Hello สวัสดีครับ ผมชื่ออุกกิด(เสียงอ่าน55) ผมเป็นเกย์ครับ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ มันยาว.....
ผมอายุสิบเจ็ด แต่อยู่ม.หก ตามวิธีคนโสด ใช้เเอพเกย์ให้เป็นประโยชน์ ได้เฟสคนๆหนึ่งที่อยู่แถวเดียวกัน ผมคุยกับพี่เขา(อย.19) สนุกดีนะ คุยทะลึ่งได้ พอแบบนี้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เกิดความกำหนัดของผมออกมาว่า "พี่ครับ ถ้าเราเจอกัน พี่ยอมให้ผมเอานะ" (โห โคตรแรงง เพราะผมไมเคยมีsex แต่คิดว่าตัวเองมาก)
แล้วพี่เขาก็บอกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ได้ แต่ต้องเกินสี่ครั้งที่เจอกันก่อน ส่วนเรื่องอม พี่จัดให้ทุกวันได้"
เราคุยโทรศัพท์จนดึกดื่นทุกคืน แต่ค่อนข้างเข้ากันไม่ได้(ผมงี่เง่า พี่เขาถูกเสมอ ไม่ง้อ)
แล้วเราก็เจอกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่ใต้ต้นจามจุรีริมสระน้ำของเทศบาลแถวบ้าน ครั้งแรกผมซื้อน้ำเปล่าให้พี่เขากิน ด้วยการที่พี่เขาเป็นคนไม่พูด ผมก็เป็นคนขรึมๆ แต่ผมก็เป็นฝ่ายทัก วันแรกคุยกันปกติ พี่เขาบอกให้ผมไปนั่งบนมอไซต์ด้วยกัน ผมก็ไม่ เพราะผมบอกพี่เขาว่าไม่ใช่แฟนกัน ไม่เอา แล้วก็มีเพื่อนผมขี่ จกย. ผ่านแล้วร้องแซว เอาเป็นว่าวันแรก ผมก็ได้แต่อาย พี่เขาก็เอาแต่มอง แต่ก็คุยกันได้ สิ่งที่รู้สึกคือ เรื่องsexมันหายไปไหนนะ ทำไมผมรู้สึกดีจัง
....พอวันต่อๆมา ผมยอมนั่งข้างหลังพี่เขาบนมอไซต์ เราคุยกัน ผมเล่าเรื่องราวชีวิตผมให้พี่เขาฟัง พร้อมกับน้ำตา(ผมเป็นพวกเก็บกด โลกมืด ต่างจากคนอื่น) คือหลังพี่เขาเปียกหมด พี่เขาก็จับมือผมไปกอด ผมก็ร้องไห้หนัก พี่เขาสอนผมว่า "ลองเปิดใจ ไม่เพียงแต่ให้คนอื่นเข้าใจตัวเอง เราต้องเข้าใจคนอื่นด้วย แสดงความรู้สึกออกมา อยากทำอะไร ต้องกล้าคิดกล้าทำ" ผมเข้าใจ แล้วคนที่ผมสามารถร้องไห้ให้เห็นได้ ผมก็รู้ดีว่าคนแบบนี้แหละที่เป็นคนสำคัญในชีวิตผมแน่นอน ...ยิ่งคิดแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกดีด้วย
วันที่สาม ผมหาเวลาว่างจากเลิกเรียนมาเจอพี่เขา เราคุยสนุก รีแลก สนิทกันมากขึ้น พี่เขาชอบแบบยิ้มมาทางผม แล้วหันไปทางอื่นแล้วทำหน้านิ่ง(ฝืนอารมณ์) ก่อนหน้านี้ผมบอกพี่เขาว่า "เรามีข้อตกลงกันก็จริง แต่ความรู้สึกคนเรามันพัฒนาได้เสมอ ถ้าวันหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าพี่ใช่สำหรับผมจริงๆ พี่เปิดใจรับคนแบบผมหน่อยนะ ผมไม่รู้หรอกว่าผมต้องทำยังไง ต้องทำแบบไหนถึงจะดีเท่าคนอื่นเขา แต่ทุกสิ่งที่ผมทำ มันก็มาจากใจ มาจากผมจริงๆ"
จนถึงวันที่ผมตัดสินใจบอกรักพี่เขา (สี่วัน) เพราะพี่เขาบอกให้ผมกล้า โอเค ผมเดินไปข้างหน้า พร้อมกับบอกประมาณว่า ผมไม่เคยทำแบบนี้เลยนะ แล้วก็จ้องตาพี่เขานานมากกกก จนพี่เขาถามเมื่อไหร่จะพูด ผมก็บอกว่านี่แหละความรู้สึก ผมไม่ชอบพูดวกวนไรมาก ในเมื่อท้ายสุดผมก็บอกว่ารักพี่อยู่ดี
