USS Iowa BB-61 เรือประจัญบานที่ทรงพลังและสง่างามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐ

USS Iowa BB-61


         uss iowa นั้นถูกวางโครงแบบในช่วงปี 1938  โดยสำนักงานออกแบบ Bureau of Construction and Repair ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐ ที่ทำหน้ารับผิดชอบในส่วนของการออกแบบเรือ ก่อสร้าง จัดซื้อ ดัดแปลง และซ่อมแซมเรือต่างๆในกองทัพเรือสหรัฐ ตัวเรือนั้นเป็นเรือประจัญบานในชั้น iowa class battleship และยังเป็นเรือประจัญบานลำแรกที่ถูกต่อในชั้นนี้  ตัวเรือถูกปล่อยลงในน้ำในวันที่ 27 สิงหาคม 1942 และเข้าประจำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1943 ตัวเรือนั้นถือว่าเป็นเรือประจัญบานที่ใหญ่โตและสง่างามที่สุดเท่าที่กองทัพสหรัฐเคยสร้างมาในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นระวางขับน้ำถึง 45000 ตัน พร้อมกับความทรงพลังของมันไม่ว่าจะเป็น ปืนใหญ่เรือขนาด 16 นิ้ว 3 ลำกล้อง 50 คาลิเบอร์ แบบ mark 7 ที่มีระยะยิงถึง 37 กิโลเมตร และปืนใหญ่รองขนาด 5 นิ้ว 38 คาลิเบอร์ ลำกล้องคู่ ระยะยิง 22 กิโลเมตร ทำให้มันคือเรือที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่กองทัพเรือสหรัฐเคยมีมา เนื่องด้วยสมรภูมิในแปซิฟิกนั้นเรือบรรทุกเครื่องบินได้กลายเป็นเรือรบหลักในการดำเนินกลยุทธ์ของทั้งฝ่ายตนเองและฝ่ายศัตรู มันทีความอเนคประสงค์ที่เหนือกว่าเรือทุกแบบของกองเรือสหรัฐ นั่นเองทำให้สมรภูมิที่แปซิฟิกนั้นเต็มไปด้วยเครื่องบินฝ่ายศัตรูที่พร้อมจะบินมาทำลายเรือบรรทุกเครื่องบินของในกองเรือของฝ่ายตนเองและเรือลำอื่นๆในกองเรือ ด้วยความที่เรือบรรทุกเครื่องบินนั้นเป็นเสหมือนแกนกลางหลักในกองเรือของตนเองทำให้มันต้องมีความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่เรือบรรทุกเครื่องบินและเรือลำอื่นๆในกองเรือของตนเอง ทำให้ตัวเรือได้ทำการติดตั้งปืนต่อต้านอากาศแบบ bofors ขนาด 40 มิลลิเมตร 4 ลำกล้อง  และปืนต่อต้านอากาศแบบ oerlikon ขนาด 20 มิลลิเมตร เข้าไปเพิ่มเติมอีก

