ถูกทำร้ายร่างกายจากคู่กรณีประกันบัติเหตุมักปฏิเสธการจ่ายสินไหมและมักจะบอกว่าเป็นเรื่องวิวาท ต้องทำยังไง

เกิดมาจะ 40 อยู่แล้วไม่เคยไปตีใคร หรือทะเลาะกับใครเลย

เรื่องมีอยู่ว่า

ผมและภรรยาได้นั่งเล่นกับเพื่อนอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นคุยกันปกติเหมือนทุกวัน แล้วก้มีคู่กรณีเดินผ่านมาที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับภรรยาเมื่อ 3 ปี ก่อนก็เดินผ่านมาในลักษณธเมามาย แล้วก็พูดเสี่ยดสีทำนองยั่วยุว่า" เดินเร็วพวกเรา " หมามันดุแถวนี้ ทางภรรยาและผมก็หันไปมองแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรก็เลยกลับมาคุยกับเพื่อนต่อ โดยไม่มีการพูดตอบโตแต่ประการใดเพราะไม่ต้องการมีเรื่อง ซึ่งก่อนหน้านั้นวันหนึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ด่าภรรยาในวันทำบุญชุมชนว่า มองหน้าทำไมอีหน้า ทั้งที่คนเราอยู่ชุมชนเดียวกันมันก็มีบ้างคนไม่ชอบตากันต้องสบตากัน ผมก็เลยห้ามภรรยาอย่าไปต่อล้อต่อเถียงกับคนประเภทนี้เพราะมันต้องการให้เราหาเรื่องมันก่อน และเรารู้ว่าผู้หญิงคนนี้เวลาเมาแล้วเป็นยัง เล่าต่อครับ ซึ่งไม่นานผู้หญิงคนนั้นมีการอาการเมามายก็ได้เข้ามาล๊อคคอภรรยาจากด้านหลัง และก็เริ่มทำร้ายเทอที่บริเวณใบหน้าและหัว ผมกับภรรยานั่งติดกัน พอเห็นดังนั้นผมก็กระโจนเข้าแยกและพยายามผลักผู้หญิงคนนั้นออกจากภรรยาผม ผมมีโอกาศกระชากคอเสื้อและยกหมัดจะต่อยที่ใบ้หน้าเธอหลายครั้งแต่ก็ไม่ทำได้แต่ห้ามใจตัวเอง ผมเป็นผู้ชายและถ้าทำแบบนั้นครอบครัวเค้าก้คงต้องไม่ยอมผมแน่นอน ได้แต่อดทน ไม่นาน รปภ. ที่เห็นเหตุการณ์โดยตลอดก้เข้ามาห้าม เอาเป็นว่าผมก็พลอยถูกผู้หญิงคนนั้นทำร้ายไปด้วย พอแยกกันก็จะเดินเข้ามาหาเรื่องตลอดเวลา ชี้หน้าด่าผมว่า ยิ้ม หาว่าผมทำร้ายเค้า ปารองเท้าใส่หน้าผม กระโดดถีบผม รองเท้าที่ปาใส่ผมๆก็ปาเข้าไปในป่าครับ ผมไม่ตอบโต้  เมื่อตำรวจมาระงับเหตุก็ยังไม่หยุด เดินเข้าหา ภรรยากับผมอยู่เรื่อย พอตำรวจเชิญตัวไปโรงพักมันยังหน้าด้านเดินมาถามว่ารองเท้าที่มันปาใส่ผม ผมเอาไปไว้ที่ไหนอีก ยังมีสตินี่ คนอื่นพูดด้วยไม่รู้เรื่อง จะพูดกับคนอื่นอย่างเดียว

ต่อมาทางเราได้ไปแจ้งความตำรวจข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ไปด้วย เราได้กำชับพนักงานสอบสวนแล้วว่า อีนี่มันบ้าเอามันไปห่างแฟนผมด้วย เด่ยวมัยจะเข้ามาทำร้ายเรา ตำรวจคุยโวทันที ที่นี่ดรงพักใครจะกล้า พูดยังไม่ขาดคำมันกระโดดถีบและทำร้ายแฟนผมต่อหน้าเจ้าพนักงานคนนั้นทันที ด้วยความขายขี้หน้าร้อยเวรสั่งมห้เอาไปขัง 2 ชั่วโมงเพื่อสงบสติอารมณ์และปรับ 200 บาท ปรับน้อยมากทะเล่ากันน่า จะปรับซัก 10000 บาทโน่น ทางเจ้าต่อมายังหน้าด้านไม่พออีกคับ กลับมาแจ้งความกลับด้วยว่าผมและภรรยาไปด่าเค้าเค้าก่อนเค้าก็เลยเข้ามาทำร้ายภรรยาผม

