สวัสดีครับ
ปีนี้ผมมีโอกาสได้ลองทริปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวแบบบ้านๆ น่ะครับ เที่ยวบ้านเกิดผม อ.เชียงม่วน จ.พะเยา
คือที่บ้านลุงเขาปลุกเจ้า DT100 ที่เห็นอยู่ใต้ถุนบ้านมาขี่ใหม่ เลยอยากเอาไปลองบ้าง
ทุกครั้งที่ผมใช้มอเตอร์ไซค์ ผมไม่เคยนำมาใช้เพื่อ "เที่ยว" จริงจังเลยซักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก ใครมองว่าขัดใจก็ขออภัยครับ
นี่ครับไอ้เฒ่า DT100 ปัญหาของมันคือทะเบียนไปไหนไม่รู้(พยายามมองข้ามไปนะครับ ขี่ในเขตอ.บ้านผม ถถถ) และปัญหากว่านั้น
ท่อแตก ดังโครตๆ เลยครับ ขี่ไปไหนทุกคนเหลียวมอง ขี่ไประแวงไป ถถถ เอาเถอะ อยากได้ฟีลวินเทจเอ็นดูโร่
ประสบการ์การขี่รถแบบเอ็นดูโร่ครั้งแรก รู้สึกดีกว่าขี่รถแม่บ้านครับ ทั้งๆ ที่ขี่ครั้งแรก ได้ลองละอยากได้เลย (แต่ตั้งเป้าที่ GD110 ไว้แล้ว)
รูปที่ผมถ่ายผมก็ถ่ายไปเรื่อยแหละครับ เจออะไรก็ถ่ายไว้ที่อยากถ่าย ก็ปีใหม่น่ะนะ
หลังจากเติมน้ำมันแล้วได้เวลาถ่ายรูปเสียที ขอบคุณกล้อง FujiFilm FinePix HS10 ของพี่ดอนคนข้างบ้านที่ให้ยืมมาใช้ครับ
รูปนี้ เป็นสเตเดี้ยมของโรงเรียนเชียงม่วนวิทยาคม เชื่อไหมว่าในยุคที่ผมยังเรียนที่นี่ โรงเรียนในจังหวัดระดับที่ว่าใหญ่ๆ อย่าง พค. รึเชียงคำยังไม่มีสเตเดี้ยมปูนถาวรแบบนี้เลยครับ
สำหรับผมมันน่าภูมิใจมาก
ต่อจากนั้นผมไปที่ ต.สระ เห็นว่าเหมืองแร่เชียงม่วนกลายเป็นสระน้ำไปละ เลยไปดูเสียหน่อย
แอบลึกอยู่เหมือนกันนะ คิดไว้แล้วว่าหลังจากถ่านหินหมดมันต้องเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ได้แน่ๆ ดีเหมือนกัน
ต่อไปคือไฮไลท์ของทริปนี้ครับ เป็นน้ำตกที่แม้แต่คนพื้นถิ่นยังไม่ค่อยอยากไปถึงกัน
น้ำตกห้วยต้นผึ้ง ต.สระ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา
จากถนนใหญ่ เข้าไปก็ลึกนิดนึง แถมไม่ใช่ทางปูนตลอดทางด้วย มีรถยนต์จอดกลางทางกลัวจะไปไม่ได้ ผมเลยบอกจะเข้าไปดูให้(ผมยังไม่เคยมาเลย คิดเอาละกัน)
เข้าไปข้างในก็พอเอารถเก๋งเข้าไปได้ครับ กลับมาบอกเขา
มอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้แหละ
เข้ามาตอนแรก ตกใจ มีแค่นี้รึ?
สอบถามทาง จนท.ป่าไม้เขาบอกว่า ตอนนี้ ทาง จนท.ป่าไม้เพิ่งเข้าไปสำรวจตัดพงหญ้าตามทางไม่นาน สะพานข้ามทางปลวกรับประทาน ไม่แนะนำเท่าไหร่ที่จะไปต่อน่ะ
แต่ผมก็ดื้อไง เอาวะ ไหนๆ ก็มาละ ขอฝืนหน่อย
เลยได้เจอสะพานสภาพแบบนี้...
เฮ้ แต่ขอบผาพอปีนไปได้ว่ะ
เดินกลับ ไปคิดใหม่เอาไงดีวะ เลยถามจนท.อีกทีว่าต่อจากสะพานนี้ไปต่อได้ไหม เขาบอกได้ แต่ไกลนะ
คิดไปคิดมา ตาไวเหลือบเห็นเลยได้ภาพสวยๆ ชอทนึง
สุดท้าย เออ ไปก็ไปวะ หลังจากปีนขอบเขาข้างสะพานพังๆ ไปก็เจอป้ายบอกระยะทางที่จะถึง...