-เรือโดยสาร-

หลังจากที่ตัวได้เข้าระวางประจำการอย่างเป็นทางการแล้ว ตัวเรือก็ไปทำการแล่นเดินทางไปทดสอบที่อ่าว Chesapeake Bay ทางชายฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อทำการทดสอบสำเร็จเรียบร้อยในวันที่ 27 สิงหาคม 1943 ตัวเรือได้แล่นเดินทางไปเทียบท่ายังที่เกาะ argentina (คนละอันกับประเทศอาร์เจนติน่า) ในหมู่เกาะ Newfoundland ประเทศแคนาดา เพื่อทำภารกิจในการตามล่าเรือประจัญบาน tirpitz ของเยอรมันที่ตอนนี้กำลังเกรียนแตกอาละวาดถล่มกองขบวนเรือสินค้าของฝ่ายสัมพันธมิตรไปทั่วในน่านน้ำของประเทศนอร์เวย์ และได้แล่นเดินทางกลับมายังสหรัฐในวันที่ 25 ตุลาคม 1943 ก่อนที่ 2 สัปดาห์ต่อมาตัวเรือจะเดินทางไปยังอู่เรือที่ norfolk navy yard เพื่อเติมน้ำมันและสัมภาระของที่จำเป็นกับเรือลำอื่นๆ เพื่อทำภารกิจเป็นเรือโดยสารของท่านประธานาธิบดีของสหรัฐ แฟรงคลิ้น ดี. รูสเวลต์ และคณะนายทหารชั้นสูงของสหรัฐคนอื่นๆ ในการพาท่านประธานาธิบดีของสหรัฐและคนอื่นๆไปประชุมยังที่กรุงเตหะหร่าน ประเทศอิหร่าน เพื่อประชุมกับสุดยอดผู้นำของฝ่ายสัมพันธมิตรคือ โจเซฟ สตาลิน จากสหภาพโซเวียต และ วินส์ตั้น เชอร์ชิล ประเทศอังกฤษ โดยจะแวะที่เมืองท่า Mers El Kébir ประเทศอัลจีเรียก่อนที่จะเดินทางต่อไปเทียบท่ายังกรุงเตหะหร่าน ประเทศอิหร่าน แต่ในระหว่างที่กำลังเดินทางไปยังกรุงเตหะหร่านนั้นก็ได้เกือบจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อเรือพิฆาต USS William d. porter จอมปัญหาที่ได้เดินทางไปกับตัวเรือด้วย ได้เกิดความผิดพลาดโดยได้เผลอยิงตอร์ปิโดเข้ามายังตัวเรือ iowa ที่มีประธานาธิบดีของสหรัฐ แฟรงคลิ้น ดี. รูสเวลต์ โดยสารอยู่ ในการฝึกซ้อมปราบเรือดำน้ำเพื่อเป็นการโชว์แก่ประธานาธิบดีสหรัฐ

        โชคดีที่ตัวเรือหลบทันและตอร์ปิโดจาก USS William d. porter ได้วิ่งเฉียดผ่านด้านหลังเรือไปอย่างหวุดหวิด ตัวเรือไม่ได้รับความเสียหายอะไรจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในการรับ-ส่ง เป็นที่โดยสารของประธานาธิบดีสหรัฐพร้อมกับคณะนายทหารชั้นสูงคนอื่นๆ ในตอนที่ตัวเรือได้ส่งประธานาธิบดียังท่าเรือของประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 16 ธันวาคม 1943 ประธานาธิบดีของสหรัฐ แฟรงคลิ้น ดี. รูสเวลต์ ได้ทำการกล่าวกับลูกเรือก่อนที่จะลงจากตัวเรือว่า "จากสิ่งที่ฉันทั้งเห็นและได้ยินมาทั้งหมด ฉันคิดว่าเรือ iowa เป็นเรือที่มีความสุขและได้รับใช้กองทัพเรือสหรัฐด้วยความภาคภูมิใจมาหลายปี(จริงๆแค่ 1 ปีเองนะตอนนั้นนะฮา) ผมรู้และคุณก็รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร" โดยเขาได้ทำการเดินไปข้างหน้าก่อนที่จะลงเรือและได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "จำไว้ว่าจิตวิญญาณของผมจะยังคงอยู่กับคุณและพวกคุณทุกๆคน"
แบบแปลนตัวเรือ


-สู่แปซิฟิก-

          ตัวเรือในตอนนี้ที่ได้รับการแต่งตั้งในฐานะเรือธงของเรือประจัญบานที่ 7 และเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐที่ตอนนี้ได้รับภารกิจให้เดินทางไปยังสมภูมิ ณ มหาสมุทรแอคแลนติก ที่ตอนนี้กองทัพของจักรวรรดิญี่ปุ่นกำลังโดนกองทัพสหรัฐที่ตอนนี้กำลังเป็นฝ่ายมีชัยเหนือกว่าได้ไล่ต้อนให้กองทัพญี่ปุ่นได้เริ่มจนมุมมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวเรือได้ทำการแล่นผ่านคลองปานามา ในวันที่ 7 มกราคม 1944 และได้ทำการเปิดตัวในสมรภูมิที่แปซิฟิกในฐานะเรือประจัญบานที่ยิ่งใหญ่และสง่างามที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐในยุทธการที่หมู่เกาะ marshalls เพื่อสนับสนุนและคุ้มกันกองเรือบรรทุกเครื่องบินในกองเรือเฉพาะกิจที่ 38.3 ที่มีพลเรือเอก Frederick C. Sherman เป็นผู้บัญชากองเรือ ในภารกิจส่งกองกำลังทางอากาศเข้าทำการโจมตีเกาะ Kwajalein และ Eniwetok และทำภารกิจเดียวกันอีกครั้งในการโจมตีเกาะ Truk และหมู่เกาะ Caroline เพื่อทำลายสิ่งปลูกสร้างทางการทหารทั้งหมดของญี่ปุ่นที่อยู่บนเกาะ
หน้าเรือ iowa ไกลๆที่เห็นนั่นคือเรือประจัญบาน USS Indiana