"พี่เห็นอะไรในตาผมมั้ย"
"ไม่เห็นหรอก มันมืดแล้ว" มีเล่นมุข เอิ่ม
"นี่แหละที่ผมอยากบอก" ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ผมบอกข้างหูพี่เขา แล้วพี่เขาก็บอกว่ารักผมกลับ คือตอนนั้น รู้สึกเหมือนโล่ง ดีใจนิด พร้อมถามว่า เราเป็นอะไรกัน พี่เขาก็บอกแฟน ผมเลยบอกพี่เขาว่าเรามาตกลงกันเถอะ ผมบอกว่าผมไม่ชอบคนโกหก มีอะไรบอกตรงๆ ประมาณนี้ พี่เขาโอเค พร้อมถามว่า ที่นี้เป็นแฟนกันกอดได้ยัง ผมก็เลยสนอง กอดเต็มที่ บนรถมอไซต์นะครับ พี่นั่งหน้าผมนั่งหลัง กอดจากด้านหลัง ทุกอย่างนิ่ง สงบ เนื่องจากผมอยู่หลังและร่างกายมันสปาร์คกัน อารมณ์ผมมา และตามมาด้วยมือพี่เขา แล้วก็...ตัดภาพไปที่ ดวงจันทร์เหนือต้นจามจุรีที่มีล้มพริ้วสไว
...มันเป็น first kiss first feeling ของผมครับ กับการเอ้าท์ดอร์แบบนี้ 5555
.....พอเราเป็นแฟนกัน ทำไมเราคุยกันไม่ได้ เข้ากันไม่ได้ ขึ้นเสตตัสได้สามวันเอง ก็ระหองระแหง เล่ามาทั้งหมดนี่ยังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์เลยครับ แล้วพี่เขาก็นัดผมไปเจอในวันหนึ่ง พร้อมกับบอกเลิก พี่เขาบอกว่าพี่ขอโทษ พี่รักน้องไม่ได้ ความเป็นพี่น้องมันมากกว่าความรักว่ะ แล้วพี่ก็มีแฟนยุแล้ว พี่รอเขาเสมอ(แฟนพี่เขาเป็นทหารได้หนึ่งเดือนแล้ว) โอเคร ...ในที่สดน้ำตาผมไหลต่อหน้าพี่เขาเลย ภาพคือเรานั่งบนมอไซต์ของใครของมัน หันหน้ามองกัน ผมน้ำตาไหล พี่เขาดูตกใจนิดหน่อย เพราะไม่เคยเห็นผมร้องแบบเต็มที่ แต่ผมก็พยายามกลั้นไว้นะ ที่ร้องนี่ ไม่ใช่ว่าอะไรนักหนากับความรักหรอก แต่มันเสียใจ มันดำดิ่ง มันคิดว่า "ทำไมกูต้องเจอแต่เรื่องแบบนี้ ทำไมชีวิตถึงเจอแต่คนโกหกไม่จริงใจ คิดว่าพี่จะเข้าใจ จนผมไว้ใจใครได้ขนาดนี้ พี่ยังทำร้ายมันได้ลง " นี่คือจุดบอดของหัวใจผมครับ แต่สุดท้าย ผมบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยผมไว้แบบนี้แหละ เป็นพี่น้องก็ได้" แล้วเราค่อยคุยกันได้ พร้อมกับความรู้สึกที่สบายใจมากขึ้นกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะเป็นแบบนี้แล้วไม่ต้อง กลัวเรื่องงอล ง้อ เถียงกัน หรือกลัวความสัมพันธ์จะขาด มันเลยสบายใจมากขึ้น จนพี่เขาบอกว่า
"พี่บอกแล้วเป็นพี่น้องกัน พี่ทำให้ได้ทุกอย่าง ทุกอย่างระหว่างเรา แต่ช่วยเข้าใจพี่หน่อยนะ พี่ไม่สามารถทิ้งคนที่พี่สัญญาได้เลย"
ผมก็ได้แต่ครับๆ เพราะเข้าใจจริงๆ
