+ หนาวนี้เที่ยวเมืองเหนือกัน ขุนแม่ยะ ปาย ถ้ำน้ำลอด แม่ฮ่องสอนถนนคนเดิน กองมู กระเหรี่ยงคอยาว ภูโคลน รักไทย ปางอุ๋ง +
วางแผนการเดินทางอยู่ไม่นาน กับการแก้โจทย์ที่ว่า
1. ต้องไปแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอก
2. กางเต้น ตามประสา Camp Car
3. คนต้องไม่วุ่นวาย เงียบ สงบ จริงๆ
4. เด็กๆ ต้องสนุก
5. ไปเที่ยว ไม่ใช่ไปถึง
หาข้อมูลสิครับ รออะไร สุดท้ายแผนออกมาเป็นตามตารางด้านล่าง

ถึงวันเวลา ออกเดินทางจากชลบุรี ยิงยาว แวะกินแวะเที่ยว ไปเรื่อยๆ ตามกำหนดการ ช้าบ้างเร็วบ้าง ไม่ว่ากัน จุดหมายแรกที่เราตั้งใจ จะพักคือ
ขุนแม่ยะ
ทางเข้านั้นเลยห้วยน้ำดังไปแค่ 1 กม เท่านั้น จะมีแยกซ้ายมือที่จุดตรวจ เลี้ยวเข้าไปกว่า 8 กม แนะนำรถที่ใช้ ควรเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และผู้ขับควรมีประสบการณ์ ในทาง ออฟโรดอยู่บ้าง เราใช้เวลากว่า 1 ชม จากปากทาง เข้ามายังหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ เส้นทางไม่มีแม้รถสักคัน คือว่าเรามาก่อนหน้าที่พระยาเสือโคร่งจะบาน โดยปกติจะบานช่วงกลางเดือน มกราคม จนถึงต้นเดือน กุมภาพันธ์

ตามคาด ไม่มีรถสวนเลยแสดงว่าไม่มีคนเลยสักคน งานนี้นอนเต้นเดียวคนเดียวแน่เลย เราเลยติดต่อหัวหน้าหน่วยเพื่อขอนอนด้านบน ข้างบ้านพักเจ้าหน้าที่เนื่องจากเปลี่ยว และเหงามากๆ


วันนี้นอนง่ายกินง่ายครับ เหนื่อยและหนาวมาก นอนดีกว่า
รุ่งเช้าอีกวัน เราตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาเฝ้ารอแสงแรกของวัน อยากบอกว่าสวยมากครับ เบื้องหน้าแต่ไกลๆ จะเป็นเขาดอยหลวงเชียงดาว


เสร็จสิ้นจากการเดินถ่ายรูป เราก็พากันหุงหาอาหารเช้า ตามแบบฉบับ Camp Car

ถ่ายรูปยืนยันสักหน่อยว่าเรามาแล้ว

ออกจากขุนแม่ยะ มุ่งหน้าสู่ปาย
หมู่บ้านสันติชน
เพื่อพักทานข้าวเที่ยง พาเด็กๆทำกิจกรรมสักหน่อย งานนี้ตามคาดครับ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะมากที่ปาย ขนาดเราหนีงานมาเที่ยวก่อนจะปีใหม่ เมื่อเข้ามาในบรรยากาศในหมู่บ้านจำลอง เหมือนเราได้ก้าวเข้ามาสู่ ประเทศจีน เนื่องจากลักษณะของการตกแต่ง สถานที่จะเป็นสไตล์จีนยูนานทั้งหมด สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นเมื่อก้าวย่างเข้าไปในเขตของศูนย์วัฒนธรรม คือ มังกรสีสดพันอยู่กับเสา ซี่งตั้งอยู่บนเนินหินสีเข้ม ด้านหน้าของเนินหินมีอักษรภาษาจีน เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับ บ้านดินสีส้มพลาสเทลสดใสตัดกับสีท้องฟ้าใสตั้งเรียงรายอยู่ และมีร้านอาหารจีนยูนานให้บริการด้วย อาหารที่เลี่ยงชื่อ ขาหมู หมั่นโถว ที่รสชาติอร่อย

