ก่อนอื่นเลยหากพิมพ์ผิดหรืออ่านทำทำความเข้าใจยากก็ขอโทษนะ หากเรื่องดูไปทางไม่ดีก็อย่าตำหนิกันนะ (ตอนเดียวจบ)
เริ่มเลยเราเป็นคนไม่สวย ไม่น่ารัก ไม่สพรึงแต่เราสตรอง เราเป็นคนชอบเฮฮาปาจิงโก๊ะไม่มีความเป็นผู้หญิงหวานเลยค่า ออกแนวซาดิส เรียนไม่เก่งเลย
แต่ช่วงนี้เราโชคดีที่มีนักเรียนนายร้อยเข้ามาคุย ก็รู้ๆว่าในแวดวงสาวๆใฝ่ฝันอยากลอดซุ้มกระบี่อยากดูดี ต้องการผู้ชายที่เรียนด้านนี้ใช้คำว่าบางส่วนละกันนะ นายร้อยมีทั้งเรียนเก่ง อดทน บึกบึน ระเบียบเรียบร้อย ดูปกป้องผู้หญิงอยู่ด้วยแล้วน่าจะอบอุ่นช้ะช้ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายในรูปแบบอื่นจะไม่มีในหัวข้อแบบนี้ คือตอนแรกเราเฉยๆกับการคบใครแล้วพักหลังมาโดนหลอก มาเยอะ เจ็บมาเยอะ อย่างกับเป็นคนโชคร้ายในเรื่องความรัก ป๊าดโธ้ว!!! แต่เราไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะเพียงแค่ไม่เต็มที่ก็มีคนเข้ามาคุยด้วยอยู่ในวงการนี้ถึง4คน แต่4คนนี้คนละลุคนะ หนึ่งใน4เค้ามีแฟนแล้วส่วนอีกสาม1ในสามเพียงแค่มาทำให้หวั่นแต่ก็ไม่รู้ว่ามาไม้ไหนเลยเฉยๆ อีกสองคนเราคุยด้วยอย่างจริงจัง สมมุติว่าชื่อเดลกับพีร์ ธรรมดาคนเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ลงตัวกับตัวเองเข้ากันได้ อะไรที่ขาดก็มีมาเติมเต็ม สองคนนี้เค้าคนละแบบเดลนิสัยแบบเด็ก เออออทุกอย่างเราเห็นด้วยอะไรเค้าก็เห็นด้วยกับเรา แต่มันทำให้เราเสียนิสัยเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองก็ว่าได้ แต่ต่างกับพีร์ที่สอน เตือนเราแนะนำให้ทำในสิ่งที่เค้าบอกเรารู้สึกว่าชีวิตคนรักคือการมีรักที่รู้สึกว่ามีกันอยู่สองคนไม่ใช่คนเดียว มันทำให้เรารู้สึกดี แต่ขอบอกเลยว่าเรายังไม่เคยเจอสองคนนี้เลย แต่ที่เค้าเข้ามาทักเราเพียงเพราะเราถ่ายรูปเฟค เค้าคงคิดว่าตัวจริงคงอลัง55555 แต่ไม่ใช่ค่า เราคนใต้ ดำคะ ฟันเยอะเต็มปากไปหมดหัวเราะทีฟันจะเฉาะหัวคนอย่างกะจอบละคะ
แต่เราดูเห็นแก่ตัวก็ว่าได้ที่คุยหลายคนแต่เราไม่ได้อยากทำอย่างนั้นหรือเล่นกับความรู้สึกใครนะแต่เป็นเพราะเรายังไม่ได้ชัดเจนกับใครเราเลยยังคุยกับคนนู้นนี่ คุยได้สักระยะหนึ่ง เดลขอไลน์แต่เดลไม่ค่อยมีเวลาให้หรอกเพราะเเดลยังเป็นตท.เราไม่ได้กังวลเรื่องเวลานะแต่เรารู้สึกว่าเราไม่โอเคกับอารมณ์แบบจะทำอะไรให้เราตัดสินใจเองทุกเรื่อง คบกันมันต้องช่วยกันออกความคิดเห็น แต่เดลไม่เคยจุกจิกเราเลยรู้สึกว่ามันเหมือนไม่ใช่รักมันคือความรู้สึกแบบพี่แบบน้องมากกว่า แต่พีร์ทำในสิ่งที่ผู้หญิงเป็น พีร์ขี้งอลมีไรให้บอกหมด มีครั้งหนึ่งพีร์เอารูปเราตั้งโปรไลน์จนเราคิดว่าพีร์จริงจังกับเราหรอเนี่ยแต่เราทำพีร์เสียความรู้สึกเพราะว่าเดลเคยขอให้เราทำของให้เดลแล้วปริ้นรูปเราส่งไปให้แล้วเราก็ทำให้พีร์จับได้ครั้งนั้นคือครั้งแรกที่พีร์งอลไม่รับโทรศัพท์ ปิดกั้นตัวเองหมดเราเลยรู้สึกว่าพีร์คงจริงจังกับเราจริงๆในบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าพีร์เล่นๆกับเราไม พีร์เป็นคนชอบหยอดเราเลยรู้สึกว่าเค้าทำกับเราได้เค้าก็ต้องทำกับคนอื่นเหมือนกันแต่มันไม่ได้จบแค่นั้น เราบอกพีร์ว่าถ้าไม่หายงอลเราคิดว่าพีร์จะตัดความสัมพันธ์กับเรา เลยบอกไปว่างั้นถ้าไม่ตอบไม่รับสายคือจะไม่ยุ่งกันแล้ว ไม่น่าเชื่อพีร์ตอบกลับพีร์เป็นคนปากแข็งมาก
เราเลยมาจริงจังกับพีร์ พีร์บอกว่าให้ไปบอกน้องเดลว่ามีคนคุยอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้บอกน้องเดล ไม่ได้จะลืมนะแต่เราเลือกที่ไม่ตอบน้องเค้าเหมือนหายไปเลยแต่น้องเค้ามาโพสให้ในเฟสพีร์เห็นเท่านั้นแหละกลับมาอีกครั้งอาการงอล เราใช้วิธีเดิมก็หาย เราง้อคนไม่เก่งเพราะปกติจะเป็นคนชอบงอลแต่มาเจอพีร์ยอมเลยผู้ชายอะไรนิสัยผู้หญิงก็ชอบนะที่พีร์เป็นแบบนี้ดูใส่ใจ พีร์ไม่ได้งี่เง่าแต่พีร์จำทุกคำพูด ไปไหนให้บอกใครทักมาให้บอกจนบางครั้งเราไม่ได้บอกเลยรู้สึกว่าที่เราไม่บอกเพราะว่าเราไม่ได้เล่นด้วยกับคนที่ทักมาแต่พีร์ก็ชอบนอยด์อยู่บ่อยๆเราก็ง้อตามเคย พอมีครั้งหนึ่งมันจะมีงานที่หนุ่มๆจะพาคนสำคัญไปงาน (งานราตรีของนายร้อย) พีร์ชวนเราทั้งที่เราไม่เคยเจอกัน เห็นหน้ากันอย่างมากก็เปิดกล้องแต่พีร์พูดคำหนึ่งว่า แค่พีร์ชวนมันก็มีความหมายมากแล้วอยากให้มางานนี้ มันสำคัญถึงชวนแต่เราได้ปฏิเสธไป เพราะคิดว่าเราพึ่งคุยกัน แถมยังไม่เคยเห็นหน้าหรืออยู่ด้วยกันเลย แต่น้ำเสียงพีร์มีน้อยใจตรงที่พีร์ชวนไปแต่เราไม่อยากไปเดินควงคู่กับเค้าในงานหรอเหมือนเป็นข้ออ้างของพีร์ก็ว่าได้ พีร์คิดว่าเราไม่อยากไปเพราะไม่อยากเดินกับพีร์ พอมาสักระยะหนึ่งใกล้งานเข้ามาอีกพีร์ชวนอีกเราเลยคิดว่าไปเพราะเข้างานสังคมละกันหัดไว้ประสบการณ์ไม่ได้เจอกันทุกคน แต่เราไม่ได้ไปคนเดียวเราเลยขึ้นไปกับน้องสาว(พอดีมหาลัยปิดเทอมน้องกลับมาบ้าน) น้องสาวเราเรียนอยู่ที่กทม.อยู่แล้วเลยได้โอกาสตรงที่ได้ไปพักบอกเลยคือตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปกทม. ไม่ได้กลัวโดนหลอกเพราะอายุเราก็พอโตได้แล้วขึ้นไปครั้งนี้อยากให้พีร์เห็นว่าเราจริงจัง
( แต่ก็นะในมุมของคนอื่นก็จะคิดว่าจะวัดความจริงใจก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำขนาดนี้ใช่ไมแต่ในอีกมุมหนึ่งของคนที่รู้สึกดีกับใครคนหนึ่งถึงแม้จะทำอะไรไปแล้วลงทุนไปจะขาดทุนหรือเสี่ยงแต่ในเมื่อเค้าคิดว่าทำแล้ว ตัดสินใจทำแล้วก็เต็มที่ไปเลยเอาง่ายๆ จะรู้สึกความรู้สึกนี้ได้จริงต้องยืนด้วยต้องเองแต่ก็ไม่ได้แปลว่ายืนด้วยตัวเองแล้วจะเข้าใจเหมือนกัน ยกเว้นจะสัมผัสความรู้สึกนี้อย่างจริงๆฟังจากคนอื่นเล่าหรือบอกก็พูดได้เข้าใจแต่ไม่ได้รู้สึกจริง) อย่างที่บอกเราไม่เคยขึ้นไปกทม.