พ่อเลี้ยงเมาแล้วหาเรื่องทะเลาะพยายามทำร้ายแม่นู่ค่ะ

แม่กลับบ้านจากขายของ น้ำไม่ไหลค่ะ แม่เลยเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้แล้วลืมขึ้นไปบนบ้าน เละแม่นู่ก็หลงนอนหลับค่ะ พอพ่อเลี้ยงมาเมาเค้าเห็นน้ำเลอะบ้านบ้าง เค้าเลยขึ้นไปเคาะประตูห้อง ชวนแม่ทะเลาะ พร้อมด่าทอถึงบุพการี คำหยาบคายต่างๆ นานาค่ะ แม่นู่เลยบอกว่าเด๋วก็ถูก็ได้ ไม่เป็นไร เปียกแล้วก็ถูไดเ แม่เลยไปหาไม้มาทำแกล้งถู รู้ว่าพ่อเลี้ยงดื่มเหล้ามาค่ะ ต้องโดนทำร้ายแน่ๆ เพราะนิสัยแบบนี้ทำประจำๆ ค่ะ ไม่มากก็น้อย ต้องชวนหาเรื่อง แม่เคยโดนทำร้ายร่างกาย แล้วก็แจ้งความไปแล้วทีหนึ่งค่ะ ประมาณ หกเจ้ดปีที่แล้วค่ะ นู่ก็ลืมค่ะ

พอพ่อเลี้ยงขี้เมาไหวตัวงมแต่ปิดน้ำ แต่ปากก็ด่าแม่ แม่เลยทิ้งผ้าถูพื้นเละวิ่ง ขณะนั้นพ่อเลี้ยงหันไปเห็นแม่นู่กำลังจะวิ่งหนี ได้ขว้างมัดด้ามใหญ่ใส่แม่ แต่ไม่โดนค่ะ มันโดนประตู แม่วิ่งหนีตายไปบ้านน้องสาวของพ่อเลี้ยงค่ะ ไปขอความช่วยเหลือ  พ่อเลี้ยงได้เดินลัดไปทุ่งไป ในขณะแม่วิ่งออกไปถึงบ้านน้องสาวพ่อเลี้ยงแล้ว มีแม่ของพ่อเลี้ยง น้องสาว หลานๆ พ่อเลี้ยงค่ะ อยู่นั่น แล้วก็มีรถของหลานชาย น้องเขยของทางฝ่ายพ่อเลี้ยงมาจอดจังหวะนี้พอดีที่แม่มาถึงค่ะ เค้าเลยมองเห็นพ่อเลี้ยงกำลังมาทางด้านหลังบ้าน เกรงว่าต้องเกิดเหตุแน่ๆ เค้าเลยห้ามไว้ค่ะ เค้ารู้ว่าพ่อเลี้ยงโมโหร้ายเวลาดื่มเหล้าค่ะ คนช่วยห้ามค่ะ แต่มีญาติๆ เค้าที่อยู่ตอนนั้น ยังไม่มีคนอื่นค่ะ

แม่นู่เลยวิ่งไปแอบระหว่างช่วงชลมุน ณ ตอนนั้น พ่อเลี้ยงเสียดัง มันอยู่ไหน กูเห็น กูจะฆ่าแน่ๆๆ ระหว่างนั้น แม่ได้แอบโทรให้คนรักษาการในหมู่บ้าน คือ สารวัตรหมู่บ้านกับคนดูหรือยามหมู่บ้าน เอื้ออาทร ค่ะ เค้าเลยมาหาเละพาพ่อเลี้ยงนู่กลับไปที่บ้าน ระหว่างนั้น นู่ได้มาจากการไปข้างนอกมาถึงแถวบ้านที่แม่แอบอยู่ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากทางแถวบ้านนู่ค่ะ ทุกคนรู้ว่าฝีมือใคร ก็คือพ่อเลี้ยงนั่นเองค่ะ เค้ายิงปื้นขึ้นฟ้า เราแม่ลูกเลยพากันขี่มอไซด์ไปสนามบาส เบตอง หมู่บ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ และขอให้คนพาไปแจ้งความ เพราะสถานีตำรวจมืดมากค่ะ สภอ ย่อยค่ะ เราไปแจ้งความ  ขอร้องตำรวจก็มาเช็คให้ที่บ้าน ตำรวจมาบ้านพร้อมๆกับเราแล้วบอกให้เราสองแม่ลูกหลบออกไปก่อน เราพักอยู่ข้างนอกไม่กล้ากลับเข้าบ้านค่ะ แม่เรายืนยันที่จะหย่า เราแจ้งความครั้งนี้ครั้งที่สองว่า พยายามฆ่าและขมขู่ทำร้ายร่างกาย แต่งวดนี้แม่หนีทันเลยยังไม่โดนทำร้ายค่ะ แต่สภาพจิตใจแม่ มันหลอนค่ะ แม่เครียดมากค่ะ นอนไม่หลับ หากเป็นไรไปลูกจะอยู่ยังไง หากหนีตายออกมาไม่ทัน เราหวาดกลัว เกรงว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องซ้ำไปซ้ำมาค่ะ

