. ...หากคุณหรือใครๆ ทั้งคุณมีธิดาที่เป็นที่รัก อยู่ในวัยปฐมวัย ทั้งยังอ่อนต่อโลก ทั้งยังมีทักษะการป้องกันตนไม่ดีพอ
ครั้งหนึ่ง เมื่อคุณต้องการส่งธิดาของคุณไปศึกษาศิลปะในที่แห่งหนึ่งและมีวิธีเดินทางไปศึกษานั้น ปกติแล้วด้วยความห่วงใย คุณอาจจะเดินทางร่วมไปด้วย แต่ถ้าไม่สามารถเดินทางไปด้วยเพราะติดธุระบางอย่าง ก็อาจจะให้เดินทางไปโดยโดยสารไปกับ รถโดยสารที่น่าเชื่อถือได้ เช่น บขส
หากมีกลุ่มทรชนกลุ่มหนึ่ง นำรถยนต์อันเป็นพาหนะ ดูภูมิฐาน ดูเป็นยานพาหนะที่แข็งแกร่ง มาแสดงต่อคุณ แล้วกล่าวชักชวนว่า
จะนำพาธิดาที่ยังของคุณไปถึงที่ที่ต้องการ ทั้งระหว่างทาง กลุ่มคนนี้จะอำนวยความ เช่น อาหารรสชาติอร่อย น้ำดื่มที่ต้องการ ทั้งกล่าวคำที่น่าชื่นใจ ยินดีต่างๆ นานา
ถ้ากลุ่มคนกลุ่มนี้นำกุลธิดาของคนในตระกูลอื่น มาแล้วด้วยอาการอย่างนี้ พาไปตามทิศทางที่คนในตระกูลนั้นๆ ต้องการสักหน่อยหนึ่งแล้ว ก็ประทุษร้ายต่างๆ นานา เช่น พาไปเพื่อค้าบ้าง ให้รับใช้ต่อเองบ้าง สอนให้ร่วมขบวนการของตนบ้าง
1. การที่กลุ่มคนกลุ่มนี้ เดินทางร่วมทิศที่คุณต้องการนี้ไปเพียงเล็กน้อย
การเดินทางนี้ คุณเห็นว่า จะเป็นอุปการะคุณต่อธิดาของคนในตระกูลอื่นๆ หรือไม่
หรือจะเป็นเพียงเพื่อลวงให้เชื่อเท่านั้น
2. อาหารรสชาติอร่อย น้ำดื่มที่ต้องการ ทั้งกล่าวคำที่น่าชื่นใจ น่ายินดี
ต่างๆ นานา ของกลุ่มคนเหล่านี้ น่าปรารถนาหรือไม่ หรือว่าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเว้นให้ห่าง
3. คุณควรชื่นชมอนุโมทนาร่วมกับกลุ่มคนเหล่านี้ ในฐานะว่า
เขาได้ร่วมทิศทางที่ต้องการ แม้หน่อยหนึ่ง และอามิสที่ให้ในพาหนะ เช่นอาหารเป็นต้นเป็นสิ่งที่ดี
แล้วละเลยสิ่งที่คนเหล่านี้ มุ่งประสงค์หรือไม่
4. การให้การสนับสนุนคนกลุ่มนี้ เช่น การให้ค่านำมันรถยนต์ หรือแนะนำไปที่ตระกูลที่มีธิดายังอ่อนทักษะอื่นๆ ต่อไป
เป็นไปเพื่อประโยชน์ หรือไม่
5. การที่เจ้าชายอชาตสัตตุกุมาร ถวายทานในพระเทวทัต โดยการบำรุงทั้งเวลาเย็นทั้งเวลาเช้า
ด้วยรถ ๕๐๐ คัน และนำภัตตาหาร ๕๐๐ สำรับไปด้วย
น่าอนุโมทนา ไหม?
เป็นการส่งเสริมกำลังของภิกษุ เช่นพระเทวทัตด้วยลาภสักการะ ให้มีกำลังเพิ่มขึ้นแก่ภิกษุนี้
และเป็นตัวอย่างแก่ผู้ได้เห็นได้ทราบ?
ลาภสักการะของพระเทวทัตต มีประโยชน์ต่อพระเทวทัตเองหรือไม่
หรือเป็นแต่เพียง ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่ ?
