[CR] เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ชีวิตที่มีแต่ "เขา"

เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ชีวิตที่มีแต่ "เขา"
การเดินทางของเราเริ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากทำงานอ่อนล้ามาทั้งปี
กะพาร่างกายและสมองไปรับลมเติมพลังชีวิตซะหน่อย
จุดหมายของทริปนี้คือ เชียงใหม่-ปางอุ๋ง-ปาย 4 วัน 3 คืน

Day 1

ขับรถออกจาก กทม.ประมาณ 3 ทุ่ม นั่งเรื่อยๆ ชิลๆ จนฟ้าสว่างก็ถึงเชียงใหม่เวลาประมาณ8 โมงเช้า
แวะหานู่นนี่นั่นรองท้องก่อนเข้าที่พัก “บ้านหว่าญ่า”
ที่พักวิวงามแต้บนแม่ริมใช้ทางเข้าทางเดียวกับม่อนแจ่มจนถึงทางแยกไปไร่องุ่นเอเดนให้ตรงไป
มีป้ายบอกทางเป็นระยะ 5 นาทีก็ถึงแล้ว เราเลือกที่นี่เพราะวิวล้วนๆ
ตอนมาถึงอากาศค่อนข้างเย็นสบายนั่งรับลมซักพักอาจหลับได้ 555

Checkin เรียบร้อยขนข้าวของที่หนักอึ้งเข้าห้อง (โดยเฉพาะพร๊อบเรา55)
เปิดประตูเข้าไปวิวหน้าระเบียงแบบหูย มีขายที่ไหนเราจะซื้อไปไว้บ้าน ดีเกิ๊นนนน !!

ที่นี่นอกจากจะเปิดเป็นที่พักยังเป็นร้านกาแฟด้วย มีอาหารเล็กๆน้อยๆไว้นั่งชิลๆ เน้นกินบรรยากาศมากกว่า

ที่เที่ยวใกล้ๆ ที่พัก นอกจากม่อนแจ่มแล้วก็ยังมี “ไร่สตอเบอร์รี่นภ-ภูผา”
สามารถเดินเก็บสตอเบอร์รี่เองได้ หรือจะขับรถ ATV รอบๆไร่ก็ได้ค่าบริการเที่ยวละ200 บาทพร้อมคนนำทาง

อากาศเริ่มเย็น ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าๆเป็นทองๆ
เราสั่งอาหารมานั่งทานกันคุยสารพันเรื่องราวสลับหยุดนิ่งมองฟ้ามองเขา
ดอกไม่ใบหญ้าไปเรื่อย ความสุขมันเป็นแบบนี้สินะ !!

ไม่นานฟ้าก็มืดอากาศยิ่งหนาว ลมพัดมาทีนี่ถึงกับสะดุ้ง
หมดไป 1 วันแล้ววว นอนกันเจ้าขุนเขา

Day 2

นาฬิกาปลุก ตี 5 อาบน้ำแต่งตัว หยิบกล้องมารอพระอาทิตย์ แสงน้อยๆเริ่มออกจากขุนเขา
ท้องฟ้าเวลานี้ช่างน่ามองดีเนอะ กาแฟซักแก้วอุ่นๆ กับลมเย็นๆดูเข้ากันดี

Check out เรียบร้อยออกเดินทางต่อ“ ปางอุ๋ง ” คืนนี้เราจะไปกางเต้นท์ เค้าดาวน์กันที่นี่
การเดินทางค่อนข้างโหดเนื่องจากเค้ากำลังทำถนนทางเป็นหลุมเป็นบ่อ ฝุ่นเยอะ ต้องเปิดปิดกระจกเป็นระยะๆ

ขับมาเรื่อยๆผ่านปายมาจนถึงปางมะผ้า จุดแวะแรก
ทันทีที่ก้าวลงจากรถจะมีเด็กชาวเขาเดินมุ่งหน้ามาหาเราทันที
พร้อมเสียงเล็กๆพูดขึ้นว่า “พี่ขาถ่ายรูปกับหนูไหมค่ะ แล้วแต่จะให้ค่ะ”
เอิ่มพี่จะเข้าห้องน้ำค่ะลูก 55ว่าแล้วเด็กน้อยก็ลากเราไปทันที “เดี๋ยวหนูพาไปเข้าห้องน้ำนะ”
( ค่ะพี่ยอมใจหนู ) ถ่ายซักรูปก็ได้

