ก่อนอื่นเลย เราต้องขอสวัสดีปีใหม่ ปี2559 กับเพื่อนๆชาวPantipทุกคนนะคะ เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาสืบเนื่องมาจากวันนี้ฤกษ์ดีค่ะ
เป็นวันแรกของปี(เกี่ยวไหม) บวกกับว่างมากกกก ฮ่าาๆๆๆ หยุดยาวปีใหม่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกะเขา นอนเหงาๆอยู่ในกทม.
เลยนั่งดูรูปเก่าๆในกล้องแล้วก็เห็นรูปค่ะ เลยคิดขึ้นมาได้ ว่าเฮ้ยยยย...เราเองก็ถ่ายรูปที่ Lala Mukha Tented Resort เขาใหญ่
ที่ที่เราเคยไปพักเมื่อเดือน กันยายน ปีที่แล้ว(2558) ไว้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย บวกกับมีกระทู้รีวิวเกี่ยวกับที่นี่กันน้อยเหลือเกิน
เลยอยากจะลงไว้เผื่อเป็นทางเลือกให้สำหรับผู้ที่ต้องการพาร่างกายไปพักผ่อน หนีความวุ่ยวาย ไปสูดรับอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดที่เขาใหญ่ค่ะ
เริ่มเลยแล้วกันนะคะ นี้เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดประการใด เราต้องขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^^"
*
*
*
จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์ค่ะ วันเสาร์ในเดือนกันยายน ตื่นนอนขึ้นมาก็รู้สึกเบื่อๆเหนื่อยๆกับการทำงาน รู้สึกว่างานในอาทิตย์นั้นหนักมาก
เบื่อรถติดในกทม. เบื่ออยู่ในห้องสี่เหลี่ยม แต่มีแรงเที่ยวนะ 5555 อยากจะออกไปเที่ยวค่ะ แต่...จะไปเที่ยวที่ไหนดีที่ใกล้ๆกับกทม.
จองก็ไม่ได้จอง อยากไปเดี๋ยวนั้นเลย เลยคิดๆๆๆๆ ไปที่ไหนดีนะ พัทยา บางแสน หัวหิน ชะอำ กาญจนบุรี แต่มาจบที่เขาใหญ่ค่ะ
เราเองรู้สึกว่าเขาใหญ่มันมีเสน่ห์ของมัน ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อค่ะ ขับรถจากกทม. 2 ชม.ก็ถึงและ เลยตัดสินใจว่าเขาใหญ่เนี่ยและ
แล้วก็คิดว่า..คราวนี้เราจะไปนอนที่ไหนกันดี อยากลองไปพักที่ใหม่ๆ Search ไป Search มาเจอ Lala Mukha Tented Resort
ดูๆแล้วน่าสนใจแฮะ ที่พักเป็นเต็นท์ติดแอร์ด้วย ต้องลองๆซะหน่อยแล้ว
เราเลยโทรไปถามค่ะ โชคดีมาก เหลือว่าง 1 เต๊นท์พอดี เป็นเต๊นท์แบบ Deluxe Savanna Tent มีห้องน้ำในเต๊นท์ เราจองเลยค่ะ
บอกเจ้าหน้าที่ว่าไปแน่ๆแต่ถึงเย็นๆหน่อย อย่าเพิ่งให้ใครนะคะ 5555 เพราะกว่าจะออกจากกทม.ก็ปาเข้าไปจะบ่าย 3 โมงแล้วค่ะ
ไปถึงที่พักก็ประมาณ 5 โมงเย็น ลืมบอกไปค่ะ ที่ตั้งของรีสอร์ท ไปง่ายค่ะ หาไม่ยาก เข้าทางแดรี่โฮม อยู่เส้นผ่านศึก-กุดหล้า
เกือบๆจะไปบรรจบถนนธนะรัชต์แล้วค่ะ รีสอร์ทอยู่หน้าถนนใหญ่ฝั่งขวามือค่ะไม่ต้องเข้าซอย ถึงแล้วค่ะ ถึงแล้วๆ นี้หน้าล็อบบี้
ทางฝั่งซ้ายมือของล็อบบี้ค่ะเป็นเหมือนที่นั่งเล่น นั่งรอเช็คอินแบบ Outdoor
