
อีกเช่นเคย...กระทู้ทุกกระทู้ที่เราเขียนมันเป็นเหมือนสมุดจดบันทึกของเราเองทุกข้อความที่เขียนลงไป...
รูปก็อาจจะไม่สวยอะไรมากเพราะใช้โทรศัพท์ถ่ายกับฝีมือกากๆ ของเราเอง 555
แต่แน่นอนว่าภาพทุกภาพสายตาและหัวใจเราได้บันทึกไว้แล้วอย่างงดงามทุกช่วงเวลา
หลังสอบ "FINAL ตัวร้ายกับควายเป็นแสน" ของชีวิตมหาวิทยาลัยปี 3 เทอม 1 เสร็จเรียบร้อยเรากับเพื่อนสนิทก็นั่งค้นหารีวิวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาวแบบ One Day Trip กัน
ค้นหาไปค้นหามาก็เป็นอันตกลงกันว่าไปเที่ยว "ม่อนแจ่ม" กันดีกว่า

เพราะมีเพื่อนของเพื่อนอีกคนรู้ทาง จะได้ไม่เสียเวลางมอยู่กับกูเกิ้ลแมพ
แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าหน้าหนาวของประเทศไทยปี 2558 นี้ มันหนาวซ้ะที่ไหนละค้าาาาาาาขุ่นแม่!!! คือในเมืองเชียงใหม่นี่ร้อนตับจะแตกอิ้!
มีเพื่อนที่รู้จักกันคนนึงนางไปเที่ยวม่อนแจ่มละนางก็อัปรูปลงหน้าเฟซบุ๊คของนาง...คืออออ ขุ่นพระ!! นั่นม่อนแจ่มหรอ??? นึกว่าแถวชายหาดบางแสนคือแดดแรงมากกก พระอาทิตย์นี่อยู่บนหัวเลยค่ะ พอทักแชทไปถามนางก็บอกว่าร้อนอ่ะแก ดอกไม้ก็แห้งเหี่ยวหมดแล้ว ขนาดนางไปแต่เช้านะนั่น

อ้ะ...อย่างใดละทีนี้ก็แอบเซ็งเบาๆ นะ แต่คือคงไม่คาดหวังว่าจะได้ไปเจอสิ่งสวยงามอากาศระดับพรีเมี่ยมอะไรใดใดทั้งสิ้นแล้วละ ขอแค่ได้ไปเที่ยวไหนสักที่พอคายเครียดหลังสอบพอ ไปขับรถเล่นก็ได้เอ้า! Go!!!
เดอะแก๊งเฉพาะกิจเราก็ได้ข้อสรุปมาว่า...
เราไปกัน 4 คน แว๊นรถมอไซต์ไปกัน 2 คัน
เดินทางเช้าวันที่ 17 ธันวาคม 2558 เวลา 6.00 น.
พอถึงเวลานัดหมายก็ยังไม่มีใครมา (รวมถึงเราเองด้วย) 5555 ล่าสุด คือสายทั้งแก๊งค่ะ จาก 6.00 น. กลายมาเป็ฯ 7.00 น. เฉยเลย ในใจก็คิดนะว่าออกเดินทางสายขนาดนี้รับรองกว่าจะไปถึงคงเจอแดด แดด แดด แดด ร้อนหัวแตกแน่นอน!! แต่ก็ต้องเดินหน้าเท่านั้น ไปค่า !