เด็กๆอิ่มท้องแล้วต้องเที่ยวต่อ

เด็กๆผ่อนคลายกับการเดินทาง จากนั้นมุ่งหน้าสู่ ถ้ำน้ำลอด หรือ ถ้ำลอด ถ้ำลอด ปางมะผ้า ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งโบราณคดี มีสถานที่น่าสนใจ คือ ถ้ำลอด ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหล ลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม
ถ้ำลอด
สามารถเที่ยวได้ทั้งปี มีการจัดการรองรับการท่องเที่ยวโดยชุมชนรอบถ้ำ ร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลุ่มน้ำปาย สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. การท่องเที่ยวถ้ำลอดต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าชมใน แต่ละจุด ราคาค่าแพรวมไกด์นำเที่ยวแพละ 550 บาท นั่งได้ 4 ท่าน นำเที่ยว 3 จุด เริ่มจาก ถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา ถ้ำผีแมน

ภายในถ้ำ สวยงามมาก บวกกับการจัดการของอุทยานค่อนข้างดี จึงทำให้ธรรมชาติยังคงสวยงาม งานนี้มีปีน ใต่เขาบ้างนะครับ ประมาณตึก 3 ชั้นก็ว่าได้ อีกทั้งภายในถ้ำบางจุด อากาศค่อนข้างเบาบาง ท่านใดมีปัญหาสุขภาพ ไม่ควรฝืนนะครับ



ด้านในนั้นมืดมากๆ

มุมมองจากด้านบนซึ่งต้องปีนบันไดขึ้นไปชมถ้ำผีแมน เลยได้รูปนี้มาฝาก

ด้านหลังของถ้ำจะทำเป็นฝายชะลอน้ำ เพื่อหน้าแล้งจะได้มีน้ำใช้ล่องแพในถ้ำได้ตลอดปี

ชมความงามของถ้ำน้ำลอดเสร็จ เราก็มุ่งหน้าสู่ที่พักในเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจองไว้แล้วผ่านทาง Booking.com การเดินทางของเรา จะสลับการนอนเต้นและการนอนบ้านพัก เพื่อให้การเดินทางไม่เหนื่อยล้าเกิน คืนนี้เรามาเดินกินเดินเที่ยวที่ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน
ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน
ตั้งอยู่ ฝั่งริมวัดจองกลาง-จองคำ เป็นถนนคนเดินสายเล็กๆ สั้นๆ โดยแบ่งเป็น 2 โซน หลักด้วยกัน คือ โซนขายอาหารบริเวณริมหนองจองคำ และโซนขายสินค้าทั่วไป เป็นถนนที่เปิดให้นักท่องเที่ยว มาเดินเที่ยวกันตั้งแต่ประมาณห้าหกโมงเย็นถึงประมาณสี่ทุ่ม ซึ่งในหน้าหนาวก็เปิดกันทุกวันไม่มีหยุด แต่หากเป็น หน้าร้อนก็เฉพาะวันศุกร์เสาร์

พักเดินกินเดินเที่ยวเดินช็อป เรื่อยๆไม่รีบไม่เร่ง

เช้าอีกวันไม่รอช้า ตื่นแต่ตีห้า อาบน้ำแปรงฟัน มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกของวันคือพระธาตุดอยกองมู วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของ ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 ก.ม.

ไหว้พระเสร็จ ก็เดินทางสู่หมู่
บ้านกระเหรี่ยงคอยาวเราเลือกไปที่
บ้านห้วยเสือเฒ่า
เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ใกล้เมืองมากที่สุด รถยนต์สามารถเข้าถึงจึงมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเที่ยวชม กะเหรี่ยงคอยาวที่นี่เป็นจำนวนมาก กะเหรี่ยงคอยาวที่นี่จะมีประมาณ 20 หลังคาเรือน อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามา อยู่ที่แม่ฮ่องสอนนานแล้ว ดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ภายในหมู่นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิถีชีวิต และถ่ายรูปกับ กะเหรี่ยงคอยาวได้


บรรยากาศ สองข้างทางระหว่าเดินทาง อากาศไม่หนาวมาก กำลังเย็นสบายๆ

แต่งตัวถ่ายรูปฟรีนะครับ คนที่นี่พูดไทยได้ ภาษาอังกฤษยิ่งเก่งมากๆเลยครับ

หลังจากพักทานอาหารเดินเที่ยวเดินช็อป ก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยัง สะพานไม้ไผ่
สะพานซูตองเป้
ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร มีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร เป็นสะพานไม้ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอีกแห่งหนึ่ง ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ หรือบางคนก็บอกว่าแปลว่า ความสำเร็จ ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความ ความสำเร็จใดๆ ก็จะพบกับความสมหวัง