ผ่านโค้ง ผ่านเขา 7 ชม. เต็ม ถึงแล้วปางอุ๋งสิ่งแรกที่ทำคือหาโลเคชั่นดีๆเพื่อตั้งเต้นท์
จริงๆมุมไหนก็สวยนะแค่คนละแบบเท่านั้นเอง

เดินซึมซับวิถีชาวเขา ไปเรื่อย เป็นภาพอีกแบบที่ไม่ค่อยเคยเห็นนัก
นี่ละนะที่มีคนเคยบอก การเดินทางทำให้เราเห็นสิ่งใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น มันจริง!
และเนื่องจากคืนนี้คือคืนเค้าดาวน์คนจึงเยอะเป็นพิเศษแต่ก็อบอุ่นดี ช่วงบ่ายลมพัดเย็นสบาย
แต่พอตกค่ำ ปากสั่น มือชาควันก็ออกปากไปอีก
เดินเป่าควันยังกะซี่รี่เกาหลีหมูกะทะคือไอเท็มที่เข้ากันที่สุดแล้ว

ดูนาฬิกาใกล้เที่ยงคืนละ นั่งรอเวลาแถวอ่างเก็บน้ำ เฟสไทม์หาแม่บ้าง เล่นเน็ตบ้างสั่นบ้าง ก็ว่ากันไป
แต่เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการลองถ่ายดาวถ่ายแล้วถ่ายอีกไม่ติดดาวซะที จนล้มเลิกความพยายาม
นับ 5 4 3 2 1เสียงพลุดังตุมตาม สวัสดีปีใหม่ค๊า ^^

เสียงผู้คนดังเกรียวกราว ท้องฟ้าสว่างสไวมนต์สเน่ห์ของค่ำคืนวันเค้าดาวน์ละ
วันนี้เราจะหลังพร้อมเสียงพลุและตื่นพร้อมแสงตะวัน

Day 3

ตี 5 ครึ่งทุกเต้นท์ตื่นกันหมดแล้ว เปิดเต้นท์ปุ๊ป ความเย็นเข้าปะทะผิวหน้าอย่างจัง
จะหนาวไปไหน ควันออกปากอีกเช่นเคยรวบรวมไขมันทั้งหมดที่มีแล้วเดินออกจากเต้นท์อย่างสั่นๆ
ล้างหน้า ล้างตาเช้านี้นักท่องเที่ยวแน่นมาก ส่วนใหญ่จะมาทัวร์เช้า-เย็นกลับ
มีหมอกลอยเหนือผิวน้ำเป็นระยะๆ จะเดินชมวิว หรือนั่งแพไม้ไผ่ก็ได้ ตามสะดวก

เรารีบหนีลงเขามาก่อน กลัวรถจะติด ขึ้นลงเขาลำบาก ขับเลยขึ้นมาหน่อยจะถึง “หมูบ้านรักษ์ไทย”
มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้าล้มรอบด้วยบ้านสไตล์ชาวเขา เหมาะกับการนั่งจิบชาร้อนเพลินๆ

หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศเดินเล่น ถ่ายรูป ดูใบชา อะไรก็แล้วแต่ ดีงาม !!

ถ้ามาถึงปางอุ๋งต้องแวะกิน“ก๋วยเตี๋ยวบ้านจ่าโบ่ หรือก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ”
อยู่ระหว่าง ครึ่งทางปางอุ๋ง - ปาย จากทางแยกถนนหลวงเพียง 15นาที ถนนลูกรังนิดหน่อย ลูกชันเล็กน้อย

ตรงเป๊ะอย่างที่มีคนรีวิวไว้เลย ก๋วยเตี๋ยวหลักร้อย วิวหลักล้าน
ถ้ามาเช้าจะมีหมอกเป็นเพื่อน มาสายหน่อยก็นั่งดูขุนเขา มาเย็นๆ ดูอาทิตย์ทอแสง ไม่ซ้ำกันเลยจริงๆ
ส่วนรสชาติอร่อย 10 เต็ม 10 กินเตี๋ยวแถววิว