เราไม่รอช้าค่ะ แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อเช็คอิน แต่...มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันค่ะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเต็นท์ที่เราจองไว้แบบ Deluxe Savanna Tent
วันนี้เต็มหมดแล้ว เนื่องจากมีการเข้าใจผิดกันเลยแจ้งลูกค้าผิด เราก็อ้าวววว - -" มองหน้ากันกับแฟน เลยถามกลับไปว่าแล้วมีแบบอื่นเหลือว่างไหมค่ะ
เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า มีค่ะเหลือ 1 เต๊นท์พอดี เนื่องจากลูกค้าเพิ่งยกเลิกจอง แต่เป็นเต็นท์แบบ Eco Safari Tent ไม่มีห้องน้ำในเต็นท์
คือต้องใช้ห้องน้ำรวม เราก็เอิ่มมม.. เอาไงดีหว่าา!! แต่พี่เจ้าหน้าที่ก็ดีมากเลยนะคะ บอกให้ไปดูห้องน้ำก่อนได้ ห้องน้ำเราสะอาดนะ
สวยนะ ไม่เหมือนห้องน้ำรวมที่อื่น เราก็แบบ..ตั้งใจมาพักที่นี้แล้ว เห็นบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ห้องน้ำรวมก็รวมเหอะ
ถึงจะผิดจากที่ตั้งใจไปนิดหน่อย แต่ก็เอาว่ะ เลยตอบกลับพี่เจ้าหน้าที่ไปว่า เอาค่ะ!! เช็คอินเลย 5555 เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เอา Welcome Drink มาให้ หน้าตาแบบนี้ค่ะ รสชาติก็เปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยดีเหมือนกันค่ะ
ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ก็เดินมาบอกเราว่าทางรีสอร์ทจะให้ Set Dinner ฟรีกับเราเพื่อเป็นรับผิดชอบและขอโทษลูกค้าที่ทำให้เกิดความผิดพลาด
เราก็แบบ งงๆ บอกไปว่าไม่เป็นไรค่ะ แต่พี่เขาก็ตอบมาว่า ทางเรายินดีให้ค่ะ เราก็เลยตอบกลับไปว่า..งั้นเราก็ยินดีรับค่ะ 5555
สรุปว่าเย็นนั้นที่ตั้งใจจะไปทานข้าวเย็นกันข้างนอกก็อด ไม่ได้ไปค่ะ ทานกันอยู่ในรีสอร์ทเลย
นี่เป็นภาพบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทนะคะ
ทางเดินออกจากล็อบบี้ไปสู่เต็นท์ที่พักของเราค่ะ
บรรยากาศวันนั้นก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอยู่เหมือนกันค่ะ เนื่องจากว่ายังเป็นช่วงฤดูฝนอยู่
และแล้ว..ก็เดินมาถึงเต็นท์ของเรากันค่ะ
มาดูภายในเต็นท์กันบ้างดีกว่า เราถ่ายมานิดหน่อยเอง ส่วนใหญ่มัวแต่ถ่ายวิวข้างนอกค่ะ
พอวางกระเป๋ากันเสร็จสรรพ จากนั้นเราก็เดินไปดูห้องน้ำก่อนเลยค่ะ อยากเห็นๆ
แต่เนื่องจากเราไม่ได้ถ่ายรูปภายในห้องน้ำไว้เพราะว่ามีคนกำลังแต่งตัวกันอยู่ เกรงใจเขาค่ะ
เลยจะนำรูปภาพจากใน Website ของรีสอร์ทมาให้ดูแทนนะคะ เป็นห้องน้ำรวมที่สวยและสะอาดมากค่ะ
ภายในก็มีไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม แต่พลาดตรงไม่มียาสีฟันค่ะ
แล้วเราก็ไม่ได้เอาไป เลยต้องขอคนอื่นแทนค่ะ!!