เออ กิโลก็กิโลนึง ถถถ
เส้นทางก็เป็นทางแบบขึ้นไปน้ำตกแบบปกติ แต่จะแอดแวนเจอร์หน่อยครับ มีการต้องข้ามทางน้ำตกไปมาหลายครั้ง และทางเพิ่งมีการหักร้างถางพงด้วย ลำบากขึ้นอีกนิด
ช่วงท้ายๆ ของการเดินทาง ยิ่งชันและอันตรายขึ้นเรื่อยๆ ถึงว่าไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว ปล่อยให้ร้างตั้งนาน
ถึงซะที! เอ๋ มีแค่นี้เหรอ?
อ้อ ต้องมองมาทางซ้ายอีกนิด จะเห็นเต็มๆ
เป็นน้ำตกที่สวยนะครับ แต่มายาก และไม่เหมาะสำหรับมาเที่ยวกินส้มตำร้องเพลงแน่ๆ ต้องคนที่รักธรรมชาติและการถ่ายรูปมาถึงจะคุ้ม
(อัพรูปแนวตั้งละภาพมันกลับเอง แก้ไงดีครับ)
ที่น่าสนใจคือ ตรงเท้าผมมีอะไรไม่รู้ตอดๆ อยู่
อ้อ มันคือ กุ้งกับปลาน้ำตกครับ (ไม่รู้จะเรียกไงเรียกงี้ละกัน) ตัวใสมาก คาดว่าคงอยู่นี่มานานละ แปลกดีเลยถ่ายรูปมา
ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะ ธรรมชาติที่คัดคนมาเที่ยว มลพิษจากนักท่องเที่ยวก็น้อยตาม ได้ความดิบของป่าดี (ตอนเดินมาเห็นนกเหยี่ยวบินหนีผมไปตัวใหญ่ด้วย)
แค่มาน้ำตกก็เหนื่อยละ แต่ก็คิดต่อ ไปไหนดีวะ?
อืม ไปแถวๆ พระธาตุภูปอละกัน

ทางขึ้นพระธาตุครับ แต่ทางขึ้นโดยยานพาหนะอยู่อีกด้านนึง ไหนๆ มาถึงนี่ละเลยเลยไปแก่งหลวง
แก่งหลวง เป็นแก่งหินที่มีหินขนาดใหญ่เป็นทางน้ำครับ อายุอานามเขาว่ามากกว่า 120 ล้านปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในชุมชนเพราะมาง่าย พีคสุดช่วงสงกรานต์
และในอำเภอเชียงม่วนมีเหมืองถ่านหิน และแหล่งหินอายุเยอะแบบนี้ ทำให้เกิดสถานที่สำคัญมากๆ ทางโบราณคดีเกิดขึ้น
มีคนขุดค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ครับ เป็นข่าวดังมากช่วงที่ผมเรียนม.ปลาย เพราเป็นการค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ครั้งแรกในภาพเหนือ
เป็นศูนย์เล็กๆ ครับ เพราะมีกระดูกไม่ครบทั้งตัว แต่อย่างน้อยก็มีวะ ถถถ
เอารถมาแอคกะไดโนเสาร์หน่อย
ต่อไปก็ขึ้นพระธาตุภูปอ สถานที่สำคัญของคนที่นี่
ดีกว่ายุคนี้มีทางขึ้นเป็นปูนขึ้นง่ายละ
ขึ้นมาค่อนข้างตกใจ เพราะมีการปรับปรุงพระธาตุไปเยอะกว่าสมัยที่ผมมาเมื่อก่อนมากๆ
เอาตามความจริง ผมรู้สึกแปลกๆ นะ ไม่ค่อยชอบนักที่ปรับปรุงแบบนี้ แต่ก็นะ โลกยุคนี้
ของดีของที่นี่ นอกจากพระธาตุก็เจ้าหมานี่แหละ มองแรงเชียว
และที่นี่คือจุดชมวิวจุดแรกๆ ของอำเภอนี้ด้วย จะเห็นอำเภอเชียงม่วนได้แทบทั้งหมด
ไหนๆ กล้องซูมได้ตั้ง 30x ละ เลยซูมเล่นไปพระธาตุดอยตูมแถวๆ บ้ายผมซะเลย