...พอเราลงตัว ผมเอางานไปให้พี่เขาทำที่บ้าน(เป็นงานที่เคยตกลงว่าจะแลกกับตัวพี่เขา55) และเป็นครั้งแรกที่เคยไปบ้าน เข้าห้องนอนพี่เขา (เอ่อ ตอนได้เป็นแฟนได้แค่หลบคนแถวริมสระ แต่พอเป็นน้องได้เข้าห้องเว้ยเห้ย 5555 ผมรับภารกิจจากพี่แกว่าจะโหลดเกมให้ สามเกม โอเครผมรับปาก พี่เขาก็ทำงานให้ผม ล่วงเลยเวลามาสัปดาห์ก่อนสิ้นปี เราคุยโทสับกันน้อยลง แต่กลับสนิทกันมากขึ้น พี่เขาก็รอแฟนพี่เขาต่อไป ผมก็ตั้งใจสอบเรียนต่อ โหลดเกม พี่เขาก็ทำงานให้ผม ผมไปมาหาสู่พี่เขาบ่อยมาก จนที่บ้านอัญเชิญผมกินข้าวเย็นด้วย 555 ผมยืมเสื้อพี่เขาไป รร. แต่ๆๆ ตอนนี้ให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นแฟนกันไปนะ ไม่ถอนสเตตัส เพราะอายคน55(คบกันได้สามวันเอง แหะๆ) แต่ตั้งแต่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ก็ เกือบเดือนแระ ผมไม่ค่อยว่างเท่าไหร่หรอก แต่ก็ทุ่มกำลังกายในการโหลดเกมให้พี่เขา ไอ้ผมก็แอบสงสัยนะว่าทำไมเกมมันถึงสำคัญกับพี่แกขนาดนั้น ผมก็ทุ่มเททั้งที่งานเยอะ ทั้งงานที่ รร. งานโหลดเกม ยุ่งมากจนไม่มีเวลาให้ตัวเองเลยแม้แต่วินาทีเดียว(อันนี้ไม่พูดเว่อร์นะ เรื่องจริงๆ)
....ผมโหลดเกมจนเหนื่อยอะ สุขภาพ จนพี่เขาบอกว่า งั้นเอามา พี่ทำเอง ถึงพี่ทำอะไรกับคอมไม่เป็นเลย แต่พี่ก็จะทำเอง คือผมน้ำตาไหล มันโกรธตัวเองที่ทำให้ไม่ได้ พี่เขายังทำงานให้ผมออกมาดีมากก แล้วทำไมผมถึงทำให้ไม่ได้ ผมลุกขึ้นมากลางดึก แต่ทำยังไงก็ทำไม่ได้ เพราะเกมมันโดนแบนแล้ว ผมกลับมาบอกขอโทษพี่เขา ทำให้ไม่ได้จริงๆ พี่เขาก็บอกว่าม่เป็นไร นอนเถอะ ผมเลยถามพี่เขาไป เกมสำคัญกับพี่มากแค่ไหน แล้วคำตอบก็แทบทำผมล้มลง
"มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พี่รู้สึกอ่นใจเหมือนมีพ่อกับแม่อยู่ตลอดเวลา ปีใหม่นี้พ่อจะมาเล่นเกมกับพี่ และพี่ก็อยากได้เกมนี้ก่อนปีใหม่ เพราะ ปีใหม่มันก็เป็นเทศกาลเดียวที่จะได้อยู่กับพ่อแม่" พระเจ้า ผมน้ำตาไหล เข้าความรู้สึกนี้เลย แต่จะให้ทำไงได้ก็เกมมันโดนแบน พี่เขาก็ได้แต่บอกเศร้าๆว่าไม่เป็นไรน้องชาย แล้วผมก็ถามว่า เอาเกมอื่นได้มั้ย พี่เขาก็บอกว่าได้ๆ ผมก็โอเคร และโหลดได้จนเสร็จในคืนนั้น(ไม่ได้นอนเลย)
พอตื่นเช้ามาอีกที รู้ข่าวบางอย่างที่ทั้งช้อคและเสียใจปนดีใจ
#พี่เขาเลิกกับแฟนทหารแล้วเพราะว่าทหารคนนั้นไปมีคนอื่น
ดีใจเพราะอะไรไม่ต้องบอกนะครับ แต่ที่เสียใจหนิ เพราะพี่เขาเพ้อมากๆๆๆ เพ้อจนผมรู้สึกว่า พี่เขาคงจะรักพี่คนนั้นมาก(ผมมีเฟสพี่ทหารแต่ไม่เคยบอกพี่เขานะ) นี่ขนาดโดนทิ้ง มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเทียบกับคนนั้นไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่สำหรับพี่เขา ต่อให้ที่ผ่านมาทำดีให้ตายแค่ไหน พี่เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลย พี่เขาเพ้อเฟส ผมก็เพ้อเหมือนกันครับ...