ภิกษุเฉกเช่นพระเทวทัตนี้
เราควรที่จะริษยาในลาภ สักการะ หรือว่า ความสังเวชใจ แล้วหลีกให้ห่าง?
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เทวทัตตสูตรที่ ๒
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=4964&Z=4975
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
ปักกันตสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=6314&Z=6336
------------------------
J : เขาเป็นถึงเทวทัตเชียวหรือ มีทิฏฐิที่ชั่วช้า หรือว่าเขาเจตนาดีและปรารถนาพุทธภูมิจริงๆ ?
T : อุปมาเพิ่มเติม ให้ความเข้าใจ 2 ข้อ ดังนี้
1. สำหรับ ผู้เห็นภัยในวัฏฏะ
อุปมา เหมือนคนที่กำลังได้รับความทุกข์ เช่นสมมติ คุณเอง หรือใครๆ ถูกรถชนเจ็บหนัก
ขณะนั้น มีพลเมืองดี หวังให้คุณพ้นจากความทุกข์อันตรายนั้น กำลังจะนำคุณคนเจ็บไปโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ขณะที่กำลังนำคนเจ็บไปอยู่นั้น มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกล่าวอวดอ้างตนเองว่า เป็นนักศึกษาแพทย์ และทำการห้ามปรามพลเมืองดีเหล่านั้นว่า
รอก่อนเถิด จงรอก่อน เรานี้เป็นนักศึกษาแพทย์ รอให้เราสำเร็จวิชาแพทย์ก่อน ให้เราเป็นแพทย์ก่อนเถิด แล้วจึงทำการรักษา
ถามว่า คนกลุ่มนั้น ชื่อว่า ประพฤติเพื่อประโยชน์ หรือไม่
2. สำหรับ ผู้ศึกษาพระจริยาวัตรของพระโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์นั้น เมื่อได้ความเลื่อมใสในพระศาสนาแล้ว ก็ศึกษาพระธรรมวินัย สะสมปัญญาบารมีเพื่อการบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
ไม่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อพระศาสนา
ศึกษา พระสูตรชื่อว่า ฆฏิการสูตร ประกอบด้วย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕
มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
ฆฏิการสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=6596&Z=6824
อีกเรื่องหนึ่ง คือเมื่อสุเมธดาบสได้รับพยากรณ์จากพระทศพลทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เนื้อความว่า :--
สุเมธดาบสได้บังเกิดโสมนัสว่า นัยว่า ความปรารถนาของเราจักสำเร็จ ดังนี้.
มหาชนได้ฟังพระดำรัสของพระทศพลทีปังกร แล้วต่างได้พากันร่าเริงยินดีว่า นัยว่า
สุเมธดาบสเป็นพืชแห่งพระพุทธเจ้า เป็นหน่อแห่งพระพุทธเจ้า และพวกเขาเหล่านั้นก็ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า
ธรรมดาว่า บุรุษเมื่อจะข้ามแม่น้ำ ไม่สามารถข้ามโดยท่าโดยตรงได้ ย่อมข้ามโดยท่าข้างใต้ ฉันใด แม้พวกเราก็ฉันนั้นเหมือนกัน
เมื่อไม่ได้มรรคและผลในศาสนาของพระทศพลทีปังกร ในกาลใดในอนาคตท่านจักเป็นพระพุทธเจ้า.