เราและเดอะแก๊งใช้เวลาเดินทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ถึงม่อนแจ่มประมาณชั่วโมงกว่าๆ โดยใช้ถนนสายทางไปแม่ริมในการแว๊นของพวกเรา
ถึงม่อนแจ่มก็ประมาณประมาณแปดโมงเช้ากว่าๆ เอง
ตลอดทางที่แว๊นกันไปนั้นอากาศค่อนข้างเย็นพอสมควรก็คิดไปเองแหละว่าเป็นเพราะมันยังเช้าอยู่มั้ง
อ้ะ...จากนั้นก็แว๊นไปเรื่อยๆ บนถนนเส้นทางเรียบปกติ ผ่านบ้านผ่านเมืองมากมายตลอดทางกันไป
พอถึงช่วงหนึ่งรู้สึกได้ว่าถนนเริ่มเป็นเส้นทางแบบทางขึ้นดอยแล้วล่ะ เริ่มชันเริ่มโค้งขึ้นเรื่อยๆ ช่วงแรกๆก็ขับสบายๆ แต่พอขับนานเข้ายิ่งชันยิ่งโค้งเล่นเอามอไซค์ของพวกเรางอแงไม่ยอมออกตัวกันไปเลยทีเดียว จนคนขับคนซ้อนต้องช่วยรถออกแรงกันเลย 5555 นึกแล้วขำเลยเวลาเห็นเพื่อนคันหน้าช่วยกันออกแรงกระตุ้นช่วยรถ (รถคันหน้าชื่ออองตองนะ) 5555 (ส่วนรถที่เราขับชื่อบลูฮาวาย) 55555++
และที่สังเกตได้อย่างหนึ่งคืออากาศที่เราปะทะอยู่เริ่มหนาวขึ้นหนาววววขึ้น ตลอดทางก็เริ่มมีหมอกหนาขึ้น คงเพราะยังเช้าอยู่ละม้างงงง
ไม่นานเราก็พารถสองล้อคู่ใจของเราสองคันเลี้ยวขวาเข้ามาทางที่เหมือนกับเป็นทางเข้าหมู่บ้านเล็กๆ ทางเริ่มชันขั้นสุดยอดล่ะอะ เป็นทางแคบๆ แบบถ้ารถจะสวนกันต้องมีคันหนึ่งหลบก่อนประมาณนั้น
จากนั้น...ไม่นานเราก็เคลื่อนขบวนเดอะแก๊งค์องเรามาถึงม่อนแจ่มแล้วล่ะ... !??? ห้ะ! ถึง " ม่ อ น แ จ่ ม " แล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!!
ขุ่นพระ!! ไหนใครบอกร้อน? ใครบอกแดดตัวจะแตก? ดอกไม้เหี่ยวจะตาย? โอ้ววว...ถ้าเทียบกับการที่ไม่ได้หวังจะเห็นอะไรตอนนี้มันคือสวรรค์ชัดชัดเลย

คือหมอกเยอะมาก ปลิวมาตามลมปะทะหน้าเราเลย
ดอกไม้ก็บานสวยเต็มไปหมดเลย...ดอกกะหล่ำก็มา แต่สตรอเบอร์รี่จะไม่โตเพราะปีนี้หนาวช้า
สภาพแวดล้อมบนม่อนแจ่มนี่ก็มีหมอกปกคลุมเย็นดีจัง ลมพัดจนหัวเหนียวเลยค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะไปหน่อยวุ่นวาย หลบหามุมว่างๆ ถ่ายรูปยากมาก 5555
จากนั้น...เดอะแก๊งค์ของเราก็ขับรถขึ้นไปต่อที่ "ม่อนตะวัน" กันสักนิดนึง ระหว่างทางเจอคุณป้ายืนปิ้งมันอยู่...แวะแบบเบรกหัวชนกันเลยทีเดียว หิวสิครับ รออะไร
ช่างเป็นมันปิ้งที่อร่อยฝุดฝุดไปเล้ยยยย ระหว่างทางไปม่อนตะวันบอกเลยหมอกอลังกว่าเดิมอีก ทางก็ชันสุด ผสมควันอีกนิดคือจะมองไม่เห็นทางแล้วค่าาา หนาวววด้วยยย ฟินนนนน
ม่อนตะวัน คนไม่เยอะเท่าไหร่อาจเพราะเป็นจุดที่ไม่มีแลนด์มาร์กให้ถ่ายรูปมั้ง ออกแนวเป็นพื้นที่เพาะปลูกผักซะมากกว่าแต่บรรยากาศเริ้ดดด
ตลอดทริปเล็กๆ ของพวกเราในวันนี้มันสนุกและมีความสุขมากๆ เลย และทำให้รู้อีกอย่างว่า "หากเราไม่คาดหวัง...เรามักจะยิ่งกว่าสมหวังโคตรๆ" ขอบคุณทุกคนเพื่อนร่วมทริป สาวแก๊งค์เถิน ที่ทำให้วันธรรมดาเป็นวันที่พิเศษ จุ้บ..