ใช้เวลาไม่นานเดินทางต่อไปยัง ภูโคลน เพื่อทำการพอกหน้า แช่น้ำอุ่น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง
ภูโคลน คันทรี คลับ
ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดีในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยว และการให้บริการด้านสุขภาพและความงามด้วยโคลนและน้ำแร่ธรรมชาติ แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บรรจุไว้ในโครงการ UNSEEN IN THAILAND และ SPA PARADISE เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย


ขับรถขึ้นเขาชันอีกครั้งมุ่งหน้าสู่
บ้านรักไทย วันนี้ขอบคุณท้องฟ้า ค่อนข้างเปิด ฟ้าใส
บ่ายแล้ว ต้องรีบเข้า ปางอุ๋ง เพื่อจับจองพื้นที่กางเต้น เราจองที่พักฝั่งอุทยาน โดยการไปลงทะเบียนล่วงหน้าเมื่อวานตอนเย็นที่อุทยานถ้ำปลา เพราะที่นี่จำกัดนักท่องเที่ยวต่อการค้างแรม
ปางอุ๋ง
มีลักษณะเป็นพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกัน บรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ปางอุ๋ง กลาย เป็น เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ยอดฮิตสุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของ แม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนาม ว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสน และไอหมอกบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับยากจะลืมเลือน แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนลางหายไปก็ยังคงความงาม