เห็นถนนสีขาวๆ กลางภูเขานั่นไหมครับ นั่นแหละจุดหมายสุดท้าย หลักเขต จุดชมวิวใหม่ที่สูงที่สุดของอำเภอ
พอออกไปจากพระธาตุภูปอก็มุ่งหน้าไปที่หลักเขต เป็นถนนขึ้นเขาเส้นทางอ.เชียงม่วน ไปที่อ.บ้านหลวง จ.น่าน เป็นถนนตัดเขา และคดเคี้ยวพอสมควร
ขี่มาเรื่อยๆ ก็ถึงที่หมายละ สมัยก่อนไม่มีศาลากับที่โล่งๆ แบบนี้นะ
เสียดายแดดร่มเป็นที่ๆ ภาพเลยมีมืดๆ บ้าง
ถ่ายซูมไปที่พระธาตุภูปอ จุดหมายก่อนหน้า
ไหนๆ เมฆก็บังละ ถ่ายซะเลย หมั่นไส้
ภาพสุดท้ายก่อนจบทริป กลับบ้านครับ
สรุปการเดินทาง
ค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน ห้าสิบบาท
ค่าถ่านอัลคาไลน์ใช้กับกล้อง สี่ก่อน แปดสิบบาท
สรุปใช้เงินไป หนึ่งร้อยสามสิบบาทถ้วนครับ
ใช้เวลาประมาณ หกชั่วโมง ขี่ชิวๆ
ถึงจะเป็นทริปสั้นๆ แต่มันก็สนุกนะ เพราะเราไปกับยานพาหนะที่เราชอบ ไปเอง ขี่เอง เดินเอง ถ่ายเอง มันเร้าใจตรงนี้ ไม่ต้องขี่เร็ว ขี่แรง แต่สิ่งที่ได้คือประสบการณ์ ความประทับใจที่เราเองสัมผัสมันได้
ขอบคุณลุงผวนที่ให้ยืมรถ Yamaha DT 100
ขอบคุณพี่ดอนที่ให้ยืมกล้อง FujiFilm FinePix HS10
และขอบคุณตัวเองที่ยังมีแรงอยากเที่ยวอยู่
มีทริปคราวหน้าจะเอามาลงอีกนะ
สวัสดีครับ
New year solo Chiangmuan Phayao trip 1 Jan 2016
ปีนี้ผมมีโอกาสได้ลองทริปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวแบบบ้านๆ น่ะครับ เที่ยวบ้านเกิดผม อ.เชียงม่วน จ.พะเยา
คือที่บ้านลุงเขาปลุกเจ้า DT100 ที่เห็นอยู่ใต้ถุนบ้านมาขี่ใหม่ เลยอยากเอาไปลองบ้าง
ทุกครั้งที่ผมใช้มอเตอร์ไซค์ ผมไม่เคยนำมาใช้เพื่อ "เที่ยว" จริงจังเลยซักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก ใครมองว่าขัดใจก็ขออภัยครับ
นี่ครับไอ้เฒ่า DT100 ปัญหาของมันคือทะเบียนไปไหนไม่รู้(พยายามมองข้ามไปนะครับ ขี่ในเขตอ.บ้านผม ถถถ) และปัญหากว่านั้น
ท่อแตก ดังโครตๆ เลยครับ ขี่ไปไหนทุกคนเหลียวมอง ขี่ไประแวงไป ถถถ เอาเถอะ อยากได้ฟีลวินเทจเอ็นดูโร่
ประสบการ์การขี่รถแบบเอ็นดูโร่ครั้งแรก รู้สึกดีกว่าขี่รถแม่บ้านครับ ทั้งๆ ที่ขี่ครั้งแรก ได้ลองละอยากได้เลย (แต่ตั้งเป้าที่ GD110 ไว้แล้ว)
รูปที่ผมถ่ายผมก็ถ่ายไปเรื่อยแหละครับ เจออะไรก็ถ่ายไว้ที่อยากถ่าย ก็ปีใหม่น่ะนะ
หลังจากเติมน้ำมันแล้วได้เวลาถ่ายรูปเสียที ขอบคุณกล้อง FujiFilm FinePix HS10 ของพี่ดอนคนข้างบ้านที่ให้ยืมมาใช้ครับ
รูปนี้ เป็นสเตเดี้ยมของโรงเรียนเชียงม่วนวิทยาคม เชื่อไหมว่าในยุคที่ผมยังเรียนที่นี่ โรงเรียนในจังหวัดระดับที่ว่าใหญ่ๆ อย่าง พค. รึเชียงคำยังไม่มีสเตเดี้ยมปูนถาวรแบบนี้เลยครับ