เราเจอกันอีกครั้งในวันที่ 30 ธค. 58 ตามนัดวันนี้เอาคอมมาคืนพี่เขาพร้อมเอาเกมมาให้ ผมเห็นพี่เขาครั้งแรก ก็ได้แต่ฝืนยิ้มทักไปว่า "โห นี่โดนทิ้งแล้วตัดผมเลยหรอ ฮาๆ" พี่เขาก็บอกว่าบ้า แล้วทวงเกม แล้วก็เล่นอย่างมีความสุข ผมก็นอนรอพี่เขาเล่นจนเย็นๆ แล้วบอกพี่เขาว่า ไปซื้อจอยเกมกันเถอะ เพราะผมมาหาเพราะว่าจะพาไปซื้อ แต่สุดท้ายพี่เขาก็บอกว่า พี่จะไปซื้อกับเพื่อน เพราะผมไม่รู้จักร้าน ก็งอลเลยครับ เก็บของ แล้วขึ้นรถกลับบ้านไม่พูดไม่ลาอะไรสักคำ...แต่ถึงจะน้อยใจ สุดท้ายก็หายอยู่ดี
พอวันที่ 31 วันสิ้นปี วันที่พ่อแม่พี่เขามา ก็ปล่อยให้มีความสุขกับครอบครัวไป แต่ผมหนีครอบครัวแล้วไปเค้าท์ดาวน์บ้านเพื่อน ผมแวะไปซื้อตุ้กตามาในงบ 200 บาท ได้มา 3 ตัว 5555 ตัวใหญ่ราคาร้อยบาท ผมเอาไว้ให้พี่เขา ส่วนตัวเล็ก ตัวละ ห้าสิบ สีชมพูให้เพื่อน(วันเกิด) สีน้ำตาลเอาไว้สำรองเพผื่อพี่เขาไม่เอา ...ผมไปหาเพื่อน สนุกนะ จนพี่เขาโทรหาผมตอนตี1 แล้วบอกว่าพึ่งกลับจากวัด(สวดมนต์ข้ามปีกับครอบครัว) มารับพี่หน่อย ผมก็บอกเพื่อนว่าจะไปหาแฟน ไปแค่ 1ชม. มั้ง 5555 มันก็ไล่ผมไปๆ แล้วพวกมันก็นอนต่อ ตอนนั้นหนาวม้ากกกก แต่ก็ถ่อสังขารบนมอไซต์ไปหาผู้ชาย เอ้ยพี่ชาย555 พอไปรับพี่เขา เราไปที่ การแสดงหมอลำใกล้ๆ (คนอีสานครับ) โอเคร ไปดูหมอลำด้วยกัน ดู"ปก็ไปยืนหัวเราคนอื่นที่เต้น พี่แกดูมีความสุขดีนะ ดูยิ้มเต็มที่ พี่เขามองอะไรแล้วยิ้ม ผมก็ได้แต่มองตาแล้วหัวเราะแก แกก็ถามว่าหัวเราะอะไร555 ผมก็บอกเปล่าๆ เราก็ยืนๆนั่งๆ ท่ามกลางการแสดง คนเมา ขวดเหล้า และกลิ่นบุหรี่อาครับ พอหมอลำจบตอนตี2 พี่เขาก็บอกว่าไปไหน ผมบอกว่าผมไม่อยากกลับตอนนี้ พี่เขาเลยบอกว่างั้นไปสวนสาธารณะกัน ผมก็นึกในใจว่า ไปที่มืดๆเนี่ยนะ แต่ก็ไปยุดี55
..ช่วงที่ขับรถไป พี่เขาซ้อนท้าย แล้วก็บอกผมว่า ขับช้าๆหน่อย หนาวว แล้วพี่แกก็สั่น นี่ขนาดผมบังลมให้นะครับยังสั่น ส่วนผมนิสั่นยุแล้ว แต่ก็อดทน เพราะพี่แกก็ใส่เสื้อบางๆที่แสนจะถอดง่าย เอิ่ม แถมแกตัวเล็ก เอวบางยังกะ ผญ. ผมก็บอกแกว่า กอดดิๆๆ พี่เขาก็ "อ้อ นี่เป็นแผนใช่มั้ย" ผมก็หัวเราะ แล้วพี่แกก็กอด ผมก็ขำไปทั้งที่สั่นๆแล้วก็ตะโกนออกมาว่า พอใจโว้ยยยยยยย 55555
-----------------
ไปถึงสวนสา หายหนาว มืดมิด ไม่มีคน เราไปนั่งที่ลานเอนกประสงค์ ด้านนอกเป็นสนามฟุตบอล เห็นภูเขา เห็นดวงจันทร์ส่องแสงสว่างมาก คือเอาตรงๆ บรรยากาศโคตรโรแมนติก (เสียที่เป็นพี่น้องกัน ฮืออ) นั่งได้สักครู่ ดูดวงจันทร์ไป ก็มีคนมา เหมือนมามั่วสุมกันอะครับ เพราะพี่ชายคนที่นั่งข้างๆผมนี่ก็บอกว่า นี่มันเป็นที่เสียตัวนะ ผมก็ทำหน้าช้อค แต่ก็ไม่สนใจ ผมบอกพี่เขาว่า "ช่างมันเหอะเราก็อยู่ของเราไป"