ที่ปางอุ๋งนอกจากชมบรรยากาศของสายหมอกในยามเช้าแล้ว กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือ การนั่งแพชมทัศนียภาพและ บรรยากาศโดยรอบ รวมถึงชมนดาราแห่งปางอุ๋ง นั่นก็คือหงส์พระราชทานจากสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นหงส์ดำและหงส์ขาวอย่างละ 1 คู่ด้วยกัน
ขอจบการรายงานทริปไว้เพียงเท่านี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่สนใจ Camp Car แบบเรานะครับ
ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆจาก
www.paiduaykan.com www.phu
+ หนาวนี้เที่ยวเมืองเหนือกัน ขุนแม่ยะ ปาย ถ้ำน้ำลอด แม่ฮ่องสอนถนนคนเดิน กองมู กระเหรี่ยงคอยาว ภูโคลน รักไทย ปางอุ๋ง +
วางแผนการเดินทางอยู่ไม่นาน กับการแก้โจทย์ที่ว่า
1. ต้องไปแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอก
2. กางเต้น ตามประสา Camp Car
3. คนต้องไม่วุ่นวาย เงียบ สงบ จริงๆ
4. เด็กๆ ต้องสนุก
5. ไปเที่ยว ไม่ใช่ไปถึง
หาข้อมูลสิครับ รออะไร สุดท้ายแผนออกมาเป็นตามตารางด้านล่าง
ถึงวันเวลา ออกเดินทางจากชลบุรี ยิงยาว แวะกินแวะเที่ยว ไปเรื่อยๆ ตามกำหนดการ ช้าบ้างเร็วบ้าง ไม่ว่ากัน จุดหมายแรกที่เราตั้งใจ จะพักคือ
ขุนแม่ยะ
ทางเข้านั้นเลยห้วยน้ำดังไปแค่ 1 กม เท่านั้น จะมีแยกซ้ายมือที่จุดตรวจ เลี้ยวเข้าไปกว่า 8 กม แนะนำรถที่ใช้ ควรเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และผู้ขับควรมีประสบการณ์ ในทาง ออฟโรดอยู่บ้าง เราใช้เวลากว่า 1 ชม จากปากทาง เข้ามายังหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ เส้นทางไม่มีแม้รถสักคัน คือว่าเรามาก่อนหน้าที่พระยาเสือโคร่งจะบาน โดยปกติจะบานช่วงกลางเดือน มกราคม จนถึงต้นเดือน กุมภาพันธ์
ตามคาด ไม่มีรถสวนเลยแสดงว่าไม่มีคนเลยสักคน งานนี้นอนเต้นเดียวคนเดียวแน่เลย เราเลยติดต่อหัวหน้าหน่วยเพื่อขอนอนด้านบน ข้างบ้านพักเจ้าหน้าที่เนื่องจากเปลี่ยว และเหงามากๆ
วันนี้นอนง่ายกินง่ายครับ เหนื่อยและหนาวมาก นอนดีกว่า
รุ่งเช้าอีกวัน เราตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาเฝ้ารอแสงแรกของวัน อยากบอกว่าสวยมากครับ เบื้องหน้าแต่ไกลๆ จะเป็นเขาดอยหลวงเชียงดาว
เสร็จสิ้นจากการเดินถ่ายรูป เราก็พากันหุงหาอาหารเช้า ตามแบบฉบับ Camp Car
ถ่ายรูปยืนยันสักหน่อยว่าเรามาแล้ว
ออกจากขุนแม่ยะ มุ่งหน้าสู่ปาย หมู่บ้านสันติชน
เพื่อพักทานข้าวเที่ยง พาเด็กๆทำกิจกรรมสักหน่อย งานนี้ตามคาดครับ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะมากที่ปาย ขนาดเราหนีงานมาเที่ยวก่อนจะปีใหม่ เมื่อเข้ามาในบรรยากาศในหมู่บ้านจำลอง เหมือนเราได้ก้าวเข้ามาสู่ ประเทศจีน เนื่องจากลักษณะของการตกแต่ง สถานที่จะเป็นสไตล์จีนยูนานทั้งหมด สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นเมื่อก้าวย่างเข้าไปในเขตของศูนย์วัฒนธรรม คือ มังกรสีสดพันอยู่กับเสา ซี่งตั้งอยู่บนเนินหินสีเข้ม ด้านหน้าของเนินหินมีอักษรภาษาจีน เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับ บ้านดินสีส้มพลาสเทลสดใสตัดกับสีท้องฟ้าใสตั้งเรียงรายอยู่ และมีร้านอาหารจีนยูนานให้บริการด้วย อาหารที่เลี่ยงชื่อ ขาหมู หมั่นโถว ที่รสชาติอร่อย
เด็กๆอิ่มท้องแล้วต้องเที่ยวต่อ
เด็กๆผ่อนคลายกับการเดินทาง จากนั้นมุ่งหน้าสู่ ถ้ำน้ำลอด หรือ ถ้ำลอด ถ้ำลอด ปางมะผ้า ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งโบราณคดี มีสถานที่น่าสนใจ คือ ถ้ำลอด ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหล ลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม
ถ้ำลอด
สามารถเที่ยวได้ทั้งปี มีการจัดการรองรับการท่องเที่ยวโดยชุมชนรอบถ้ำ ร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลุ่มน้ำปาย สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. การท่องเที่ยวถ้ำลอดต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าชมใน แต่ละจุด ราคาค่าแพรวมไกด์นำเที่ยวแพละ 550 บาท นั่งได้ 4 ท่าน นำเที่ยว 3 จุด เริ่มจาก ถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา ถ้ำผีแมน
ภายในถ้ำ สวยงามมาก บวกกับการจัดการของอุทยานค่อนข้างดี จึงทำให้ธรรมชาติยังคงสวยงาม งานนี้มีปีน ใต่เขาบ้างนะครับ ประมาณตึก 3 ชั้นก็ว่าได้ อีกทั้งภายในถ้ำบางจุด อากาศค่อนข้างเบาบาง ท่านใดมีปัญหาสุขภาพ ไม่ควรฝืนนะครับ
ด้านในนั้นมืดมากๆ
มุมมองจากด้านบนซึ่งต้องปีนบันไดขึ้นไปชมถ้ำผีแมน เลยได้รูปนี้มาฝาก
ด้านหลังของถ้ำจะทำเป็นฝายชะลอน้ำ เพื่อหน้าแล้งจะได้มีน้ำใช้ล่องแพในถ้ำได้ตลอดปี