         ต่อมาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1944 ตัวเรือและกองเรืออีกบางส่วนได้แยกออกมาจากกองเรือหลักเพื่อทำการคุ้มกันทางอากาศตรงเกาะ Truk และได้รับภารกิจให้ทำการแล่นไปมาอยู่แถวๆทางนอกชายฝั่งของเกาะ Truk ซักพักหนึ่ง เพื่อทำการดักรอกองเรือของญี่ปุ่นที่ตอนนี้กำลังหนีขึ้นไปทางเหนือของตัวเกาะ ระหว่างที่กำลังปฏิบัติภารกิจตัวเรือและเรือประจัญบานชั้นเดียวกันอย่าง USS New jersey สามารถทำแต้มสังหารโดยการจมเรือลาดตระเวณเบา Katori ของกองทัพเรือญี่ปุ่นที่กำลังแล่นเดินทางหนีไปทางเกาะ Truk ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1944 ตัวเรือได้รับภารกิจให้แล่นเดินทางไปเข้าร่วมกับกองเรือเฉพาะกิจที่ 58 เพื่อทำหน้าคุ้มกันและช่วยเรือบรรทุกเครื่องบินในกองเรือที่ตอนนี้กำลังส่งกองกำลังทางอากาศเข้าโจมตีเกาะ Saipan เกาะ Tinnian เกาะ Rota และเกาะ Guam ที่อยู่ในหมู่เกาะ Marias ที่ตอนนี้กำลังตกอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่น ในวันที่ 18 มีนาคม 1944 ตัวเรือที่ตอนนี้เป็นที่สั่งการของพลเรือเอก Willis A. Lee ผู้ที่มีอำนาจสั่งการกองเรือประจัญบานทุกลำในแปซิฟิก ได้รับภารกิจให้ทำการระดมยิงทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดของกองทัพญี่ปุ่นบนเกาะ Mili ที่อยู่ในหมู่เกาะ Marshall โดยในระหว่างภารกิจตัวเรือได้โดนปืนใหญ่บนชายฝั่งของกองทัพญี่ปุ่นขนาด 4.7 นิ้วยิงเข้ามา 2 นัด แต่ด้วยความที่ตัวเรือเกราะหนาโคตรๆอยู่แล้ว และกระสุนไม่ได้โดนจุดสำคัญของตัวเรือทำให้ตัวเรือแทบไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ในวันที่ 30 มีนาคมตัวเรือทำการแล้นเดินทางไปเข้าร่วมกับกองเรือเฉพาะกิจที่ 58 เพื่อทำภารกิจระดมยิงหมู่เกาะ Palau และเกาะ Woleai ที่อยู่ในหมู่เกาะ Caroline ในไม่กีวันต่อมา

         ในวันที่ 22 เมษายน 1944 ตัวเรือได้รับภารกิจให้เข้าร่วมกับกองเรือเฉพาะกิจที่ 58 อีกครั้งและได้รับภารกิจให้ทำการป้องกันและสนับสนุนกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่ตอนนี้กำลังส่งกองกำลังอากาศเข้าทำการโจมตีเมืองชายฝั่ง Jayapura ประเทศอินโดนีเซีย และต่อมาตัวเรือพร้อมกับกองเรือบรรทุกเครื่องบินได้ทางไปยังอ่าว Tanahmerah และ Humboldt Bays เพื่อทำทำการสนับสนุนการยกพลขึ้นยกของกองทัพบกและนาวิกโยธินสหรัฐที่หาดเมือง Aitape ทางตะวันออกของ New Guinea ในวันที่ 29-30 เมษายน 1944 ตัวเรือได้รับภารกิจให้ทำการคุ้มกันและและสนับสนุนกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่ตอนนี้ได้ส่งกองกำลังอากาศเข้าทำการโจมตีเกาะ Truk เป็นครั้งที่ 2 และยังได้รับภารกิจให้ทำการระดมยิงทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดของกองทัพญี่ปุ่นบนเกาะ Ponape ที่อยู่ในหมู่เกาะ Caroline ในวันที่ 1 พฤษภาคม 1944