แล้วไปไหนไกลเท่าครั้งนี้ครั้งแรก เช่าชุด หาร้านแต่งหน้าทำผม ไปเครื่องขึ้นเครื่องครั้งแรกด้วยนะ ทุกอย่างมันเร็วไปหมด เราจัดการคนเดียวสตรองไมละ พอวันงานตื่นเต้นมากเราใส่ชุดราตรีขึ้นmrtคะ ไปเดินห้างเพื่อฆ่าเวลากว่าจะถีงเวลาเข้างานคือคนมองไงว่าตัวอะไรวะ5555555 คืออายนะแต่ให้ทำไงต้องออกไปข้างนอกพร้อมน้องเพราะน้องจะไปข้างนอกเราเดินทางในกทม.ไม่ถูกว่าต้องไปยังไงต่อรถไหน ขึ้นยังไงบอกไปลงไหนคือไม่รู้อะไรสักอย่างจริงๆ เลยไปนั่งอยู่ในห้างพอจะถึงเวลาเข้างาน เลยให้น้องส่งขึ้นแท็กซี่
ด้วยเรื่องของการที่เรากลัวเหมือนกันเพราะไปคนเดียวพีร์อยู่ที่รร.เพราะพีร์ต้องแสดงการแสดงออกมารับไม่ได้ พอแท็กซี่ขับไปใกล้จะถึงรร.เราบอกให้รอที่ปั๊มไม่อยากเข้างานก่อนไปทำตัวไม่ถูก จากมิตเตอร์170รอที่ปั๊มจนถึง300 หลาบคะ! แล้วพนง.ที่ปั๊มมาไล่เพราะเห็นจอดนาน เราเลยบอกว่างั้นไปเลยก็ได้สักพักมีเบอร์เข้ามา อย่างกับสวรรค์ แฟนเพื่อนพีร์โทรมาบอกว่าพีร์ให้พี่มารับน้องคืองานนี้รอดละเว้ย พอขับถึงรร.เราใส่รองเท้าเเตะเข้ารร.แล้วพารองเท้าสูง5นิ้วมาเปลี่ยนบอกเลยคือทรหดมากหดหู่หัวใจตอนเปลี่ยนต้องถกชุดยาวๆขึ้นที่ป้อมยามทหารก็มองคืออายคะแต่ต้องทำ เดินก็จะล้ม แล้วก็ได้เจอกับพี่เค้าที่พีร์ให้มารับพี่เค้าบอกพีร์รีบจดเบอร์ให้พี่ใส่พลาสเตอร์ยาคือซึ้งคะ เราทำตัวไม่ถูกมือเย็นเท้าเย็นใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะงานนี้ต้องทำตัวดีๆแต่เราเป็นผู้หญิงห้าว พอเห็นผู้หญิงในงานคือขาวน่ารักสวยอะเราดับคะ มืดเลยทั้งตัวแล้วก็หน้าดับหมด55555 แต่พี่ที่มารับเค้าดีอยู่กับเราตลอดพูดปลอบเราตลอด แล้วเราก็เล่าเรื่องของเราให้พี่เค้าฟังว่ามาไกลไม่เคยเจอกันไม่เคยมากทม. เราว่าพี่แกคงสตั้นในใจเหมือนกันมันก็ตลกดีเนอะว่าไม พอพีร์แสดงการแสดงเสร็จคือเรายังไม่เจอพีร์นะพีร์ไปเปลี่ยนอีกชุดที่ทางงานกำหนด
พอเริ่มมืดเท่านั้นแหละหอประชุมจะปิดประตูพีร์รีบเดินมาเจอเรา (เจอหน้าครั้งแรกคือทุกอย่างหยุดการทำงานยกเว้นหัวใจที่แปลกทำงานเร็วกว่าเดิม) เราโดนคนรอบข้างแซวที่เราพึ่งเจอกันครั้งแรก คือไม่มั่นใจตัวเองไม่สวยไงกลัวพีร์จะอายคนที่ควงเราในงาน แต่ทุกอย่างราบรื่นมีความสุขนะเอาของให้เรากินให้เราเดินควง แถมอยากจะถ่ายรูปกับเราบ่อยๆพาเราเดินไปแนะนำกับรุ่นพี่ว่าเราคือแฟน อารมณ์นั้นคือฟิน แต่ในช่วงที่เดินเราก็จะล้มแต่พีร์บอกว่าให้เราควงแขนเราเกรงใจเลยดึงแขนเสื้อแทน แล้วมีพี่ตากล้องแบบตอนถ่ายรูปอารมณ์คนพึ่งเจอมาให้เราถ่ายรูปแบบให้มองตากันโอ้ยบรรลัยพีร์ก็บอกแค่แปบหนึ่ง คือเรายืนไม่นิ่งหัวเราะตลกไม่เหมือนคู่อื่นที่เค้าถ่ายรูปอย่างกับพรีเวดดิ้งไม่มีเขินอายแต่เรามันไม่ใช่แบบนั้นเลย เลยได้รูปมาน้อยๆ ในงานทุกคนเป็นมิตรกับเราดียิ่งแฟนเพื่อนพีร์ในกลุ่มสาวๆก็ชวนคุยชวนทำนู้นนี่เราเลยอุ่นใจเหมือนไม่ได้ไปคนเดียวมีความสุขมาก พอเลิกงานพีร์จะไปส่งเราแต่เรากลับไม่ถูกอธิบายไม่ถูกว่าอยู่ที่ไหนขนาดจีพีเอสคือดูเป็นนะแต่จะให้ไปทางไหนอะไรยังไงที่พักน้องเรามันเข้าไปในซอยดึกแล้วด้วยกลัว