“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยจีน 21 วัน ผ่านกัมพูชา เวียดนาม สุดทางที่กำแพงเมืองจีน ขากลับล่องเรือผ่านลาว นั่งรถไฟเป็นส่วนใหญ่ ไม่นั่งเครื่องบินเลย
ตอนที่ 6 กวางโจว จีน
รอเวลาไปกวางโจว รถออก 22.35 น. คนเยอะกว่าหัวลำโพงหลายเท่า เพราะมีห้องรอรถไฟอย่างน้อย 3 ห้อง
สวัสดี หนีห่าว จากซานเสี่ยวเซน ผู้โดยสารขนวนรถธรรมดาแน่นมาก เมื่อที่นั่งเต็ม ตั๋วเรามีที่นั่งเพราะซื้อตั้งแต่ตอนเช้าจนท.จะขายตั๋วแบบไม่มีที่นั่งให้ผู้โดยสารที่ยินดียืนด้วย พวกเขาจะถือเก้าอี้พลาสติกเล็กๆเตี้ยๆ เอามาวางที่ช่องทางเดินและตรงรอยต่อระหว่างตู้เต็มไปหมด มีเสียงคุยกันจ็อกแจ็กจอแจตลอดเวลา รถผ่านบางสถานีก็ไม่จอด ทั้งๆ ที่เป็นสถานีใหญ่ ดูมีอายุมาก เป็นเมืองที่มีแท่งตึกมากมาย น่าจะเป็นคอมมูน แสดงให้เห็นถึงความหนาแน่นของประชากร ก่อนถึงเมืองนี้มีอุโมงค์รถไฟสั้นๆหลายอุโมงค์ ต่างจากอุโมงค์บนเขาในดานัง แล้วรถก็จอดที่สถานี Zhao Qing
จากสภาพที่แน่นอยู่แล้วเมื่อมีผู้โดยสารขึ้นไปเติม ก็ยิ่งอัดกันเพิ่มขึ้น คนที่หลับยังคงหลับอยู่ พวกเขาอดทนจริงๆ คนที่นั่งบนเก้าอี้พลาสติกตรงทางเดิน จะลุกเฉพาะเวลาที่มีจนท.เอาของไปขาย เพิ่งรู้ว่าเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในถุงข้างหลังพ่อมาทั้งคืน เป็นลูกของผู้หญิงที่นั่งเก้าอี้พลาสติก ตอนที่ออกจากถุงแล้วพ่อเอาถุงให้แม่ที่ต้องลุกไปยืนให้ลูกนั่งกินอาหารแทน ตอนนี้มีผู้โดยสารใหม่ถือตั๋วเดินหาที่นั่งเหมือนเราเมื่อคืน ที่ต้องสะกิดให้คนที่ขึ้นมาก่อน ถือโอกาสครอบครองเก้าอี้ของเรา ให้ย้ายที่ให้เรา
คู่สามีภรรยาที่นั่งหลับตรงข้ามกับเราทั้งคืน ยังหลับอยู่ ตอนนี้ 08.00 น. กว่าจะถึงกวางโจวก็เกือบ 11 น. พวกเขาคงชิน แต่สำหรับเรามันอึดอัดขยับตัวได้ในพื้นที่แคบๆ ห้องน้ำสะอาดน่าใช้ แต่ต้องทนไม่ลุกไปใช้ เมื่อนึกถึงความวิบากของการลุกจากเก้าอี้และซอกหน้าห้องน้ำก็อัดแน่นไปด้วยผู้คน ความจริงถ้ามีการเพิ่มขบวนรถไฟ ก็ยังมีคนแน่นแบบนี้แหละ ดูจำนวนคนบนเก้าอี้กับคนไม่มีที่นั่งมันไม่ได้ต่างกันเลย
สงสัยว่าฝนจะตามพวกเราจากหนานหนิงไปจนถึงกวางโจว ทำให้แดดหายไปด้วย
ใกล้ถึงกวางโจวแล้ว ผู้คนที่เดินทางประจำเริ่มขยับกันบ้างแล้ว แค่ตู้นี้ตู้เดียวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนาดซุปเปอร์จัมโบ้คัพคงหมดไปไม่น้อยกว่า 100 เพราะรอบตัวหาคนไม่กินยากมาก ทั้งบนรถไฟทั้งที่สถานี มีตู้น้ำร้อนบริการแสดงว่ามันเป็นอาหารยอดฮิตจริงๆ ขนาดยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำก็ยังยืนสาวเส้นโซ้ยกันหน้าตาเฉย

เวลา 11.15 น. เร็วกว่าไทย 1 ชม. ตอนแรกจำผิดว่าเร็วกว่าเราแค่ครึ่งชม. ฝนตามเรามาจนถึงกวางโจวจริงๆ
ติดต่อน้องแน็ตที่กวางโจวทางไลน์ จะทำตามที่แนะนำ นั่งใต้ดินไปซื้อตั๋วที่กวางโจวอิสต์ รอรับชื่อสถานีใต้ดิน ที่ต้องต่อไปที่ม.กว่างไหว่.....ให้น้องแน็ตช่วยบอกด้วยว่าสถานีรถไฟใต้ดินออกเสียงภาษาไทยอย่างไร สถานีที่จะไปถึงม.เป็นสถานีที่เท่าไร
