http://pantip.com/topic/34615963/comment14-1
สืบเนื่องจากกระทู้ที่ว่า ผู้ที่ใกล้ตายแล้วได้ฟังพุทธวจนของพระพุทธองค์ ทำให้คนเหล่านั้นสามารถบรรลุพระอนาคามีได้
มีอีกคำถามนึงที่อยากสอบถามผู้รุ้ คือสงสัยมานาน เลยอยากทราบว่า จะเปนไปได้ไหมที่ว่า คนเราไปนั่งฟังเทศน์พระหรือครูบาอจ.ท่านใด
ที่มีกำลังฌาณเยอะมากๆ แล้วทำให้กำลังจิตของเราดีขึ้นไปด้วย
คือจิงๆแล้ว เคยไปสำนักที่นึงที่ สาวกบอกว่า หากได้ฟังเทศน์ท่านเจ้าอาวาสบ่อยๆ จะสามารถบรรลุธรรมได้อย่างน้อยพระอนาคามีขึ้นไปภายในไม่กี่เดือน
เนื่องจากท่านมีกำลังฌาณเยอะมากๆ และจะแผ่พลังกำลังเหล่านี้ให้ผู้ฟังด้วย ทำให้คนฟังสามารถยกระดับจิตของตนได้อย่างง่ายดายมากๆ
ตัวเราเคยไปฟังหลายครั้ง และยกมือคุยถามท่านโดยตรงนานเหมือนกัน สังเกตว่า ขณะคุยกับท่าน 50นาที เรารุ้สึกว่าตัวพองโต พองโตมากขึ้นๆ เหมือนกับว่า มีกำลังสมถะที่ส่งผ่านมาจากท่านมาสู่ตัวเรา หลังจากนั้นไปถามคนอื่นๆ เค้าบอกว่านั่นคือฌาณ2 ที่ท่านแผ่พลังมาให้ ประมานว่าท่านจะแผ่กำลังฌาณสมาธิมาให้ แล้วคนฟังต้องไปต่อเองโดยการขึ้นสู่วิปัสสนาเอาเอง จากนั้นไม่นานจะบรรลุจบกิจได้ง่ายๆ ในเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น
เราเลยลองมาตั้งถามดูว่า เป็นไปได้หรือไม่ เพราะเราเองไม่อยากจะไปพลาดพลั้งปรามาสอะไรใคร แต่เราเองไม่ค่อยได้เข้าไปฟังบ่อยเท่าไหร่นักเพราะส่วนตัวไม่ได้ถึงกับศรัทธาแนวนี้เท่าไรนัก คือมีหลายคำถามที่เราสงสัย เพราะที่นี้เค้าจะบอกประมานว่า ผู้ที่จบกิจแล้ว ยังมีความโกรธ ความโลภในกามคุณต่างๆ ได้อีก เพราะว่าขันธ์ห้ากับธาตุรู้มันไม่เหมือนกัน คือธาตุรู้มันหลุดพ้น แต่ผู้จบกิจยังมีขันธ์ห้าอยู่ เลยทำให้ยังมีการปรุงแต่งเป็นโลภ เป็นโกรธได้อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่เห็นไว ดับไว
เราจึงงง ได้ถามไปหลายครั้ง ก็ได้คำตอบประมานนี้คือ ขันห้ากะตัวธาตุรุ้มันแยกกันไปแล้ว อะไรเกิดกะขันห้าก้อช่างมัน ดูไปงั้นๆแหละ จิตหลุดพ้นแล้ว ไม่ต้องมาเกิดอีก แต่ยังโกรธได้ โลภในกามได้ ก้อเปนเรื่องปกติ เพราะยังมีขันห้ามันเลยยังปรุงอยุ่ ไม่แปลกหรอก เราเลยงง เลยไม่ค่อยได้ไปเท่าไร แค่ฟังๆ เฉยๆ
รบกวนสอบถามเผื่อใครเคยเจอแนวนี้บ้าง ไม่ทราบเปนอย่างไรบ้าง รบกวนมาแชร์ๆ กัน หรือว่าอาจจะเปนไปได้??
