ขอบคุณทุกท่านที่กดเข้ามาอ่านกระทู้นะคะ จขกท.ได้อ่านเล่าเรื่องราวสยองขวัญของคนอื่นก็อยากเล่าบ้าง เพราะตัวเราเองก็เคยผ่านเรื่องราวลี้ลับแบบนี้มาไม่น้อยเหมือนกัน อาจจะเล่าไม่เก่งก็ขออภัยด้วยนะคะ
ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าจขกท.เป็นคนที่มีซิกเซ้นอยู่แล้ว ตัวเราเองสามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นประจำ ไม่ใช่แค่เห็นนะคะ คุยยังเคยเลยค่ะ ตัวอย่างที่เคยสำผัสได้ก็เช่น ผี เจ้าที่เจ้าทาง กุมาร บลาๆ แต่ที่บอกว่าเจอเป็นประจำนี้คือช่วงตอนเด็กๆนะคะ จำได้ว่าเจอถี่มาก เจอจนชินไปเอง แม่จะชอบมาถามบ่อยๆว่า
"น้องN เมื่อกี้หนูนั่งคุยกับใครลูก"
"น้องN หนูเล่นอยู่กับใครในห้อง"
ซึ่งตอนนั้นเราก็เริ่มจำได้บ้างแล้ว ช่วงอายุก็5-6ขวบได้ เราจำได้ว่าที่บ้านเก่าเรา มักจะมีเด็กผู้ชายคนนึงมาเล่นด้วยเสมอ แต่แม่เรากลับมองไม่เห็น ทั้งๆที่เด็กคนนั้นยืนอยู่ต่อหน้าแม่แท้ๆ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สงสัยอะไรนะ จนเราย้ายบ้านก็ไม่ได้เจออีกเลย พอโตขึ้นเราก็พอรู้ว่า สิ่งที่เราเล่นด้วยอยู่ประจำ ไม่ใช่คนแน่ๆ
ปัจจุบันก็ยังเห็นอะไรแปลกๆแบบนี้อยู่บ้าง แต่ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ จะเห็นส่วนมากก็ช่วงจิตตกมากๆ แล้วก็ช่วงที่ไม่ค่อยทำบุญแค่นั้น
และเรื่องราวที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เรากำลังจะเข้ามหาลัยค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเพราะตัวเราเองที่ทำผิดไป ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้ผู้อ่านได้เก็บไว้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อไม่เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า....
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือช่วงที่เด็กม.6ทุกคนต้องทำการแข่งกันสอบเข้ามหาลัยที่ตัวเองต้องการ ซึ่งเราเองก็มีชื่อติดที่มหาลัยแห่งหนึ่งค่ะ เหลือรอสอบสัมภาษณ์ แต่ไอสอบสัมภาษณ์นี่แหละ ที่ทำให้เราต้องมาเจอเหตุการ์ณสยองแบบที่ไม่มีวันลืมจนถึงตอนนี้
เราไม่ชอบภาษาอังกฤษมากๆค่ะและกลัวการโดนสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษมากเช่นกันตอนนั้น เราทำทุกวิธีทางเพื่อรับมือกับภาษาอังกฤษทั้งอ่าน ทั้งฝึกพูดก็ไม่เข้าหัวค่ะ และทางเลือกสุดท้ายที่เราทำคือ การไปบนศาลเจ้าที่โค้งหักศอกค่ะ (เป็นไงคะ การรับมือของเรา ทำทุกวิถีทางจริงๆ55)
เราเริ่มจากการหาโค้งที่มีศาลแตกๆหักๆที่ถูกชาวบ้านเอามาทิ้งกัน เพราะเคยได้ยินว่าถ้าเป็นตรงนั้นจะเฮี้ยนมาก ขออะไรได้หมดทุกอย่าง พอหาที่เจอเราก็ไปเลยค่ะ ไปคนเดียวด้วย เพราะกลัวคนอื่นหาว่างมงาย ไร้สาระ เราเดินทางไปในช่วงบ่ายๆได้ค่ะ พอไปถึงเราก็ยืนมองเพื่อสำรวจสักพักว่านอกจากศาลที่ชาวบ้านเอามาทิ้ง ยังมีอะไรอีก จะได้นับจำนวนธูปมาไหว้ถูก จุดศูนย์รวมของศาลแตกหักตรงนั้นคือต้นไม้ต้นใหญ่ที่ผูกเชือก3สีไว้ค่ะ มีชุดไทยแขวะไว้ที่กิ่งไม่ต่ำกว่า10ตัว มีถาดอาหาร ถาดขนม วางอยู่เต็มไปหมด ตรงนั้นมีหุ่นกุมารทอง นางขวัก นับ10ๆตัวได้ บางตัวหัวขาด บางตัวแขนหาย ถูกทิ้งไว้รอบๆศาลอีกที ศาลที่นำมาทิ้งก็สภาพยับเยินไม่แพ้กัน แถมเงาของต้นไม้ก็ทำให้บริเวณนั้นอึมครึมชอบกล ทั้งๆที่เราไปตอนบ่าย แต่ที่ตรงนั้นกลับมืดๆครึ้มๆ ลืมบอกไปค่ะ โค้งที่ว่าอยู่ในซอยลึกๆนะคะ ไม่ค่อยมีคนเข้าออกมากนัก นานๆทีจะมีรถผ่านสักคัน
เมื่อเราสำรวจเรียบร้อบ เราก็นับธูปเลยค่ะ จัดเป็น2ชุด ชุดแรก3ดอก ชุดที่2 /1ดอก เรานั่งลงหน้าศาล บอกตามตรงว่ากลัวมาก แต่ก็ยังทำต่อ ในขณะที่เรากำลังจุดไฟแช็คเพื่อเอามาต่อไฟธูป ก็มีลมแรงๆ พัดมาปะทะกับร่างเราวูปนึงทำให้ไฟแช็คของเราดับลง ลมนั้นเป็นลมที่เย็นยะเยือกช่วงขนหัวลุกมาก แต่เราก็ไม่ย่อท้อค่ะ ตอนนี้คิดอย่างเดียวทำเพื่ออนาคตคๆๆ เป็นไงเป็นกันวะ!
"ลูกมาดี ลูกจะมาขอให้เจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในที่นี้ช่วย ถ้าท่านทำให้การสอบของลูกไม่มีภาษาอังกฤษเลย ลูกจะทวาย....... ......... ........" ตอนนั้นเราจำไม่ได้ว่าเราพูดว่าจะให้อะไร แต่รู้ว่า3อย่างได้ เราปักธูปเสร็จเตรียมกลับ จู่ๆก็มีลมพัดมาจากทางด้านหลังอีกวูปนึง แต่ไม่ได้มาแค่ะลมนะคะ รอบนี้มีเสียงผู้หญิงแก่ปนอยู่ในลมนั้นด้วย เป็นเสียงที่บอกได้เลยว่าไม่ใช่เสียงของคนแก่ใจดีแน่ๆ T^T
"กูเตือนแล้วนะ...."
จบจากเสียงที่ได้ยินไม่ต้องสงสัยค่ะว่าจะทำอะไรต่ออีก เรารีบใส่ตีนหมาวิ่งไปที่รถอย่างไวและรีบแว้นกลับบ้านในบัดดล
[[ประสบการ์ณสยอง]] บนศาลเจ้าที่แล้วไม่ยอมไปแก้
ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าจขกท.เป็นคนที่มีซิกเซ้นอยู่แล้ว ตัวเราเองสามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นประจำ ไม่ใช่แค่เห็นนะคะ คุยยังเคยเลยค่ะ ตัวอย่างที่เคยสำผัสได้ก็เช่น ผี เจ้าที่เจ้าทาง กุมาร บลาๆ แต่ที่บอกว่าเจอเป็นประจำนี้คือช่วงตอนเด็กๆนะคะ จำได้ว่าเจอถี่มาก เจอจนชินไปเอง แม่จะชอบมาถามบ่อยๆว่า
"น้องN เมื่อกี้หนูนั่งคุยกับใครลูก"
"น้องN หนูเล่นอยู่กับใครในห้อง"
ซึ่งตอนนั้นเราก็เริ่มจำได้บ้างแล้ว ช่วงอายุก็5-6ขวบได้ เราจำได้ว่าที่บ้านเก่าเรา มักจะมีเด็กผู้ชายคนนึงมาเล่นด้วยเสมอ แต่แม่เรากลับมองไม่เห็น ทั้งๆที่เด็กคนนั้นยืนอยู่ต่อหน้าแม่แท้ๆ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สงสัยอะไรนะ จนเราย้ายบ้านก็ไม่ได้เจออีกเลย พอโตขึ้นเราก็พอรู้ว่า สิ่งที่เราเล่นด้วยอยู่ประจำ ไม่ใช่คนแน่ๆ
ปัจจุบันก็ยังเห็นอะไรแปลกๆแบบนี้อยู่บ้าง แต่ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ จะเห็นส่วนมากก็ช่วงจิตตกมากๆ แล้วก็ช่วงที่ไม่ค่อยทำบุญแค่นั้น
และเรื่องราวที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เรากำลังจะเข้ามหาลัยค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเพราะตัวเราเองที่ทำผิดไป ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้ผู้อ่านได้เก็บไว้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อไม่เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า....
