ยอดสะสมครบปี 1992 - 2014 จ้า
(ที่มาของตารางข้อมูล : Bsis 2.2 ของ Bualuang จ้า)
1. ต่างชาติ
ยังคง Net Buy สะสมประมาณ 200,000 ล้านบาท แปลว่าอาจจะปล่อยของได้อีก และ ต้นทุนเฉลี่ยก็คงไม่น่าจะสูงมากนัก
ซึ่ง Theme การลงทุนของต่างชาติ ในปี 2558 นั้น ก็ยังจับทิศทางได้ยาก เพราะด้วยเหตุผลบางประการในประเทศ
2. กองทุน/สถาบันในประเทศ
Net Buy 140,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก แบบไม่เคยเจอมาก่อน = =''
เพราะทำไม?? เด่วไปดูอีกตารางข้างล่างจะเห็นภาพชัดเจนมายิ่งขึ้น
3. โบรคเกอร์
Net Sell สะสมประมาณ 30,000 ล้านบาท (สงสัยขายทำกำไรออกไปตอนช่วงปี 1992 - 1999 เป็นส่วนใหญ่นะ)
แต่อย่างไรก็ตาม สไตล์การลงทุนของ Broker นั้นจะเป็นแบบนักเก็งกำไรหุ้นสุดๆ เลยก็ได้ว่า
ลองกลับไปสังเกตนะ โบรคเกอร์จะเล่นเก็งกำไรใน 1 ปี เท่านั้น (ถือยาวน้อยมาก เพราะจากยอดสะสมยังเป็น Net Sell เลยอะ -*-)
และที่สำคัญ ณ วันที่ Set ลงแรงๆ ในช่วงเดือนธันวาคม 2557 ทางโบรคเกอร์เองก็กระหน่ำเทขายกันแบบสุดๆ
ซึ่งก่อนหน้านั้น เพื่อนๆ คงยังจำกันได้นะ มีบางสำนักมองว่า ดัชนีจะไป XXXX จุด เท่านั้น เท่านี้
โอโหแม่เจ้าาาาาาาาาาาาาา ไม่กี่วันต่อมา ทุบกระจุย เลยจ้าาาาาาาาา - ... - ''
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า
ถ้าเดือนไหนโบรคเกอร์ ซื้อหุ้นสะสมเยอะแบบผิดปกติมากๆ (สังเกตยอดสะสมเดือน พฤศจิกายน 2014)
แปลว่า ให้ระวังไว้ให้ดี เพราะไม่แน่ว่าเค้าจะทุบหนักๆ ก็ได้เป็นได้จ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปภาพจาก : Sinthorn Summary
ปล. น้องสี่แอบสงสัยอยู่นะ ช่วงกลางเดือนธันวาคม 57 ช่วงนั้น Broker + ต่างชาติ เทกระจาดพร้อมกันเลย
เค้าจะรู้กันหรือเปล่าหนอ = . =''
4. รายย่อย
Net Sell ไปราวๆ 320,000 ล้านบาท (ยอดแอบเยอะจัง = ='')
อาจจะมองได้ว่า ทั้งๆ ในบางทีเรามีของดีอยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่ดันปล่อยของดีหลุดมือไป???
แต่ในอีกด้านนึง ก็อาจมองได้ว่า เพราะรูปแบบการลงทุนของแต่ละคนนั้น มันไม่เหมือนกันไง ใช่ม้าาาา
คนนึงลงทุนสั้น Day Trade อีกคนถือหุ้นระยะยาวหน่อย 2 - 3 ปี แต่บางคนก็ถือแล้วไม่ขายเลยก็มี ถือเอาปันผลระยะยาวมากๆ
ดังนั้น การที่รายย่อย Net Sell มาเป็นเวลาสะสม 20 ปี ก็จึงไม่ใช่สิ่งที่ผิดนะ
จะเหมารวมไปว่า Net Sell มา 20 ปี แปลว่า รายย่อยขายหมูตลอดเลยสินะ 5555+ (จะบ้าหรอ!! คิดแบบนั้นได้ไง สะมง สมอง ไปหมดละ)
เพราะตัวอย่างก็มีให้เห็นว่ารายย่อยที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้นแบบระยาว นั่นก็คือ Value Investor นั่นเอง
การที่เราไม่ไปกะเก็งกับวงจรมากจนเกินไป ก็อาจจะเป็นผลดีต่อเราก็ได้นะ เพราะหากหุ้นดี มี Growth มีปันผล
สุดท้าย สิ่งเรานี่ก็จะสะท้อนกลับไปที่ราคาหุ้นนั่นเองจ้า
Important !!