ชมความงามของถ้ำน้ำลอดเสร็จ เราก็มุ่งหน้าสู่ที่พักในเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจองไว้แล้วผ่านทาง Booking.com การเดินทางของเรา จะสลับการนอนเต้นและการนอนบ้านพัก เพื่อให้การเดินทางไม่เหนื่อยล้าเกิน คืนนี้เรามาเดินกินเดินเที่ยวที่ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน
ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน
ตั้งอยู่ ฝั่งริมวัดจองกลาง-จองคำ เป็นถนนคนเดินสายเล็กๆ สั้นๆ โดยแบ่งเป็น 2 โซน หลักด้วยกัน คือ โซนขายอาหารบริเวณริมหนองจองคำ และโซนขายสินค้าทั่วไป เป็นถนนที่เปิดให้นักท่องเที่ยว มาเดินเที่ยวกันตั้งแต่ประมาณห้าหกโมงเย็นถึงประมาณสี่ทุ่ม ซึ่งในหน้าหนาวก็เปิดกันทุกวันไม่มีหยุด แต่หากเป็น หน้าร้อนก็เฉพาะวันศุกร์เสาร์
พักเดินกินเดินเที่ยวเดินช็อป เรื่อยๆไม่รีบไม่เร่ง
เช้าอีกวันไม่รอช้า ตื่นแต่ตีห้า อาบน้ำแปรงฟัน มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกของวันคือพระธาตุดอยกองมู วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของ ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 ก.ม.
ไหว้พระเสร็จ ก็เดินทางสู่หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวเราเลือกไปที่ บ้านห้วยเสือเฒ่า
เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ใกล้เมืองมากที่สุด รถยนต์สามารถเข้าถึงจึงมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเที่ยวชม กะเหรี่ยงคอยาวที่นี่เป็นจำนวนมาก กะเหรี่ยงคอยาวที่นี่จะมีประมาณ 20 หลังคาเรือน อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามา อยู่ที่แม่ฮ่องสอนนานแล้ว ดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ภายในหมู่นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิถีชีวิต และถ่ายรูปกับ กะเหรี่ยงคอยาวได้
บรรยากาศ สองข้างทางระหว่าเดินทาง อากาศไม่หนาวมาก กำลังเย็นสบายๆ
แต่งตัวถ่ายรูปฟรีนะครับ คนที่นี่พูดไทยได้ ภาษาอังกฤษยิ่งเก่งมากๆเลยครับ
หลังจากพักทานอาหารเดินเที่ยวเดินช็อป ก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยัง สะพานไม้ไผ่
สะพานซูตองเป้
ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร มีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร เป็นสะพานไม้ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอีกแห่งหนึ่ง ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ หรือบางคนก็บอกว่าแปลว่า ความสำเร็จ ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความ ความสำเร็จใดๆ ก็จะพบกับความสมหวัง
ใช้เวลาไม่นานเดินทางต่อไปยัง ภูโคลน เพื่อทำการพอกหน้า แช่น้ำอุ่น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง
ภูโคลน คันทรี คลับ
ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดีในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยว และการให้บริการด้านสุขภาพและความงามด้วยโคลนและน้ำแร่ธรรมชาติ แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บรรจุไว้ในโครงการ UNSEEN IN THAILAND และ SPA PARADISE เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย
ขับรถขึ้นเขาชันอีกครั้งมุ่งหน้าสู่ บ้านรักไทย วันนี้ขอบคุณท้องฟ้า ค่อนข้างเปิด ฟ้าใส
บ่ายแล้ว ต้องรีบเข้า ปางอุ๋ง เพื่อจับจองพื้นที่กางเต้น เราจองที่พักฝั่งอุทยาน โดยการไปลงทะเบียนล่วงหน้าเมื่อวานตอนเย็นที่อุทยานถ้ำปลา เพราะที่นี่จำกัดนักท่องเที่ยวต่อการค้างแรม
ปางอุ๋ง
มีลักษณะเป็นพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกัน บรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ปางอุ๋ง กลาย เป็น เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ยอดฮิตสุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของ แม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนาม ว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสน และไอหมอกบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับยากจะลืมเลือน แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนลางหายไปก็ยังคงความงาม
ที่ปางอุ๋งนอกจากชมบรรยากาศของสายหมอกในยามเช้าแล้ว กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือ การนั่งแพชมทัศนียภาพและ บรรยากาศโดยรอบ รวมถึงชมนดาราแห่งปางอุ๋ง นั่นก็คือหงส์พระราชทานจากสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นหงส์ดำและหงส์ขาวอย่างละ 1 คู่ด้วยกัน
ขอจบการรายงานทริปไว้เพียงเท่านี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่สนใจ Camp Car แบบเรานะครับ
ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆจาก
www.paiduaykan.com www.phu