รถต้องถึงช้ากว่าเวลาตามตารางแน่ เพราะตอนนี้ยังจอดรอหลีกอยู่เลย
รถออกจากสถานี Guangzhou Xi แล้ว อาคารคอมมูนของที่นี่ เป็นแท่งอาคารเก่า สูงกว่า 10 ชั้น แสดงว่าอยู่กันหนาแน่นจริงๆ ตั้งแต่ผ่านสถานีที่ 2 ของเขตจีน เราเห็นแต่ความอุดมสมบูรณ์ แต่ค่าครองชีพก็สูงมาก ถึงกวางโจวแล้ว
การเดินทางไม่เป็นไปตามแผนการเดินทาง
ก่อนรถจะออกจากสถานีกว่างโจ Xi สัญญาณของเครือข่ายก็หาย ไม่สามารถติดต่อน้องแน็ตได้ เมื่อซื้อตั๋วไปเซี่ยงไฮ้ได้แล้ว ออกวันพรุ่งนี้ตอนเย็น เรากลับไปที่สถานีใต้ดิน เพื่อซื้อตั๋วไปสถานี Yongtai ตามที่น้องแน็ตบอก เอาชื่อมหาวิยาลัยให้จนท.ที่ขายตั๋วดู เธอบอกว่าต้องลงที่สถานีถัดไป แต่เราเชื่อน้องแน็ตเราจึงลงที่สถานียงไถ่ ตอนถึงทางออกก็เอาชื่อมหาวิทยาลัยให้จนท.ดูอีก เขาก็บอกให้เรากลับไปขึ้นรถไฟไปอีก 1 สถานี แต่ลุงเชื่อน้องแน็ตเพราะหอพักน้องแน็ตคงอยู่ใกล้ยงไถ่มากกว่า และให้ไปนั่งรายงานการเดินทางที่ทางออก A เราต้องผจญกับควันบุหรี่มวนแล้วมวนเล่า คนแล้วคนเล่า จะออกไปข้างนอกก็ลมแรงหนาวเย็นยะเยือก
ตั๋วไปเซี่ยงไฮ้วันนี้เต็มทุกขบวน ต้องค้างที่กวางโจว 1 คืน ตั๋วสำหรับวันพรุ่งนี้ก็มีแต่ชั้นที่เราลองไปแล้วเมื่อคืนนี้ ลองแล้วเข็ดแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว แต่ก็ต้องเอาอีกจนได้ ไม่เอาก็จะไม่ได้ไปต่อ ปัญหาของชั้นที่เรานั่งไปเมื่อคืนนี้ นอกจากความแออัดแล้วเรายังต้องผจญกับกลิ่นบุหรี่ตลอดเวลา ถึงแม้พวกเขาจะไปสูบกันตรงที่ว่างระหว่างตู้ แต่มันเป็นรถไฟปิดติดแอร์ต่อกันทั้งขบวนมันก็ยังคงวนอยู่ในขบวนรถนั่นแหละ มีคนมารยาทดีเข้าไปสูบในห้องน้ำ แต่มันยิ่งหนักกว่าเดิม เพราะห้องน้ำก็ไม่มีช่องระบายอากาศเมื่อ เช้าตอนเจอข้าศึกน้อยบุกจนทนไม่ได้ ต้องไปจัดการยืนรอคิวประมาณครึ่งชม. พอได้คิวกลายเป็นคนก่อนหน้าพ่นไว้เต็มห้องน้ำ พร้อมร่องรอยข้าศึกใหญ่ ถ้าถอยก็ต้องรอไปอีกนาน และที่หน้าห้องน้ำก็มีคนยืนโซ้ยบะหมี่อยู่ต้องรีบผลุบเข้าไป....อมิตพุทธ!
สถานีรถไฟกวางโจวคนมากมายมหาศาลทั้งบนดินและใต้ดิน คนเดินสวนกันเหมือนการอพยพของมด ตอนน้องแน็ตไปอยู่ใหม่ๆ ไม่รู้เวียนหัวบ้างมั้ย เพราะเวลาที่คนตจว.ไปที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือสถานีหัวลำโพง จะต้องเวียนหัวกับผู้คนที่มากมายเหลือเกิน แต่ที่กวางโจวมากกว่าหนานหนิง หนานหนิงมากกว่าหัวลำโพงหลายเท่า
กวางโจวมีพื้นที่ 7,424 ตร.กม. ใหญ่กว่ากทม.เล็กน้อย มีประชากร 10 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 180,095 บาท มากกว่าหนานหนิง มากกว่ากทม. 2.2 เท่า
เรารอสัญญาณไวไฟจนกว่าจะถึง 17.00 น. ถ้าสัญญาณไม่มีอีก เราจะหาทางไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยกันเอง และไปหาที่พักใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์ 5 แพะ หรือ แคนตันทาวเวอร์
เราไปกันเองจนถึงม.กวางไหว่... จากนั้นติดต่อน้องแน็ตได้ น้องแน็ตกับน้องกิ๊บเดินข้ามสะพานลอยมารับเราเข้าไปในม.
