"ซื้อ EPG โดยไม่เกี่ยงราคา ... แล้วหลับให้สบาย"
ตอนนี้กำไรของ EPG ซึ่งเป็น Holding Company มาจาก 3 บริษัทหลัก
Aeroflex 34%
Aeroklas 34%
EPP 32%
มี Aeroflex เป็นอันดับ 3 ของโลกในอุตสาหกรรมฉนวนกันความร้อน
มี Aeroklas เป็นอันดับ 1 ของโลกในอุตสาหกรรมแปรรูป Polymer เป็นชิ้นส่วนยานยนตร์
มี EPP กำลังตั้งไข่ พร้อมเติบโตสู่น่านน้ำสีน้ำเงิน
โดยธรรมชาติ EPG ทำธุรกิจที่จัดเป็น Commodity ปกติแล้วจะมี Business Cycle ที่ชัด มีรอบขาขึ้นขาลงชัดเจน มีล้มหายตายจาก เพราะ Commodity สร้าง "ความแตกต่าง" หรือ "เพิ่มคุณค่าในห่วงโซ่อุปทาน" ได้ยากกกกกกกกกกกกกกกก
แต่เนื่องจาก EPG มีการสร้างนวัตกรรม พยายามปรับตัว จึงอยู่รอดได้ และธุรกิจแบบนี้ ทุกครั้งที่เกิดขาลง จะเป็นสถานการณ์ให้ผู้อยู่รอดโตขึ้นกว่าเดิมเสมอ
ใน 3 Core Business ของ EPG ตัวที่ยอดขายสูง แต่ Margin ต่ำ คือ Aeroflex เพราะ Aeroflex มีความเป็น Commodity สูงที่สุด
"หงี่ นั่ง เทียน" นักวิเคราะห์ในตำนาน เคยกังวลว่า Aeroflex อาจถึงทางตันในอีก 5 ปีข้างหน้า และประเมินมูลค่า EPG ไว้แค่ 30 บาท จากความเสี่ยงในช่วง Terminal Growth
อย่างไรก็ตาม ... Aeroflex จะยังไม่ถึงทางตัน!!!
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SpaceX ของ Elon Musk ประสบความสำเร็จในการนำ Reusable Rocket พายานอวกาศขึ้นไปปล่อยที่ชั้นบรรยากาศ แล้วร่อนลงสู่พื้นดินด้วยแนวตั้ง!!! (ซึ่งในทางเทคนิคจะยากกว่าการนำกระสวยอวกาศลงจอดแบบเครื่องบิน) เท่ากับว่า SpaceX และ Amazon (ซึ่งปล่อยจรวดแบบเดียวกัน ชื่อ "New Shepard" ก่อน SpaceX เกือบเดือน) ได้ทำลายกำแพงแห่งภูมิปัญญาเดิมลงได้แล้ว
Reusable Rocket ของ SpaceX ถูกตั้งชื่อว่า "Falcon 9" เป็นการตั้งชื่อตามยาน "Millennium Falcon" ยานอวกาศในเรื่อง Star Wars ของ Disney (เข้าใจว่ามีเรื่องของ Sponsor เข้ามาเกี่ยวข้อง) นำส่งยานอวกาศสู่ชั้นบรรยากาศได้สำเร็จ โดยบินได้สูงกว่า New Shepard ถึง 2 เท่า ทั้งที่ลำใหญ่กว่า
ตอนนี้ "ธุรกิจท่องอวกาศ" มียอดจองแน่น ยาวไปเป็น 10 ปี
ส่วน "ธุรกิจสัมปทานนำส่งยานและเสบียงของ NASA" มีมูลค่าปัจจุบัน ประมาณ 1600 ล้าน USD/ปี
เกี่ยวกับ Aeroflex อย่างไร?
