สกู๊ปแนวหน้า: ตรวจแนวรบ' ศึก 4G'! (1) เลียบ'ค่ายมือถือ' ใครอยู่-ใครไป.
แนวหน้า ฉบับวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559
ปี "แพะไฟ" ผ่านพ้นไปแล้ว ต้องถือว่าเป็นปีที่วงการ"โทรคมนาคม" ร้อนแรงไม่น้อย จากการประมูล "4G"ทั้ง 2 คลื่นความถี่ คือ ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์(MHz) และย่าน 900 MHz ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เพราะ 2 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่กอดคอกัน "ตกขบวน"พลาดใบอนุญาต(ไลเซ่นส์) ปล่อยให้ "น้องใหม่" กวาดไปเรียบ
ทว่า...สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
!!!การประมูล 4G ก็เช่นกัน เพราะหลังจากนี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่(โอเปอเรเตอร์) ทั้งเก่าและใหม่ต้องติดตั้ง "โครงข่าย" การให้บริการ 4G ตามที่ กสทช.กำหนด ซึ่งล้วนมี "ค่าใช้จ่าย"งานนี้จึงต้องติดตามว่า "สายป่าน" ใครจะยาวพอ.???
JAS...น้องใหม่ไม่ธรรมดา
เริ่มจากน้องใหม่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ในเครือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ JAS ชื่ออาจดูใหม่ในกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ไม่ใช่มือใหม่ในกิจการโทรคมนาคม โดยมี "3BB" บริการอินเตอร์เนตความสูงทางสาย(ฟิกส์ บรอดแบนด์) เป็นเครื่องการันตีผลงาน เพราะในแวดวงโทรคมนาคมยอมรับว่า 3BB ของ JAS แซงบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ "ทีโอที" เจ้าเก่า ขึ้นมาอยู่เบอร์ 2 แล้ว เป็นรองแค่เบอร์ 1 ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRUE เท่านั้น
นอกจากนั้น JAS ยังดำเนินกิจการเคเบิ้ลใต้น้ำในชื่อ "จัสมินซับมารีน" และมีธุรกิจทำคอนเทนต์และช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล(ทีวีดิจิตอล) ภายใต้ชื่อ "MONO" ซึ่งธุรกิจทั้งหมดที่ JAS มีอยู่พร้อมทำคอนเวอร์เจนต์ เช่นเดียวกับ ทรูมูฟ และทรูวิชั่นส์ อีกด้วย
เมื่อดู "ขุมกำลัง" ในมือ ต้องบอกว่า JAS ไม่ธรรมดา!!!
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงสำหรับ JAS คงเป็นเรื่อง "เสบียง" หรือแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะการได้มาซึ่งทุนสำหรับใช้จ่ายเงินงวดแรก 8,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของเงินประมูลทั้งหมด 75,645 ล้านบาท ที่ JAS จะต้องจ่ายภายใน 90 วัน พร้อมหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน หรือต้องมี "แบงก์การันตี" ส่วนที่เหลือเป็นเงินรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท เพื่อชำระแก่ กสทช. เพื่อให้ได้ไลเซ่นส์ 4G ให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และ ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 รวมทั้งเงินทุนอีกหลายหมื่นล้านบาทที่จะต้องใช้ในการวางระบบโครงข่ายการให้ บริการ 4G ที่ต้องมี "หลักทรัพย์ค้ำประกัน" ในการวางแบงก์การันตี ซึ่งเป็นการบ้านที่ JAS ต้องขบคิด
หันมาดูเรื่องโครงข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ สำหรับ JAS ในเครือจัสมินฯ พบว่า ปัจจัยยากที่สุด คือ เรื่อง "เสาสัญญาณ"ซึ่งจัสมินมีสายไฟเบอร์ในการเชื่อมโยงสถานีฐานทั่วประเทศ และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะมีโครงข่ายของ 3BB หนุนหลังให้อยู่
แหล่งข่าวจากเครือจัสมินฯ บอกว่า สำหรับทางเลือกเรื่องเสาสัญญาณ วางไว้ 1-2 แนวทาง คือ
1.ขอเช่าเสาสัญญาณจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล(Digital Telecommunications Infrastructure Fund) ภายใต้ชื่อย่อกองทุน DIF หรือชื่อเดิม คือ TRUEIF ถึงแม้จะเป็นชื่อของทรู แต่ DIF คือ มีผู้จัดการกองทุนที่ไม่ใช่ผู้บริหารจากทรู และมีการทำธุรกิจให้เช่าทรัพย์สิน และ
2.เช่าโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ "ทีโอที" ตรงนี้จึงไม่น่ามีปัญหาสำหรับ JAS
เมื่อตรวจสอบ "ขุมกำลัง" แล้ว อย่างเดียวที่น่าเป็นห่วงสำหรับ JAS น่าจะเป็นเรื่อง "เสบียง" ที่ เพียงพอหรือไม่.???
