เดือนพย ปีก่อน ผมมีโอกาสไปทำงานที่ฮ่องกงแล้วได้เลยไปเที่ยวต่อช่วงปลายสัปดาห์ที่โอกินาว่ามาครับ

ก่อนเดินทางโอกินาว่าในสมองผมมีแต่เกาะที่เคยอ่านเจอในการ์ตูน GTO และหาข้อมูลได้น้อยมาก
แต่ก็อยากไปเพราะระยะทางที่ไม่ไกลมากและดูอากาศน่าจะสบายๆเหมาะกับการพักผ่อนเบาๆ
ทริปนี้เลยแทบจะเป็นการหาข้อมูลเอาข้างหน้าล้วนๆเลย

หลังจากเครื่องลงที่สนามบินนาฮา ผมก็พุ่งเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
ที่โอกินาว่าถ้ามาฤดูอื่นจะมีที่ท่องเที่ยวทางทะเลน่าสนใจ หรือจะขับรถเที่ยวเกาะแบบรอบใหญ่ก็สามารถทำได้
แต่ด้วยเวลาอันจำกัด ผมเลือกใช้ day tour ประกอบการเที่ยวในแนว monorail แทน

ด้านบนเป็นทัวร์ของบริษัทใหญ่ๆที่นี่ครับ ขอได้ที่ประชาสัมพันธ์ แต่ถ้ามาช่วงท่องเที่ยวต้องจองก่อนนะครับ
หลังจากนั้นผมเข้าเมืองโดยโมโนเรล รถโมโนเรลที่นี่จะคล้ายกับที่โอไดบะและวิ่งผ่ากลางเมืองนาฮาเลย
ถ้าดูจากแผนที่จะผ่านจุดสำคัญ โดยมีปลายทางอยู่ที่ปราสาทชูริครับ

ผมแวะไปเก็บกระเป๋าในเมืองและใช้บัตร one day pass ของโมโนเรลนั่งยาวมาที่ปราสาทชูริ ที่เป็นส่วนหนึ่ง
ของมรดกโลกที่เกาะโอกินาว่าครับ ดูรวมๆก็เพลินดีครับ เรียกว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนที่อื่นๆ แต่ถ้ามาแล้วก็ควรแวะมาดูครับ
หลังจากเดินกลับมาโมโนเรลก็เป็นช่วงที่ผมใช้บัตรรถไฟฟ้าเที่ยวช็อปปิ้งตามสถานีต่างๆจนมืด
ร้านค้าที่เกาะใหญ่มีส่วนมากก็จะมีที่นาฮาครับ ไม่ว่าจะร้านปลอดภาษียอดฮิตอย่างดองกี้ หรือร้านขนม ร้านของอื่นๆ
ที่ขาดไปผมว่าน่าจะเป็นร้านเครื่องไฟฟ้าที่ไม่ได้ตามมาด้วยครับ คืนนั้นเดินจนดึกแล้วก็จบที่ถนน kokusai ที่เป็นถนนหลักของนักท่องเที่ยวครับ
วันรุ่งขึ้นผมซื้อ day tour แถว kokusai แล้วก็มาขึ้นแถวนั้นเลยครับ

ทัวร์ที่ใช้ใช้ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ไกด์พอสื่อสารเข้าใจได้บ้างเป็นคำๆ แต่จะมีป้ายภาษาอังกฤษให้เราอ่านเวลานัดหมายครับ
ลูกทัวร์ก็เป็นคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะมีคนจีนและคนไทยอย่างผมหลงไปสองสามคน
ที่แรกที่พาไปเรียกว่า cape manza ครับ เป็นเกาะทะลุของที่นั่น ก็ดูพอเพลินๆได้ครับ ร้านค้าแถวนั้นก็อารมณ์ประมาณทะเลบ้านเราเลย