Aeroflex แม้จะเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ก็เก่งพอที่จะสร้างชื่อในอเมริกาได้
Aeroflex ได้รับการทาบทามจาก NASA ให้ช่วยผลิตฉนวนกันความร้อนชนิดพิเศษ ตรงนี้สะท้อนถึงระดับความสามารถของ Aeroflex เป็นอย่างดี
หาก Aeroflex ทำสำเร็จ สามารถชิงยอดขาย "ฉนวนกันความร้อนคุณภาพสูง" จาก "ธุรกิจท่องอวกาศ" และ "ธุรกิจนำส่งยานและเสบียง" ได้ แม้เพียงแค่ 10%
กำไรของ Aeroflex จะโตขึ้นราว 5 เท่า เพราะตลาดเดิมของ Aeroflex ซึ่งเป็น Commodity เต็มตัวนั้น มี Margin ต่ำมาก ต่างจากตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ในทศวรรษหน้า (แต่ก็มีข้อเสีย คือ กระแสเงินสดในช่วงแรกของการสร้างนวัตกรรมจะลดลงอย่างมีนัยยะ ราว 100-200 ล้านบาท/ปี เพราะนวัตกรรมจะยังไม่สามารถขายในเชิงพาณิชย์ได้ จนกว่าจะได้รับการ Approved)
เท่ากับว่า ... เครื่องยนตร์ทั้ง 3 เครื่อง ของ EPG กำลังเข้าสู่ช่วงรุ่งเรืองอย่างหาที่สุดมิได้
และ ณ ราคาหุ้นปัจจุบันนี้ เทียบได้กับแค่แท่นปล่อยจรวดของ Falcon 9 เท่านั้น
รอวันที่จะทะยานสู่ห้วงอวกาศ
แม้ "หงี่ นั่ง เทียน" จะเคยคาดการณ์ไว้ว่า EPG จะพุ่งสู่ 20 บาท ในปี 2559 และ 30 บาท ในปี 2562
แต่ตอนนั้น "หงี่ นั่ง เทียน" ไม่ได้คาดการณ์ถึงโอกาสโตของ Aeroflex
หากเขาทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันแล้วไซร้ ... ราคาหุ้น ณ ชั้นบรรยากาศ ->
EPG ที่ 50 บาท/หุ้น คงไม่ไกลเกินเอื้อม
คิดได้ดังนี้แล้ว
คงคำแนะนำ - ขายบ้าน ขายรถ ขายตัว "ซื้อ" โดยไม่เกี่ยงราคา
อ้างอิง:
http://www.bloomberg.com/news/articles/2015-12-22/musk-s-spacex-returns-to-space-in-first-launch-since-june-blast
... กลยุทธ์การลงทุนสำหรับ ปีนี้ และ ปีหน้า 2559 ...
ตอนนี้กำไรของ EPG ซึ่งเป็น Holding Company มาจาก 3 บริษัทหลัก
Aeroflex 34%
Aeroklas 34%
EPP 32%
มี Aeroflex เป็นอันดับ 3 ของโลกในอุตสาหกรรมฉนวนกันความร้อน
มี Aeroklas เป็นอันดับ 1 ของโลกในอุตสาหกรรมแปรรูป Polymer เป็นชิ้นส่วนยานยนตร์
มี EPP กำลังตั้งไข่ พร้อมเติบโตสู่น่านน้ำสีน้ำเงิน
โดยธรรมชาติ EPG ทำธุรกิจที่จัดเป็น Commodity ปกติแล้วจะมี Business Cycle ที่ชัด มีรอบขาขึ้นขาลงชัดเจน มีล้มหายตายจาก เพราะ Commodity สร้าง "ความแตกต่าง" หรือ "เพิ่มคุณค่าในห่วงโซ่อุปทาน" ได้ยากกกกกกกกกกกกกกกก
แต่เนื่องจาก EPG มีการสร้างนวัตกรรม พยายามปรับตัว จึงอยู่รอดได้ และธุรกิจแบบนี้ ทุกครั้งที่เกิดขาลง จะเป็นสถานการณ์ให้ผู้อยู่รอดโตขึ้นกว่าเดิมเสมอ
ใน 3 Core Business ของ EPG ตัวที่ยอดขายสูง แต่ Margin ต่ำ คือ Aeroflex เพราะ Aeroflex มีความเป็น Commodity สูงที่สุด
"หงี่ นั่ง เทียน" นักวิเคราะห์ในตำนาน เคยกังวลว่า Aeroflex อาจถึงทางตันในอีก 5 ปีข้างหน้า และประเมินมูลค่า EPG ไว้แค่ 30 บาท จากความเสี่ยงในช่วง Terminal Growth
อย่างไรก็ตาม ... Aeroflex จะยังไม่ถึงทางตัน!!!