เพราะเคยได้ยินมีหลายที่เหมือนกัน ที่แบบว่า มาเข้าสำนักบ่อยๆ แล้วบรรลุจบกิจกันทั้งหมู่บ้าน หรือทั้งวัด หรือทุกคนที่เปนสาวก
ปล. แต่ว่าไป อารมณ์โกรธ เคยได้ยินว่า หลวงปู่ดูลย์ หรือหลวงพ่อคำเขียน หลวงพ่อปราโมทย์ ก็เคยกล่าวไว้ว่าเหมือนกัน คล้ายๆมันเกิดขึ้นได้ แต่ดับไว เลยแบบว่า ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนักว่าเข้าใจได้ถูกต้องไหม หรือว่าอย่างไรยังไงไม่ค่อยชัวร์เหมือนกัน
รบกวนผู้รุ้ได้ไหม เพราะหลังๆเหมือนได้ยินเยอะมากขึ้นว่าจิงๆแล้ว การบรรลุจบกิจนั้นง่ายมากๆ บางครั้งแค่ฟังธรรมไม่กี่ครั้งเท่านั้น อาจจะจากครูบาอจ.บางท่านที่กำลังเยอะๆ หรือจากพุทธวจน เปนต้น
ต้องขออภัยด้วย หากเขียนแล้วอ่านงงๆ หรือไม่เก็ต และกราบขอขมาด้วยหากได้พลาดพลั้งปรามาสล่วงเกินครูบาอจ.ท่านใดโดยไม่ตั้งใจ คือสงสัยเลยอยากได้ฟังความคิดหลายๆท่านในที่นี้ดูเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะนำท่านใดมากล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะเป็นท่านเจ้าอาวาสที่มีกำลังฌาณแก่กล้าท่านนั้น เพียงแต่อยากทราบว่า คนอื่นๆคิดกันอย่างไร หรือเคยได้พบแนวนี้บ้างไหม หรือไม่อย่างไร
thx u
อยากทราบว่า การฟังธรรมจากครูบาอจ. หรือพระอจ.ท่านไหนที่มีกำลังฌาณเยอะๆ จะช่วยให้การภาวนาธรรมของคนที่ฟังก้าวหน้าไหม
สืบเนื่องจากกระทู้ที่ว่า ผู้ที่ใกล้ตายแล้วได้ฟังพุทธวจนของพระพุทธองค์ ทำให้คนเหล่านั้นสามารถบรรลุพระอนาคามีได้
มีอีกคำถามนึงที่อยากสอบถามผู้รุ้ คือสงสัยมานาน เลยอยากทราบว่า จะเปนไปได้ไหมที่ว่า คนเราไปนั่งฟังเทศน์พระหรือครูบาอจ.ท่านใด
ที่มีกำลังฌาณเยอะมากๆ แล้วทำให้กำลังจิตของเราดีขึ้นไปด้วย
คือจิงๆแล้ว เคยไปสำนักที่นึงที่ สาวกบอกว่า หากได้ฟังเทศน์ท่านเจ้าอาวาสบ่อยๆ จะสามารถบรรลุธรรมได้อย่างน้อยพระอนาคามีขึ้นไปภายในไม่กี่เดือน
เนื่องจากท่านมีกำลังฌาณเยอะมากๆ และจะแผ่พลังกำลังเหล่านี้ให้ผู้ฟังด้วย ทำให้คนฟังสามารถยกระดับจิตของตนได้อย่างง่ายดายมากๆ
ตัวเราเคยไปฟังหลายครั้ง และยกมือคุยถามท่านโดยตรงนานเหมือนกัน สังเกตว่า ขณะคุยกับท่าน 50นาที เรารุ้สึกว่าตัวพองโต พองโตมากขึ้นๆ เหมือนกับว่า มีกำลังสมถะที่ส่งผ่านมาจากท่านมาสู่ตัวเรา หลังจากนั้นไปถามคนอื่นๆ เค้าบอกว่านั่นคือฌาณ2 ที่ท่านแผ่พลังมาให้ ประมานว่าท่านจะแผ่กำลังฌาณสมาธิมาให้ แล้วคนฟังต้องไปต่อเองโดยการขึ้นสู่วิปัสสนาเอาเอง จากนั้นไม่นานจะบรรลุจบกิจได้ง่ายๆ ในเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น
