เบื่อกับชีวิตที่ต้องโดนพูดว่าทุกวัน

พ่อกับแม่เราเลิกกันตั้งแต่เราอายุ2-3 ปีประมาณนี้จำไม่ได้แล้วแต่ก็ไม่ได้จะเอามาเป็นข้อด้อยให้กับตัวเองหรืออะไรเพราะเราเข้าใจชีวิตคู่ฝืนอยู่กันไปก็เท่านั้นเลิกไปดีกว่าถ้าพูดตรงๆ ตอนนั้นยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจว่าเลิกกันเพราะอะไรแต่ทางครอบครัวของเราก็เล่าให้ฟังว่าพ่อเราค่อนข้างก้าวร้าวใช้อารมณ์มากเกินไปไม่มีใครทนได้เลยตัดสินใจเลิกกัน
               เราเลยอยู่กับครอบครัวของแม่ซึ่งมีธุรกิจส่วนตัวทำให้มีฐานะพอสมควร เราไม่ได้ลำบากอะไรแล้วแม่เราก็เป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลทุกอย่างในบ้านตั้งแต่งาน แล้วก็แก้ไขปรับปรุงบางอย่างในบ้านเราก็รู้สึกสบายมากๆที่ไม่ต้องทำอะไรเลยตรงๆคือมีหน้าที่เรียนแล้วก็เป็นเด็กดีของทุกคนในครอบครัว คุยเล่นกับเพื่อน ไปเที่ยว แต่งตัว ช้อปปิ้ง โง่ไปวันๆ ซึ่งก็ไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนใช่มั้ยคะ แต่คือเราเป็นคนที่ทำอะไรก็ผิดไปหมดในสายตาแม่เราทำให้เรากลัวแม่มากๆตอนเด็กๆคิดว่าผีน่ากลัวที่สุดในโลกแล้ว แต่พอตอนนี้คิดว่าแม่เราน่ากลัวที่สุดละค่ะ คือไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนดุโดนว่าไปซะทุกอย่างตั้งแต่เราเด็กๆก็โดนว่ายันมหาลัยคือมันทำให้เรารู้สึกแย่นะเอาจริง มันทำให้ลึกๆเรารู้สึกว่าเราเป็นคนเก็บกดหน้าไหว้หลังหลอกบ้างบางครั้งเพราะเราก็คงต้องทำให้ทุกอย่างมันperfectต่อหน้าแม่เรา แต่ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ต้องมีเรื่องให้หงุดหงิดโมโหกันตลอดเวลาซึ่งก็คิดว่าไม่ได้จะไปทำให้ใครตายรึเปล่า
                แม่เราคิดว่าเค้าทำถูกอยู่คนเดียวไม่มีการยอมรับหรือทำความเข้าใจว่าเราทุกอย่างไม่เคยฟังเหตุผลของเราเลยสักครั้ง เช่น ตื่นสาย(9.00ในวันเสาร์/อาทิตย์) เดินลงส้นเท้า พับผ้าขอบไม่ชนมุม วันๆเล่นแต่โทรศัพท์ พูดจาไม่ดี ชักสีหน้า ความคิดไม่เคยตรงกัน ใช้ตังเก่ง ไม่มีความชั่งสังเกต อันนี้ที่หลักๆอะค่ะจริงๆมีอีกเยอะตอนนี้อยากจะหาทางแก้มากๆไม่อยากจะหนีปัญหาอะไรทั้งนั้นถึงอย่างน้อยก็หาทางเลี่ยงค่ะ
                ตอนนี้เราเรียนอยู่มหาลัยพอมีเรียนก็บก็ไปอยู่หอโอ้โหหหหนึกว่าสวรรค์แต่ก็เลวนะที่คิดแบบนี้คือเราเป็นคนรักอิสระอะค่ะ แต่บางทีก็โทรมาว่าได้แล้วแต่อารมณ์ คือเราคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วนะแต่ยังไงก็พัฒนาให้ดีขึ้นได้ไม่จำเป็นต้องมาตะโกนใส่กันขนาดนี้ ที่บ่อยสุดคือตอนอยู่บนรถตะโกนว่าเราจนเราหูอื้อ ปวดหัว บางครั้งตีเราแรงมาก พูดอะไรก็เหมือนเถียงไปหมด แล้วก็มีประโยคประจำตัวที่พูดกับเราบ่อยๆ เช่น เหมือนพ่อแกไม่มีผิดเลย ถ้าทำนิสัยอย่างนี้ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ ถ้าคิดว่าเก่งมากก็ออกจากบ้านไปเลยสิ ถ้าเกลียดชั้นก็บอกมาตรงๆก็ได้นะ ใครๆก็คิดว่าชั้นเลวแกด้วยอีกคนนึงใช่มั้ย ทำงานมาเหนื่อยๆทำไมชั้นต้องมาเหนื่อยเรื่องแกอีกเนี่ย ถ้าไม่ติดแกนะชั้นไม่มาทนอยู่แบบนี้หรอกที่ต้องมาเป็นอยู่แบบนี้ก็เพราะแกคนเดียวรู้มั้ย อันนี้คือหลักๆนะคะทุกครั้งที่ว่าเรามั่นใจเลยว่าไม่เคยเถียงแต่เอาจริงๆเราโมโหมาก คงจะมีทำสีหน้าบ้างแบบไม่รู้ตัวคือว่าเราบ่อยมากว่าทำสีหน้าแต่คือคนโดนว่าจะให้มีอารมณ์มายิ้มมันก็ไม่ใช่แล้ว
                พูดกันตรงๆเราว่ายังไงก็ไม่มีทางเข้าใจกันอะค่ะ คือทางที่ดีคือไม่ต้องเจอหน้ากันบ่อยน่าจะดีที่สุด คือเราก็ไม่ได้จะไปทำให้ใครเดือดร้อนหรือเสียชื่อเสียงต่อวงศ์ตระกูล แต่ว่าเราขนาดนั้นเราว่ามากเกินไปรู้สึกแต่ละคำพูดทำให้เราอยากตายมากเหมือนอยู่ไปก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร แค่คิดว่าอยากตายนะคะไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตาย เราเหนื่อยมากๆแล้ว เราไม่อยากจะทนแล้วอะดูเป็นลูกที่แย่แต่คือเราไม่มีความสุขถึงจะให้ตังเราใช้ยังไงเราก็รู้สึกเหมือนเป็นหนี้บุญคุณ คือแม่เราทำบุญทำทาน คิดดี ใจเป็นกุศล ช่วยเหลือคนที่ลำบากตลอด เสียอยู่อย่างเดียวคือใช้อารมณ์เป็นหลักทำให้ทุกอย่างที่ทำมันดูเลวร้ายทำให้คนอื่นคิดว่าเป็นคนเลวอะค่ะ เรารู้ว่าเป็นเพราะน้ำเสียงและคำพูด แต่แค่เราไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไงแล้วมันก็ทำให้กลายเป็นคนเครียดๆ คือเครียดทั้งบ้านทั้งๆที่ไม่ได้จะมีอะไรมากมายอะค่ะ เหนื่อยใจจริงๆเหมือนเป็นที่รองรับอารมณ์ ใครพอมีวิธีแก้รบกวนแนะนำมาทีนะคะ ขอบคุณค่ะดอกไม้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่