ในกาลนั้น พวกเราพึงสามารถกระทำให้แจ้ง ซึ่งมรรคและผลในที่ต่อหน้าของท่าน ดังนี้ ต่างพากันตั้งความปรารถนาไว้
http://84000.org/tipitaka/atita100/nitana3_02.php
มหาชนเพียงตั้งความหวัง เพียงเพื่อว่า หากไม่สามารถบรรลุมรรคผลในพระศาสนานี้ แล้วก็ยังพอจะได้กระทำให้แจ้งในศาสนาหน้า
มหาชนไม่ประมาท ไม่ได้ละทิ้งพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคที่ปรากฎในขณะนั้น
ทั้งสุเมธดาบสโพธิสัตว์นั้น ไม่ปรากฎว่าชักชวนมหาชนว่า
ท่านอย่าได้ประพฤติพรหมจรรย์ในศาสนานี้เลย รอศาสนาของเราเถิด
ท่านไปรอเรา ที่ดุสิตเถิด อย่าเพิ่งประพฤติพรหมจรรย์ในศาสนานี้เลย
มหาชนเหล่านั้น ไม่ประมาท ตั้งความปรารถเผื่อไว้ เท่านั้นเอง
------------------------------
มาร เมื่อจะขัดขวางใครๆ ย่อมใช้กามคุณ นั่นแหละเป็นเครื่องมือ
ศึกษาตัวอย่างการใช้กามคุณ เป็นเครื่องมือ จาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
มารธีตุสูตรที่ ๕
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=4010&Z=4136
ผู้ใดพ้นจากกามแล้ว ย่อมพ้นจากอำนาจของมาร
เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย พ้นจากกามแล้ว พ้นจากอาสวะกิเลสทั้งปวงด้วย มารครอบงำไม่ได้
มารกลัวว่า ผู้ที่พ้นแล้วอย่างนี้ จะแนะนำสั่งสอนผู้อื่นให้พ้นตาม จึงมักจะตามรังควาญบ้าง
เย้ยหยันด้วยหวังว่า ให้คลายความเพียรบ้าง ห้ามปราบไม่ให้การแสดงธรรมบ้าง
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
สัตตวัสสสูตรที่ ๔
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=3952&Z=4009
ทำทีเป็นว่าห่วงใยชีวิตของพระภิกษุที่ไม่อาลัยต่อชีวิตบ้าง
โคธิกสูตรที่ ๓
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=3885&Z=3951
แสดงเสียงที่น่ากลัว ให้ภิกษุเคลื่อนจากความเพียรบ้าง บังตาคนเพื่อไม่ให้ถวายบิณฑบาตบ้าง
ควรศึกษาจาก มารสังยุตต์
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎก15
คือ ถ้าสามารถทำให้ปรินิพพานได้ ด้วยอุบายใดๆ ก็จะทำด้วยอุบายนั้น
เช่น การทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาคให้ทรงปรินิพพาน
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1888&Z=3915#95
ตัวอย่าง การแกล้งพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติเพื่อไม่ให้ได้ บิณฑบาต จาก
อรรถกถา ขทิรังคารชาดก
ว่าด้วย มีจิตมั่นคง
http://84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=270040
ตัวอย่าง การริษยาของเทวราชองค์หนึ่ง แทนที่จะอนุโมทนาจึงแกล้งดาบสตนหนึ่ง จาก
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
อลัมพุสาชาดก
ว่าด้วย อิสิสิงคดาบสถูกทำลายตบะ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=27&A=10324&Z=10421
อรรถกถา อลัมพุสาชาดก
http://84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=272478
-------------------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพนี้ตรงกับคำพังเพยว่า “หนีเสือปะจระเข้”
แต่ที่สยองลึกก็คือ ที่ด้านบนของเถาวัลย์มีหนู ๒ ตัว “หนูขาว” ตัวหนึ่ง “หนูดำ” ตัวหนึ่ง กำลังช่วยกันแทะเถาวัลย์อยู่อย่างเพลิดเพลิน
ไต่ขึ้นข้างบน ก็โดนเสือขบ
หนีลงน้ำ ก็ถูกจระเข้งาบ
เกาะเถาวัลย์อยู่เฉยๆ ไม่นานหนูก็กัดเถาวัลย์ขาด
เสือกับจระเข้ เป็นสัญลักษณ์แห่งสรรพภัยในสังสารวัฏ คือการเวียนตายเวียนเกิด