จากนั้นก็เราก็เดินสำรวจและเดินกลับมาทางล็อบบี้ค่ะ เก็บภาพบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทกันต่อค่ะ
และแล้วก็ได้เวลามื้อดินเนอร์ของเราค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง 5555
เราเลือกที่จะขึ้นไปทานด้านบนเพื่อที่จะได้เห็นวิวในมุมสูงขึ้นมาอีกหน่อยค่ะ
แล้วก็ไม่ผิดหวัง มีลมเย็นๆพัดมาตีหน้าหน่อยๆ แบบว่าบรรยากาศ ณ ตอนนั้นโรแมนติ๊กโรแมนติก
เริ่มค่ำ แสงไฟยามค่ำคืนก็มาค่ะ
วิวที่เห็นเป็นฝั่งของเต็นท์แบบ Deluxe Savanna Tent ค่ะ ต้องเดินข้ามสะพานแขวนไปอีกฝั่ง
ระหว่างที่รออาหารก็สั่งสมูทตี้มาดูดดื่มท่ามกลางขุนเขาซะหน่อย ฟินเลยยยย
เราไม่ได้ถ่ายภาพอาหาร Set Dinner มาให้ดูนะคะ หิวค่ะตอนนั้น ได้ปุ๊บกินปั๊บลืมถ่าย 5555
แต่รสชาติอาหารที่นี่อร่อยค่ะ แต่ก็กินไม่หมดเพราะเยอะมาก ทานเสร็จแล้วก็กลับไปนอนตีพุงทิ้งตัวลงนอนในเต็นท์ค่ะ
*
*
ตื่นเช้ามาบรรยากาศก็ดีงามพระราม 8 มั่กมากก เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เต็นท์เขาดีค่ะไม่มีน้ำซึมเข้ามาเลย
ทุกอย่างเลยดูชุ่มฉ่ำ ดูเขียวขจีไปหมด มีเมฆหมอกจางๆลอยต่ำ อยากจะหยุดเวลาไว้จริงๆ
นี่เป็นทางเดินระหว่างไปสระว่ายน้ำค่ะ
เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกน้ำในสระว่ายน้ำเลยขุ่นไปนิดหน่อยค่ะ
แต่บรรยากาศโดยรอบสระ ยามเช้านี้สวยจริงๆเลยค่ะ อยากให้มาเห็นเองกับตา
นี่เป็นอีกหนึ่งมุมสวยๆ ที่ถ่ายมาจากทางสระว่ายน้ำค่ะ
แอบเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ฝั่งทางเต็นแบบ Deluxe Savanna Tent ที่ตอนแรกตั้งใจจะมาพักค่ะ
ที่รีสอร์ทนี้มีสะพานแขวนด้วยนะคะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยค่ะ
เดินๆอยู่ก็เริ่มจะหิว!! ท้องร้องแล้วค่ะ ไปหาอะไรทานยามเช้ากันดีกว่า
อาหารที่นี้ก็หลากหลายดีนะคะ แต่ไม่ถึงกับเยอะมาก เสียดายลืมถ่ายเอาไว้
รับน้ำส้มมาดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมค่ะ
ทานข้าวเสร็จเราก็มาเดินเล่น แล้วเก็บรูปกันต่อค่ะ
[CR] พาร่างกายไปพัก รับโอโซนให้ชุ่มปอด ทิ้งตัวนอนเต็นท์หรู @Lala Mukha Tented Resort เขาใหญ่ **รูปเยอะ**
เป็นวันแรกของปี(เกี่ยวไหม) บวกกับว่างมากกกก ฮ่าาๆๆๆ หยุดยาวปีใหม่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกะเขา นอนเหงาๆอยู่ในกทม.
เลยนั่งดูรูปเก่าๆในกล้องแล้วก็เห็นรูปค่ะ เลยคิดขึ้นมาได้ ว่าเฮ้ยยยย...เราเองก็ถ่ายรูปที่ Lala Mukha Tented Resort เขาใหญ่
ที่ที่เราเคยไปพักเมื่อเดือน กันยายน ปีที่แล้ว(2558) ไว้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย บวกกับมีกระทู้รีวิวเกี่ยวกับที่นี่กันน้อยเหลือเกิน
เลยอยากจะลงไว้เผื่อเป็นทางเลือกให้สำหรับผู้ที่ต้องการพาร่างกายไปพักผ่อน หนีความวุ่ยวาย ไปสูดรับอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดที่เขาใหญ่ค่ะ
เริ่มเลยแล้วกันนะคะ นี้เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดประการใด เราต้องขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^^"
*
*
*
จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์ค่ะ วันเสาร์ในเดือนกันยายน ตื่นนอนขึ้นมาก็รู้สึกเบื่อๆเหนื่อยๆกับการทำงาน รู้สึกว่างานในอาทิตย์นั้นหนักมาก
เบื่อรถติดในกทม. เบื่ออยู่ในห้องสี่เหลี่ยม แต่มีแรงเที่ยวนะ 5555 อยากจะออกไปเที่ยวค่ะ แต่...จะไปเที่ยวที่ไหนดีที่ใกล้ๆกับกทม.