น้องแน็ตกับน้องกิ๊บ ชี้จุดที่จะเที่ยวในแผนที่ท่องเที่ยวกวางโจวให้เรา ในโรงแรม Bohua หน้ามหาวิทยาลัย ค่าโรงแรม 168 หยวนแต่ต้องจ่ายมัดจำกุญแจอีก 300 หยวน ตอนเช้าค่อยนำใบเสร็จมารับเงินมัดจำคืน
มหาวิทยาลัยกว่างไหว่ฯ มีนักศึกษาประมาณ 3,000 คน เปิดถึงระดับป.เอก สาขาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือภาษาศาสตร์มีสอนถึง 17 ภาษา ภาษาไทยก็เป็นภาษาหนึ่งที่เปิดสอน สมเด็จพระเทพฯก็มีพระสหายอยู่ที่นั่นด้วย สาขาวิชาภาษาไทยมีอาจารย์จากหลายมหาวิทยาลัยไปสอนได้แก่ หอการค้า จุฬาฯ และมศว. มีนศ.ไทยประมาณ 80 คน น้องแน็ตกับน้องกิ๊บเรียนบริหารธุรกิจ ที่อาคารเรียนนานาชาติ ซึ่งอยู่ทางประตูด้านข้างมหาวิทยาลัย ที่ชั้นหนึ่งของอาคารติดธงชาติเต็มไปหมดธงไทยอยู่แถวหน้าเพราะคนติดธงคือน้องแน็ตเอง
วันนี้อากาศเย็นเพราะฝนตก ในมหาวิทยาลัยยิ่งเย็นเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมีต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ร่มครึ้ม จนหาแสงสว่างแทบไม่เจอแล้ว ด้านที่เป็นประตูใหญ่ยังติดภูเขาอีกด้วย นศ.ที่นั่นท่าทางจะมีความสุขมาก เพราะหอพักกับอาคารเรียนอยู่ติดกัน ราคา อาหารในมหาวิทยาลัยก็ถูกกว่าข้างนอก หน้ามหาวิทยาลัยก็ราคาพอประมาณไม่แพงเหมือน ที่อื่นที่สำคัญคือชามใหญ่ เย็นนี้น้องแน็ตกับน้องกิ๊บพาเข้าร้านหมี่เกี๊ยวจีนรสชาติอร่อยมาก
ค่าเทอมของมหาวิทยาลัย 9,000 หยวนเรียนปีละ 2 เทอม เทอมแรกเปิดสิงหาคม ปิดธันวาคม-กุมภาพันธ์ เทอมที่ 2 มีนาคม-กรกฎาคม ค่าหอเทอมละ 20,000 รวมค่าน้ำค่าไฟ ห้องกว้างขวาง มีห้องน้ำในตัวมีเตียงขนาด 3.5 ฟุตให้ 3 เตียง พร้อมตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือ มีระเบียงหลังห้องให้ด้วย
เราประทับใจสาวกวางโจว ที่ช่วยพาไปที่ขายตั๋วสถานีกวางโจว หลังจากที่เธอวิ่งไปถามคนโน้นคนนี้ และเธออธิบายไม่ได้เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เมื่อวานสาวหนานหนิงก็วาดแผนที่ถนนคนเดิน แทนการอธิบาย ในขณะที่พวกผู้ชายมักรีบเดินหนีเพราะกลัวภาษาอังกฤษ
ตอนใกล้เที่ยง พอซื้อตั๋วแล้วนึกได้....เฮ้ย! ทำไมเราไม่ไปเครื่องบินนะ? จึงมีคำตอบว่าตั๋วเครื่องบินต้องจองล่วงหน้า เวลาต้องเป๊ะ กว่าจะหาสนามบินเจออยู่ไหน คงไม่มีตั๋วแล้ว! ก็จริงอะโนะ....คงต้องรับสภาพตามนั้นละค่ะ
ลุงกรนล่วงหน้าไป 2 ชม.แล้ว ป้าขอเอาโรงสีขนาดเล็กไปแข่งกับเรือกลไฟก่อนน ราตรีสวัสดิ์
สวัสดี หนีห่าว สมาชิกท่องเที่ยวฯและชาวกวางโจว เช้านี้ยังไม่เห็นเม็ดฝน แต่มีความครึ้มจากเมฆฝนและความเขียวของบรรยากาศโดยรอบเป็นความร่มรื่นของที่น่านอนต่อมากๆ เพราะห้องนอนกว้างขวางมีให้เกือบทุกอย่างที่คุณต้องการแต่ต้องจ่ายทุกอย่างเช่นกันแม้แต่น้ำดื่มและกระดาษชำระ มีบะหมี่ซุปเปอร์จัมโบ้คัพราคา 6 หยวนวางไว้ 2 คัพพร้อมกระติกน้ำร้อนให้เสียบเองเป็นการรับประกันว่าเราไปถึงจีนแล้วมั้ง?