หนูขาวหนูดำ คือกลางวัน-กลางคืน หรือวันเดือนปีที่กลืนกินชีวิตของเราอยู่ทุกขณะ
ตราบใดที่ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ ตราบนั้นก็ยังต้องเผชิญภัยเช่นนี้อยู่ร่ำไป
ทางรอดมีทางเดียว
คือต้องออกไปจากวังวนแห่งการเวียนตายเวียนเกิดให้ได้
=================
กราบขอบพระคุณในธรรมทาน
ท่าน T, ท่าน J, และภาพจากเฟสบุ๊กท่านอาจารย์ทองย้อย แสงสินชัย
* พระโพธิสัตว์ไม่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อพระศาสนา *
ครั้งหนึ่ง เมื่อคุณต้องการส่งธิดาของคุณไปศึกษาศิลปะในที่แห่งหนึ่งและมีวิธีเดินทางไปศึกษานั้น ปกติแล้วด้วยความห่วงใย คุณอาจจะเดินทางร่วมไปด้วย แต่ถ้าไม่สามารถเดินทางไปด้วยเพราะติดธุระบางอย่าง ก็อาจจะให้เดินทางไปโดยโดยสารไปกับ รถโดยสารที่น่าเชื่อถือได้ เช่น บขส
หากมีกลุ่มทรชนกลุ่มหนึ่ง นำรถยนต์อันเป็นพาหนะ ดูภูมิฐาน ดูเป็นยานพาหนะที่แข็งแกร่ง มาแสดงต่อคุณ แล้วกล่าวชักชวนว่า
จะนำพาธิดาที่ยังของคุณไปถึงที่ที่ต้องการ ทั้งระหว่างทาง กลุ่มคนนี้จะอำนวยความ เช่น อาหารรสชาติอร่อย น้ำดื่มที่ต้องการ ทั้งกล่าวคำที่น่าชื่นใจ ยินดีต่างๆ นานา
ถ้ากลุ่มคนกลุ่มนี้นำกุลธิดาของคนในตระกูลอื่น มาแล้วด้วยอาการอย่างนี้ พาไปตามทิศทางที่คนในตระกูลนั้นๆ ต้องการสักหน่อยหนึ่งแล้ว ก็ประทุษร้ายต่างๆ นานา เช่น พาไปเพื่อค้าบ้าง ให้รับใช้ต่อเองบ้าง สอนให้ร่วมขบวนการของตนบ้าง
1. การที่กลุ่มคนกลุ่มนี้ เดินทางร่วมทิศที่คุณต้องการนี้ไปเพียงเล็กน้อย
การเดินทางนี้ คุณเห็นว่า จะเป็นอุปการะคุณต่อธิดาของคนในตระกูลอื่นๆ หรือไม่
หรือจะเป็นเพียงเพื่อลวงให้เชื่อเท่านั้น
2. อาหารรสชาติอร่อย น้ำดื่มที่ต้องการ ทั้งกล่าวคำที่น่าชื่นใจ น่ายินดี
ต่างๆ นานา ของกลุ่มคนเหล่านี้ น่าปรารถนาหรือไม่ หรือว่าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเว้นให้ห่าง
3. คุณควรชื่นชมอนุโมทนาร่วมกับกลุ่มคนเหล่านี้ ในฐานะว่า
เขาได้ร่วมทิศทางที่ต้องการ แม้หน่อยหนึ่ง และอามิสที่ให้ในพาหนะ เช่นอาหารเป็นต้นเป็นสิ่งที่ดี
แล้วละเลยสิ่งที่คนเหล่านี้ มุ่งประสงค์หรือไม่
4. การให้การสนับสนุนคนกลุ่มนี้ เช่น การให้ค่านำมันรถยนต์ หรือแนะนำไปที่ตระกูลที่มีธิดายังอ่อนทักษะอื่นๆ ต่อไป
เป็นไปเพื่อประโยชน์ หรือไม่
5. การที่เจ้าชายอชาตสัตตุกุมาร ถวายทานในพระเทวทัต โดยการบำรุงทั้งเวลาเย็นทั้งเวลาเช้า
ด้วยรถ ๕๐๐ คัน และนำภัตตาหาร ๕๐๐ สำรับไปด้วย
น่าอนุโมทนา ไหม?
เป็นการส่งเสริมกำลังของภิกษุ เช่นพระเทวทัตด้วยลาภสักการะ ให้มีกำลังเพิ่มขึ้นแก่ภิกษุนี้
และเป็นตัวอย่างแก่ผู้ได้เห็นได้ทราบ?
ลาภสักการะของพระเทวทัตต มีประโยชน์ต่อพระเทวทัตเองหรือไม่
หรือเป็นแต่เพียง ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่ ?
ภิกษุเฉกเช่นพระเทวทัตนี้
เราควรที่จะริษยาในลาภ สักการะ หรือว่า ความสังเวชใจ แล้วหลีกให้ห่าง?
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เทวทัตตสูตรที่ ๒
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=4964&Z=4975
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
ปักกันตสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=6314&Z=6336
------------------------
J : เขาเป็นถึงเทวทัตเชียวหรือ มีทิฏฐิที่ชั่วช้า หรือว่าเขาเจตนาดีและปรารถนาพุทธภูมิจริงๆ ?