จองก็ไม่ได้จอง อยากไปเดี๋ยวนั้นเลย เลยคิดๆๆๆๆ ไปที่ไหนดีนะ พัทยา บางแสน หัวหิน ชะอำ กาญจนบุรี แต่มาจบที่เขาใหญ่ค่ะ
เราเองรู้สึกว่าเขาใหญ่มันมีเสน่ห์ของมัน ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อค่ะ ขับรถจากกทม. 2 ชม.ก็ถึงและ เลยตัดสินใจว่าเขาใหญ่เนี่ยและ
แล้วก็คิดว่า..คราวนี้เราจะไปนอนที่ไหนกันดี อยากลองไปพักที่ใหม่ๆ Search ไป Search มาเจอ Lala Mukha Tented Resort
ดูๆแล้วน่าสนใจแฮะ ที่พักเป็นเต็นท์ติดแอร์ด้วย ต้องลองๆซะหน่อยแล้ว
เราเลยโทรไปถามค่ะ โชคดีมาก เหลือว่าง 1 เต๊นท์พอดี เป็นเต๊นท์แบบ Deluxe Savanna Tent มีห้องน้ำในเต๊นท์ เราจองเลยค่ะ
บอกเจ้าหน้าที่ว่าไปแน่ๆแต่ถึงเย็นๆหน่อย อย่าเพิ่งให้ใครนะคะ 5555 เพราะกว่าจะออกจากกทม.ก็ปาเข้าไปจะบ่าย 3 โมงแล้วค่ะ
ไปถึงที่พักก็ประมาณ 5 โมงเย็น ลืมบอกไปค่ะ ที่ตั้งของรีสอร์ท ไปง่ายค่ะ หาไม่ยาก เข้าทางแดรี่โฮม อยู่เส้นผ่านศึก-กุดหล้า
เกือบๆจะไปบรรจบถนนธนะรัชต์แล้วค่ะ รีสอร์ทอยู่หน้าถนนใหญ่ฝั่งขวามือค่ะไม่ต้องเข้าซอย ถึงแล้วค่ะ ถึงแล้วๆ นี้หน้าล็อบบี้
ทางฝั่งซ้ายมือของล็อบบี้ค่ะเป็นเหมือนที่นั่งเล่น นั่งรอเช็คอินแบบ Outdoor
เราไม่รอช้าค่ะ แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อเช็คอิน แต่...มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันค่ะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเต็นท์ที่เราจองไว้แบบ Deluxe Savanna Tent
วันนี้เต็มหมดแล้ว เนื่องจากมีการเข้าใจผิดกันเลยแจ้งลูกค้าผิด เราก็อ้าวววว - -" มองหน้ากันกับแฟน เลยถามกลับไปว่าแล้วมีแบบอื่นเหลือว่างไหมค่ะ
เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า มีค่ะเหลือ 1 เต๊นท์พอดี เนื่องจากลูกค้าเพิ่งยกเลิกจอง แต่เป็นเต็นท์แบบ Eco Safari Tent ไม่มีห้องน้ำในเต็นท์
คือต้องใช้ห้องน้ำรวม เราก็เอิ่มมม.. เอาไงดีหว่าา!! แต่พี่เจ้าหน้าที่ก็ดีมากเลยนะคะ บอกให้ไปดูห้องน้ำก่อนได้ ห้องน้ำเราสะอาดนะ
สวยนะ ไม่เหมือนห้องน้ำรวมที่อื่น เราก็แบบ..ตั้งใจมาพักที่นี้แล้ว เห็นบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ห้องน้ำรวมก็รวมเหอะ
ถึงจะผิดจากที่ตั้งใจไปนิดหน่อย แต่ก็เอาว่ะ เลยตอบกลับพี่เจ้าหน้าที่ไปว่า เอาค่ะ!! เช็คอินเลย 5555 เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เอา Welcome Drink มาให้ หน้าตาแบบนี้ค่ะ รสชาติก็เปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยดีเหมือนกันค่ะ
ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ก็เดินมาบอกเราว่าทางรีสอร์ทจะให้ Set Dinner ฟรีกับเราเพื่อเป็นรับผิดชอบและขอโทษลูกค้าที่ทำให้เกิดความผิดพลาด
เราก็แบบ งงๆ บอกไปว่าไม่เป็นไรค่ะ แต่พี่เขาก็ตอบมาว่า ทางเรายินดีให้ค่ะ เราก็เลยตอบกลับไปว่า..งั้นเราก็ยินดีรับค่ะ 5555
สรุปว่าเย็นนั้นที่ตั้งใจจะไปทานข้าวเย็นกันข้างนอกก็อด ไม่ได้ไปค่ะ ทานกันอยู่ในรีสอร์ทเลย
นี่เป็นภาพบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทนะคะ
ทางเดินออกจากล็อบบี้ไปสู่เต็นท์ที่พักของเราค่ะ
บรรยากาศวันนั้นก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอยู่เหมือนกันค่ะ เนื่องจากว่ายังเป็นช่วงฤดูฝนอยู่
และแล้ว..ก็เดินมาถึงเต็นท์ของเรากันค่ะ
มาดูภายในเต็นท์กันบ้างดีกว่า เราถ่ายมานิดหน่อยเอง ส่วนใหญ่มัวแต่ถ่ายวิวข้างนอกค่ะ
พอวางกระเป๋ากันเสร็จสรรพ จากนั้นเราก็เดินไปดูห้องน้ำก่อนเลยค่ะ อยากเห็นๆ
แต่เนื่องจากเราไม่ได้ถ่ายรูปภายในห้องน้ำไว้เพราะว่ามีคนกำลังแต่งตัวกันอยู่ เกรงใจเขาค่ะ
เลยจะนำรูปภาพจากใน Website ของรีสอร์ทมาให้ดูแทนนะคะ เป็นห้องน้ำรวมที่สวยและสะอาดมากค่ะ
ภายในก็มีไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม แต่พลาดตรงไม่มียาสีฟันค่ะ
แล้วเราก็ไม่ได้เอาไป เลยต้องขอคนอื่นแทนค่ะ!!