        ในวันที่ 12 มิถุนายน 1944 ในยุทธการการยกพลขึ้นบกของกองทัพบกและนาวิกโยธินสหรัฐที่หมู่เกาะ Palau และหมู่เกาะ Marianas ตัวเรือได้รับหน้าที่ให้ทำการคุ้มกันกองเรือบรรทุกเครื่องบินในกองเรือเฉพาะกิจที่ 58 ที่ได้รับภารกิจให้ส่งกองกำลังโจมตีทางอกาศสนับสนุนการยกพลขึ้นบกของกองทัพบกและนาวิกโยธินสหรัฐในการยกพลขึ้นบกที่เกาะ Saipan เกาะ Tinnian เกาะ Rota เกาะ Guam และเกาะ Pegan ในวันที่ 13-14 มิถุนายน 1944 ตัวเรือและกองเรืออีกบางส่วนได้ทำการแยกทางออกมาจากกองเรือเฉพาะกิจที่ 58 ชั่วคราวเพื่อทำการระดมยิงทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดของกองทัพญี่ปุ่นและสนับสนุนกองทัพบกและนาวิกโยธินสหรัฐในการยึดเกาะ Tinian และ Saipan ก่อนที่ตัวเรือและกองเรือที่เหลือจะแล่นดินทางไปรวมกับกองเรือเฉพาะกิจที่ 58 อีกครั้ง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
-สุดท้าย-
        
        ในวันที่ 19 เมษายน 1989 ป้อมปืนหลักที่ 2 ของตัวเรือก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นสืบเนื่องมาจากข้อบกพร่องของตัวเรือที่ถูกละเลยมานานตั้งแต่ทำการคืนสภาพตัวเรือตั้งแต่ในปี 1984 เป็นต้นมาการระเบิดครั้งนี้สาเหตุสำคัญนั้นมาจากส่วนในห้องเก็บดินปืนของป้อมปืนหลักที่ 2 แรงระเบิดครั้งนี่คร่าชีวิตลูกเรือไปกว่า 47 คน และถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงทางเรือของสหรัฐมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐ
ป้อมปืนหลักที่ 2 ในขณะที่กำลังระเบิดเนื่องมาจากห้องเก็บดินปืนในป้อมปืนหลักได้เกิดการระเบิดขึ้น


       หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายในช่วงต้นทศวรรศที่ 1990 เป็นต้นมา ทำให้ภัยคุกคามทางด้านกองเรือสหรัฐที่มีต่อโซเวียตที่ล่มสลายได้หมดไป หลังนั้นเป็นต้นมางบประมาณของกองทัพเรือสหรัฐก็ได้ถูกตัดทอนลงไปเป็นจำนวนมาก และเรือประจัญบานในตอนนั้นก็กลายเป็นแค่เศษเหล็กจนาดใหญ่ มันกลายเป็นเพียงสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป มันล้าสมัย  และหมดคุณค่าทางยุทธศาสตร์ในการรบทางทะเลยุคใหม่ ทำให้สุดท้ายตัวเรือ iowa ที่ป้อมปืนหลักที่ 2 เสียหายจากการระเบิดเนื่องจากอุบัติเหตุ ได้ถูกปลดประจำการลงอีกครั้งในวันที่ 26 ตุลาคม 1990 ซึ่งเป็นเรือประจัญบานลำแรกที่ถูกปลดประจำการอย่างเป็นทางการในช่วงทศวรรศที่ 1990 หลังจากปลดประจำการตัวเรือได้แล่นเดินทางไปจอดเทียบท่าที่เมือง Newport รัฐโรดส์ไอร์แลน ก่อนที่ตัวเรือจะเดินทางเข้าสู่อ่าว Suisun Bay ใกล้ๆกับรัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 21 เมษายน 2001 เพื่อเข้าร่วมกับกองเรือสำรองลำอื่นๆของกองทัพเรือสหรัฐ และในเดือน มีนาคม 2006 ตัวเรือถูกส่งให้กับ  Naval Vessel Register ซึ่งเป็นองค์อีกส่วนหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐเป็นคนดูและเพื่อรอให้เอกชนมาทำการซื้อตัวเรือเพื่อเอาไปแยกชิ้นส่วนหรือทำเป็นเรือพิพิธภัณฑ์ต่อไป โดยตัวเรือจอดอยู่ที่นั่นจนถึงเดือน พฤศจิกายน 2011 ตัวเรือได้ถูกบริจาคแก่องค์เอกชนไม่แสวงหาผลกำไรของสหรัฐเพื่อเอาตัวเรือไปทำเป็นเรือพิพิธภัณฑ์ ตัวเรือได้ทำการแล่นเดินทางไปเทียบท่ายังเมือง Los angeles รัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อทำการดัดแปลงและจอดทิ้งไว้เป็นเรือพิพิธภัณฑ์ ในปี 2012 ถือว่าเป็นการปิดฉากเรือประจัญบานผู้รับใช้กองทัพเรือสหรัฐมายาวนานกว่า 40 ปี พร้อมกับเหรียญกล้าหาญจำนวนกว่า 11 ดวงได้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ เสียสละ และความกล้าหาญที่ตัวเรือได้รับใช้กองทัพเรือสหรัฐและประเทศสหรัฐมาอย่างกล้าหาญอย่างสวยงาม
ตัวเรือตอนนี้ได้กลายสภาพเป็นเรือพิพิธภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว


ข้อมูลโดยรวมของตัวเรือ
1943
อาวุธ : ปืนใหญ่เรือขนาด 16 นิ้ว 3 ป้อม ป้อมละ 3 กระบอก
         : ปืนรองแท่นคู่ขนาด 5 นิ้ว 10 ป้อม ป้อมละ 2 กระบอก
         : ปืนต่อต้านอากาศยานขนาด 40 มิลลิเมตร 20 แท่น แท่นละ 4 กระบอก
         : ปืนต่อต้านอากาศยานขนาด 20 มิลลิเมตร 49 กระบอก
ระวางขับน้ำ 45000 ตัน
ความเร็วสูงสุด 32.5 น็อต
ลูกเรือ 2788 คน
เครื่องบินทะเลจำนวน 3 ลำ พร้อมรางปล่อยเครื่องบินอีก 2 ราง

1984
อาวุธ : ปืนใหญ่เรือขนาด 16 นิ้ว 3 ป้อม ป้อมละ 3 กระบอก
         : ปืนรองแท่นคู่ขนาด 5 นิ้ว 6 ป้อม ป้อมละ 2 กระบอก
         : ขีปนาวุธโจมตีภาคพื้นดินแบบ Tomahawk พร้อมกับท่อยิงแบบ mark 143 จำนวน 8 ชุด ชุดละ 4 ท่อยิง
         : ขีปนาวุธโจมตีเรือแบบ Harpoon พร้อมกับท่อยิงแบบ mark 141 จำนวน 4 ชุด ชุดละ 4 ท่อยิง
         : แท่นปืนกลขนาด 20 มิลลิเมตร แบบ Phalanx จำนวน 4 แท่น
         : เรดาร์แบบ An/sps 49 และ An/sps 67
         : ระบบทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบ An/slq 32(V)
         : ท่อยิงเป้าลวงแฟลร์ระยะประชิด แบบอินฟาเรดและคลื่นวิทยุแบบ mark 36 srboc
         : เป้าลวงตอร์ปิโดแบบ An/slq 25 nixie
ระวางขับน้ำ 45000 ตัน
ลูกเรือประมาณ 1800 คน
ความเร็วสูงสุด 32.5 น็อต
โดรนชี้เป้าให้แก่ปืนใหญ่ขนาด 16 นิ้ว แบบ RQ2 Pioneer 5 ลำ พร้อมโรงเก็บ
เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ Sea hawk 3 ลำ พร้อมลานจอดด้านหลังเรือ

อ้างอิง
http://www.cs.mcgill.ca/~rwest/link-suggestion/wpcd_2008-09_augmented/wp/i/Iowa_class_battleship.htm
https://en.m.wikipedia.org/wiki/USS_Iowa_(BB-61)
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Iowa-class_battleship

กดถูกใจและโหวตกระทู้ จขกท. จะเป็นการให้กำลังใจ จขกท. เป็นอย่างดีครับ เม่าตาสว่างเม่าตาสว่าง

กระทู้เก่าๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่