วันนี้เราจะนั่งรถเมล์ไปอนุสาวรีย์ 5 แพะ แล้วนั่งรถใต้ดินไปอนุสรณ์สถานซุนยัตเซ็น แล้วไปต่อที่ถนนโบราณเป่ยจิงลู่ ต่อรถไฟใต้ดินไปบ้านตระกูลเฉิน ต่อรถใต้ดินไปแคนตันทาวเวอร์
นั่งรถเมล์สาย 244 จากหน้ามหาวิทยาลัยไปลงสวนสาธารณะเย่ชิว กงหยวน โดย พูดกับคนขับพร้อมตัวภาษาจีน ที่น้องแน็ตกับน้องกิ๊บช่วยกันเขียนให้เป็นตัวนำทาง คนขับบอกให้ลงเมื่อถึงป้าย มองไปฝั่งตรงข้ามแต่ไม่รู้จะข้ามถนนอย่างไร เดินไปเดินกลับจนเจอหนุ่มจีนท่าทางจะรู้ภาษาอังกฤษ จึงถามวิธีการข้ามถนนเขาฟังรู้เรื่อง แต่พูดไม่ได้ จึงให้เราตามเขาไปปรากฏว่ามันต้องลอดใต้ดินไปซึ่งมันก็คือทางที่ใช้ลงไปสถานีรถใต้ดินนั่นเอง

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องแน็ตกับน้องกิ๊บที่เรียนที่นั่นมาเป็นปีที่ 5 จึงเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผล ดูจากสภาพสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้ แม้แต่ขอบทางข้ามแยกและสะพานลอยข้ามถนน เกาะกลางถนนก็เต็มไปด้วยความเจริญตาของสีเขียวของใบไม้ สลับกับสีสันละลานตาของดอกไม้ และทุกสิ่งที่สร้างขึ้นล้วนมีเหตุผลมารองรับ เช่น ทางลอดสู่สวนสาธารณะที่ใช้ร่วมกับสถานีรถใต้ดินและป้ายรถประจำทาง รถประจำทางเข้าป้ายทุกป้ายแม้ไม่มีคนขึ้น-ลง ก็เข้าไปชะลอ ชะลอรถทุกทางม้าลายเพื่อให้พร้อมเบรคกรณีมีคนข้าม หน้ารถถัดจากกล่องรับค่าโดยสารข้างคนขับมีจอวงจรปิดมองประตูคนขึ้นและคนลง ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ราคาไม่แพง ประชาชนที่เคยอยู่แบบคอมมูนจากบ้านบนพื้นราบในชนบทสู่กล่องสี่เหลี่ยมบนแท่งสูงๆ ที่ไม่มีโอกาสใช้รถส่วนตัว เพราะไม่มีที่จอด ทำให้การจราจรบนถนนไม่แออัดเกินไป เพราะคนสามารถสลับใช้ระหว่างรถใต้ดินและรถประจำทาง ยังขาดแต่ความเพียงพอของขบวนรถไฟทางไกล ที่ดูเหมือนว่ามีกี่ขบวนก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ
ชายหนุ่มที่พาเราไปชี้ทางลงไปลอดสู่สวน 5 แพะ ยังคงไม่ไว้ใจกลัวเราเลี้ยวผิด เขาวิ่งตามเราไปแล้วนำหน้าให้เราตามเขาไปแต่บังเอิญเราเห็นป้ายห้องน้ำก่อนจึงแวะ ในขณะที่เขาเดินลิ่วๆ คิดว่าเขาคงหยุดตรงหน้าประตูสวนฯ แล้วหันกลับไปดูพร้อมกับความผิดหวังว่าไท่กั๋วหายไปไหนแว้?

ด้านในสวนมีรถบริการในราคาไป 10 หยวน กลับ 10 หยวน สวนฯแห่งนี้เป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะผู้สูงวัยเป็นที่ออกกำลังกาย ชมละครร้องและฟังเพลงเปิดหมวกของศิลปินในวัยเดียวกัน ระหว่างทางมีรำชี่กง วงเตะลูกขนไก่ที่มีขนยาวและสีสวยกว่าที่ใช้สำหรับตีแบดมินตัน มีอัฒจันทร์ความจุนับหมื่นรอบลานกว้างสำหรับชมการแสดง ที่ลานจอดรถตรงทางขึ้นอนุสาวรียร์ มีลิฟต์สำหรับคนพิการด้วย ตามตำนานเล่าว่าเมื่อ 4,500 ปีก่อนเทวดา 5 องค์ขี่แพะ 5 ตัว ตัวใหญ่ที่สุดคาบรวงข้าวไปมอบให้ชาวกวางโจว 6 รวงเป็นที่มาของความอุดมสมบูรณ์ในกวางโจว

อันที่จริงขากลับออกไปถ้าไม่มีสัมภาระการเดินลงเขาชมทัศนียภาพดีกว่านั่งรถ ประหยัดด้วย สำหรับตั๋วเที่ยวกลับใช้ได้ถึงเวลา 15.00 น.