หากตัดยอดสะสมปี 2013 และ 2014 ออกไป จะพบว่า
(ที่มาของตารางข้อมูล : Bsis 2.2 ของ Bualuang จ้า)
กองทุน/สถาบันในประเทศ มีรูปแบบการลงทุนแบบ Broker ???
เพราะหากสังเกตดูยอดสะสมที่ผ่านมา 1992 - 2012 กองทุนซื้อๆ ขายๆ มาโดยตลอด
และจบท้ายปีสรุป 20 ปีที่ผ่านมา อยู่ในด้านของ Net Sell ราวๆ 30,000 ล้านบาท
ดังนั้น เมื่อวิเคราะห์การลงทุนของกลุ่มกองทุน / สถาบันในประเทศ มองได้ 3 ทางคือ
1. ทยอยปล่อยของในมือให้ นักลงทุนต่างประเทศ หรือไม่ก็รายย่อยในประเทศ เป็นหลัก
2. ทุบแรง แบบเทกระจาด? ซึ่งคงต้องไปดูข้อกำหนด + รายละเอียดของแต่ละกองทุนว่า
เวลาจะขาย ขายได้ทั้งหมดทีเดียวไหม? หรือว่าขายได้ในสัดส่วนจำกัดไม่เกินกี่ % ของการลงทุนในหุ้น??
3. ลองสังเกตยอด Net Buy ที่ผ่านมา กองทุนไม่เคย Net Buy เกิน 3 ปีนะ
เพราะดูจากที่ๆ ผ่านมา ปีที่ 4 กองทุนจะ Net Sell ในปีที่ 4 เป็นส่วนใหญ่จ้า เวลาคือคำตอบ ^^
อันนี้ต้องลองเจาะลึกกันอีกทีนึงนะ แต่ที่แน่ๆ รอบนี้ปี 2013 + 2014 คนดัน SET ขึ้นมาจาก 1200 ไป 1500 - 1600 จุด
ก็คือกองทุนนะจ๊ะ อย่าลืมตรงจุดนี้ละ รู้เขา รู้เรา นะเออ ^o^
ในอีกมุมหนึ่ง ตัวเลขที่น่าสนใจอีกด้านนึงก็คือ ฝั่งของการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ
จากปี 2009 - 2012 Net Buy มาโดยตลอด
(ยกเว้นปี 2011 เป็นปีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ จริงๆ น้องสี่มองว่า ยอดการซื้อขายปี 2011
ของนักลงทุนต่างประเทศน่าจะ Net Buy นะ ถ้าน้ำไม่ท่วมซะก่อนนะ ไม่งั้นก็จะชัดเจนเลยว่า 4 ปีเต็ม นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อตลอดจ้า)
เวลากลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศเข้ามากันที เค้าจะเข้ามาหนักมากๆ
อย่างยอดสะสมที่แสดงดังรูป ก็บอกได้ชัดเจนแล้วว่า เวลาเข้า เค้าเอาจริงๆ นะ (2009 2010 2011 2012)
แต่อย่างว่า เวลาเข้า เข้าหนัก ดังนั้น เวลาออก ก็ออกหนักจ้าาาาาาาาาาาา
ปี 2013 2014 เห็นๆ กันอยู่ 2 ปี ขายไปรวมยอดแล้วราวๆ 230,000 ล้านบาท !!!
เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะเนี่ย แต่อย่างว่ามันเป็น เกมการเงิน การลงทุน คมเฉือนคม > . <"
ดังนั้น น้องสี่จึงขอสรุปโดยรวมว่า ใน 1 - 2 ปีข้างหน้านี้
การลงทุนจะเป็นช่วงเวลาที่ Challenge มากๆ จ้าาาาาาา
*** เพิ่มเติมวิธีการเข้าไปดูสรุปยอดการซื้อ-การขาย จ้า ***
ถ้ามีบัญชีหลักทรัพย์ของบัวหลวง สามารถเข้าไปโหลดตาราง Excel ได้ตามรูปเลยจ้า
วิธีการเข้าน้า
1. เข้า Bsis 2.2 ทางด้านซ้ายบน
2. ไปที่หัวข้อ Market เลือก Customer Type
3. เลือกช่วงเวลา(วันที่)ที่จะดูยอดซื้อ ยอดขาย
สามารถเลือกดูเป็นยอดของแต่ละ วัน Daily , เดือน Monthly หรือ เป็นปี Yearly ก็ได้จ้า
จากนั้นกด >> Go <<
4. หลังจากเลือกวันที่ + ช่วงเวลาแล้ว ให้ไปที่ด้านขวาบน จะมีคำว่า Export to Excel
เราจะสามารถ Download ออกมาเป็นไฟล์ Excel ได้เลยน้า จากนั้น ก็ปรับแต่งตารางตามอัธยาศัยได้เลยจ้า
Link ด้านล่างนี้เป็นไฟล์ตาราง Excel น้า เผื่อเพื่อนๆ อยากโหลดเก็บไว้ดูกันจ้า
https://www.dropbox.com/s/arzb9ozkie18ijj/Market%20Customer%20Type%20%5E%5E.xls?dl=0
น้องสี่ขอแนะนำว่า "การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนในความรู้ นะครับ"
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" ครับ
https://www.facebook.com/StockTrader.Club
▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ น้องสี่แนะ "ปี 2558 - 2559 เตรียมรับมือกองทุน/สถาบันในประเทศ ให้ดีนะ" เพราะอะไร? มาดูกันจ้า2 █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂
ในการสรุปยอด Net Buy / Net Sell ในช่วงประมาณ 20 ปีที่ผ่านมาจ้า พอได้ลองสรุปแล้ว ก็ได้เห็นตัวเลขบางอย่างในนั้นครับ..............
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Link : http://pantip.com/topic/33051196
ผ่านปี 2558 มาแล้ว 1 ปี เนาะ เราลองมาดูกันว่า ยอดซื้อขายในแต่ละกลุ่มเป็นอย่างไรบ้างจ้า =^o^=
ด้านต่างชาติ
ยังคง Net Sell และติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว อืมมมม ก็โหดเสมอต้นเสมอปลายเนาะ Flow เข้า Flow ออก ชัดเจนตลอด
ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ในอีก 2 - 3 ปี ข้างหน้า Flow จะกลับมาไหม?
ด้านกองทุน
กลายเป็นคนรับของต่อจากต่างชาติติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปีแล้ว อืมมมม ก็น่าคิดเนาะ เอาเงินมาจากไหนเอ่ย? รายย่อยหรือเปล่านะ = =''
ถ้าคิดด้านลบ (-) โหยยยยยยยยยยยยยย ทำไมกองทุนไปรับของแพงจากต่างชาตินะ แย่จัง + เทขายเมื่อไหร่ เจ็บกันแน่นอน!!
ถ้าคิดด้านบวก (+) ขอบคุณกองทุนมากๆ ที่ช่วยดัน SET ไว้ ไม่งั้น ได้เห็นหลักร้อยจุดไปแล้วสินะ + กองทุนนี่รวยเนาะ ช้อนหุ้นได้ตลอดเลย <3
ด้านโบรคเกอร์
ไม่ได้เกินความคาดหมาย Style โบรค ก็เก็งกำไรระยะสั้นกันไป ไม่ได้สะสมถือยาวข้ามปีกันเท่าไหร่ So So สบายๆ
ด้านรายย่อย
แอ๋ แหหหหหหหหหหหห กล้าในยามที่คนอื่นกลัว กลัวในยามที่คนอื่นกล้า !! แม่เจ้า กล้ามากไป มันเลยยังไม่กลับตัวอะสิ > o <"
ปีนี้เลยจัดไป รับเพิ่มเข้า 8 หมื่นล้านบาท ก็คงต้องบอกจริงๆ ว่า ถ้ายังรับอยู่ ตลาดก็คงยังไม่ใช่เวลาขึ้นหรือเปล่า? = =''
สรุปภาพรวมในปี 2558
1. หากต่างชาติ Flow ยังไหลออกอยู่แบบนี้ คงทำให้ SET ไปไหนไม่ได้ไกลมาก
เพราะต่างชาติน่าจะยังมี NET กำไร ในส่วนต่างอีกมาก ซึ่งยอดที่ Show ในตารางเป็นเพียงส่วนทุนของต่างชาติเท่านั้น
ซึ่งแปลได้ว่า ต่างชาติยังคงสามารถขายออกมาได้เรื่อยๆ จนยอด total ของเค้าติดลบนั่นเองจ้า
อย่างไรก็ตาม น้องสี่ยังเชื่อว่ามันเป็นรอบของตลาด มีขึ้น มีลง ถ้าตอนนี้ลง แปลว่าอีกไม่นาน รอบขึ้นก็คงมาจ้า
ซึ่งรอบนั้นจะมาเมื่อไหร่ ต้องคอยติดตามดูจ้า ไม่นานเกินรอ 5 - 10 ปี นี้ละจ้า =^o^=
2. กองทุน Net Buy 3 ปี ซ้อนติดต่อกัน
ถือว่าเยอะมากๆ ในรอบหลายปี ซึ่งหากวิเคราะห์ในด้านการซื้อลงทุนแบบ LTF 5 ปี ถึงจะขายออกมา
เราก็จะนับช่วงเวลาที่กองทุนจะขายออกมาได้ประมาณนี้ครับ
ปี 2013 Net Buy (ปีที่ 1)
ปี 2014 Net Buy (ปีที่ 2)
ปี 2015 Net Buy (ปีที่ 3)
ปี 2016 Net Buy (ปีที่ 4)
คาดการณ์ ความน่าจะเป็นที่จะซื้อสะสมต่อ? เศรษฐกิจใน+นอก เริ่มฟื้น? มุมมองด้านบวกเริ่มมา?? เลือกตั้งปี 60???