และแล้วก็เกิดอาการถ้ำมองผ่านความมืด555 พี่แกก็กระซิบบอกผมว่า เอากันแล้วๆๆๆ ผมก็ขมวดคิ้ว บอกว่า "รู้ได้ไง เชี่ยวชาญจังเลยเนอะ" พี่แกก็ได้แต่มองแล้วผมก็แกล้ง ขยับเข้าไปใกล้ๆ จนหลังพี่แกติดเสา เอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ มือค้ำเสาไว้ พูดว่า
"แล้วเราล่ะ" ยิ้มเจ้าเล่ห์นิดนึง พี่แกก็บอกว่า
"อะไรๆ จะเอาตรงนี้หรอ บ้า หนาวจะตาย" ผมก็ถอดตัวเองออกมาพร้อมกับหัวเราะแล้วก็บอกว่า บ้าาาา นี่ปีใหม่แล้ว ไม่ทำหรอก
(อ้อลืมบอก ก่อนหน้านี้ เคยสปาร์คกับพี่เขาแล้วนะ คือตอนนี้สูญเสียความบริสุทธิ์แล้ว ฮืออ)
เรานั่งคุยกัน ลมหนาวเบา ผมก็ลุกขึ้นไปฉี่หลายๆครั้ง เพราะกินแอลกอฮอมาก็เยอะ พี่เขาถามผมว่า "เมาไหมเนี่ย" (พี่แกไม่กินเหล้า) ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มให้ทั้งๆที่มืดๆ แล้วก็อธิบายว่า ไม่เมาหรอกแค่ขี่รถแล้วเลยซอย ฮ่าๆ พี่แกก็บอกว่า "รู้มั้ย ไม่อยากให้กินเหล้า มันไม่ดี" ผมก็พยักหน้า แล้วก็เถียงว่า มันก็แค่ไวน์ ไม่เมาหรอก แค่มึนๆ เรานั่งคุยกัน พี่แกก็เปิดประเด็นว่า "ยังไม่เคยเห็นบ้านอุกกิดเลย" ผมเลยถามว่า "ทำไม ที่ถาม แค่อยากรู้ว่าเป็นบ้านแบบไหน อยากรู้หรือว่าอยากเห็น" พี่แกตอบว่า "อยากเห็น" ผมก็เลยยิ้มๆ บ้านผมหลุมเยอะไม่ต้องมาหรอก
พี่แกเอามือถือผมมากดดูภาพ แล้วก็แอบยิ้มผมก็ดูด้วย พี่แกดูเยอะ แทบทุกรูป จนไปถึงผลงานศิลปะของผมที่เป็นเทคนิคสีเทียนธรรมดาๆ ในคอนเซปงานสิ่งแวดล้อม แต่พี่เขาชมมันออกมาว่า สวยๆ
ช่วยหน่อยครับ รักมากแค่ไหนก็เป็นได้แค่พี่น้องกัน
ผมอายุสิบเจ็ด แต่อยู่ม.หก ตามวิธีคนโสด ใช้เเอพเกย์ให้เป็นประโยชน์ ได้เฟสคนๆหนึ่งที่อยู่แถวเดียวกัน ผมคุยกับพี่เขา(อย.19) สนุกดีนะ คุยทะลึ่งได้ พอแบบนี้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เกิดความกำหนัดของผมออกมาว่า "พี่ครับ ถ้าเราเจอกัน พี่ยอมให้ผมเอานะ" (โห โคตรแรงง เพราะผมไมเคยมีsex แต่คิดว่าตัวเองมาก)
แล้วพี่เขาก็บอกว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราคุยโทรศัพท์จนดึกดื่นทุกคืน แต่ค่อนข้างเข้ากันไม่ได้(ผมงี่เง่า พี่เขาถูกเสมอ ไม่ง้อ)
แล้วเราก็เจอกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.....พอเราเป็นแฟนกัน ทำไมเราคุยกันไม่ได้ เข้ากันไม่ได้ ขึ้นเสตตัสได้สามวันเอง ก็ระหองระแหง เล่ามาทั้งหมดนี่ยังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์เลยครับ แล้วพี่เขาก็นัดผมไปเจอในวันหนึ่ง พร้อมกับบอกเลิก พี่เขาบอกว่าพี่ขอโทษ พี่รักน้องไม่ได้ ความเป็นพี่น้องมันมากกว่าความรักว่ะ แล้วพี่ก็มีแฟนยุแล้ว พี่รอเขาเสมอ(แฟนพี่เขาเป็นทหารได้หนึ่งเดือนแล้ว) โอเคร ...