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยจีน21วัน ไปกัมพูชา เวียดนาม จีน (รถไฟ) ล่องเรือกลับทางลาว ตอนที่ 6 กวางโจว จีน
ตอนที่ 6 กวางโจว จีน
รอเวลาไปกวางโจว รถออก 22.35 น. คนเยอะกว่าหัวลำโพงหลายเท่า เพราะมีห้องรอรถไฟอย่างน้อย 3 ห้อง
สวัสดี หนีห่าว จากซานเสี่ยวเซน ผู้โดยสารขนวนรถธรรมดาแน่นมาก เมื่อที่นั่งเต็ม ตั๋วเรามีที่นั่งเพราะซื้อตั้งแต่ตอนเช้าจนท.จะขายตั๋วแบบไม่มีที่นั่งให้ผู้โดยสารที่ยินดียืนด้วย พวกเขาจะถือเก้าอี้พลาสติกเล็กๆเตี้ยๆ เอามาวางที่ช่องทางเดินและตรงรอยต่อระหว่างตู้เต็มไปหมด มีเสียงคุยกันจ็อกแจ็กจอแจตลอดเวลา รถผ่านบางสถานีก็ไม่จอด ทั้งๆ ที่เป็นสถานีใหญ่ ดูมีอายุมาก เป็นเมืองที่มีแท่งตึกมากมาย น่าจะเป็นคอมมูน แสดงให้เห็นถึงความหนาแน่นของประชากร ก่อนถึงเมืองนี้มีอุโมงค์รถไฟสั้นๆหลายอุโมงค์ ต่างจากอุโมงค์บนเขาในดานัง แล้วรถก็จอดที่สถานี Zhao Qing
จากสภาพที่แน่นอยู่แล้วเมื่อมีผู้โดยสารขึ้นไปเติม ก็ยิ่งอัดกันเพิ่มขึ้น คนที่หลับยังคงหลับอยู่ พวกเขาอดทนจริงๆ คนที่นั่งบนเก้าอี้พลาสติกตรงทางเดิน จะลุกเฉพาะเวลาที่มีจนท.เอาของไปขาย เพิ่งรู้ว่าเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในถุงข้างหลังพ่อมาทั้งคืน เป็นลูกของผู้หญิงที่นั่งเก้าอี้พลาสติก ตอนที่ออกจากถุงแล้วพ่อเอาถุงให้แม่ที่ต้องลุกไปยืนให้ลูกนั่งกินอาหารแทน ตอนนี้มีผู้โดยสารใหม่ถือตั๋วเดินหาที่นั่งเหมือนเราเมื่อคืน ที่ต้องสะกิดให้คนที่ขึ้นมาก่อน ถือโอกาสครอบครองเก้าอี้ของเรา ให้ย้ายที่ให้เรา
คู่สามีภรรยาที่นั่งหลับตรงข้ามกับเราทั้งคืน ยังหลับอยู่ ตอนนี้ 08.00 น. กว่าจะถึงกวางโจวก็เกือบ 11 น. พวกเขาคงชิน แต่สำหรับเรามันอึดอัดขยับตัวได้ในพื้นที่แคบๆ ห้องน้ำสะอาดน่าใช้ แต่ต้องทนไม่ลุกไปใช้ เมื่อนึกถึงความวิบากของการลุกจากเก้าอี้และซอกหน้าห้องน้ำก็อัดแน่นไปด้วยผู้คน ความจริงถ้ามีการเพิ่มขบวนรถไฟ ก็ยังมีคนแน่นแบบนี้แหละ ดูจำนวนคนบนเก้าอี้กับคนไม่มีที่นั่งมันไม่ได้ต่างกันเลย
สงสัยว่าฝนจะตามพวกเราจากหนานหนิงไปจนถึงกวางโจว ทำให้แดดหายไปด้วย
ใกล้ถึงกวางโจวแล้ว ผู้คนที่เดินทางประจำเริ่มขยับกันบ้างแล้ว แค่ตู้นี้ตู้เดียวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนาดซุปเปอร์จัมโบ้คัพคงหมดไปไม่น้อยกว่า 100 เพราะรอบตัวหาคนไม่กินยากมาก ทั้งบนรถไฟทั้งที่สถานี มีตู้น้ำร้อนบริการแสดงว่ามันเป็นอาหารยอดฮิตจริงๆ ขนาดยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำก็ยังยืนสาวเส้นโซ้ยกันหน้าตาเฉย
เวลา 11.15 น. เร็วกว่าไทย 1 ชม. ตอนแรกจำผิดว่าเร็วกว่าเราแค่ครึ่งชม. ฝนตามเรามาจนถึงกวางโจวจริงๆ
ติดต่อน้องแน็ตที่กวางโจวทางไลน์ จะทำตามที่แนะนำ นั่งใต้ดินไปซื้อตั๋วที่กวางโจวอิสต์ รอรับชื่อสถานีใต้ดิน ที่ต้องต่อไปที่ม.กว่างไหว่.....ให้น้องแน็ตช่วยบอกด้วยว่าสถานีรถไฟใต้ดินออกเสียงภาษาไทยอย่างไร สถานีที่จะไปถึงม.เป็นสถานีที่เท่าไร
