สวัสดีครับท่านผู้เข้ามาชมทุกท่าน จริงๆทริปนี้ก็ผ่านไปจะเป็นเดือนแล้ว แต่ผมทนกระแสสังคมไม่ไหว 555
เนื่องจากพี่ๆ สงสัยว่ามันยังไงของมัน เอาตังไป 10,000 บาท ไปเสีย คาซิโนที่มาเก๊า 300 HKD แล้วยังเหลือตังกลับมาอีก 2000 บาท ค่าของที่ฝากซื้ออีก 700 บาท ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ทริปนี้เริ่มต้นจากการไม่หลับไม่นอนของผมเลื่อนดูเฟสบ็คไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้จังหวะพอดี "Cathay Pacific ไปกลับ 2480" ซึ่งเป็นโปรหลุดในตำนานของใครหลายๆคน 555 จึงได้จัดทำการจอง แต่ปัญหาคือ จองไว้คนเดียว เช้าตื่นมาโทรหาที่บ้านและเพื่อนๆโดนบ่นยาวเลยครับ "ทำไมไม่จองให้ด้วย","ไม่คิดถึงกันเลย" เลยกลับไปหาดูอีกรอบตั๋วก็ได้หมดไปเสียแล้ว เริ่มจิตตกแล้วครับจะไปดีไม่ไปดี จนกระทั่งพี่ที่นั่งข้างกันตอนทำงานได้พูดขึ้นมาเลยว่า
ตั๋วราคานี้ไม่รู้จะหาได้อีกเมื่อไรนะ ไปเหอะ ผมจึงตัดสินใจจ่ายเงินค่าจองไป
เมื่อได้วันและเวลาเดินทางแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องหาก็คือที่พัก ผมตั้งใจไว้ว่าจะหาที่พักคืนละไม่เกิน 1,000 บาทแถวจิมซาจุ่ย สุดท้ายตกลงปลงใจที่ pearl guest house 10/f-premium guest house limited เป็นห้องsingle roomไม่มีหน้าต่าง ห้องน้ำส่วนตัวได้มาในราคา 2,345.73 บาท จองผ่านเอ๊กซพีเดียครับ แต่มีคนบอกว่าแถวนี้พวกแขกและคนผิวสีดุ
อ้าว!ไปคนเดียวจะโดนอะไรไหมนะ รุ่นน้องมันก็ขู่ฟ่อๆ ระวังนะพี่ เลยมาตั้งกระทู้สอบถามซึ่งได้คำตามมาว่า
Mirador mansion ไม่น่ากลัวกว่าที่คิด -*- เอะคือยังไง สรุป ตัดสินใจไม่ย้ายที่พักครับ
เมื่อตั๋วเครื่องบินพร้อม ที่พักพร้อม เหลือแผนการเที่ยวแล้วหละครับ จะไปที่ไหนยังไง ผมตัดสินใจ ไม่ไปดิสนี่ย์แลนด์ครับ เพราะไปคนเดียวกลัวเปลี่ยวหัวใจและเลือกที่จะไปมาเก๊าแทน โดยแผนคร่าวๆที่แอบลอกเพื่อนๆในพันธิปมามีหน้าตาเป็นดังต่อไปนี้ครับ
เมื่อทุกอย่างเหมือนจะเรียบร้อย ก็เหลือเพียงตัวช่วยที่จะทำให้ใช้ชีวิตที่ฮ่องกง-มาเก๊าง่ายขึ้นคือหนังสือเดินทางและตั๋วต่างๆ
ผมใช้หนังสือสองเล่มนี้ครับได้มาจากงาน ไทยเที่ยวไทย,และงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ช่วยได้มากเลยครับ เวลาเจอคนไทยถือเล่มเดียวกับเรา เอาออกมาถือมั่งเหมือน เป็นการทักทายไปในตัวครับ ^^ และ 2 สิ่งที่ผมซื้อจากเมืองไทยไปคือซิมการ์ด ซึ่งซิมที่สามารถใช้ได้ทั้งฮ่องกงและมาเก๊ามาหมดอีก -*- เลยซื้อเฉพาะซิมฮ่องกงครับตอนแรกตั้งใจจะไปรับซิมฟรีแต่กลัวเสียเวลาครับ และก็บัตรนองปิงครับ ซื้อจากเอเจ้นท์ หลักในไทยเนี่ยแหละครับลองเทียบราคาดู
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ถึงเวลาเดินทาง
19-20 พ.ย. 2558
ผมมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ 3 ทุ่มครับ ไม่ได้รีบเท่าไรเลย 555 กะว่าจะมาหาที่งีบแถว Gate แต่ไม่ได้นอนครับ นั่งทำรายงานส่งอาจารย์ จนGate เปิด และแล้วก็ได้เวลาเครื่องบินออกตรงเวลาครับ ถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกงแต่เช้ามืด ซึ่งผ่านตม.มาอย่างสบาย แม้ใบหน้าจะต่างจาก Passport ไปเยอะ เพราะอ้วนขึ้น T T เมื่อออกมาถึงก็รอกระเป๋าโหลด และไปเติมเงินบัตรปลาหมึกที่ลูกพี่ฝากมาคืน แต่เรามาเช้าไปตู้ปิด ซึ่งต้องไปเดิมบริเวรคอกกลมๆ บริเวณตู้นั่นแหละครับ ซึ่งผมเติมไป 150 HKD เอาหละได้เวลาผจญภัย
