณตาก็ออกทางจมูกเพราะเกล็ดเลือดต่ำเลือดจึงออกง่ายมาก เมื่อใส่สายเสร็จผมก็ย้ำแล้วว่าอย่าให้คุณตาดึงสายเพราะเวลาใส่ใหม่มันเจ็บ และเสี่ยงต่อการเลือดออกง่ายหยุดยาก ญาติรับปากผมอย่างดี ไม่กี่ชั่วโมงคุณตาดึงสายออก ผมจึงไปถามว่าทำไมปล่อยให้คุณตาดึงสาย ญาติบอกว่าตาดึงเอง ผมจึงขออนุญาติมัดแขนคุณตาเพราะไม่อยากให้แกดึงสายอีก เหมือนญาติจะเข้าใจแต่ทุกครั้งที่ออกจากห้องไปญาติก็จะปล่อยมือคุณตา พอผมถามก็บอกว่าสงสารตา แต่เราก็ต้องใส่สายให้อาหารใหม่วันละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อยทุกครั้งที่ใส่คุณตาก็จะเจ็บ ไม่ให้ความรวมมือเพราะตาไม่ร็ตัว เลือดออกปริมาณมาก คุณตามีเม็ดขาวต่ำ เสี่ยงต่อการติดเชื้อง่าย เราจึงจำกัดการเยี่ยมไม่แนะนำให้ญาติมาเยี่ยมเยอะและทุกคนที่เข้าไปในห้องของคุณตาก็ต้องใส่ผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันไม่ให้เรานำเชื้อโรคไปติดต่อคุณตา แต่ญาติที่เฝ้าก็พาคนมาเยี่ยมตลอดและก็มากันเยอะมาก ไม่ปฏิบัติตามที่พวกผมอธิบาย จากนั้นคุณตามีอาการแพ้ยา เยื้อบุในปากเป็นแผล ผิวหนังลอกและเป็นตุ่ม เปลือกตาแฉะลืมตาไม่ขึ้น ต้องมีการล้างตาและแคะเยื้อบุในตาทุกวันคุณตาก็เจ็บดิ้นไปมา และต่อมาก็ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจต้องดูดเสมหะในคอตลอดเพราะตาไม่สามารถไออกมาได้ คุณตาร้องไห้ทุกครั้งที่ดูดเสมหะ แต่ลูกหลานก็เฉย ผมทนไม่ไหวเลยเผลอพูดออกไปว่าถามจริงๆนะไม่อยากนำคุณตากลับบ้านเหรอผมสงสารแก ต้องมาทรมาณในระยะสุดท้ายของชีวิต ทั้งๆที่รู้กันว่าโรคของคุณตารักษาไม่หาย แต่ยังต้องมาทรามาณกับการรักษาแบบยื้อชีวิตแกไหว ทั้งๆที่ลูกหลานก็ไม่ยอมพาคุณตาไปรักษามะเร็งปอด   คุณตานอนที่โรงบาลเกือบเดือน จนให้ยาปฏิชีวนะจนไข้ลง ก่อนกลับหมอเอกเรย์ปอดของแกอีกครั้งก็พบว่าปอดแกหายไปแล้ว 1 ข้าง ผมไม่รู้ว่าลูกหลานรักคุณตา หรือทรมาณคุณตากันแน่ ผมสงสารเพราะทุกครั้งที่มีหัตภารกับคุณตา คุณตาก็จะร้องไห้ ผมคิดตลอดทำไมไม่ปล่อยให้คุณตาไปอย่างสงบ ทำไมต้องทรมานแกด้วยการรักษาที่มันไม่มีวันหาย ทำไมลูกหลานที่เหมือนดูจะรักคุณตากลับไม่ยอมปล่อยวางแต่กลับปล่อยให้คุณตาทรมาณอยู่นาน..............
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่