ในที่สดน้ำตาผมไหลต่อหน้าพี่เขาเลย ภาพคือเรานั่งบนมอไซต์ของใครของมัน หันหน้ามองกัน ผมน้ำตาไหล พี่เขาดูตกใจนิดหน่อย เพราะไม่เคยเห็นผมร้องแบบเต็มที่ แต่ผมก็พยายามกลั้นไว้นะ ที่ร้องนี่ ไม่ใช่ว่าอะไรนักหนากับความรักหรอก แต่มันเสียใจ มันดำดิ่ง มันคิดว่า "ทำไมกูต้องเจอแต่เรื่องแบบนี้ ทำไมชีวิตถึงเจอแต่คนโกหกไม่จริงใจ คิดว่าพี่จะเข้าใจ จนผมไว้ใจใครได้ขนาดนี้ พี่ยังทำร้ายมันได้ลง " นี่คือจุดบอดของหัวใจผมครับ แต่สุดท้าย ผมบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยผมไว้แบบนี้แหละ เป็นพี่น้องก็ได้" แล้วเราค่อยคุยกันได้ พร้อมกับความรู้สึกที่สบายใจมากขึ้นกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะเป็นแบบนี้แล้วไม่ต้อง กลัวเรื่องงอล ง้อ เถียงกัน หรือกลัวความสัมพันธ์จะขาด มันเลยสบายใจมากขึ้น จนพี่เขาบอกว่า
"พี่บอกแล้วเป็นพี่น้องกัน พี่ทำให้ได้ทุกอย่าง ทุกอย่างระหว่างเรา แต่ช่วยเข้าใจพี่หน่อยนะ พี่ไม่สามารถทิ้งคนที่พี่สัญญาได้เลย"
ผมก็ได้แต่ครับๆ เพราะเข้าใจจริงๆ
...พอเราลงตัว ผมเอางานไปให้พี่เขาทำที่บ้าน(เป็นงานที่เคยตกลงว่าจะแลกกับตัวพี่เขา55) และเป็นครั้งแรกที่เคยไปบ้าน เข้าห้องนอนพี่เขา (เอ่อ ตอนได้เป็นแฟนได้แค่หลบคนแถวริมสระ แต่พอเป็นน้องได้เข้าห้องเว้ยเห้ย 5555 ผมรับภารกิจจากพี่แกว่าจะโหลดเกมให้ สามเกม โอเครผมรับปาก พี่เขาก็ทำงานให้ผม ล่วงเลยเวลามาสัปดาห์ก่อนสิ้นปี เราคุยโทสับกันน้อยลง แต่กลับสนิทกันมากขึ้น พี่เขาก็รอแฟนพี่เขาต่อไป ผมก็ตั้งใจสอบเรียนต่อ โหลดเกม พี่เขาก็ทำงานให้ผม ผมไปมาหาสู่พี่เขาบ่อยมาก จนที่บ้านอัญเชิญผมกินข้าวเย็นด้วย 555 ผมยืมเสื้อพี่เขาไป รร. แต่ๆๆ ตอนนี้ให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นแฟนกันไปนะ ไม่ถอนสเตตัส เพราะอายคน55(คบกันได้สามวันเอง แหะๆ) แต่ตั้งแต่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ก็ เกือบเดือนแระ ผมไม่ค่อยว่างเท่าไหร่หรอก แต่ก็ทุ่มกำลังกายในการโหลดเกมให้พี่เขา ไอ้ผมก็แอบสงสัยนะว่าทำไมเกมมันถึงสำคัญกับพี่แกขนาดนั้น ผมก็ทุ่มเททั้งที่งานเยอะ ทั้งงานที่ รร. งานโหลดเกม ยุ่งมากจนไม่มีเวลาให้ตัวเองเลยแม้แต่วินาทีเดียว(อันนี้ไม่พูดเว่อร์นะ เรื่องจริงๆ)
....ผมโหลดเกมจนเหนื่อยอะ สุขภาพ จนพี่เขาบอกว่า งั้นเอามา พี่ทำเอง ถึงพี่ทำอะไรกับคอมไม่เป็นเลย แต่พี่ก็จะทำเอง คือผมน้ำตาไหล มันโกรธตัวเองที่ทำให้ไม่ได้ พี่เขายังทำงานให้ผมออกมาดีมากก แล้วทำไมผมถึงทำให้ไม่ได้ ผมลุกขึ้นมากลางดึก แต่ทำยังไงก็ทำไม่ได้ เพราะเกมมันโดนแบนแล้ว ผมกลับมาบอกขอโทษพี่เขา ทำให้ไม่ได้จริงๆ พี่เขาก็บอกว่าม่เป็นไร นอนเถอะ ผมเลยถามพี่เขาไป เกมสำคัญกับพี่มากแค่ไหน แล้วคำตอบก็แทบทำผมล้มลง
"มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พี่รู้สึกอ่นใจเหมือนมีพ่อกับแม่อยู่ตลอดเวลา ปีใหม่นี้พ่อจะมาเล่นเกมกับพี่ และพี่ก็อยากได้เกมนี้ก่อนปีใหม่ เพราะ ปีใหม่มันก็เป็นเทศกาลเดียวที่จะได้อยู่กับพ่อแม่" พระเจ้า ผมน้ำตาไหล เข้าความรู้สึกนี้เลย แต่จะให้ทำไงได้ก็เกมมันโดนแบน พี่เขาก็ได้แต่บอกเศร้าๆว่าไม่เป็นไรน้องชาย แล้วผมก็ถามว่า เอาเกมอื่นได้มั้ย พี่เขาก็บอกว่าได้ๆ ผมก็โอเคร และโหลดได้จนเสร็จในคืนนั้น(ไม่ได้นอนเลย)
พอตื่นเช้ามาอีกที รู้ข่าวบางอย่างที่ทั้งช้อคและเสียใจปนดีใจ
#พี่เขาเลิกกับแฟนทหารแล้วเพราะว่าทหารคนนั้นไปมีคนอื่น
ดีใจเพราะอะไรไม่ต้องบอกนะครับ แต่ที่เสียใจหนิ เพราะพี่เขาเพ้อมากๆๆๆ เพ้อจนผมรู้สึกว่า พี่เขาคงจะรักพี่คนนั้นมาก(ผมมีเฟสพี่ทหารแต่ไม่เคยบอกพี่เขานะ) นี่ขนาดโดนทิ้ง มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเทียบกับคนนั้นไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่สำหรับพี่เขา ต่อให้ที่ผ่านมาทำดีให้ตายแค่ไหน พี่เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลย พี่เขาเพ้อเฟส ผมก็เพ้อเหมือนกันครับ...
เราเจอกันอีกครั้งในวันที่ 30 ธค. 58 ตามนัดวันนี้เอาคอมมาคืนพี่เขาพร้อมเอาเกมมาให้ ผมเห็นพี่เขาครั้งแรก ก็ได้แต่ฝืนยิ้มทักไปว่า "โห นี่โดนทิ้งแล้วตัดผมเลยหรอ ฮาๆ" พี่เขาก็บอกว่าบ้า แล้วทวงเกม แล้วก็เล่นอย่างมีความสุข ผมก็นอนรอพี่เขาเล่นจนเย็นๆ แล้วบอกพี่เขาว่า ไปซื้อจอยเกมกันเถอะ เพราะผมมาหาเพราะว่าจะพาไปซื้อ แต่สุดท้ายพี่เขาก็บอกว่า พี่จะไปซื้อกับเพื่อน เพราะผมไม่รู้จักร้าน ก็งอลเลยครับ เก็บของ แล้วขึ้นรถกลับบ้านไม่พูดไม่ลาอะไรสักคำ...แต่ถึงจะน้อยใจ สุดท้ายก็หายอยู่ดี
พอวันที่ 31 วันสิ้นปี วันที่พ่อแม่พี่เขามา ก็ปล่อยให้มีความสุขกับครอบครัวไป แต่ผมหนีครอบครัวแล้วไปเค้าท์ดาวน์บ้านเพื่อน ผมแวะไปซื้อตุ้กตามาในงบ 200 บาท ได้มา 3 ตัว 5555 ตัวใหญ่ราคาร้อยบาท ผมเอาไว้ให้พี่เขา ส่วนตัวเล็ก ตัวละ ห้าสิบ สีชมพูให้เพื่อน(วันเกิด) สีน้ำตาลเอาไว้สำรองเพผื่อพี่เขาไม่เอา ...ผมไปหาเพื่อน สนุกนะ จนพี่เขาโทรหาผมตอนตี1 แล้วบอกว่าพึ่งกลับจากวัด(สวดมนต์ข้ามปีกับครอบครัว) มารับพี่หน่อย ผมก็บอกเพื่อนว่าจะไปหาแฟน ไปแค่ 1ชม. มั้ง 5555 มันก็ไล่ผมไปๆ แล้วพวกมันก็นอนต่อ ตอนนั้นหนาวม้ากกกก แต่ก็ถ่อสังขารบนมอไซต์ไปหาผู้ชาย เอ้ยพี่ชาย555 พอไปรับพี่เขา เราไปที่ การแสดงหมอลำใกล้ๆ (คนอีสานครับ) โอเคร ไปดูหมอลำด้วยกัน ดู"ปก็ไปยืนหัวเราคนอื่นที่เต้น พี่แกดูมีความสุขดีนะ ดูยิ้มเต็มที่ พี่เขามองอะไรแล้วยิ้ม ผมก็ได้แต่มองตาแล้วหัวเราะแก แกก็ถามว่าหัวเราะอะไร555 ผมก็บอกเปล่าๆ เราก็ยืนๆนั่งๆ ท่ามกลางการแสดง คนเมา ขวดเหล้า และกลิ่นบุหรี่อาครับ พอหมอลำจบตอนตี2 พี่เขาก็บอกว่าไปไหน ผมบอกว่าผมไม่อยากกลับตอนนี้ พี่เขาเลยบอกว่างั้นไปสวนสาธารณะกัน ผมก็นึกในใจว่า ไปที่มืดๆเนี่ยนะ แต่ก็ไปยุดี55
