จากเด็กเกเร เกรดแย่ ปัจจุบันกำลังเรียนจบมหาลัย

ครับ .. เนื่องด้วย ตอนนี้เด็ก ม.6 กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย  ซึ่งกำลังติวกันอย่างหนัก  หลายปัญหา หลายคำถาม ได้เข้ามารุมล้อม เด็ก ม.6 ในตอนนี้  ซึ่งเมื่อก่อน ผมก็เคยเป็น ..  แต่ที่ผมเป็นห่วงคือ  เด็กที่เรียนแย่ ได้เกรดน้อยๆ และกำลังท้อ ว่า ตนเอง เรียนไม่เก่ง จะสอบติด หรือ มีที่เรียน มหาวิทยาลัยที่ดีๆได้ไหม  เรื่องราวนี้ ผมถือว่า เป็นเรื่องราวของผม ที่จะเล่าสู่กันฟังนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเด็กที่เรียนไม่เก่ง  (แต่ไม่ได้ส่งเสริมให้ลอกเลียนแบบนะ)

เมื่อตอน ม.ปลาย  จขกท  ก็เคยเป็นเด็ก  วัยรุ่นๆที่ ดื้อ ซน เหมือนเด็กปกติทั่วไปแหล่ะครับ แต่ที่หนักๆคือ  ผมเป็นเด็กแว๊น บ้าแต่งรถ แล้วแข่งรถ 555  ในช่วง ม.4 ม.5 นี่แทบจะไม่เคยเข้าเรียน  โดดเรียนเป็นว่าเล่น  จนเมื่อขึ้น ม.6  เพื่อนๆ คุณครูๆ และพ่อแม่ เริ่มถามว่า  จะเข้ามหาวิทยาลัยอะไร คิดได้หรือยัง  อยากเรียนสายอะไร  ตอนนั้นตัวผมเองก็เริ่มเก็บเอาคำถามเหล่านั้นมาคิด

ในช่วงนั้น  ผมเป็นเด็กค่อนข้างติดเกมส์ แล้วก็ติดแฟน ซึ่งผมจะบอกว่า มันไม่ผิด  แต่ต้องให้อยู่ในขอบเขต และเวลา  ด้วยความที่ผม เป็นคนที่ค่อนข้างโง่  และไม่ขยันเอาซะเลย  จึงทำให้  คนรอบข้าง คุณครู  เพื่อนๆ มักดูถูกว่า  ผม สอบที่ไหนไม่ติดหรอก  ต้องเรียนอยู่มหาลัยใกล้ๆบ้านเนี่ยแหล่ะ  (ผมเป็นคน บ้านนอก) เมื่อผมได้ยินแบบนั้นแล้วก็เริ่มคิดได้ว่า  ผมต้องทำอะไรสักอย่างล่ะ  ผมทนไม่ไหวแล้ว เริ่มมาคิดถึงอนาคตตัวเอง  โดยใช้ไอ คำดูถูกพวกนั้นเป็นแรงผลักดัน  ผมเริ่ม หาข้อมูล ของมหาวิทยาลัย  เริ่มหาข้อสอบ เก่าๆในเว็บ (เมื่อประมาน 4-5ปีที่แล้ว)  เริ่ม หาแนวข้อสอบที่ บรรดารุ่นพี่ ได้แนะนำว่า จะออกแนวไหน ของ คณะนั้นๆ จนผม ได้เจอเป้าหมาย และ คณะ ที่จะเรียนในที่สุด  

ปัญหาแรกที่ผมเจอคือ  เกรดผม  ไม่ถึง 2.00 (ซึ่งคณะนั้นเอาเกรด 2.00 ขึ้นไป)  แต่ผมคิดในใจว่า  เอ๊ะ เป็นเพราะเราติด 0  (10ตัว)  ถ้าแก้หมดแล้วก็คง จะเกิน 2 ล่ะมั้ง  ในตอนนั้น มีระบบรับตรง ซึ่งมหาลัยนี้ มีคณะที่ผมอยาเข้า แบบจริงจังเลย  และ มหาลัยนี้ก็ รับตรงก่อน มหาลัยอื่นๆทุกปี  ผมจึงเริ่มทำการสมัคร ตามกติกา  เมื่อถึงวันสอบ  ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะสอบที่ อิมแพค เมืองทองธานี  ตอนนั้น ผมเห็นเด็กเรียนมากมาย ใส่แว่น หัวเกรียนๆ  นั่งลายล้อมโต๊ะของผม ผมจึงคิดในใจว่า  "ตายแล้วกูแย่แน่ๆ มีแต่พวกเรียนเก่ง"  