TRUE...ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน???
มาต่อกันที่
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRUE ที่ตอนนี้เกทับพี่ใหญ่อันดับ 1 อย่าง "เอไอเอส" และ หวังเตะสกัดมวยรองอันดับ 2 อย่าง "ดีแทค" ให้หลุดวงโคจร
ที่ผ่านมา ทรูฯ ย้ำเสมอถึงการครอบครองความถี่ที่มีมากที่สุดในบรรดาโอเปอเรเตอร์ทั้ง 4 ราย ทว่าการที่ ทรูฯ มีความถี่ในมือมากก็ต้องลงทุนมากเช่นกัน โดยที่ผ่านมา ทรูฯ ลงทุนไลเซ่นส์ ทั้ง 2 ใบ ไปกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว ขณะเดียวกันการวางแผนลงทุนขยายโครงข่ายทั้ง 3G และ 4G ถือเป็น "งานหนัก" สำหรับ ทรูฯ เนื่องจากกระแสเงินสดของ ทรูฯ มีปัญหา การเจรจาซื้ออุปกรณ์ การวางแผนแพ็กเกจจากผู้นำเข้าอุปกรณ์(เวนเดอร์) เป็นปัญหาเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าการมีคลื่นในมือมากก็ต้องลงทุนมาก
คำถาม คือ ทรูฯ จะผสมผสานแบบแผนธุรกิจนี้อย่างไร.???
"ทรูฯ มีคลื่นเยอะจริง แต่ไม่มีเงิน"...
แหล่งข่าวจากแวดวงโทรคมนาคม มองเช่นนั้น พร้อมกับระบุว่า นี่เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับ ทรูฯ เพราะการใช้เงินหว่านแพ็กเกจโปรโมชั่น ออกโปรฯแรงๆ หวังดึงใจลูกค้า จะเกิด "สงครามราคา" ในปี 2559 อย่างแน่นอน ขณะที่แบงก์ การันตีน่าจะหาได้ไม่ยาก เนื่องจาก ทรูฯ มีหลากหลายกิจการ
หลังจากนี้สิ่งที่น่าจับตา และเป็นโอกาสที่ "เม็ดเงิน"จะไหลมาที่ ทรูฯ คือ ลูกค้าเดิมระบบ 2G ที่มีอยู่ในระบบ 1 ล้านเลขหมายของ "เอไอเอส" ที่สิ้นสุดสัญญาสัมปทาน รวมถึงที่ใช้บริการข้ามโครงข่าย(โรมมิ่ง) กับ ทีโอที อีกราว 10 ล้านเลขหมาย อาจไหลมาซบตัก ทรูฯ เพราะ "
เอไอเอส" มีโอกาสที่จะ "ซิมดับ"
ลูกค้า กลุ่มข้างต้นจะไหลมายัง ทรูฯ มากกว่า ดีแทค เพราะ ดีแทค เหลืออายุสัญญาสัมปทาน เพียง 3 ปี โดยจะหมดสัมปทานในปี 2561 ขณะที่ ทรูฯ ปัจจุบันมีคลื่นความถี่ 3 ใบอนุญาต คือ 1.คลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์(GHz) จำนวน 15 MHz อายุไลเซ่นส์ 15 ปี ถึงปี 2570 2.ย่าน 1800 MHz จำนวน 15 MHz อายุไลเซ่นส์ 18 ปี ถึงปี 2574 และ 3.คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz จำนวน 10 MHz อายุไลเซ่นส์ 15 ปี ถึงปี 2574 รวมถึงมีคลื่นความถี่ที่ทำสัญญากับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ย่าน 850 MHz จำนวน 15 MHz ถึงปี 2568 เป็น "จุดแข็ง" ที่ทำให้ ทรูฯ จะกวาดต้อน "เชลย" จาก เอไอเอส มาไว้ในมือได้มากกว่า ดีแทค
นี่เป็นความ เป็นไปของ 2 บริษัทแรก "JAS และ TRUE" ที่ต้องจับตาต่อไปว่าปี 2559 นี้ ทั้ง 2 บริษัทจะ "เดินเกม" อย่างไร เพื่อให้ "อยู่รอด" และ "ต่อกร" กับคู่แข่งให้ได้
ตอนหน้า...ไปตรวจสอบ "แนวรบ" ของ "เอไอเอส" และ "ดีแทค" 2 ยักษ์ใหญ่ ที่อาจกลายเป็น "ยักษ์หลับ"!!!
+++มีต่อ+++
แหล่งข่าว
แนวหน้า ฉบับวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 1, 5)
สกู๊ปแนวหน้า: ตรวจแนวรบ' ศึก 4G'! เลียบ'ค่ายมือถือ' ใครอยู่-ใครไป.