รถต้องถึงช้ากว่าเวลาตามตารางแน่ เพราะตอนนี้ยังจอดรอหลีกอยู่เลย
รถออกจากสถานี Guangzhou Xi แล้ว อาคารคอมมูนของที่นี่ เป็นแท่งอาคารเก่า สูงกว่า 10 ชั้น แสดงว่าอยู่กันหนาแน่นจริงๆ ตั้งแต่ผ่านสถานีที่ 2 ของเขตจีน เราเห็นแต่ความอุดมสมบูรณ์ แต่ค่าครองชีพก็สูงมาก ถึงกวางโจวแล้ว
การเดินทางไม่เป็นไปตามแผนการเดินทาง
ก่อนรถจะออกจากสถานีกว่างโจ Xi สัญญาณของเครือข่ายก็หาย ไม่สามารถติดต่อน้องแน็ตได้ เมื่อซื้อตั๋วไปเซี่ยงไฮ้ได้แล้ว ออกวันพรุ่งนี้ตอนเย็น เรากลับไปที่สถานีใต้ดิน เพื่อซื้อตั๋วไปสถานี Yongtai ตามที่น้องแน็ตบอก เอาชื่อมหาวิยาลัยให้จนท.ที่ขายตั๋วดู เธอบอกว่าต้องลงที่สถานีถัดไป แต่เราเชื่อน้องแน็ตเราจึงลงที่สถานียงไถ่ ตอนถึงทางออกก็เอาชื่อมหาวิทยาลัยให้จนท.ดูอีก เขาก็บอกให้เรากลับไปขึ้นรถไฟไปอีก 1 สถานี แต่ลุงเชื่อน้องแน็ตเพราะหอพักน้องแน็ตคงอยู่ใกล้ยงไถ่มากกว่า และให้ไปนั่งรายงานการเดินทางที่ทางออก A เราต้องผจญกับควันบุหรี่มวนแล้วมวนเล่า คนแล้วคนเล่า จะออกไปข้างนอกก็ลมแรงหนาวเย็นยะเยือก
ตั๋วไปเซี่ยงไฮ้วันนี้เต็มทุกขบวน ต้องค้างที่กวางโจว 1 คืน ตั๋วสำหรับวันพรุ่งนี้ก็มีแต่ชั้นที่เราลองไปแล้วเมื่อคืนนี้ ลองแล้วเข็ดแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว แต่ก็ต้องเอาอีกจนได้ ไม่เอาก็จะไม่ได้ไปต่อ ปัญหาของชั้นที่เรานั่งไปเมื่อคืนนี้ นอกจากความแออัดแล้วเรายังต้องผจญกับกลิ่นบุหรี่ตลอดเวลา ถึงแม้พวกเขาจะไปสูบกันตรงที่ว่างระหว่างตู้ แต่มันเป็นรถไฟปิดติดแอร์ต่อกันทั้งขบวนมันก็ยังคงวนอยู่ในขบวนรถนั่นแหละ มีคนมารยาทดีเข้าไปสูบในห้องน้ำ แต่มันยิ่งหนักกว่าเดิม เพราะห้องน้ำก็ไม่มีช่องระบายอากาศเมื่อ เช้าตอนเจอข้าศึกน้อยบุกจนทนไม่ได้ ต้องไปจัดการยืนรอคิวประมาณครึ่งชม. พอได้คิวกลายเป็นคนก่อนหน้าพ่นไว้เต็มห้องน้ำ พร้อมร่องรอยข้าศึกใหญ่ ถ้าถอยก็ต้องรอไปอีกนาน และที่หน้าห้องน้ำก็มีคนยืนโซ้ยบะหมี่อยู่ต้องรีบผลุบเข้าไป....อมิตพุทธ!
สถานีรถไฟกวางโจวคนมากมายมหาศาลทั้งบนดินและใต้ดิน คนเดินสวนกันเหมือนการอพยพของมด ตอนน้องแน็ตไปอยู่ใหม่ๆ ไม่รู้เวียนหัวบ้างมั้ย เพราะเวลาที่คนตจว.ไปที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือสถานีหัวลำโพง จะต้องเวียนหัวกับผู้คนที่มากมายเหลือเกิน แต่ที่กวางโจวมากกว่าหนานหนิง หนานหนิงมากกว่าหัวลำโพงหลายเท่า
กวางโจวมีพื้นที่ 7,424 ตร.กม. ใหญ่กว่ากทม.เล็กน้อย มีประชากร 10 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 180,095 บาท มากกว่าหนานหนิง มากกว่ากทม. 2.2 เท่า
เรารอสัญญาณไวไฟจนกว่าจะถึง 17.00 น. ถ้าสัญญาณไม่มีอีก เราจะหาทางไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยกันเอง และไปหาที่พักใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์ 5 แพะ หรือ แคนตันทาวเวอร์
เราไปกันเองจนถึงม.กวางไหว่... จากนั้นติดต่อน้องแน็ตได้ น้องแน็ตกับน้องกิ๊บเดินข้ามสะพานลอยมารับเราเข้าไปในม.