ชั้น รัก เธอ ม่อน แจ่ม แจ่ม จริง
[CR] ม่ อ น แจ่ ม l ห น้ า ห น า ว ปี 2 5 5 8
รูปก็อาจจะไม่สวยอะไรมากเพราะใช้โทรศัพท์ถ่ายกับฝีมือกากๆ ของเราเอง 555
แต่แน่นอนว่าภาพทุกภาพสายตาและหัวใจเราได้บันทึกไว้แล้วอย่างงดงามทุกช่วงเวลา
หลังสอบ "FINAL ตัวร้ายกับควายเป็นแสน" ของชีวิตมหาวิทยาลัยปี 3 เทอม 1 เสร็จเรียบร้อยเรากับเพื่อนสนิทก็นั่งค้นหารีวิวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาวแบบ One Day Trip กัน
ค้นหาไปค้นหามาก็เป็นอันตกลงกันว่าไปเที่ยว "ม่อนแจ่ม" กันดีกว่า
เพราะมีเพื่อนของเพื่อนอีกคนรู้ทาง จะได้ไม่เสียเวลางมอยู่กับกูเกิ้ลแมพ
แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าหน้าหนาวของประเทศไทยปี 2558 นี้ มันหนาวซ้ะที่ไหนละค้าาาาาาาขุ่นแม่!!! คือในเมืองเชียงใหม่นี่ร้อนตับจะแตกอิ้!
มีเพื่อนที่รู้จักกันคนนึงนางไปเที่ยวม่อนแจ่มละนางก็อัปรูปลงหน้าเฟซบุ๊คของนาง...คืออออ ขุ่นพระ!! นั่นม่อนแจ่มหรอ??? นึกว่าแถวชายหาดบางแสนคือแดดแรงมากกก พระอาทิตย์นี่อยู่บนหัวเลยค่ะ พอทักแชทไปถามนางก็บอกว่าร้อนอ่ะแก ดอกไม้ก็แห้งเหี่ยวหมดแล้ว ขนาดนางไปแต่เช้านะนั่น
อ้ะ...อย่างใดละทีนี้ก็แอบเซ็งเบาๆ นะ แต่คือคงไม่คาดหวังว่าจะได้ไปเจอสิ่งสวยงามอากาศระดับพรีเมี่ยมอะไรใดใดทั้งสิ้นแล้วละ ขอแค่ได้ไปเที่ยวไหนสักที่พอคายเครียดหลังสอบพอ ไปขับรถเล่นก็ได้เอ้า! Go!!!
เดอะแก๊งเฉพาะกิจเราก็ได้ข้อสรุปมาว่า...
เราไปกัน 4 คน แว๊นรถมอไซต์ไปกัน 2 คัน
เดินทางเช้าวันที่ 17 ธันวาคม 2558 เวลา 6.00 น.
พอถึงเวลานัดหมายก็ยังไม่มีใครมา (รวมถึงเราเองด้วย) 5555 ล่าสุด คือสายทั้งแก๊งค่ะ จาก 6.00 น. กลายมาเป็ฯ 7.00 น. เฉยเลย ในใจก็คิดนะว่าออกเดินทางสายขนาดนี้รับรองกว่าจะไปถึงคงเจอแดด แดด แดด แดด ร้อนหัวแตกแน่นอน!! แต่ก็ต้องเดินหน้าเท่านั้น ไปค่า !