แล้วก็ถึงเวลาที่เริ่มสอบ  วิชาแรก คือ ภาษาอังกฤษ  ด้วยความที่ผมชอบ เล่นเกมส์  ภาษาอังกฤษ ก็ได้มาจากเกมส์ นี่แหล่ะฮะ 555 แล้วก็มาจากโรงเรียนบ้าง ก็สอบไป ตอนสอบก็มั่นใจนะว่าทำได้  พอวิชาๆต่อไป ผมก็ตั้งใจทำทุกข้อ ตรวจทานอย่างดี  ทำทันเวลาทุกวิชา  จนสอบเสร็จ  ผมก็กลับบ้าน

แต่ หลังจากนั้นประมาน 2-3เดือน (มั้ง)  ทางมหาลัยก็ประกาศผลสอบ หน้าเว็บไซด์ ช่วงเวลานั้น ผมไม่คิดหรอกว่า  ผมจะติด  แต่ถ้าติดก็คงดี  ติดเป็นคนแรกของห้อง  แล้วก็ จะได้ ตอบได้ เวลาเจอคำถามยอดฮิต ตอนม.6 "  เฮ๊ยๆๆ ไอ.. มืงเรียนที่ไหนว่ะ "   ช่วงเวลานั้น  ผมกับเพื่อนสนิท ไปนั่งดูผลสอบที่ร้านเกมส์  ปรากฏว่า  มีรายชื่อผม กับเพื่อน อีกคน  เขียนว่า สอบได้  เอาล่ะทีนี้ เฮกันลั่นร้านเกมส์   แต่ก็มีบางคน  ทำหน้าตางง งวย ว่าผมติดได้อย่างไร  หลังจากวันนั้น เป็นต้นมา  ผมก็เป็นคนดัง ของโรงเรียน ....

พอหลังจากข่าวการประกาศผลของมหาวิทยาลัยนั้น เริ่ม เป็นที่เฮฮาของกลุ่มเด็กนักเรียน ว่ามีใครสอบติดบ้าง  แล้วก็ต้องอึ้งกันทั้งห้อง เมื่อทุกคนได้ยิน ชื่อของ ผม  ซึ่งเป็น ที่โหล่ของห้อง และ เกรดไม่ถึง 2.00 ( - -*)  วันนั้น ผมเห็นได้ เลยว่า เพื่อนคนไหน ที่ยินดีกับเรา หวังดีต่อเรา  และอิจฉาเรา  ซึ่งอันที่จริง ผมไม่เคยซีเรียสอะไรพวกนี้หรอก  แต่มันก็อดคิดไม่ได้

แต่ผมก็หารู้ไม่ว่า  ปัญหาใหญ่กว่านั้น ที่ตามมาคือ   ( เกรดต้องถึง 2.00  ซึ่งผมไม่ถึง !!!!)   ผมจึง ใช้เวลา ม.6 ของผมหลังรู้ว่าสอบติด แก้ 0 สิบกว่าตัว   แล้วก็มานั่งลุ้นว่า  เกรดผม หลังแก้เสร็จแล้วจะถึง 2.00 ไหมนะ   แล้ววันนั้นก็มาถึง  ผมไปให้อาจารย์ คนนึงเปิดคอม แล้วตรวจเกรดให้ ในห้องทะเบียน ว่าผมได้เท่าไร  ผมก็ต้องอึ้ง กับภาพที่ออกมา  ผมได้ 2.00 พอดี  5555  ค่อยหายเครียด หลังจากปวดหัว มาหลายวัน

แล้วก็มาถึง วันที่ ทางมหาวิทยาลัย นัดมาสอบสัมภาษณ์  ซึ่งตอนนั้น มหาลัยเอา คนที่สอบติด มา 120  คน  แล้วจะคัดออก ให้เหลือ 50 คน  ผมคิดในใจ  ไอ....  กูนึกว่ากุจะโล่งอกแล้วแท้ๆๆ  ต้องมาเครียดไอสอบสัมภาษณ์นี้อีก  ก่อนหน้านั้นผมก็ ใช้เวลา  ทั้งวันทั้งคืน หาแนว  การสอบสัมภาษณ์ เลยครับ การวางตัว การตอบคำถาม มารยาท  เยอะแยะมากมาย 555   ซึ่งผมคิดว่า  มันคือจิตวิทยาอย่างนึงเลยนะ  