พีร์เลยบอกจะไปเปลี่ยนชุดที่พักพีร์ก่อนพออยู่สองคนทำตัวไม่ถูกเข้าไปอีก แต่เราไม่ได้ทำอะไรเกินเลยขนาดนั่งยังห่างกันตั้งเยอะพีร์ให้เกียติเราทุกอย่างมือยังไม่จับเลย แล้วพอเปลี่ยนชุดเสร็จก็ลงมาหารถไปส่งคือเราล้ามากเหนื่อยง่วงหลับคะบนรถคอตกตื่นมาไม่รู้ว่าหัวเราตั้งบนไหล่พีร์ได้ไง พีร์บอกว่าพีร์ขยับไหล่ให้เรานอนพิง ตื่นมายิ้มไม่หยุด หลังจากนั้นความสัมพันธ์เราก็โอเค
แต่ก็ไม่รู้จะเป็นไปได้นานแค่ไหนแต่ชอบแบบนี้ให้มันตลอดก็ดีเราอยู่ไกลกันมากบางครั้งความคิดก็ไม่ตรงกันเราชอบทำตัวให้พีร์งอลอยู่บ่อยๆ พีร์ชอบคิดว่าเราเล่นๆกับความรักเพราะเราเป็นผู้หญิงหวานไม่เป็นแต่พีร์มักชอบพูดว่าหากเราจะคบใครคนหนึ่งเราทุกใส่ใจในตัวเค้าทุกอย่างไม่ว่าจะคำพูดที่เคยพูดไปก็ต้องจำได้พีร์บอกกับเราว่าถ้าคบกันแล้วอย่าเผื่อใจได้ไม เพราะการเผื่อใจคือไม่เต็มที่กับมันดูเห็นแก่ตัวเพราะมีฝ่ายหนึ่งที่มีร้อยให้ร้อยอยู่ฝ่ายเดียวมันดูไม่แฟร์ (ที่แชร์เพราะเราคิดว่ามันไม่ได้มีง่ายๆเหมือนกันนะเรื่องแบบนี้ สำหรับความรักนิยามของแต่ละคนไม่ตรงกันของแต่ละคู่วางนิยามไว้แบบไหนสุดแล้วแต่จะทำตามที่ตัวเองวางไว้ ในสิ่งที่คิดว่ามีความสุขแล้วเลือกทำถึงแม้ว่าชั่งนน.สิ่งที่ได้กลับมาจะสุขทุกข์อันไหนมากหรือน้อยทุกคนก็เลือกที่จะทำมันให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการอยากจะทำ) แต่ประสบการณ์ที่มาเล่ามันก็ไม่ได้จะน่าสนใจเนอะสำหรับบางคนแต่ที่เรามาแชร์เพราะมันก็ตลกดีเนอะความรักบางที คนเรามักทำอะไรโดยไม่ทันคิดก็มี คิดดีแล้วก็มีแต่จะทำถึงผลตอบรับที่ได้กลับมาเป็นยังไงก็ตาม ความรักคือการลงทุน มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงแต่หากไม่ลงทุนก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่ามันไม่สำเร็จ แต่หากลงทุนมันก็จะมีอีกหนึ่งคำตอบเพิ่มมาคือสำเร็จ มันอาจเป็นเรื่องน่าขำสำหรับคนทั่วไปแต่ในเมื่อเราจะจริงจังกับใครสักคนเราก็พร้อมเต็มที่ถึงเค้าคนนั้นจะไม่ใช่คนในอนาคต #แต่ในเวลานี้ตอนนี้เราคิดว่าใช่!! เราก็จะทำเพราะชีวิตของเราขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของเราถึงจะคิดว่าต่อขไปจะเป็นยังไงแต่เราก็คิดว่าเราได้ทำมันแล้วมันได้ไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมาแล้วเราไม่ได้ทำ ความรักของแต่ละคู่เป็นการเดินทางในเรื่องราวระหว่างทางเราก็ต้องมีสะดุดมีล้มลุกคลุกคลานแต่เราก็ได้รู้ว่าในระหว่างทางเราไม่ได้เดินคนเดียวยังมีคนพยุงเราอยู่ แล้วความรักไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นอิจฉาเพราะไม่รู้ต่อไปเบื้องหลังความรักของแต่ละคู่ไม่ได้สดใสเหมือนภายนอกที่คนอื่นมองเห็น (พีร์ไม่ให้เเชร์แต่ขอขัดคำสั่งเพราะมันแปลกดีนะสำหรับความรักของเรา)