สกู๊ปแนวหน้า: ตรวจแนวรบ' ศึก 4G'! (1) เลียบ'ค่ายมือถือ' ใครอยู่-ใครไป.
แนวหน้า ฉบับวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559
ปี "แพะไฟ" ผ่านพ้นไปแล้ว ต้องถือว่าเป็นปีที่วงการ"โทรคมนาคม" ร้อนแรงไม่น้อย จากการประมูล "4G"ทั้ง 2 คลื่นความถี่ คือ ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์(MHz) และย่าน 900 MHz ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เพราะ 2 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่กอดคอกัน "ตกขบวน"พลาดใบอนุญาต(ไลเซ่นส์) ปล่อยให้ "น้องใหม่" กวาดไปเรียบ
ทว่า...สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
!!!การประมูล 4G ก็เช่นกัน เพราะหลังจากนี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่(โอเปอเรเตอร์) ทั้งเก่าและใหม่ต้องติดตั้ง "โครงข่าย" การให้บริการ 4G ตามที่ กสทช.กำหนด ซึ่งล้วนมี "ค่าใช้จ่าย"งานนี้จึงต้องติดตามว่า "สายป่าน" ใครจะยาวพอ.???
JAS...น้องใหม่ไม่ธรรมดา
เริ่มจากน้องใหม่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ในเครือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ JAS ชื่ออาจดูใหม่ในกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ไม่ใช่มือใหม่ในกิจการโทรคมนาคม โดยมี "3BB" บริการอินเตอร์เนตความสูงทางสาย(ฟิกส์ บรอดแบนด์) เป็นเครื่องการันตีผลงาน เพราะในแวดวงโทรคมนาคมยอมรับว่า 3BB ของ JAS แซงบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ "ทีโอที" เจ้าเก่า ขึ้นมาอยู่เบอร์ 2 แล้ว เป็นรองแค่เบอร์ 1 ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRUE เท่านั้น
นอกจากนั้น JAS ยังดำเนินกิจการเคเบิ้ลใต้น้ำในชื่อ "จัสมินซับมารีน" และมีธุรกิจทำคอนเทนต์และช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล(ทีวีดิจิตอล) ภายใต้ชื่อ "MONO" ซึ่งธุรกิจทั้งหมดที่ JAS มีอยู่พร้อมทำคอนเวอร์เจนต์ เช่นเดียวกับ ทรูมูฟ และทรูวิชั่นส์ อีกด้วย
เมื่อดู "ขุมกำลัง" ในมือ ต้องบอกว่า JAS ไม่ธรรมดา!!!
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงสำหรับ JAS คงเป็นเรื่อง "เสบียง" หรือแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะการได้มาซึ่งทุนสำหรับใช้จ่ายเงินงวดแรก 8,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของเงินประมูลทั้งหมด 75,645 ล้านบาท ที่ JAS จะต้องจ่ายภายใน 90 วัน พร้อมหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน หรือต้องมี "แบงก์การันตี" ส่วนที่เหลือเป็นเงินรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท เพื่อชำระแก่ กสทช. เพื่อให้ได้ไลเซ่นส์ 4G ให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และ ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 รวมทั้งเงินทุนอีกหลายหมื่นล้านบาทที่จะต้องใช้ในการวางระบบโครงข่ายการให้ บริการ 4G ที่ต้องมี "หลักทรัพย์ค้ำประกัน" ในการวางแบงก์การันตี ซึ่งเป็นการบ้านที่ JAS ต้องขบคิด
หันมาดูเรื่องโครงข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ สำหรับ JAS ในเครือจัสมินฯ พบว่า ปัจจัยยากที่สุด คือ เรื่อง "เสาสัญญาณ"ซึ่งจัสมินมีสายไฟเบอร์ในการเชื่อมโยงสถานีฐานทั่วประเทศ และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะมีโครงข่ายของ 3BB หนุนหลังให้อยู่
แหล่งข่าวจากเครือจัสมินฯ บอกว่า สำหรับทางเลือกเรื่องเสาสัญญาณ วางไว้ 1-2 แนวทาง คือ 1.ขอเช่าเสาสัญญาณจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล(Digital Telecommunications Infrastructure Fund) ภายใต้ชื่อย่อกองทุน DIF หรือชื่อเดิม คือ TRUEIF ถึงแม้จะเป็นชื่อของทรู แต่ DIF คือ มีผู้จัดการกองทุนที่ไม่ใช่ผู้บริหารจากทรู และมีการทำธุรกิจให้เช่าทรัพย์สิน และ 2.เช่าโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ "ทีโอที" ตรงนี้จึงไม่น่ามีปัญหาสำหรับ JAS
เมื่อตรวจสอบ "ขุมกำลัง" แล้ว อย่างเดียวที่น่าเป็นห่วงสำหรับ JAS น่าจะเป็นเรื่อง "เสบียง" ที่ เพียงพอหรือไม่.???