ปี 2017 Net Sell (ปีที่ 5)
เริ่มทยอยขายออกมา เพราะ LTF เริ่มครบปีที่ 5 เป็นปีแรก ทำกำไรออกมาบ้างน่าจะ Safe กว่าตุน Stock ไว้เยอะๆ?
3. ด้านโบรคเกอร์
อันนี้เหมือนรู้ๆ กันหมดละ เก็งกำไรระยะสั้นเนาะ มันเป็น Style รูปแบบการลงทุนของเค้าเนาะ
ถ้าออกบทวิเคราะห์อะไรมาก็ไตร่ตรองกันให้ดีก่อนเชื่อเนาะ อะไรเป็น Fact อะไรเป็น ความคิดเห็น แยกให้ออกตรงนี้ด้วย
ไม่ใช่เชื่อไม่ได้ แต่ต้องรู้เองว่า บทวิเคราะห์จะล่าช้ากว่าความเป็นจริงเสมอ Target ที่ให้ อย่าไปเชื่อมาก ฟังเป็นพิธีพอ
เพราะว่า เวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนะ อย่างปีนี้ ถ้าลองตามบทวิเคราะห์กัน จะเห็นว่า ปรับเป้าจนจุก กันเลยที่เดียว ในหลายๆ หุ้นเนาะ
ปล. ไม่ใช่บทวิเคราะห์โบรคเกอร์หลอก หรือ โกงอะไรหรอกนะ แต่ Timing กับ ความจริง บางทีมันมี Gap ของมันอยู่เฉยๆ จ้า
4. ด้านรายย่อย
ยังคงซื้อต่อเนื่อง อันนี้ก็อาจตีความได้แปล SET ยังคงไม่สามารถขึ้นไปได้เท่าไหร่
เพราะกำลังในการดันไม่เพียงพอ เหมือนต่างคนต่างเล่น ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้คือ แบ่ง Port ให้ดีๆ ใครซื้อแล้วก็ตามแผนกันไป
แนะนำให้ใช้นโยบายในการ ทยอยซื้อ ทยอยขาย เพราะอนาคตเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การถือเงินสดไว้บ้าง ถือเป็นเรื่องที่ดีในด้านสภาพคล่องจ้า
5. ถ้านับการลงทุน Year to Date 01 Jan 2015 - 31 Dec 2015 จะเห็นว่า
ปีนี้ตลาด/SET ติดลบไปราวๆ 10% กว่าๆ - 20% เลยทีเดียว
การถือเงินสดไว้เฉยๆ ก็อาจจะชนะตลาดได้เหมือนกันนะ ไม่ต้องซื้อๆ ขายๆ ก็ชนะแล้ว * 0 *
แต่ถ้าเก็งกำไรก็อีกแง่นึงนะ เอามาเทียบกันไม่ได้ เพราะเก็งกำไร ในหุ้นที่ถูกตัว ถูกจังหวะ ก็ชนะตลาดได้เหมือนกันจ้า
ดังนั้น น้องสี่จึงขอสรุปโดยรวมว่า ใน 1 - 2 ปีข้างหน้านี้ การลงทุนจะเป็นช่วงเวลาที่ Challenge มากๆ จ้าาาาาาา