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
การเจอครั้งแรก นักเรียนนายร้อย
เริ่มเลยเราเป็นคนไม่สวย ไม่น่ารัก ไม่สพรึงแต่เราสตรอง เราเป็นคนชอบเฮฮาปาจิงโก๊ะไม่มีความเป็นผู้หญิงหวานเลยค่า ออกแนวซาดิส เรียนไม่เก่งเลย
แต่ช่วงนี้เราโชคดีที่มีนักเรียนนายร้อยเข้ามาคุย ก็รู้ๆว่าในแวดวงสาวๆใฝ่ฝันอยากลอดซุ้มกระบี่อยากดูดี ต้องการผู้ชายที่เรียนด้านนี้ใช้คำว่าบางส่วนละกันนะ นายร้อยมีทั้งเรียนเก่ง อดทน บึกบึน ระเบียบเรียบร้อย ดูปกป้องผู้หญิงอยู่ด้วยแล้วน่าจะอบอุ่นช้ะช้ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายในรูปแบบอื่นจะไม่มีในหัวข้อแบบนี้ คือตอนแรกเราเฉยๆกับการคบใครแล้วพักหลังมาโดนหลอก มาเยอะ เจ็บมาเยอะ อย่างกับเป็นคนโชคร้ายในเรื่องความรัก ป๊าดโธ้ว!!! แต่เราไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะเพียงแค่ไม่เต็มที่ก็มีคนเข้ามาคุยด้วยอยู่ในวงการนี้ถึง4คน แต่4คนนี้คนละลุคนะ หนึ่งใน4เค้ามีแฟนแล้วส่วนอีกสาม1ในสามเพียงแค่มาทำให้หวั่นแต่ก็ไม่รู้ว่ามาไม้ไหนเลยเฉยๆ อีกสองคนเราคุยด้วยอย่างจริงจัง สมมุติว่าชื่อเดลกับพีร์ ธรรมดาคนเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ลงตัวกับตัวเองเข้ากันได้ อะไรที่ขาดก็มีมาเติมเต็ม สองคนนี้เค้าคนละแบบเดลนิสัยแบบเด็ก เออออทุกอย่างเราเห็นด้วยอะไรเค้าก็เห็นด้วยกับเรา แต่มันทำให้เราเสียนิสัยเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองก็ว่าได้ แต่ต่างกับพีร์ที่สอน เตือนเราแนะนำให้ทำในสิ่งที่เค้าบอกเรารู้สึกว่าชีวิตคนรักคือการมีรักที่รู้สึกว่ามีกันอยู่สองคนไม่ใช่คนเดียว มันทำให้เรารู้สึกดี แต่ขอบอกเลยว่าเรายังไม่เคยเจอสองคนนี้เลย แต่ที่เค้าเข้ามาทักเราเพียงเพราะเราถ่ายรูปเฟค เค้าคงคิดว่าตัวจริงคงอลัง55555 แต่ไม่ใช่ค่า เราคนใต้ ดำคะ ฟันเยอะเต็มปากไปหมดหัวเราะทีฟันจะเฉาะหัวคนอย่างกะจอบละคะ
แต่เราดูเห็นแก่ตัวก็ว่าได้ที่คุยหลายคนแต่เราไม่ได้อยากทำอย่างนั้นหรือเล่นกับความรู้สึกใครนะแต่เป็นเพราะเรายังไม่ได้ชัดเจนกับใครเราเลยยังคุยกับคนนู้นนี่ คุยได้สักระยะหนึ่ง เดลขอไลน์แต่เดลไม่ค่อยมีเวลาให้หรอกเพราะเเดลยังเป็นตท.เราไม่ได้กังวลเรื่องเวลานะแต่เรารู้สึกว่าเราไม่โอเคกับอารมณ์แบบจะทำอะไรให้เราตัดสินใจเองทุกเรื่อง คบกันมันต้องช่วยกันออกความคิดเห็น แต่เดลไม่เคยจุกจิกเราเลยรู้สึกว่ามันเหมือนไม่ใช่รักมันคือความรู้สึกแบบพี่แบบน้องมากกว่า แต่พีร์ทำในสิ่งที่ผู้หญิงเป็น พีร์ขี้งอลมีไรให้บอกหมด มีครั้งหนึ่งพีร์เอารูปเราตั้งโปรไลน์จนเราคิดว่าพีร์จริงจังกับเราหรอเนี่ยแต่เราทำพีร์เสียความรู้สึกเพราะว่าเดลเคยขอให้เราทำของให้เดลแล้วปริ้นรูปเราส่งไปให้แล้วเราก็ทำให้พีร์จับได้ครั้งนั้นคือครั้งแรกที่พีร์งอลไม่รับโทรศัพท์ ปิดกั้นตัวเองหมดเราเลยรู้สึกว่าพีร์คงจริงจังกับเราจริงๆในบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าพีร์เล่นๆกับเราไม พีร์เป็นคนชอบหยอดเราเลยรู้สึกว่าเค้าทำกับเราได้เค้าก็ต้องทำกับคนอื่นเหมือนกันแต่มันไม่ได้จบแค่นั้น เราบอกพีร์ว่าถ้าไม่หายงอลเราคิดว่าพีร์จะตัดความสัมพันธ์กับเรา เลยบอกไปว่างั้นถ้าไม่ตอบไม่รับสายคือจะไม่ยุ่งกันแล้ว ไม่น่าเชื่อพีร์ตอบกลับพีร์เป็นคนปากแข็งมาก