สำหรับผมมันน่าภูมิใจมาก
ต่อจากนั้นผมไปที่ ต.สระ เห็นว่าเหมืองแร่เชียงม่วนกลายเป็นสระน้ำไปละ เลยไปดูเสียหน่อย
แอบลึกอยู่เหมือนกันนะ คิดไว้แล้วว่าหลังจากถ่านหินหมดมันต้องเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ได้แน่ๆ ดีเหมือนกัน
ต่อไปคือไฮไลท์ของทริปนี้ครับ เป็นน้ำตกที่แม้แต่คนพื้นถิ่นยังไม่ค่อยอยากไปถึงกัน
น้ำตกห้วยต้นผึ้ง ต.สระ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา
จากถนนใหญ่ เข้าไปก็ลึกนิดนึง แถมไม่ใช่ทางปูนตลอดทางด้วย มีรถยนต์จอดกลางทางกลัวจะไปไม่ได้ ผมเลยบอกจะเข้าไปดูให้(ผมยังไม่เคยมาเลย คิดเอาละกัน)
เข้าไปข้างในก็พอเอารถเก๋งเข้าไปได้ครับ กลับมาบอกเขา
มอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้แหละ
เข้ามาตอนแรก ตกใจ มีแค่นี้รึ?
สอบถามทาง จนท.ป่าไม้เขาบอกว่า ตอนนี้ ทาง จนท.ป่าไม้เพิ่งเข้าไปสำรวจตัดพงหญ้าตามทางไม่นาน สะพานข้ามทางปลวกรับประทาน ไม่แนะนำเท่าไหร่ที่จะไปต่อน่ะ
แต่ผมก็ดื้อไง เอาวะ ไหนๆ ก็มาละ ขอฝืนหน่อย
เลยได้เจอสะพานสภาพแบบนี้...
เฮ้ แต่ขอบผาพอปีนไปได้ว่ะ
เดินกลับ ไปคิดใหม่เอาไงดีวะ เลยถามจนท.อีกทีว่าต่อจากสะพานนี้ไปต่อได้ไหม เขาบอกได้ แต่ไกลนะ
คิดไปคิดมา ตาไวเหลือบเห็นเลยได้ภาพสวยๆ ชอทนึง
สุดท้าย เออ ไปก็ไปวะ หลังจากปีนขอบเขาข้างสะพานพังๆ ไปก็เจอป้ายบอกระยะทางที่จะถึง...
เออ กิโลก็กิโลนึง ถถถ
เส้นทางก็เป็นทางแบบขึ้นไปน้ำตกแบบปกติ แต่จะแอดแวนเจอร์หน่อยครับ มีการต้องข้ามทางน้ำตกไปมาหลายครั้ง และทางเพิ่งมีการหักร้างถางพงด้วย ลำบากขึ้นอีกนิด
ช่วงท้ายๆ ของการเดินทาง ยิ่งชันและอันตรายขึ้นเรื่อยๆ ถึงว่าไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว ปล่อยให้ร้างตั้งนาน
ถึงซะที! เอ๋ มีแค่นี้เหรอ?
อ้อ ต้องมองมาทางซ้ายอีกนิด จะเห็นเต็มๆ
เป็นน้ำตกที่สวยนะครับ แต่มายาก และไม่เหมาะสำหรับมาเที่ยวกินส้มตำร้องเพลงแน่ๆ ต้องคนที่รักธรรมชาติและการถ่ายรูปมาถึงจะคุ้ม
(อัพรูปแนวตั้งละภาพมันกลับเอง แก้ไงดีครับ)
ที่น่าสนใจคือ ตรงเท้าผมมีอะไรไม่รู้ตอดๆ อยู่
อ้อ มันคือ กุ้งกับปลาน้ำตกครับ (ไม่รู้จะเรียกไงเรียกงี้ละกัน) ตัวใสมาก คาดว่าคงอยู่นี่มานานละ แปลกดีเลยถ่ายรูปมา
ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะ ธรรมชาติที่คัดคนมาเที่ยว มลพิษจากนักท่องเที่ยวก็น้อยตาม ได้ความดิบของป่าดี (ตอนเดินมาเห็นนกเหยี่ยวบินหนีผมไปตัวใหญ่ด้วย)
แค่มาน้ำตกก็เหนื่อยละ แต่ก็คิดต่อ ไปไหนดีวะ?