หลังจากนั้นก็จะพาไปปล่อยทานอาหารที่โรงแรมหน้าอควาเรียมและปล่อยให้เดินแถวอควาเรียมประมาณสามชั่วโมงครับ

ในอควาเรียมก็เพลินดีครับ มีของเล่นหลอกล่อให้ดูเพลินๆ มีโชว์โลมาอีก เรียกว่าเป็นอีกจุดที่เรียกว่าไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ควรพลาดครับ
หลังจากดูอควาเรียมทัวร์ก็พาไปชมซากปราสาทอีกที่หนึ่ง แต่อันนี้เป็นซากจริงๆครับ เรียกว่าต้องจินตนาการกันมากๆ

พอเสร็จจากดูซากปราสาท ทัวร์ไปปิดที่สวนสัปปะรส อันนี้สนุกดีครับมีเดินทัวร์ซักพักก่อนขายของ แต่ก็ไม่ได้บังคับซื้ออะไรครับ
เราก็ดูตามความชอบ เดินชิมไปเรื่อยๆได้ ถูกใจค่อยซื้อเอา หลังจากนั้นก็กลับมาในเมืองประมาณทุ่มกว่าๆครับ
จุดที่ลงรถก็จะใกล้กับห้างก็ช็อปปิ้งกันต่อได้จนดึกเลยครับ