จนถึงวันสอบจริง   ผมนั่งอยู่กับเพื่อนผม สามสี่คน  ใกล้ๆกัน  ซึ่งปัจจุบัน มันเป็นเพื่อนซี้ปึ๊กของผม 555   พอเข้าห้องสอบสัมภาษณ์ หัวใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อเห็นภาพ  อาจารย์ที่ทำการสอบสัมภาษณ์ แล้วสภาพห้องที่เงียบกริบ...   ยังกะโรงเชือด  ผมคิดในใจ  กูตายแน่  (  บุคลิคผม คงจะนึงออก  ผช ห้าวๆตัวดำๆ หน้าเหี้ยมๆ ผมหยิกๆ ดูเกเร )  อาจารย์ จะชอบไหมน่ะ  กับพอร์ตฟอลิโอ ประมาณ 10 หน้า  คนอื่นนี่ทำกันเป็นเล่มใหญ่ๆ  พอเริ่มการสัมภาษณ์  อาจารย์ก็ทำการถามชื่อปกติ ล่ะครับ ละก็ถามเหมือน ใน google ที่ผมเคยหาแหล่ะ  ประมาณ ว่าทำอะไร เรียนอะไร อนาคตอยากทำอะไร คิดว่าถ้าได้เรียน  แล้วจะไปใช้กับที่บ้านได้ไหม  หลังจากนั้น ก็ เข้าโหมดซีเรียส เมื่ออาจารย์ เอา ภาษาอังกฤษ 1 หน้ากระดาษ มาให้ผมอ่าน และแปลให้ฟัง  ความบรรลัยจึงบังเกิด 555  ผมก็ใส่ยับเลย แต่โชคดีที่ว่า ผมเป็นคนชอบ ฟังเพลง ภาษาอังกฤษ  ผมจึงอ่านออกเสียงน่าจะถูกบ้างแหล่ะ 55  พอถึงเวลาที่ต้องจาก  อาจารย์ที่ สัมภาษณ์ ถามผมว่า จะเรียนไหวไหม เราน่ะ  ผมก็บอกว่า  ผมไหวแน่นอนครับ ถ้าให้โอกาสผม  วลีเด็ด 555  จากนั้น อาจารย์ก็กล่าวร่ำลา ด้วยคำว่า ไปฝึกภาษาอังกฤษ มาใหม่นะ   ... ช่วงเวลานั้น ผมแทบสลบ  (ตายแน่ๆๆๆ กูตายแน่ๆ  อาจารย์ ให้ไปฝึกใหม่ กูจะติดไหมเนี่ย T-T )  
จากนั้นผม ก็ทำตัวปกติ ทั่วไป  แต่ก็มีเครียดบ้างระหว่างรอผล สอบสัมภาษณ์   ..

พอถึงเวลา ประกาศการสอบสัมภาษณ์  ผมนั่งดูที่บ้านคนเดียวเงียบๆ  แล้วก็เตรียมใจไว้แล้ว ว่าต้องไม่ติดแน่ๆ  ผมคลิปเข้าเว็บ มหาวิทยาลัย .... แล้วก็เข้า ประกาศผลสอบสัมภาษณ์  เขาให้ ผม กรอกชื่อ นามสกุล เพื่อดูผล  ผมกรอกครั้งแรก  พิมไปปั๊บ  มันขึ้นว่า  เสียใจด้วย  น้ำตาผมเริ่มจะไหล 555  แต่ด้วยความที่ เอาว่ะ เอาใหม่  อาจเขียนชื่อผิด ละผมก็กดลบชื่อของผม แบบไม่มอง  (ผมไม่รู้ว่าผมกรอกผิดไหม)  ผมกรอกใหม่  ผลออกมา  ยินดีด้วยคุณสอบผ่าน  เท่านั้นแหล่ะ  เฮลั่นบ้าน  แต่ผมก็ต้องอุบเงียบ ไม่ให้คนที่บ้านรู้  ผมอยากจะเซอร์ไพร พ่อแม่ ของผม (ซึ่งเค้าไม่ค่อยหวังอะไรในตัวผม ซักเท่าไร เพราะเขา ปล่อยวางในตัวผมพอสมควร T-T )  