จากนั้นก็เราก็เดินสำรวจและเดินกลับมาทางล็อบบี้ค่ะ เก็บภาพบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทกันต่อค่ะ
และแล้วก็ได้เวลามื้อดินเนอร์ของเราค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง 5555
เราเลือกที่จะขึ้นไปทานด้านบนเพื่อที่จะได้เห็นวิวในมุมสูงขึ้นมาอีกหน่อยค่ะ
แล้วก็ไม่ผิดหวัง มีลมเย็นๆพัดมาตีหน้าหน่อยๆ แบบว่าบรรยากาศ ณ ตอนนั้นโรแมนติ๊กโรแมนติก
เริ่มค่ำ แสงไฟยามค่ำคืนก็มาค่ะ
วิวที่เห็นเป็นฝั่งของเต็นท์แบบ Deluxe Savanna Tent ค่ะ ต้องเดินข้ามสะพานแขวนไปอีกฝั่ง
ระหว่างที่รออาหารก็สั่งสมูทตี้มาดูดดื่มท่ามกลางขุนเขาซะหน่อย ฟินเลยยยย
เราไม่ได้ถ่ายภาพอาหาร Set Dinner มาให้ดูนะคะ หิวค่ะตอนนั้น ได้ปุ๊บกินปั๊บลืมถ่าย 5555
แต่รสชาติอาหารที่นี่อร่อยค่ะ แต่ก็กินไม่หมดเพราะเยอะมาก ทานเสร็จแล้วก็กลับไปนอนตีพุงทิ้งตัวลงนอนในเต็นท์ค่ะ
*
*
ตื่นเช้ามาบรรยากาศก็ดีงามพระราม 8 มั่กมากก เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เต็นท์เขาดีค่ะไม่มีน้ำซึมเข้ามาเลย
ทุกอย่างเลยดูชุ่มฉ่ำ ดูเขียวขจีไปหมด มีเมฆหมอกจางๆลอยต่ำ อยากจะหยุดเวลาไว้จริงๆ
นี่เป็นทางเดินระหว่างไปสระว่ายน้ำค่ะ
เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกน้ำในสระว่ายน้ำเลยขุ่นไปนิดหน่อยค่ะ
แต่บรรยากาศโดยรอบสระ ยามเช้านี้สวยจริงๆเลยค่ะ อยากให้มาเห็นเองกับตา
นี่เป็นอีกหนึ่งมุมสวยๆ ที่ถ่ายมาจากทางสระว่ายน้ำค่ะ
แอบเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ฝั่งทางเต็นแบบ Deluxe Savanna Tent ที่ตอนแรกตั้งใจจะมาพักค่ะ
ที่รีสอร์ทนี้มีสะพานแขวนด้วยนะคะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยค่ะ
เดินๆอยู่ก็เริ่มจะหิว!! ท้องร้องแล้วค่ะ ไปหาอะไรทานยามเช้ากันดีกว่า
อาหารที่นี้ก็หลากหลายดีนะคะ แต่ไม่ถึงกับเยอะมาก เสียดายลืมถ่ายเอาไว้
รับน้ำส้มมาดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมค่ะ
ทานข้าวเสร็จเราก็มาเดินเล่น แล้วเก็บรูปกันต่อค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น