หลังจดทะเบียน พ่อเลี้ยงกับแม่เรา
หนึ่ง มีรถ เก่าๆ เป็นชื่อแม่ค่ะ
สอง มีทองสามบาทค่ะ อยู่คอพ่อเลี้ยง สองบาท กับแม่นู่ หนึ่งบาทค่ะ
สาม มีบ้านเอื้ออาทร ที่กำลังผ่อน เป็นชื่อแม่ยื่นกู้คนเดียว ไม่มีคนกู้ร่วมค่ะ

สินสมรสข้อสาม คำถามดังนี้ค่ะ
พ่อเลี้ยง จะเอาทองสองบาท จะเอารถด้วย อยากได้แบ่งครึ่งบ้านค่ะ ขอท้าวความนิดหนึ่งค่ะ นู่เข้าใจว่าตามกดหมายสินสมรสต้องแบ่งครึ่งหลังจดทะเบียนแต่งงาน แต่กรณีแม่นู่ ทำงานลำบาก ขายของเหนือยยาก หาผ่อนคนเดียว ตอนแรกพ่อเลี้ยงได้ไปเซ๊นต์เอกสารรับรู้ว่าซื้อบ้านค่ะ เอื้ออาทร พอถึงตอนรับบ้านหรือตกลงเซ้นต์เอกสารรอบที่สอง แม่นู่ก็ไปคนเดียวก็เลยเล่าให้ผู้จัดการแบงค์ว่า ณ ตอนนั้น สามีทะเลากันเค้าหับเราแยกกันอยู่  ขอให้แม่ซื้อบ้านเอื้ออาทรคนเดียวเลยได้ไหม๊ แม่รายได้น้อยค่ะ ทางแบงค์ต้องการคนกู้ร่วมแม่ก็ไม่มีค่ะ เพราะนู่ยังเรียนไม่จบค่ะ  แต่ผู้จัดการแบงค์ให้แม่ยื่นผ่านเรื่องกู้เพราะสงสารแม่ค่ะ (แม่ได้ข้อร้องท่านค่ะ หากได้บ้านก็จะดีใจมาก หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แม่คิดในใจ ณ ตอนนั้นค่ะ) โดยไม่มีสามีมาเซ็นต์เอกสารอะไร ในการรับมอบ ค่ะ ณ ตอนได้บ้าน วันเข้าบ้าน น้ำไฟยังไม่มีนะคะ พัดลมก็ไม่มีเงินซื้อ ขี้ดินแห้งๆๆ นู่ก็อยู่กับแม่สองคน จนกระทั่งผ่านไปประมาณเจ็ดเดือนกว่า พ่อเลี้ยงก็ได้กลับมาขอโทษคืนดีกลับแม่ แล้วเราก็ให้โอกาสเค้าค่ะ  ณ ตอนนี้โอกาสไม่อยากให้ ให้มาเละค่ะ แม่ทำงานหนัก หาเงินซื้อ อาหารเข้าบ้าน แต่พ่อเลี้ยงทำงาน ใช้ส่วนตัว ได้เงินวันละสามร้อย แต่ซื้อเบี้ยร์กินวันละห้าขวดค่ะ เงินมีช่วงหนึ่งเคยแบ่งให้แม่บ้าง เดือน สองสามพัน บ้างเดือนก็ไม่ได้ไรเลย ซื้อทุกอย่างเป็นเงินแม่นู่ค่ะ ข้าว อาหาร แปรงสีฟัน ยาสีฟัน อาหารแมว
กรณีนี้ หากเค้าจะอยากได้บ้านด้วย แล้วเราจะอยู่ไหน ยังไงคะ หากเค้าบอกไม่ย้ายไม่ออก ทำไงคนมันถึงจะอยู่ต่อไปด้วยกันด้วยคะคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ
หากมานั่งคุยกันประนีประนอม จะเอาไรบ้างแต่หากเค้าหัวหมออยากได้บ้าน นู่ก็คงบอกเค้าว่าให้ไปฟ้องเอา ส่วนเราก็จะดำเนินคดีอาญากับเค้า ช่วยนู่ด้วยนะคะ ว่านู่ควรจะทำอย่างไร