วันรุ่งขึ้นผมได้เดินในเมืองจนเกือบเที่ยงก็ต้องรีบไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับแล้วครับ
สรุปได้ว่าโอกินาว่าครั้งนี้ก็น่าประทับใจกว่าที่คิดครับ ที่ชอบคือร้านชอปปิ้งและบรรยากาศก็ยังดูเป็นญี่ปุ่นกว่าที่คิด
ที่เพิ่มเติมคือความเป็นกันเองดูจะมากกว่า เช่น คนบนรถไฟโมโนเรลก็มีส่งเสียงคุยหัวเราะกันดังกว่าปกติบ้าง
ถ้าอยากลองพักสบายๆเรื่อยๆเดินๆหยุดๆ โอกินาว่าจะน่าสนใจสำหรับคุณเลยครับ
[CR] สุดสัปดาห์ในโอกินาว่า
ก่อนเดินทางโอกินาว่าในสมองผมมีแต่เกาะที่เคยอ่านเจอในการ์ตูน GTO และหาข้อมูลได้น้อยมาก
แต่ก็อยากไปเพราะระยะทางที่ไม่ไกลมากและดูอากาศน่าจะสบายๆเหมาะกับการพักผ่อนเบาๆ
ทริปนี้เลยแทบจะเป็นการหาข้อมูลเอาข้างหน้าล้วนๆเลย
หลังจากเครื่องลงที่สนามบินนาฮา ผมก็พุ่งเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
ที่โอกินาว่าถ้ามาฤดูอื่นจะมีที่ท่องเที่ยวทางทะเลน่าสนใจ หรือจะขับรถเที่ยวเกาะแบบรอบใหญ่ก็สามารถทำได้
แต่ด้วยเวลาอันจำกัด ผมเลือกใช้ day tour ประกอบการเที่ยวในแนว monorail แทน
ด้านบนเป็นทัวร์ของบริษัทใหญ่ๆที่นี่ครับ ขอได้ที่ประชาสัมพันธ์ แต่ถ้ามาช่วงท่องเที่ยวต้องจองก่อนนะครับ
หลังจากนั้นผมเข้าเมืองโดยโมโนเรล รถโมโนเรลที่นี่จะคล้ายกับที่โอไดบะและวิ่งผ่ากลางเมืองนาฮาเลย
ถ้าดูจากแผนที่จะผ่านจุดสำคัญ โดยมีปลายทางอยู่ที่ปราสาทชูริครับ
ผมแวะไปเก็บกระเป๋าในเมืองและใช้บัตร one day pass ของโมโนเรลนั่งยาวมาที่ปราสาทชูริ ที่เป็นส่วนหนึ่ง
ของมรดกโลกที่เกาะโอกินาว่าครับ ดูรวมๆก็เพลินดีครับ เรียกว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนที่อื่นๆ แต่ถ้ามาแล้วก็ควรแวะมาดูครับ
หลังจากเดินกลับมาโมโนเรลก็เป็นช่วงที่ผมใช้บัตรรถไฟฟ้าเที่ยวช็อปปิ้งตามสถานีต่างๆจนมืด
ร้านค้าที่เกาะใหญ่มีส่วนมากก็จะมีที่นาฮาครับ ไม่ว่าจะร้านปลอดภาษียอดฮิตอย่างดองกี้ หรือร้านขนม ร้านของอื่นๆ
ที่ขาดไปผมว่าน่าจะเป็นร้านเครื่องไฟฟ้าที่ไม่ได้ตามมาด้วยครับ คืนนั้นเดินจนดึกแล้วก็จบที่ถนน kokusai ที่เป็นถนนหลักของนักท่องเที่ยวครับ
วันรุ่งขึ้นผมซื้อ day tour แถว kokusai แล้วก็มาขึ้นแถวนั้นเลยครับ
ทัวร์ที่ใช้ใช้ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ไกด์พอสื่อสารเข้าใจได้บ้างเป็นคำๆ แต่จะมีป้ายภาษาอังกฤษให้เราอ่านเวลานัดหมายครับ
ลูกทัวร์ก็เป็นคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะมีคนจีนและคนไทยอย่างผมหลงไปสองสามคน
ที่แรกที่พาไปเรียกว่า cape manza ครับ เป็นเกาะทะลุของที่นั่น ก็ดูพอเพลินๆได้ครับ ร้านค้าแถวนั้นก็อารมณ์ประมาณทะเลบ้านเราเลย
หลังจากนั้นก็จะพาไปปล่อยทานอาหารที่โรงแรมหน้าอควาเรียมและปล่อยให้เดินแถวอควาเรียมประมาณสามชั่วโมงครับ
ในอควาเรียมก็เพลินดีครับ มีของเล่นหลอกล่อให้ดูเพลินๆ มีโชว์โลมาอีก เรียกว่าเป็นอีกจุดที่เรียกว่าไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ควรพลาดครับ
หลังจากดูอควาเรียมทัวร์ก็พาไปชมซากปราสาทอีกที่หนึ่ง แต่อันนี้เป็นซากจริงๆครับ เรียกว่าต้องจินตนาการกันมากๆ
พอเสร็จจากดูซากปราสาท ทัวร์ไปปิดที่สวนสัปปะรส อันนี้สนุกดีครับมีเดินทัวร์ซักพักก่อนขายของ แต่ก็ไม่ได้บังคับซื้ออะไรครับ
เราก็ดูตามความชอบ เดินชิมไปเรื่อยๆได้ ถูกใจค่อยซื้อเอา หลังจากนั้นก็กลับมาในเมืองประมาณทุ่มกว่าๆครับ
จุดที่ลงรถก็จะใกล้กับห้างก็ช็อปปิ้งกันต่อได้จนดึกเลยครับ
วันรุ่งขึ้นผมได้เดินในเมืองจนเกือบเที่ยงก็ต้องรีบไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับแล้วครับ
สรุปได้ว่าโอกินาว่าครั้งนี้ก็น่าประทับใจกว่าที่คิดครับ ที่ชอบคือร้านชอปปิ้งและบรรยากาศก็ยังดูเป็นญี่ปุ่นกว่าที่คิด
ที่เพิ่มเติมคือความเป็นกันเองดูจะมากกว่า เช่น คนบนรถไฟโมโนเรลก็มีส่งเสียงคุยหัวเราะกันดังกว่าปกติบ้าง
ถ้าอยากลองพักสบายๆเรื่อยๆเดินๆหยุดๆ โอกินาว่าจะน่าสนใจสำหรับคุณเลยครับ