TRUE...ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน???
มาต่อกันที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRUE ที่ตอนนี้เกทับพี่ใหญ่อันดับ 1 อย่าง "เอไอเอส" และ หวังเตะสกัดมวยรองอันดับ 2 อย่าง "ดีแทค" ให้หลุดวงโคจร
ที่ผ่านมา ทรูฯ ย้ำเสมอถึงการครอบครองความถี่ที่มีมากที่สุดในบรรดาโอเปอเรเตอร์ทั้ง 4 ราย ทว่าการที่ ทรูฯ มีความถี่ในมือมากก็ต้องลงทุนมากเช่นกัน โดยที่ผ่านมา ทรูฯ ลงทุนไลเซ่นส์ ทั้ง 2 ใบ ไปกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว ขณะเดียวกันการวางแผนลงทุนขยายโครงข่ายทั้ง 3G และ 4G ถือเป็น "งานหนัก" สำหรับ ทรูฯ เนื่องจากกระแสเงินสดของ ทรูฯ มีปัญหา การเจรจาซื้ออุปกรณ์ การวางแผนแพ็กเกจจากผู้นำเข้าอุปกรณ์(เวนเดอร์) เป็นปัญหาเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าการมีคลื่นในมือมากก็ต้องลงทุนมาก
คำถาม คือ ทรูฯ จะผสมผสานแบบแผนธุรกิจนี้อย่างไร.???
"ทรูฯ มีคลื่นเยอะจริง แต่ไม่มีเงิน"...
แหล่งข่าวจากแวดวงโทรคมนาคม มองเช่นนั้น พร้อมกับระบุว่า นี่เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับ ทรูฯ เพราะการใช้เงินหว่านแพ็กเกจโปรโมชั่น ออกโปรฯแรงๆ หวังดึงใจลูกค้า จะเกิด "สงครามราคา" ในปี 2559 อย่างแน่นอน ขณะที่แบงก์ การันตีน่าจะหาได้ไม่ยาก เนื่องจาก ทรูฯ มีหลากหลายกิจการ
หลังจากนี้สิ่งที่น่าจับตา และเป็นโอกาสที่ "เม็ดเงิน"จะไหลมาที่ ทรูฯ คือ ลูกค้าเดิมระบบ 2G ที่มีอยู่ในระบบ 1 ล้านเลขหมายของ "เอไอเอส" ที่สิ้นสุดสัญญาสัมปทาน รวมถึงที่ใช้บริการข้ามโครงข่าย(โรมมิ่ง) กับ ทีโอที อีกราว 10 ล้านเลขหมาย อาจไหลมาซบตัก ทรูฯ เพราะ "เอไอเอส" มีโอกาสที่จะ "ซิมดับ"
ลูกค้า กลุ่มข้างต้นจะไหลมายัง ทรูฯ มากกว่า ดีแทค เพราะ ดีแทค เหลืออายุสัญญาสัมปทาน เพียง 3 ปี โดยจะหมดสัมปทานในปี 2561 ขณะที่ ทรูฯ ปัจจุบันมีคลื่นความถี่ 3 ใบอนุญาต คือ 1.คลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์(GHz) จำนวน 15 MHz อายุไลเซ่นส์ 15 ปี ถึงปี 2570 2.ย่าน 1800 MHz จำนวน 15 MHz อายุไลเซ่นส์ 18 ปี ถึงปี 2574 และ 3.คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz จำนวน 10 MHz อายุไลเซ่นส์ 15 ปี ถึงปี 2574 รวมถึงมีคลื่นความถี่ที่ทำสัญญากับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ย่าน 850 MHz จำนวน 15 MHz ถึงปี 2568 เป็น "จุดแข็ง" ที่ทำให้ ทรูฯ จะกวาดต้อน "เชลย" จาก เอไอเอส มาไว้ในมือได้มากกว่า ดีแทค
นี่เป็นความ เป็นไปของ 2 บริษัทแรก "JAS และ TRUE" ที่ต้องจับตาต่อไปว่าปี 2559 นี้ ทั้ง 2 บริษัทจะ "เดินเกม" อย่างไร เพื่อให้ "อยู่รอด" และ "ต่อกร" กับคู่แข่งให้ได้
ตอนหน้า...ไปตรวจสอบ "แนวรบ" ของ "เอไอเอส" และ "ดีแทค" 2 ยักษ์ใหญ่ ที่อาจกลายเป็น "ยักษ์หลับ"!!!
+++มีต่อ+++
แหล่งข่าว
แนวหน้า ฉบับวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 1, 5)