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SpaceX ของ Elon Musk ประสบความสำเร็จในการนำ Reusable Rocket พายานอวกาศขึ้นไปปล่อยที่ชั้นบรรยากาศ แล้วร่อนลงสู่พื้นดินด้วยแนวตั้ง!!! (ซึ่งในทางเทคนิคจะยากกว่าการนำกระสวยอวกาศลงจอดแบบเครื่องบิน) เท่ากับว่า SpaceX และ Amazon (ซึ่งปล่อยจรวดแบบเดียวกัน ชื่อ "New Shepard" ก่อน SpaceX เกือบเดือน) ได้ทำลายกำแพงแห่งภูมิปัญญาเดิมลงได้แล้ว
Reusable Rocket ของ SpaceX ถูกตั้งชื่อว่า "Falcon 9" เป็นการตั้งชื่อตามยาน "Millennium Falcon" ยานอวกาศในเรื่อง Star Wars ของ Disney (เข้าใจว่ามีเรื่องของ Sponsor เข้ามาเกี่ยวข้อง) นำส่งยานอวกาศสู่ชั้นบรรยากาศได้สำเร็จ โดยบินได้สูงกว่า New Shepard ถึง 2 เท่า ทั้งที่ลำใหญ่กว่า
ตอนนี้ "ธุรกิจท่องอวกาศ" มียอดจองแน่น ยาวไปเป็น 10 ปี
ส่วน "ธุรกิจสัมปทานนำส่งยานและเสบียงของ NASA" มีมูลค่าปัจจุบัน ประมาณ 1600 ล้าน USD/ปี
เกี่ยวกับ Aeroflex อย่างไร?
Aeroflex แม้จะเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ก็เก่งพอที่จะสร้างชื่อในอเมริกาได้
Aeroflex ได้รับการทาบทามจาก NASA ให้ช่วยผลิตฉนวนกันความร้อนชนิดพิเศษ ตรงนี้สะท้อนถึงระดับความสามารถของ Aeroflex เป็นอย่างดี
หาก Aeroflex ทำสำเร็จ สามารถชิงยอดขาย "ฉนวนกันความร้อนคุณภาพสูง" จาก "ธุรกิจท่องอวกาศ" และ "ธุรกิจนำส่งยานและเสบียง" ได้ แม้เพียงแค่ 10%
กำไรของ Aeroflex จะโตขึ้นราว 5 เท่า เพราะตลาดเดิมของ Aeroflex ซึ่งเป็น Commodity เต็มตัวนั้น มี Margin ต่ำมาก ต่างจากตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ในทศวรรษหน้า (แต่ก็มีข้อเสีย คือ กระแสเงินสดในช่วงแรกของการสร้างนวัตกรรมจะลดลงอย่างมีนัยยะ ราว 100-200 ล้านบาท/ปี เพราะนวัตกรรมจะยังไม่สามารถขายในเชิงพาณิชย์ได้ จนกว่าจะได้รับการ Approved)
เท่ากับว่า ... เครื่องยนตร์ทั้ง 3 เครื่อง ของ EPG กำลังเข้าสู่ช่วงรุ่งเรืองอย่างหาที่สุดมิได้
และ ณ ราคาหุ้นปัจจุบันนี้ เทียบได้กับแค่แท่นปล่อยจรวดของ Falcon 9 เท่านั้น
รอวันที่จะทะยานสู่ห้วงอวกาศ
แม้ "หงี่ นั่ง เทียน" จะเคยคาดการณ์ไว้ว่า EPG จะพุ่งสู่ 20 บาท ในปี 2559 และ 30 บาท ในปี 2562
แต่ตอนนั้น "หงี่ นั่ง เทียน" ไม่ได้คาดการณ์ถึงโอกาสโตของ Aeroflex
หากเขาทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันแล้วไซร้ ... ราคาหุ้น ณ ชั้นบรรยากาศ -> EPG ที่ 50 บาท/หุ้น คงไม่ไกลเกินเอื้อม
คิดได้ดังนี้แล้ว คงคำแนะนำ - ขายบ้าน ขายรถ ขายตัว "ซื้อ" โดยไม่เกี่ยงราคา
อ้างอิง: http://www.bloomberg.com/news/articles/2015-12-22/musk-s-spacex-returns-to-space-in-first-launch-since-june-blast