ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
มอร์นิ่งสตาร์เผย LTF ปี 58 หงอย เงินลงทุนหาย 1 หมื่นล้านบาท เหตุปีที่ผ่านมาภาวะตลาดหุ้นซบเซา ฉุดรั้งบรรยากาศลงทุน ส่วน RMF ยังโตต่อเนื่อง เพราะ บลจ.เดินหน้าเสนอขายกองทุนเพิ่ม คาดปี"59 แรงซื้อ LTF ส่งสัญญานแผ่ว จากเกณฑ์ลดหย่อนภาษีล็อกระยะเวลาถือครองเพิ่มเป็น 7 ปี จากเดิม 5 ปี
นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โค้งสุดท้ายเฉพาะเดือนธันวาคม 2558 (ณ สิ้นวันที่ 25 ธ.ค.) มีเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิ 1.45 หมื่นล้านบาท ส่วนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีเงินไหลเข้าสุทธิ 6.2 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากประเมินยอดเงินตลอดปี 2558 (1 ม.ค.-25 ธ.ค.) พบว่ามีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ากองทุน LTF ทั้งสิ้น 2.45 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปี 2557 ที่มีมูลค่าเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิ 3.4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นเงินลงทุนที่หายไปราว 1 หมื่นล้านบาท ส่วนกองทุน RMF มีเงินไหลเข้าสุทธิมูลค่า 1.65 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2557 ที่มีมูลค่าเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิรวม 1.71 หมื่นล้านบาท
"ภาพรวมการลงทุน LTF ปี 2558 อาจไม่ค่อยดีนัก เพราะบรรยากาศการลงทุนไม่จูงใจนัก หลังจากตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาต่อเนื่อง ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนบางส่วนนำเงินส่วนที่จะลงทุนไปใช้ก่อน ตรงกันข้ามกับกองทุน RMF ที่มีเงินลงทุนเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นผลจากการที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่งได้เสนอขาย RMF กองใหม่ ๆ เพิ่ม" นายกิตติคุณกล่าว
สำหรับภาพรวมการลงทุนในปี 2559 ประเมินว่า การลงทุนในกองทุน LTF จะลดความน่าสนใจลง เนื่องจากตามหลักเกณฑ์การลงทุนใหม่เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคล นักลงทุนที่ซื้อ LTF นับตั้งแต่ปี 2559-2562 จะต้องถือครองหน่วยลงทุนให้ครบ 7 ปีปฏิทิน จากเดิมให้ถือครองเป็นระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน ต่างจากกองทุน RMF ที่มีโอกาสเติบโตได้อีก เพราะหลาย บลจ.ยังมีความต้องการเสนอขายกองทุน
นายสุพรรณ เศษธะพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โซลาริส กล่าวว่า สิ้นปี 2558 เม็ดเงินไหลเข้ามาในกองทุน LTF และ RMF ของบริษัทยังมีไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะให้ความสนใจเข้าลงทุนใน LTF และ RMF ของ บลจ.ขนาดใหญ่มากกว่า เพราะนอกจากจะมีจุดแข็งด้านช่องทางจัดจำหน่ายแล้ว หุ้นที่ บลจ.เหล่านี้เข้าลงทุนก็มักจะมีขนาดใหญ่ (Big Cap) ด้วย ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาเมื่อหุ้นขนาดใหญ่ราคาปรับตัวลดลงค่อนข้างมากตามภาวะตลาด จึงทำให้ราคาหน่วยลงทุนปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
สำหรับปี 2559 ประเมินว่ากองทุน LTF-RMF ที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่น่าจะยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เพราะในปี 2558 ราคาหุ้นหลายบริษัทร่วงลงมาอย่างรุนแรง ดังนั้นในปี 2559 จึงเรียกได้ว่าเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาหน่วยลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะยาว แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อให้สอดรับกับราคาที่เหมาะสมเท่านั้น
ดังนั้นหากนักลงทุนต้องการลงทุนในระยะยาว ส่วนตัวประเมินว่ากองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-ขนาดเล็กยังน่าจะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจอยู่ โดยกลุ่มหุ้นที่น่าจะเป็นดาวเด่น ได้แก่ กลุ่มหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการสื่อสาร เช่น การวางเสาสัญญาณ การวางเครือข่าย และกลุ่มหุ้นพลังงานทดแทน ได้แก่ ธุรกิจผลิตพลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ธุรกิจพลังงานลม