ผมมีพยานทั้ง รปภ. เพื่อน และเด็กๆเห็นเหตุการณ์ ซึ่งทางเค้าก็มีเพื่อนขี้เมานั่นล่ะที่แหกปากบอกว่าผมทำร้ายร้างกายเค้าเพื่อเค้า

อันนั้นก็แล้วแต่พนักงานสอบจะสอบหาความจริง

เบ่ื้องต้นพนักงานสอบสวนก็ส่งผมและภรรยาไปรักษาและพบแพทย์ด้านนิติเวธ มีทั้งใบรับรองแพทย์

เรื่องยังไม่จบอีกครับ
ทั้งผมและภรรยาทำประกับอุบัติเหตุกับกรุงเทพประกันภัย เบื้องต้นบริษัทกรุงเทพประกันภัยปฏิเสธการจ่ายสิ้นใหมทดแทนทั้งผมและภรรยา โดยปฏิเสธว่าเป็นการทะเลาะวิวาทแทนการทำร้ายร้างกาย และอ้างว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับมาเคลมสินไหม ทั้งทีจริงผมไม่ใช่คู่กรณี แค่เข้าไปแยกทั้งคู่กรณีออกจากภรรยาเท่านั้น น่าจะจ่ายสินใหมทดแทนผมมาก่อน ส่วนภรรยานั้นน่าจะรอสำนวนพนักงานสอบสวน หรือคำสั่งศาล


ผมสามารถฟ้องหมิ่นประมาทได้หรือไม่กรณีด่าทอผมตามข้างบน แต่พนักงานสืบสวนบอกว่าเค้าแค่ด่าทอคุณด้วยความโมโหเท่านั้น ผมเข้าใจใครก้โมโห ถ้าผมโมโหแล้วเอากำปั้นฟาดหน้าผู้หญิงคนนั้นบ้างล่ะ แต่ผมพอจะรู้ว่าตำรวจขี้เกียจเรื่องพวกนี้เพราะคดีก็เย่อะอยู่แล้วครับวันๆหนึ่ง เห็นใจตำรวจเหมือนกัน  เพราะเป็นคดีลหุโทษ

ถึงจะเป็นคดีลหุโทษถ้าฟ้องได้ผมก็จะทำ ถ้าเรื่องนี้จบในชั้นศาล ผมคงต้องฟ้องผู้หญิงคนนี้ต่อ ข้อหาแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนต่อไป ผู้หญิงคนนี้คงชอบหาเรื่องชาวบ้านเค้าไปทั่ว ต้องเอาไห้จอด จะได้ไม่ไปก่อกวนกับคนอื่นอีก คนอื่นคงยอมเค้าหมด ผมสงศัยอยู่ว่าคงมีเรื่องกับคนบ่อยเพราะจากพฤติกรรมก๋ากั่นเหลือเกินทั้งที่อายุ จะ 50 อยู่แล้ว จบดีกว่า

ขอความรู้ทางคดีหมิ่นประมาทด้วยครับ ไม่ต้องการฟ้องแพ่งไม่อยากได้เงินคับ ว่าฟ้องทางอาญาได้หรือไม่ ถ้าเรื่องถึงศาลแล้วคงเร็จ จะช้าก็ชั้นพนักงานสอบสวนแค่นั้นเอง และขอความรู้การเคลมประกันด้วยครับ เพราะบริษัทประกันปฏิเสธที่จะจ่ายอยู่แล้ว  ผมต้องทำยังไงบ้างครับ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนและสรุปสำนวนคดี จนกว่าจะจบในชั้นสอบสวนใช่หรือไม่ หรือไม่ก็ชั้นศาลใช่หรือไม่ ก่อนจะไปขอเงินสินไหมอีกรอบ หรือฟ้อง สคบ ได้เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่