..ช่วงที่ขับรถไป พี่เขาซ้อนท้าย แล้วก็บอกผมว่า ขับช้าๆหน่อย หนาวว แล้วพี่แกก็สั่น นี่ขนาดผมบังลมให้นะครับยังสั่น ส่วนผมนิสั่นยุแล้ว แต่ก็อดทน เพราะพี่แกก็ใส่เสื้อบางๆที่แสนจะถอดง่าย เอิ่ม แถมแกตัวเล็ก เอวบางยังกะ ผญ. ผมก็บอกแกว่า กอดดิๆๆ พี่เขาก็ "อ้อ นี่เป็นแผนใช่มั้ย" ผมก็หัวเราะ แล้วพี่แกก็กอด ผมก็ขำไปทั้งที่สั่นๆแล้วก็ตะโกนออกมาว่า พอใจโว้ยยยยยยย 55555
-----------------
ไปถึงสวนสา หายหนาว มืดมิด ไม่มีคน เราไปนั่งที่ลานเอนกประสงค์ ด้านนอกเป็นสนามฟุตบอล เห็นภูเขา เห็นดวงจันทร์ส่องแสงสว่างมาก คือเอาตรงๆ บรรยากาศโคตรโรแมนติก (เสียที่เป็นพี่น้องกัน ฮืออ) นั่งได้สักครู่ ดูดวงจันทร์ไป ก็มีคนมา เหมือนมามั่วสุมกันอะครับ เพราะพี่ชายคนที่นั่งข้างๆผมนี่ก็บอกว่า นี่มันเป็นที่เสียตัวนะ ผมก็ทำหน้าช้อค แต่ก็ไม่สนใจ ผมบอกพี่เขาว่า "ช่างมันเหอะเราก็อยู่ของเราไป"
และแล้วก็เกิดอาการถ้ำมองผ่านความมืด555 พี่แกก็กระซิบบอกผมว่า เอากันแล้วๆๆๆ ผมก็ขมวดคิ้ว บอกว่า "รู้ได้ไง เชี่ยวชาญจังเลยเนอะ" พี่แกก็ได้แต่มองแล้วผมก็แกล้ง ขยับเข้าไปใกล้ๆ จนหลังพี่แกติดเสา เอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ มือค้ำเสาไว้ พูดว่า
"แล้วเราล่ะ" ยิ้มเจ้าเล่ห์นิดนึง พี่แกก็บอกว่า
"อะไรๆ จะเอาตรงนี้หรอ บ้า หนาวจะตาย" ผมก็ถอดตัวเองออกมาพร้อมกับหัวเราะแล้วก็บอกว่า บ้าาาา นี่ปีใหม่แล้ว ไม่ทำหรอก
(อ้อลืมบอก ก่อนหน้านี้ เคยสปาร์คกับพี่เขาแล้วนะ คือตอนนี้สูญเสียความบริสุทธิ์แล้ว ฮืออ)
เรานั่งคุยกัน ลมหนาวเบา ผมก็ลุกขึ้นไปฉี่หลายๆครั้ง เพราะกินแอลกอฮอมาก็เยอะ พี่เขาถามผมว่า "เมาไหมเนี่ย" (พี่แกไม่กินเหล้า) ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มให้ทั้งๆที่มืดๆ แล้วก็อธิบายว่า ไม่เมาหรอกแค่ขี่รถแล้วเลยซอย ฮ่าๆ พี่แกก็บอกว่า "รู้มั้ย ไม่อยากให้กินเหล้า มันไม่ดี" ผมก็พยักหน้า แล้วก็เถียงว่า มันก็แค่ไวน์ ไม่เมาหรอก แค่มึนๆ เรานั่งคุยกัน พี่แกก็เปิดประเด็นว่า "ยังไม่เคยเห็นบ้านอุกกิดเลย" ผมเลยถามว่า "ทำไม ที่ถาม แค่อยากรู้ว่าเป็นบ้านแบบไหน อยากรู้หรือว่าอยากเห็น" พี่แกตอบว่า "อยากเห็น" ผมก็เลยยิ้มๆ บ้านผมหลุมเยอะไม่ต้องมาหรอก
พี่แกเอามือถือผมมากดดูภาพ แล้วก็แอบยิ้มผมก็ดูด้วย พี่แกดูเยอะ แทบทุกรูป จนไปถึงผลงานศิลปะของผมที่เป็นเทคนิคสีเทียนธรรมดาๆ ในคอนเซปงานสิ่งแวดล้อม แต่พี่เขาชมมันออกมาว่า สวยๆ