มอร์นิ่งสตาร์เผย LTF ปี 58 หงอย เงินลงทุนหาย 1 หมื่นล้านบาท
มอร์นิ่งสตาร์เผย LTF ปี 58 หงอย เงินลงทุนหาย 1 หมื่นล้านบาท เหตุปีที่ผ่านมาภาวะตลาดหุ้นซบเซา ฉุดรั้งบรรยากาศลงทุน ส่วน RMF ยังโตต่อเนื่อง เพราะ บลจ.เดินหน้าเสนอขายกองทุนเพิ่ม คาดปี"59 แรงซื้อ LTF ส่งสัญญานแผ่ว จากเกณฑ์ลดหย่อนภาษีล็อกระยะเวลาถือครองเพิ่มเป็น 7 ปี จากเดิม 5 ปี
นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โค้งสุดท้ายเฉพาะเดือนธันวาคม 2558 (ณ สิ้นวันที่ 25 ธ.ค.) มีเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิ 1.45 หมื่นล้านบาท ส่วนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีเงินไหลเข้าสุทธิ 6.2 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากประเมินยอดเงินตลอดปี 2558 (1 ม.ค.-25 ธ.ค.) พบว่ามีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ากองทุน LTF ทั้งสิ้น 2.45 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปี 2557 ที่มีมูลค่าเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิ 3.4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นเงินลงทุนที่หายไปราว 1 หมื่นล้านบาท ส่วนกองทุน RMF มีเงินไหลเข้าสุทธิมูลค่า 1.65 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2557 ที่มีมูลค่าเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิรวม 1.71 หมื่นล้านบาท
"ภาพรวมการลงทุน LTF ปี 2558 อาจไม่ค่อยดีนัก เพราะบรรยากาศการลงทุนไม่จูงใจนัก หลังจากตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาต่อเนื่อง ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนบางส่วนนำเงินส่วนที่จะลงทุนไปใช้ก่อน ตรงกันข้ามกับกองทุน RMF ที่มีเงินลงทุนเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นผลจากการที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่งได้เสนอขาย RMF กองใหม่ ๆ เพิ่ม" นายกิตติคุณกล่าว
สำหรับภาพรวมการลงทุนในปี 2559 ประเมินว่า การลงทุนในกองทุน LTF จะลดความน่าสนใจลง เนื่องจากตามหลักเกณฑ์การลงทุนใหม่เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคล นักลงทุนที่ซื้อ LTF นับตั้งแต่ปี 2559-2562 จะต้องถือครองหน่วยลงทุนให้ครบ 7 ปีปฏิทิน จากเดิมให้ถือครองเป็นระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน ต่างจากกองทุน RMF ที่มีโอกาสเติบโตได้อีก เพราะหลาย บลจ.ยังมีความต้องการเสนอขายกองทุน
นายสุพรรณ เศษธะพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โซลาริส กล่าวว่า สิ้นปี 2558 เม็ดเงินไหลเข้ามาในกองทุน LTF และ RMF ของบริษัทยังมีไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะให้ความสนใจเข้าลงทุนใน LTF และ RMF ของ บลจ.ขนาดใหญ่มากกว่า เพราะนอกจากจะมีจุดแข็งด้านช่องทางจัดจำหน่ายแล้ว หุ้นที่ บลจ.เหล่านี้เข้าลงทุนก็มักจะมีขนาดใหญ่ (Big Cap) ด้วย ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาเมื่อหุ้นขนาดใหญ่ราคาปรับตัวลดลงค่อนข้างมากตามภาวะตลาด จึงทำให้ราคาหน่วยลงทุนปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
สำหรับปี 2559 ประเมินว่ากองทุน LTF-RMF ที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่น่าจะยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เพราะในปี 2558 ราคาหุ้นหลายบริษัทร่วงลงมาอย่างรุนแรง ดังนั้นในปี 2559 จึงเรียกได้ว่าเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาหน่วยลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะยาว แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อให้สอดรับกับราคาที่เหมาะสมเท่านั้น
ดังนั้นหากนักลงทุนต้องการลงทุนในระยะยาว ส่วนตัวประเมินว่ากองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-ขนาดเล็กยังน่าจะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจอยู่ โดยกลุ่มหุ้นที่น่าจะเป็นดาวเด่น ได้แก่ กลุ่มหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการสื่อสาร เช่น การวางเสาสัญญาณ การวางเครือข่าย และกลุ่มหุ้นพลังงานทดแทน ได้แก่ ธุรกิจผลิตพลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ธุรกิจพลังงานลม