เราเลยมาจริงจังกับพีร์ พีร์บอกว่าให้ไปบอกน้องเดลว่ามีคนคุยอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้บอกน้องเดล ไม่ได้จะลืมนะแต่เราเลือกที่ไม่ตอบน้องเค้าเหมือนหายไปเลยแต่น้องเค้ามาโพสให้ในเฟสพีร์เห็นเท่านั้นแหละกลับมาอีกครั้งอาการงอล เราใช้วิธีเดิมก็หาย เราง้อคนไม่เก่งเพราะปกติจะเป็นคนชอบงอลแต่มาเจอพีร์ยอมเลยผู้ชายอะไรนิสัยผู้หญิงก็ชอบนะที่พีร์เป็นแบบนี้ดูใส่ใจ พีร์ไม่ได้งี่เง่าแต่พีร์จำทุกคำพูด ไปไหนให้บอกใครทักมาให้บอกจนบางครั้งเราไม่ได้บอกเลยรู้สึกว่าที่เราไม่บอกเพราะว่าเราไม่ได้เล่นด้วยกับคนที่ทักมาแต่พีร์ก็ชอบนอยด์อยู่บ่อยๆเราก็ง้อตามเคย พอมีครั้งหนึ่งมันจะมีงานที่หนุ่มๆจะพาคนสำคัญไปงาน (งานราตรีของนายร้อย) พีร์ชวนเราทั้งที่เราไม่เคยเจอกัน เห็นหน้ากันอย่างมากก็เปิดกล้องแต่พีร์พูดคำหนึ่งว่า แค่พีร์ชวนมันก็มีความหมายมากแล้วอยากให้มางานนี้ มันสำคัญถึงชวนแต่เราได้ปฏิเสธไป เพราะคิดว่าเราพึ่งคุยกัน แถมยังไม่เคยเห็นหน้าหรืออยู่ด้วยกันเลย แต่น้ำเสียงพีร์มีน้อยใจตรงที่พีร์ชวนไปแต่เราไม่อยากไปเดินควงคู่กับเค้าในงานหรอเหมือนเป็นข้ออ้างของพีร์ก็ว่าได้ พีร์คิดว่าเราไม่อยากไปเพราะไม่อยากเดินกับพีร์ พอมาสักระยะหนึ่งใกล้งานเข้ามาอีกพีร์ชวนอีกเราเลยคิดว่าไปเพราะเข้างานสังคมละกันหัดไว้ประสบการณ์ไม่ได้เจอกันทุกคน แต่เราไม่ได้ไปคนเดียวเราเลยขึ้นไปกับน้องสาว(พอดีมหาลัยปิดเทอมน้องกลับมาบ้าน) น้องสาวเราเรียนอยู่ที่กทม.อยู่แล้วเลยได้โอกาสตรงที่ได้ไปพักบอกเลยคือตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปกทม. ไม่ได้กลัวโดนหลอกเพราะอายุเราก็พอโตได้แล้วขึ้นไปครั้งนี้อยากให้พีร์เห็นว่าเราจริงจัง
( แต่ก็นะในมุมของคนอื่นก็จะคิดว่าจะวัดความจริงใจก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำขนาดนี้ใช่ไมแต่ในอีกมุมหนึ่งของคนที่รู้สึกดีกับใครคนหนึ่งถึงแม้จะทำอะไรไปแล้วลงทุนไปจะขาดทุนหรือเสี่ยงแต่ในเมื่อเค้าคิดว่าทำแล้ว ตัดสินใจทำแล้วก็เต็มที่ไปเลยเอาง่ายๆ จะรู้สึกความรู้สึกนี้ได้จริงต้องยืนด้วยต้องเองแต่ก็ไม่ได้แปลว่ายืนด้วยตัวเองแล้วจะเข้าใจเหมือนกัน ยกเว้นจะสัมผัสความรู้สึกนี้อย่างจริงๆฟังจากคนอื่นเล่าหรือบอกก็พูดได้เข้าใจแต่ไม่ได้รู้สึกจริง) อย่างที่บอกเราไม่เคยขึ้นไปกทม.