เราเลยลองมาตั้งถามดูว่า เป็นไปได้หรือไม่ เพราะเราเองไม่อยากจะไปพลาดพลั้งปรามาสอะไรใคร แต่เราเองไม่ค่อยได้เข้าไปฟังบ่อยเท่าไหร่นักเพราะส่วนตัวไม่ได้ถึงกับศรัทธาแนวนี้เท่าไรนัก คือมีหลายคำถามที่เราสงสัย เพราะที่นี้เค้าจะบอกประมานว่า ผู้ที่จบกิจแล้ว ยังมีความโกรธ ความโลภในกามคุณต่างๆ ได้อีก เพราะว่าขันธ์ห้ากับธาตุรู้มันไม่เหมือนกัน คือธาตุรู้มันหลุดพ้น แต่ผู้จบกิจยังมีขันธ์ห้าอยู่ เลยทำให้ยังมีการปรุงแต่งเป็นโลภ เป็นโกรธได้อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่เห็นไว ดับไว
เราจึงงง ได้ถามไปหลายครั้ง ก็ได้คำตอบประมานนี้คือ ขันห้ากะตัวธาตุรุ้มันแยกกันไปแล้ว อะไรเกิดกะขันห้าก้อช่างมัน ดูไปงั้นๆแหละ จิตหลุดพ้นแล้ว ไม่ต้องมาเกิดอีก แต่ยังโกรธได้ โลภในกามได้ ก้อเปนเรื่องปกติ เพราะยังมีขันห้ามันเลยยังปรุงอยุ่ ไม่แปลกหรอก เราเลยงง เลยไม่ค่อยได้ไปเท่าไร แค่ฟังๆ เฉยๆ
รบกวนสอบถามเผื่อใครเคยเจอแนวนี้บ้าง ไม่ทราบเปนอย่างไรบ้าง รบกวนมาแชร์ๆ กัน หรือว่าอาจจะเปนไปได้??
เพราะเคยได้ยินมีหลายที่เหมือนกัน ที่แบบว่า มาเข้าสำนักบ่อยๆ แล้วบรรลุจบกิจกันทั้งหมู่บ้าน หรือทั้งวัด หรือทุกคนที่เปนสาวก
ปล. แต่ว่าไป อารมณ์โกรธ เคยได้ยินว่า หลวงปู่ดูลย์ หรือหลวงพ่อคำเขียน หลวงพ่อปราโมทย์ ก็เคยกล่าวไว้ว่าเหมือนกัน คล้ายๆมันเกิดขึ้นได้ แต่ดับไว เลยแบบว่า ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนักว่าเข้าใจได้ถูกต้องไหม หรือว่าอย่างไรยังไงไม่ค่อยชัวร์เหมือนกัน
รบกวนผู้รุ้ได้ไหม เพราะหลังๆเหมือนได้ยินเยอะมากขึ้นว่าจิงๆแล้ว การบรรลุจบกิจนั้นง่ายมากๆ บางครั้งแค่ฟังธรรมไม่กี่ครั้งเท่านั้น อาจจะจากครูบาอจ.บางท่านที่กำลังเยอะๆ หรือจากพุทธวจน เปนต้น
ต้องขออภัยด้วย หากเขียนแล้วอ่านงงๆ หรือไม่เก็ต และกราบขอขมาด้วยหากได้พลาดพลั้งปรามาสล่วงเกินครูบาอจ.ท่านใดโดยไม่ตั้งใจ คือสงสัยเลยอยากได้ฟังความคิดหลายๆท่านในที่นี้ดูเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะนำท่านใดมากล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะเป็นท่านเจ้าอาวาสที่มีกำลังฌาณแก่กล้าท่านนั้น เพียงแต่อยากทราบว่า คนอื่นๆคิดกันอย่างไร หรือเคยได้พบแนวนี้บ้างไหม หรือไม่อย่างไร
thx u