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือช่วงที่เด็กม.6ทุกคนต้องทำการแข่งกันสอบเข้ามหาลัยที่ตัวเองต้องการ ซึ่งเราเองก็มีชื่อติดที่มหาลัยแห่งหนึ่งค่ะ เหลือรอสอบสัมภาษณ์ แต่ไอสอบสัมภาษณ์นี่แหละ ที่ทำให้เราต้องมาเจอเหตุการ์ณสยองแบบที่ไม่มีวันลืมจนถึงตอนนี้
เราไม่ชอบภาษาอังกฤษมากๆค่ะและกลัวการโดนสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษมากเช่นกันตอนนั้น เราทำทุกวิธีทางเพื่อรับมือกับภาษาอังกฤษทั้งอ่าน ทั้งฝึกพูดก็ไม่เข้าหัวค่ะ และทางเลือกสุดท้ายที่เราทำคือ การไปบนศาลเจ้าที่โค้งหักศอกค่ะ (เป็นไงคะ การรับมือของเรา ทำทุกวิถีทางจริงๆ55)
เราเริ่มจากการหาโค้งที่มีศาลแตกๆหักๆที่ถูกชาวบ้านเอามาทิ้งกัน เพราะเคยได้ยินว่าถ้าเป็นตรงนั้นจะเฮี้ยนมาก ขออะไรได้หมดทุกอย่าง พอหาที่เจอเราก็ไปเลยค่ะ ไปคนเดียวด้วย เพราะกลัวคนอื่นหาว่างมงาย ไร้สาระ เราเดินทางไปในช่วงบ่ายๆได้ค่ะ พอไปถึงเราก็ยืนมองเพื่อสำรวจสักพักว่านอกจากศาลที่ชาวบ้านเอามาทิ้ง ยังมีอะไรอีก จะได้นับจำนวนธูปมาไหว้ถูก จุดศูนย์รวมของศาลแตกหักตรงนั้นคือต้นไม้ต้นใหญ่ที่ผูกเชือก3สีไว้ค่ะ มีชุดไทยแขวะไว้ที่กิ่งไม่ต่ำกว่า10ตัว มีถาดอาหาร ถาดขนม วางอยู่เต็มไปหมด ตรงนั้นมีหุ่นกุมารทอง นางขวัก นับ10ๆตัวได้ บางตัวหัวขาด บางตัวแขนหาย ถูกทิ้งไว้รอบๆศาลอีกที ศาลที่นำมาทิ้งก็สภาพยับเยินไม่แพ้กัน แถมเงาของต้นไม้ก็ทำให้บริเวณนั้นอึมครึมชอบกล ทั้งๆที่เราไปตอนบ่าย แต่ที่ตรงนั้นกลับมืดๆครึ้มๆ ลืมบอกไปค่ะ โค้งที่ว่าอยู่ในซอยลึกๆนะคะ ไม่ค่อยมีคนเข้าออกมากนัก นานๆทีจะมีรถผ่านสักคัน
เมื่อเราสำรวจเรียบร้อบ เราก็นับธูปเลยค่ะ จัดเป็น2ชุด ชุดแรก3ดอก ชุดที่2 /1ดอก เรานั่งลงหน้าศาล บอกตามตรงว่ากลัวมาก แต่ก็ยังทำต่อ ในขณะที่เรากำลังจุดไฟแช็คเพื่อเอามาต่อไฟธูป ก็มีลมแรงๆ พัดมาปะทะกับร่างเราวูปนึงทำให้ไฟแช็คของเราดับลง ลมนั้นเป็นลมที่เย็นยะเยือกช่วงขนหัวลุกมาก แต่เราก็ไม่ย่อท้อค่ะ ตอนนี้คิดอย่างเดียวทำเพื่ออนาคตคๆๆ เป็นไงเป็นกันวะ!
"ลูกมาดี ลูกจะมาขอให้เจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในที่นี้ช่วย ถ้าท่านทำให้การสอบของลูกไม่มีภาษาอังกฤษเลย ลูกจะทวาย....... ......... ........" ตอนนั้นเราจำไม่ได้ว่าเราพูดว่าจะให้อะไร แต่รู้ว่า3อย่างได้ เราปักธูปเสร็จเตรียมกลับ จู่ๆก็มีลมพัดมาจากทางด้านหลังอีกวูปนึง แต่ไม่ได้มาแค่ะลมนะคะ รอบนี้มีเสียงผู้หญิงแก่ปนอยู่ในลมนั้นด้วย เป็นเสียงที่บอกได้เลยว่าไม่ใช่เสียงของคนแก่ใจดีแน่ๆ T^T
"กูเตือนแล้วนะ...."
จบจากเสียงที่ได้ยินไม่ต้องสงสัยค่ะว่าจะทำอะไรต่ออีก เรารีบใส่ตีนหมาวิ่งไปที่รถอย่างไวและรีบแว้นกลับบ้านในบัดดล