แล้วไปไหนไกลเท่าครั้งนี้ครั้งแรก เช่าชุด หาร้านแต่งหน้าทำผม ไปเครื่องขึ้นเครื่องครั้งแรกด้วยนะ ทุกอย่างมันเร็วไปหมด เราจัดการคนเดียวสตรองไมละ พอวันงานตื่นเต้นมากเราใส่ชุดราตรีขึ้นmrtคะ ไปเดินห้างเพื่อฆ่าเวลากว่าจะถีงเวลาเข้างานคือคนมองไงว่าตัวอะไรวะ5555555 คืออายนะแต่ให้ทำไงต้องออกไปข้างนอกพร้อมน้องเพราะน้องจะไปข้างนอกเราเดินทางในกทม.ไม่ถูกว่าต้องไปยังไงต่อรถไหน ขึ้นยังไงบอกไปลงไหนคือไม่รู้อะไรสักอย่างจริงๆ เลยไปนั่งอยู่ในห้างพอจะถึงเวลาเข้างาน เลยให้น้องส่งขึ้นแท็กซี่
ด้วยเรื่องของการที่เรากลัวเหมือนกันเพราะไปคนเดียวพีร์อยู่ที่รร.เพราะพีร์ต้องแสดงการแสดงออกมารับไม่ได้ พอแท็กซี่ขับไปใกล้จะถึงรร.เราบอกให้รอที่ปั๊มไม่อยากเข้างานก่อนไปทำตัวไม่ถูก จากมิตเตอร์170รอที่ปั๊มจนถึง300 หลาบคะ! แล้วพนง.ที่ปั๊มมาไล่เพราะเห็นจอดนาน เราเลยบอกว่างั้นไปเลยก็ได้สักพักมีเบอร์เข้ามา อย่างกับสวรรค์ แฟนเพื่อนพีร์โทรมาบอกว่าพีร์ให้พี่มารับน้องคืองานนี้รอดละเว้ย พอขับถึงรร.เราใส่รองเท้าเเตะเข้ารร.แล้วพารองเท้าสูง5นิ้วมาเปลี่ยนบอกเลยคือทรหดมากหดหู่หัวใจตอนเปลี่ยนต้องถกชุดยาวๆขึ้นที่ป้อมยามทหารก็มองคืออายคะแต่ต้องทำ เดินก็จะล้ม แล้วก็ได้เจอกับพี่เค้าที่พีร์ให้มารับพี่เค้าบอกพีร์รีบจดเบอร์ให้พี่ใส่พลาสเตอร์ยาคือซึ้งคะ เราทำตัวไม่ถูกมือเย็นเท้าเย็นใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะงานนี้ต้องทำตัวดีๆแต่เราเป็นผู้หญิงห้าว พอเห็นผู้หญิงในงานคือขาวน่ารักสวยอะเราดับคะ มืดเลยทั้งตัวแล้วก็หน้าดับหมด55555 แต่พี่ที่มารับเค้าดีอยู่กับเราตลอดพูดปลอบเราตลอด แล้วเราก็เล่าเรื่องของเราให้พี่เค้าฟังว่ามาไกลไม่เคยเจอกันไม่เคยมากทม. เราว่าพี่แกคงสตั้นในใจเหมือนกันมันก็ตลกดีเนอะว่าไม พอพีร์แสดงการแสดงเสร็จคือเรายังไม่เจอพีร์นะพีร์ไปเปลี่ยนอีกชุดที่ทางงานกำหนด
พอเริ่มมืดเท่านั้นแหละหอประชุมจะปิดประตูพีร์รีบเดินมาเจอเรา (เจอหน้าครั้งแรกคือทุกอย่างหยุดการทำงานยกเว้นหัวใจที่แปลกทำงานเร็วกว่าเดิม) เราโดนคนรอบข้างแซวที่เราพึ่งเจอกันครั้งแรก คือไม่มั่นใจตัวเองไม่สวยไงกลัวพีร์จะอายคนที่ควงเราในงาน แต่ทุกอย่างราบรื่นมีความสุขนะเอาของให้เรากินให้เราเดินควง แถมอยากจะถ่ายรูปกับเราบ่อยๆพาเราเดินไปแนะนำกับรุ่นพี่ว่าเราคือแฟน อารมณ์นั้นคือฟิน แต่ในช่วงที่เดินเราก็จะล้มแต่พีร์บอกว่าให้เราควงแขนเราเกรงใจเลยดึงแขนเสื้อแทน แล้วมีพี่ตากล้องแบบตอนถ่ายรูปอารมณ์คนพึ่งเจอมาให้เราถ่ายรูปแบบให้มองตากันโอ้ยบรรลัยพีร์ก็บอกแค่แปบหนึ่ง คือเรายืนไม่นิ่งหัวเราะตลกไม่เหมือนคู่อื่นที่เค้าถ่ายรูปอย่างกับพรีเวดดิ้งไม่มีเขินอายแต่เรามันไม่ใช่แบบนั้นเลย เลยได้รูปมาน้อยๆ ในงานทุกคนเป็นมิตรกับเราดียิ่งแฟนเพื่อนพีร์ในกลุ่มสาวๆก็ชวนคุยชวนทำนู้นนี่เราเลยอุ่นใจเหมือนไม่ได้ไปคนเดียวมีความสุขมาก พอเลิกงานพีร์จะไปส่งเราแต่เรากลับไม่ถูกอธิบายไม่ถูกว่าอยู่ที่ไหนขนาดจีพีเอสคือดูเป็นนะแต่จะให้ไปทางไหนอะไรยังไงที่พักน้องเรามันเข้าไปในซอยดึกแล้วด้วยกลัว