T : อุปมาเพิ่มเติม ให้ความเข้าใจ 2 ข้อ ดังนี้
1. สำหรับ ผู้เห็นภัยในวัฏฏะ
อุปมา เหมือนคนที่กำลังได้รับความทุกข์ เช่นสมมติ คุณเอง หรือใครๆ ถูกรถชนเจ็บหนัก
ขณะนั้น มีพลเมืองดี หวังให้คุณพ้นจากความทุกข์อันตรายนั้น กำลังจะนำคุณคนเจ็บไปโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ขณะที่กำลังนำคนเจ็บไปอยู่นั้น มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกล่าวอวดอ้างตนเองว่า เป็นนักศึกษาแพทย์ และทำการห้ามปรามพลเมืองดีเหล่านั้นว่า
รอก่อนเถิด จงรอก่อน เรานี้เป็นนักศึกษาแพทย์ รอให้เราสำเร็จวิชาแพทย์ก่อน ให้เราเป็นแพทย์ก่อนเถิด แล้วจึงทำการรักษา
ถามว่า คนกลุ่มนั้น ชื่อว่า ประพฤติเพื่อประโยชน์ หรือไม่
2. สำหรับ ผู้ศึกษาพระจริยาวัตรของพระโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์นั้น เมื่อได้ความเลื่อมใสในพระศาสนาแล้ว ก็ศึกษาพระธรรมวินัย สะสมปัญญาบารมีเพื่อการบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
ไม่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อพระศาสนา
ศึกษา พระสูตรชื่อว่า ฆฏิการสูตร ประกอบด้วย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕
มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
ฆฏิการสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=6596&Z=6824
อีกเรื่องหนึ่ง คือเมื่อสุเมธดาบสได้รับพยากรณ์จากพระทศพลทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เนื้อความว่า :--
สุเมธดาบสได้บังเกิดโสมนัสว่า นัยว่า ความปรารถนาของเราจักสำเร็จ ดังนี้.
มหาชนได้ฟังพระดำรัสของพระทศพลทีปังกร แล้วต่างได้พากันร่าเริงยินดีว่า นัยว่า
สุเมธดาบสเป็นพืชแห่งพระพุทธเจ้า เป็นหน่อแห่งพระพุทธเจ้า และพวกเขาเหล่านั้นก็ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า
ธรรมดาว่า บุรุษเมื่อจะข้ามแม่น้ำ ไม่สามารถข้ามโดยท่าโดยตรงได้ ย่อมข้ามโดยท่าข้างใต้ ฉันใด แม้พวกเราก็ฉันนั้นเหมือนกัน
เมื่อไม่ได้มรรคและผลในศาสนาของพระทศพลทีปังกร ในกาลใดในอนาคตท่านจักเป็นพระพุทธเจ้า.
ในกาลนั้น พวกเราพึงสามารถกระทำให้แจ้ง ซึ่งมรรคและผลในที่ต่อหน้าของท่าน ดังนี้ ต่างพากันตั้งความปรารถนาไว้
http://84000.org/tipitaka/atita100/nitana3_02.php
มหาชนเพียงตั้งความหวัง เพียงเพื่อว่า หากไม่สามารถบรรลุมรรคผลในพระศาสนานี้ แล้วก็ยังพอจะได้กระทำให้แจ้งในศาสนาหน้า
มหาชนไม่ประมาท ไม่ได้ละทิ้งพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคที่ปรากฎในขณะนั้น
ทั้งสุเมธดาบสโพธิสัตว์นั้น ไม่ปรากฎว่าชักชวนมหาชนว่า
ท่านอย่าได้ประพฤติพรหมจรรย์ในศาสนานี้เลย รอศาสนาของเราเถิด
ท่านไปรอเรา ที่ดุสิตเถิด อย่าเพิ่งประพฤติพรหมจรรย์ในศาสนานี้เลย
มหาชนเหล่านั้น ไม่ประมาท ตั้งความปรารถเผื่อไว้ เท่านั้นเอง
มาร เมื่อจะขัดขวางใครๆ ย่อมใช้กามคุณ นั่นแหละเป็นเครื่องมือ
ศึกษาตัวอย่างการใช้กามคุณ เป็นเครื่องมือ จาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-------------------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
=================
กราบขอบพระคุณในธรรมทาน
ท่าน T, ท่าน J, และภาพจากเฟสบุ๊กท่านอาจารย์ทองย้อย แสงสินชัย