น้องแน็ตกับน้องกิ๊บ ชี้จุดที่จะเที่ยวในแผนที่ท่องเที่ยวกวางโจวให้เรา ในโรงแรม Bohua หน้ามหาวิทยาลัย ค่าโรงแรม 168 หยวนแต่ต้องจ่ายมัดจำกุญแจอีก 300 หยวน ตอนเช้าค่อยนำใบเสร็จมารับเงินมัดจำคืน
มหาวิทยาลัยกว่างไหว่ฯ มีนักศึกษาประมาณ 3,000 คน เปิดถึงระดับป.เอก สาขาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือภาษาศาสตร์มีสอนถึง 17 ภาษา ภาษาไทยก็เป็นภาษาหนึ่งที่เปิดสอน สมเด็จพระเทพฯก็มีพระสหายอยู่ที่นั่นด้วย สาขาวิชาภาษาไทยมีอาจารย์จากหลายมหาวิทยาลัยไปสอนได้แก่ หอการค้า จุฬาฯ และมศว. มีนศ.ไทยประมาณ 80 คน น้องแน็ตกับน้องกิ๊บเรียนบริหารธุรกิจ ที่อาคารเรียนนานาชาติ ซึ่งอยู่ทางประตูด้านข้างมหาวิทยาลัย ที่ชั้นหนึ่งของอาคารติดธงชาติเต็มไปหมดธงไทยอยู่แถวหน้าเพราะคนติดธงคือน้องแน็ตเอง
วันนี้อากาศเย็นเพราะฝนตก ในมหาวิทยาลัยยิ่งเย็นเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมีต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ร่มครึ้ม จนหาแสงสว่างแทบไม่เจอแล้ว ด้านที่เป็นประตูใหญ่ยังติดภูเขาอีกด้วย นศ.ที่นั่นท่าทางจะมีความสุขมาก เพราะหอพักกับอาคารเรียนอยู่ติดกัน ราคา อาหารในมหาวิทยาลัยก็ถูกกว่าข้างนอก หน้ามหาวิทยาลัยก็ราคาพอประมาณไม่แพงเหมือน ที่อื่นที่สำคัญคือชามใหญ่ เย็นนี้น้องแน็ตกับน้องกิ๊บพาเข้าร้านหมี่เกี๊ยวจีนรสชาติอร่อยมาก
ค่าเทอมของมหาวิทยาลัย 9,000 หยวนเรียนปีละ 2 เทอม เทอมแรกเปิดสิงหาคม ปิดธันวาคม-กุมภาพันธ์ เทอมที่ 2 มีนาคม-กรกฎาคม ค่าหอเทอมละ 20,000 รวมค่าน้ำค่าไฟ ห้องกว้างขวาง มีห้องน้ำในตัวมีเตียงขนาด 3.5 ฟุตให้ 3 เตียง พร้อมตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือ มีระเบียงหลังห้องให้ด้วย
เราประทับใจสาวกวางโจว ที่ช่วยพาไปที่ขายตั๋วสถานีกวางโจว หลังจากที่เธอวิ่งไปถามคนโน้นคนนี้ และเธออธิบายไม่ได้เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เมื่อวานสาวหนานหนิงก็วาดแผนที่ถนนคนเดิน แทนการอธิบาย ในขณะที่พวกผู้ชายมักรีบเดินหนีเพราะกลัวภาษาอังกฤษ
ตอนใกล้เที่ยง พอซื้อตั๋วแล้วนึกได้....เฮ้ย! ทำไมเราไม่ไปเครื่องบินนะ? จึงมีคำตอบว่าตั๋วเครื่องบินต้องจองล่วงหน้า เวลาต้องเป๊ะ กว่าจะหาสนามบินเจออยู่ไหน คงไม่มีตั๋วแล้ว! ก็จริงอะโนะ....คงต้องรับสภาพตามนั้นละค่ะ
ลุงกรนล่วงหน้าไป 2 ชม.แล้ว ป้าขอเอาโรงสีขนาดเล็กไปแข่งกับเรือกลไฟก่อนน ราตรีสวัสดิ์
สวัสดี หนีห่าว สมาชิกท่องเที่ยวฯและชาวกวางโจว เช้านี้ยังไม่เห็นเม็ดฝน แต่มีความครึ้มจากเมฆฝนและความเขียวของบรรยากาศโดยรอบเป็นความร่มรื่นของที่น่านอนต่อมากๆ เพราะห้องนอนกว้างขวางมีให้เกือบทุกอย่างที่คุณต้องการแต่ต้องจ่ายทุกอย่างเช่นกันแม้แต่น้ำดื่มและกระดาษชำระ มีบะหมี่ซุปเปอร์จัมโบ้คัพราคา 6 หยวนวางไว้ 2 คัพพร้อมกระติกน้ำร้อนให้เสียบเองเป็นการรับประกันว่าเราไปถึงจีนแล้วมั้ง?