ตอนนั้นผมก็เริ่ม ออกจากบ้านและเดินออกไปหาพ่อกับแม่ของผม แล้วแกล้งบอกว่า  ผลออกแล้วนะพ่อ  ผมสอบไม่ติดอ่ะ (แล้วก็ทำหน้าเศร้าๆT-T)   ทันใดนั้น  ผมเห็นพ่อแม่ของผม  บอกกับผมว่า  ไม่เป็นไรนะ เอาใหม่ ผมน้ำตาจะไหล แล้วผมก็ยิ้ม บอกกับท่านว่า ผมล้อเล่น  ผมสอบติด  ท่านก็ยิ้ม แล้วบอกกับผมว่า  พ่อกับแม่ รู้อยู่แล้ว ว่าลูกต้องทำได้  ....   ในวันนั้น เมื่อผมได้ยินประโยคนั้น  โลกของผมหยุดหมุน ไปช่วงขณะ  ผมเหมือนอยู่คนเดียวในโลกใบนี้  แล้วผม พูดกับตัวเองว่า  ที่ผ่านมา ผม เกเร ผม ดื้อ  ถ้าผม ไม่กลับตัวในตอนนั้น  ชีวิตของผมจะเป็นอย่างไร  ...  

หลังจากนั้น  ผมก็เป็นที่พูดถึง ในบรรดาครูบาอาจารย์ และเด็ก ม.6 ว่า มันสอบติดได้ยังไง ถึงภายหลังผมก็แอบน้อยใจ เมื่อแอบได้ยินว่า  ( อ่อไอนี่อ่ะเหรอ ที่สอบติด  ดวงมันดีจริงๆนะ )  แต่ตอนนั้น ผมก็ยิ้มละพูดกับตัวเองว่า  ใช่ดวงกูดีแหล่ะ ข้อสอบ กี่ร้อยข้อ ช๊อย 5 ข้อ กูเดาถูกจนสอบติด  เอ้อ กูดวงดี 555 ก็เป็นอันว่าจบด้วยดี

สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำ  เฉพาะสำหรับ เด้กที่ท้อว่าตัวเอง เกรดน้อย หรือ โง่ หรือไม่มั่นใจในตัวเอง คนดูถูกต่างๆนาๆ  คุณอย่าคิดอย่างนั้นเลย ถ้าคุณยังไม่เริ่มทำ  มันไม่สายเกินไปหรอก หากยังไม่ลงมือทำ  ถ้าคุณตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างตั้งใจ  ผมเชื่อว่า  มันก็สำเร็จตั้งแต่เริ่มแล้วแหล่ะ ผลออกมาเป็นยังไง  เราก็ต้องรับให้ได้ แล้วทำต่อไปเรื่อยๆ ผมเชื่อว่า เด็กเกเรขนาดไหน ถ้าคุณ เปลี่ยนจากเอานิ้วของคุณเนี่ยที่ ชอบพิมพ์โทรศัพท์ตอนคุยกับแฟนหรือ นั่งเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ของคุณเนี่ย มาคลิก google  แล้วหาข้อมูล เกี่ยวกับคณะ  นั้นนี้ ว่า สอนอะไร เกี่ยวกับอะไร จบไปทำอะไร สังคมเป็นยังไง หรืออื่นๆ คุณต้องหา เป้าหมายของคุณก่อน มีอย่างเดียว สำหรับพวกขี้แพ้ คือ มันยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะมันขี้เกียจ และอ่อนไหวต่อคำดูถูกของคนอื่น

และที่สำคัญที่สุด อย่าเกี่ยง หรือ ดูถูกมหาวิทยาลัยเอกชน   มันดีกันคนละอย่าง ผมก็ไม่เข้าใจทำไมผู้ใหญ่  รุ่นโบราณ ถึงดูถูกมหาวิทยาลัยเอกชนกันนัก  แต่ผม ไม่เลย  ถึงแม้ผมจะเรียนมหาวิทยาลัย รัฐบาล ผมกลับคิดว่า  มหาวิทยาลัยเอกชน  ดีกว่า บางคณะด้วยซ้ำ เพราะอะไร  เพราะ เทคโนโลยีเขาใหม่กว่า   อาจารย์รุ่นใหม่ไฟแรง มันก็มีข้อแตกต่างกันคนละแบบ ผมก็เบื่อ เหมือนกัน เวลา เพื่อนๆผม เครียดแล้วมาบอกกับผมว่า พ่อแม่ไม่ให้เรียนเอกชน
ซึ่งผมคิดว่า  อาจเป็นการถูกปลูกฝัง ของวัยรุ่นเมื่อ 100 ปีที่แล้วอ่ะครับ  ..

สุดท้าย ผมขอให้ ทุกคนสอบผ่าน แล้วก็อย่าเพิ่งหมดหวังนะ  สำหรับคน ที่ เกรดน้อย เรียนแย่  ขอแค่ พวกคุณ  วางโทรศัพท์บ้าง โซชงโซเชียล เลิกเล่นบ้าง  ชีวิต จะดีขึ้นเยอะ ขอบคุณครับ ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่