พีร์เลยบอกจะไปเปลี่ยนชุดที่พักพีร์ก่อนพออยู่สองคนทำตัวไม่ถูกเข้าไปอีก แต่เราไม่ได้ทำอะไรเกินเลยขนาดนั่งยังห่างกันตั้งเยอะพีร์ให้เกียติเราทุกอย่างมือยังไม่จับเลย แล้วพอเปลี่ยนชุดเสร็จก็ลงมาหารถไปส่งคือเราล้ามากเหนื่อยง่วงหลับคะบนรถคอตกตื่นมาไม่รู้ว่าหัวเราตั้งบนไหล่พีร์ได้ไง พีร์บอกว่าพีร์ขยับไหล่ให้เรานอนพิง ตื่นมายิ้มไม่หยุด หลังจากนั้นความสัมพันธ์เราก็โอเค
แต่ก็ไม่รู้จะเป็นไปได้นานแค่ไหนแต่ชอบแบบนี้ให้มันตลอดก็ดีเราอยู่ไกลกันมากบางครั้งความคิดก็ไม่ตรงกันเราชอบทำตัวให้พีร์งอลอยู่บ่อยๆ พีร์ชอบคิดว่าเราเล่นๆกับความรักเพราะเราเป็นผู้หญิงหวานไม่เป็นแต่พีร์มักชอบพูดว่าหากเราจะคบใครคนหนึ่งเราทุกใส่ใจในตัวเค้าทุกอย่างไม่ว่าจะคำพูดที่เคยพูดไปก็ต้องจำได้พีร์บอกกับเราว่าถ้าคบกันแล้วอย่าเผื่อใจได้ไม เพราะการเผื่อใจคือไม่เต็มที่กับมันดูเห็นแก่ตัวเพราะมีฝ่ายหนึ่งที่มีร้อยให้ร้อยอยู่ฝ่ายเดียวมันดูไม่แฟร์ (ที่แชร์เพราะเราคิดว่ามันไม่ได้มีง่ายๆเหมือนกันนะเรื่องแบบนี้ สำหรับความรักนิยามของแต่ละคนไม่ตรงกันของแต่ละคู่วางนิยามไว้แบบไหนสุดแล้วแต่จะทำตามที่ตัวเองวางไว้ ในสิ่งที่คิดว่ามีความสุขแล้วเลือกทำถึงแม้ว่าชั่งนน.สิ่งที่ได้กลับมาจะสุขทุกข์อันไหนมากหรือน้อยทุกคนก็เลือกที่จะทำมันให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการอยากจะทำ) แต่ประสบการณ์ที่มาเล่ามันก็ไม่ได้จะน่าสนใจเนอะสำหรับบางคนแต่ที่เรามาแชร์เพราะมันก็ตลกดีเนอะความรักบางที คนเรามักทำอะไรโดยไม่ทันคิดก็มี คิดดีแล้วก็มีแต่จะทำถึงผลตอบรับที่ได้กลับมาเป็นยังไงก็ตาม ความรักคือการลงทุน มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงแต่หากไม่ลงทุนก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่ามันไม่สำเร็จ แต่หากลงทุนมันก็จะมีอีกหนึ่งคำตอบเพิ่มมาคือสำเร็จ มันอาจเป็นเรื่องน่าขำสำหรับคนทั่วไปแต่ในเมื่อเราจะจริงจังกับใครสักคนเราก็พร้อมเต็มที่ถึงเค้าคนนั้นจะไม่ใช่คนในอนาคต #แต่ในเวลานี้ตอนนี้เราคิดว่าใช่!! เราก็จะทำเพราะชีวิตของเราขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของเราถึงจะคิดว่าต่อขไปจะเป็นยังไงแต่เราก็คิดว่าเราได้ทำมันแล้วมันได้ไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมาแล้วเราไม่ได้ทำ ความรักของแต่ละคู่เป็นการเดินทางในเรื่องราวระหว่างทางเราก็ต้องมีสะดุดมีล้มลุกคลุกคลานแต่เราก็ได้รู้ว่าในระหว่างทางเราไม่ได้เดินคนเดียวยังมีคนพยุงเราอยู่ แล้วความรักไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นอิจฉาเพราะไม่รู้ต่อไปเบื้องหลังความรักของแต่ละคู่ไม่ได้สดใสเหมือนภายนอกที่คนอื่นมองเห็น (พีร์ไม่ให้เเชร์แต่ขอขัดคำสั่งเพราะมันแปลกดีนะสำหรับความรักของเรา)
ขอบคุณที่อ่านจนจบ