เราและเดอะแก๊งใช้เวลาเดินทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ถึงม่อนแจ่มประมาณชั่วโมงกว่าๆ โดยใช้ถนนสายทางไปแม่ริมในการแว๊นของพวกเรา
ถึงม่อนแจ่มก็ประมาณประมาณแปดโมงเช้ากว่าๆ เอง
ตลอดทางที่แว๊นกันไปนั้นอากาศค่อนข้างเย็นพอสมควรก็คิดไปเองแหละว่าเป็นเพราะมันยังเช้าอยู่มั้ง
อ้ะ...จากนั้นก็แว๊นไปเรื่อยๆ บนถนนเส้นทางเรียบปกติ ผ่านบ้านผ่านเมืองมากมายตลอดทางกันไป
พอถึงช่วงหนึ่งรู้สึกได้ว่าถนนเริ่มเป็นเส้นทางแบบทางขึ้นดอยแล้วล่ะ เริ่มชันเริ่มโค้งขึ้นเรื่อยๆ ช่วงแรกๆก็ขับสบายๆ แต่พอขับนานเข้ายิ่งชันยิ่งโค้งเล่นเอามอไซค์ของพวกเรางอแงไม่ยอมออกตัวกันไปเลยทีเดียว จนคนขับคนซ้อนต้องช่วยรถออกแรงกันเลย 5555 นึกแล้วขำเลยเวลาเห็นเพื่อนคันหน้าช่วยกันออกแรงกระตุ้นช่วยรถ (รถคันหน้าชื่ออองตองนะ) 5555 (ส่วนรถที่เราขับชื่อบลูฮาวาย) 55555++
และที่สังเกตได้อย่างหนึ่งคืออากาศที่เราปะทะอยู่เริ่มหนาวขึ้นหนาววววขึ้น ตลอดทางก็เริ่มมีหมอกหนาขึ้น คงเพราะยังเช้าอยู่ละม้างงงง
ไม่นานเราก็พารถสองล้อคู่ใจของเราสองคันเลี้ยวขวาเข้ามาทางที่เหมือนกับเป็นทางเข้าหมู่บ้านเล็กๆ ทางเริ่มชันขั้นสุดยอดล่ะอะ เป็นทางแคบๆ แบบถ้ารถจะสวนกันต้องมีคันหนึ่งหลบก่อนประมาณนั้น
จากนั้น...ไม่นานเราก็เคลื่อนขบวนเดอะแก๊งค์องเรามาถึงม่อนแจ่มแล้วล่ะ... !??? ห้ะ! ถึง " ม่ อ น แ จ่ ม " แล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!!
ขุ่นพระ!! ไหนใครบอกร้อน? ใครบอกแดดตัวจะแตก? ดอกไม้เหี่ยวจะตาย? โอ้ววว...ถ้าเทียบกับการที่ไม่ได้หวังจะเห็นอะไรตอนนี้มันคือสวรรค์ชัดชัดเลย
ดอกไม้ก็บานสวยเต็มไปหมดเลย...ดอกกะหล่ำก็มา แต่สตรอเบอร์รี่จะไม่โตเพราะปีนี้หนาวช้า
สภาพแวดล้อมบนม่อนแจ่มนี่ก็มีหมอกปกคลุมเย็นดีจัง ลมพัดจนหัวเหนียวเลยค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะไปหน่อยวุ่นวาย หลบหามุมว่างๆ ถ่ายรูปยากมาก 5555
จากนั้น...เดอะแก๊งค์ของเราก็ขับรถขึ้นไปต่อที่ "ม่อนตะวัน" กันสักนิดนึง ระหว่างทางเจอคุณป้ายืนปิ้งมันอยู่...แวะแบบเบรกหัวชนกันเลยทีเดียว หิวสิครับ รออะไร
ช่างเป็นมันปิ้งที่อร่อยฝุดฝุดไปเล้ยยยย ระหว่างทางไปม่อนตะวันบอกเลยหมอกอลังกว่าเดิมอีก ทางก็ชันสุด ผสมควันอีกนิดคือจะมองไม่เห็นทางแล้วค่าาา หนาวววด้วยยย ฟินนนนน
ม่อนตะวัน คนไม่เยอะเท่าไหร่อาจเพราะเป็นจุดที่ไม่มีแลนด์มาร์กให้ถ่ายรูปมั้ง ออกแนวเป็นพื้นที่เพาะปลูกผักซะมากกว่าแต่บรรยากาศเริ้ดดด
ตลอดทริปเล็กๆ ของพวกเราในวันนี้มันสนุกและมีความสุขมากๆ เลย และทำให้รู้อีกอย่างว่า "หากเราไม่คาดหวัง...เรามักจะยิ่งกว่าสมหวังโคตรๆ" ขอบคุณทุกคนเพื่อนร่วมทริป สาวแก๊งค์เถิน ที่ทำให้วันธรรมดาเป็นวันที่พิเศษ จุ้บ..
ชั้น รัก เธอ ม่อน แจ่ม แจ่ม จริง