อืม ไปแถวๆ พระธาตุภูปอละกัน
ทางขึ้นพระธาตุครับ แต่ทางขึ้นโดยยานพาหนะอยู่อีกด้านนึง ไหนๆ มาถึงนี่ละเลยเลยไปแก่งหลวง
แก่งหลวง เป็นแก่งหินที่มีหินขนาดใหญ่เป็นทางน้ำครับ อายุอานามเขาว่ามากกว่า 120 ล้านปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในชุมชนเพราะมาง่าย พีคสุดช่วงสงกรานต์
และในอำเภอเชียงม่วนมีเหมืองถ่านหิน และแหล่งหินอายุเยอะแบบนี้ ทำให้เกิดสถานที่สำคัญมากๆ ทางโบราณคดีเกิดขึ้น
มีคนขุดค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ครับ เป็นข่าวดังมากช่วงที่ผมเรียนม.ปลาย เพราเป็นการค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ครั้งแรกในภาพเหนือ
เป็นศูนย์เล็กๆ ครับ เพราะมีกระดูกไม่ครบทั้งตัว แต่อย่างน้อยก็มีวะ ถถถ
เอารถมาแอคกะไดโนเสาร์หน่อย
ต่อไปก็ขึ้นพระธาตุภูปอ สถานที่สำคัญของคนที่นี่
ดีกว่ายุคนี้มีทางขึ้นเป็นปูนขึ้นง่ายละ
ขึ้นมาค่อนข้างตกใจ เพราะมีการปรับปรุงพระธาตุไปเยอะกว่าสมัยที่ผมมาเมื่อก่อนมากๆ
เอาตามความจริง ผมรู้สึกแปลกๆ นะ ไม่ค่อยชอบนักที่ปรับปรุงแบบนี้ แต่ก็นะ โลกยุคนี้
ของดีของที่นี่ นอกจากพระธาตุก็เจ้าหมานี่แหละ มองแรงเชียว
และที่นี่คือจุดชมวิวจุดแรกๆ ของอำเภอนี้ด้วย จะเห็นอำเภอเชียงม่วนได้แทบทั้งหมด
ไหนๆ กล้องซูมได้ตั้ง 30x ละ เลยซูมเล่นไปพระธาตุดอยตูมแถวๆ บ้ายผมซะเลย
เห็นถนนสีขาวๆ กลางภูเขานั่นไหมครับ นั่นแหละจุดหมายสุดท้าย หลักเขต จุดชมวิวใหม่ที่สูงที่สุดของอำเภอ
พอออกไปจากพระธาตุภูปอก็มุ่งหน้าไปที่หลักเขต เป็นถนนขึ้นเขาเส้นทางอ.เชียงม่วน ไปที่อ.บ้านหลวง จ.น่าน เป็นถนนตัดเขา และคดเคี้ยวพอสมควร
ขี่มาเรื่อยๆ ก็ถึงที่หมายละ สมัยก่อนไม่มีศาลากับที่โล่งๆ แบบนี้นะ
เสียดายแดดร่มเป็นที่ๆ ภาพเลยมีมืดๆ บ้าง
ถ่ายซูมไปที่พระธาตุภูปอ จุดหมายก่อนหน้า
ไหนๆ เมฆก็บังละ ถ่ายซะเลย หมั่นไส้
ภาพสุดท้ายก่อนจบทริป กลับบ้านครับ
สรุปการเดินทาง
ค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน ห้าสิบบาท
ค่าถ่านอัลคาไลน์ใช้กับกล้อง สี่ก่อน แปดสิบบาท
สรุปใช้เงินไป หนึ่งร้อยสามสิบบาทถ้วนครับ
ใช้เวลาประมาณ หกชั่วโมง ขี่ชิวๆ
ถึงจะเป็นทริปสั้นๆ แต่มันก็สนุกนะ เพราะเราไปกับยานพาหนะที่เราชอบ ไปเอง ขี่เอง เดินเอง ถ่ายเอง มันเร้าใจตรงนี้ ไม่ต้องขี่เร็ว ขี่แรง แต่สิ่งที่ได้คือประสบการณ์ ความประทับใจที่เราเองสัมผัสมันได้
ขอบคุณลุงผวนที่ให้ยืมรถ Yamaha DT 100
ขอบคุณพี่ดอนที่ให้ยืมกล้อง FujiFilm FinePix HS10
และขอบคุณตัวเองที่ยังมีแรงอยากเที่ยวอยู่
มีทริปคราวหน้าจะเอามาลงอีกนะ
สวัสดีครับ