วันนี้เราจะนั่งรถเมล์ไปอนุสาวรีย์ 5 แพะ แล้วนั่งรถใต้ดินไปอนุสรณ์สถานซุนยัตเซ็น แล้วไปต่อที่ถนนโบราณเป่ยจิงลู่ ต่อรถไฟใต้ดินไปบ้านตระกูลเฉิน ต่อรถใต้ดินไปแคนตันทาวเวอร์
นั่งรถเมล์สาย 244 จากหน้ามหาวิทยาลัยไปลงสวนสาธารณะเย่ชิว กงหยวน โดย พูดกับคนขับพร้อมตัวภาษาจีน ที่น้องแน็ตกับน้องกิ๊บช่วยกันเขียนให้เป็นตัวนำทาง คนขับบอกให้ลงเมื่อถึงป้าย มองไปฝั่งตรงข้ามแต่ไม่รู้จะข้ามถนนอย่างไร เดินไปเดินกลับจนเจอหนุ่มจีนท่าทางจะรู้ภาษาอังกฤษ จึงถามวิธีการข้ามถนนเขาฟังรู้เรื่อง แต่พูดไม่ได้ จึงให้เราตามเขาไปปรากฏว่ามันต้องลอดใต้ดินไปซึ่งมันก็คือทางที่ใช้ลงไปสถานีรถใต้ดินนั่นเอง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องแน็ตกับน้องกิ๊บที่เรียนที่นั่นมาเป็นปีที่ 5 จึงเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผล ดูจากสภาพสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้ แม้แต่ขอบทางข้ามแยกและสะพานลอยข้ามถนน เกาะกลางถนนก็เต็มไปด้วยความเจริญตาของสีเขียวของใบไม้ สลับกับสีสันละลานตาของดอกไม้ และทุกสิ่งที่สร้างขึ้นล้วนมีเหตุผลมารองรับ เช่น ทางลอดสู่สวนสาธารณะที่ใช้ร่วมกับสถานีรถใต้ดินและป้ายรถประจำทาง รถประจำทางเข้าป้ายทุกป้ายแม้ไม่มีคนขึ้น-ลง ก็เข้าไปชะลอ ชะลอรถทุกทางม้าลายเพื่อให้พร้อมเบรคกรณีมีคนข้าม หน้ารถถัดจากกล่องรับค่าโดยสารข้างคนขับมีจอวงจรปิดมองประตูคนขึ้นและคนลง ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ราคาไม่แพง ประชาชนที่เคยอยู่แบบคอมมูนจากบ้านบนพื้นราบในชนบทสู่กล่องสี่เหลี่ยมบนแท่งสูงๆ ที่ไม่มีโอกาสใช้รถส่วนตัว เพราะไม่มีที่จอด ทำให้การจราจรบนถนนไม่แออัดเกินไป เพราะคนสามารถสลับใช้ระหว่างรถใต้ดินและรถประจำทาง ยังขาดแต่ความเพียงพอของขบวนรถไฟทางไกล ที่ดูเหมือนว่ามีกี่ขบวนก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ
ชายหนุ่มที่พาเราไปชี้ทางลงไปลอดสู่สวน 5 แพะ ยังคงไม่ไว้ใจกลัวเราเลี้ยวผิด เขาวิ่งตามเราไปแล้วนำหน้าให้เราตามเขาไปแต่บังเอิญเราเห็นป้ายห้องน้ำก่อนจึงแวะ ในขณะที่เขาเดินลิ่วๆ คิดว่าเขาคงหยุดตรงหน้าประตูสวนฯ แล้วหันกลับไปดูพร้อมกับความผิดหวังว่าไท่กั๋วหายไปไหนแว้?
ด้านในสวนมีรถบริการในราคาไป 10 หยวน กลับ 10 หยวน สวนฯแห่งนี้เป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะผู้สูงวัยเป็นที่ออกกำลังกาย ชมละครร้องและฟังเพลงเปิดหมวกของศิลปินในวัยเดียวกัน ระหว่างทางมีรำชี่กง วงเตะลูกขนไก่ที่มีขนยาวและสีสวยกว่าที่ใช้สำหรับตีแบดมินตัน มีอัฒจันทร์ความจุนับหมื่นรอบลานกว้างสำหรับชมการแสดง ที่ลานจอดรถตรงทางขึ้นอนุสาวรียร์ มีลิฟต์สำหรับคนพิการด้วย ตามตำนานเล่าว่าเมื่อ 4,500 ปีก่อนเทวดา 5 องค์ขี่แพะ 5 ตัว ตัวใหญ่ที่สุดคาบรวงข้าวไปมอบให้ชาวกวางโจว 6 รวงเป็นที่มาของความอุดมสมบูรณ์ในกวางโจว
อันที่จริงขากลับออกไปถ้าไม่มีสัมภาระการเดินลงเขาชมทัศนียภาพดีกว่านั่งรถ ประหยัดด้วย สำหรับตั๋วเที่ยวกลับใช้ได้ถึงเวลา 15.00 น.
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น