ผมเดินตามป้ายไปตามคำว่า BUS ไปเรื่อยๆ ไม่ไกลมาก็เจอ Bus terminal นั่งเจ้าสาย A21 ขึ้นรถไปก็หลับครับ บนเครื่องไม่ได้นอนเพราะแอร์เสริฟอาหาร 1 รอบ น้ำอีก 1 รอบทำให้ไม่ได้งีบเลย ไปลงที่จิมซาจุ่ยเพื่อฝากกระเป๋ากับที่พักที่จองไว้ขึ้น โดยเข้าไปตึก Mirador mansion กดลิฟท์ไปชั้น 16 มั่วจนหาเจอครับ เมื่อฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาทำตามแผน
[CR] - = H o n g K o n g - M a c u a แล้วเราจะมาพบกันใหม่ = -
เนื่องจากพี่ๆ สงสัยว่ามันยังไงของมัน เอาตังไป 10,000 บาท ไปเสีย คาซิโนที่มาเก๊า 300 HKD แล้วยังเหลือตังกลับมาอีก 2000 บาท ค่าของที่ฝากซื้ออีก 700 บาท ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ตั๋วราคานี้ไม่รู้จะหาได้อีกเมื่อไรนะ ไปเหอะ ผมจึงตัดสินใจจ่ายเงินค่าจองไป
อ้าว!ไปคนเดียวจะโดนอะไรไหมนะ รุ่นน้องมันก็ขู่ฟ่อๆ ระวังนะพี่ เลยมาตั้งกระทู้สอบถามซึ่งได้คำตามมาว่า
Mirador mansion ไม่น่ากลัวกว่าที่คิด -*- เอะคือยังไง สรุป ตัดสินใจไม่ย้ายที่พักครับ
เมื่อตั๋วเครื่องบินพร้อม ที่พักพร้อม เหลือแผนการเที่ยวแล้วหละครับ จะไปที่ไหนยังไง ผมตัดสินใจ ไม่ไปดิสนี่ย์แลนด์ครับ เพราะไปคนเดียวกลัวเปลี่ยวหัวใจและเลือกที่จะไปมาเก๊าแทน โดยแผนคร่าวๆที่แอบลอกเพื่อนๆในพันธิปมามีหน้าตาเป็นดังต่อไปนี้ครับ
เมื่อทุกอย่างเหมือนจะเรียบร้อย ก็เหลือเพียงตัวช่วยที่จะทำให้ใช้ชีวิตที่ฮ่องกง-มาเก๊าง่ายขึ้นคือหนังสือเดินทางและตั๋วต่างๆ
ผมใช้หนังสือสองเล่มนี้ครับได้มาจากงาน ไทยเที่ยวไทย,และงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ถึงเวลาเดินทาง
19-20 พ.ย. 2558
ผมมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ 3 ทุ่มครับ ไม่ได้รีบเท่าไรเลย 555 กะว่าจะมาหาที่งีบแถว Gate แต่ไม่ได้นอนครับ นั่งทำรายงานส่งอาจารย์ จนGate เปิด และแล้วก็ได้เวลาเครื่องบินออกตรงเวลาครับ ถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกงแต่เช้ามืด ซึ่งผ่านตม.มาอย่างสบาย แม้ใบหน้าจะต่างจาก Passport ไปเยอะ เพราะอ้วนขึ้น T T เมื่อออกมาถึงก็รอกระเป๋าโหลด และไปเติมเงินบัตรปลาหมึกที่ลูกพี่ฝากมาคืน แต่เรามาเช้าไปตู้ปิด ซึ่งต้องไปเดิมบริเวรคอกกลมๆ บริเวณตู้นั่นแหละครับ ซึ่งผมเติมไป 150 HKD เอาหละได้เวลาผจญภัย
ผมเดินตามป้ายไปตามคำว่า BUS ไปเรื่อยๆ ไม่ไกลมาก็เจอ Bus terminal นั่งเจ้าสาย A21 ขึ้นรถไปก็หลับครับ บนเครื่องไม่ได้นอนเพราะแอร์เสริฟอาหาร 1 รอบ น้ำอีก 1 รอบทำให้ไม่ได้งีบเลย ไปลงที่จิมซาจุ่ยเพื่อฝากกระเป๋ากับที่พักที่จองไว้ขึ้น โดยเข้าไปตึก Mirador mansion กดลิฟท์ไปชั้น 16 มั่วจนหาเจอครับ เมื่อฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาทำตามแผน