เป็นการโพสรีวิวเที่ยวครั้งแรกเลยค่ะ เพราะไปเที่ยว(ตปท)ด้วยกันครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนก็ มองข้ามๆมันไปก่อนแล้วกันนะคะ
ที่ทำรีวิวครั้งนี้เพราะ ตั้งแต่กลับมาจากทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ ก็มี เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ถามกันมาเยอะมาก ทั้งเรื่องที่เที่ยว ที่กิน งบที่ใช้ การเดินทาง นู่นนี่นั่น เลยคิดว่าอธิบายกันทีเดียวไปเลย สำหรับทุกคนที่สนใจนะคะ ^^
เนื่องด้วยวันว่างที่มีจำกัด แววเรียน 6 ปี ปิดเทอมนี้เป็นหยุดยาวครั้งสุดท้าย มดเรียนปีสุดท้าย บังเอิญปีนี้ได้ปิดปีใหม่นาน
ชวนเพื่อนๆคนอื่นไม่มีใครว่างก็ไปกัน 2คนเลยแล้วกัน
คุยกันตอน ตุลาคม ล็อกวันว่างช่วงกลางเดือนถึงสิ้นเดือนธันวาได้ ก็จองตั๋วจองที่พักก่อนเลย หลังจากนั้นใครว่างก็วางทริปกันไป
จริงๆคือไม่ว่างทั้งคู่ แววสอบเสร็จ 11 มดสอบเสร็จ 14 ธค บิน 15 = =” พร้อมมากแค่ไหน ไปดูกันค่า~
ขั้นตอนการเตรียมตัว
ซื้อตั๋วเครื่องบิน : หาตั๋วราคาถูกจากเพจFB ติดโปร จองตั๋วไปโอซาก้า สนามบินคันไซ ได้ในราคา 9700กว่าบาท ได้น้ำหนักกระเป๋าขาไป 20 Kg ขากลับ 25 Kg ไม่มีข้าวบนเครื่องคุยกันไว้ว่าจะประหยัดตรงนี้หากินกันเอาเอง
เที่ยวบินของสายการบิน Air asiaขาออกวันที่ 15/12/2558 เวลา 15.40 น. ถึงKansai airport ประมาณ 4 ทุ่ม ขาเข้า 21/12/2558 เวลา 23.30 น. ถึง สนามบินดอนเมืองตี 4
ซื้อตั๋วรถไฟ : Kansai area pass 6300¥ เงินไทย 1860 บาท (HIS)
บัตรเที่ยว : universal japan 7200¥ เงินไทย 2100 บาท (HIS)
จองที่พัก : ผ่าน App Hostel world >>> Hotel TOYO คืนละ 4400¥ นอน2 คน ห้องเสื่อญี่ปุ่น ห้องน้ำรวม มีห้องน้ำเล็กๆย่อย ดีมาก สะอาด สดใส ไฉไล วิ้งวับ มีน้ำดื่มเครื่องซักผ้า น้ำอุ่น ไดร์เป่าผม สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว รองเท้าแตะ ตู้เย็น ทีวี แอร์ฮีทเตอร์ ไม้แขวนเสื้อ ไวไฟ และนู่นนี่นั่นมากมายให้บริการ พนง.ใจดีมากๆ พูดภาษาอังกฤษได้แจ่มมาก
****เดี๋ยวจะมีภาพรีวิวที่พักให้นะคะ*****
Pocket Wifi : Samurai wifiวันละ 200 บาท (ทริปนี้นับว่าเที่ยวจริง 5 วันก็เป็น 1000 บาท) เครื่องกินแบตมากค่าพาวเวอร์แบงค์หมดทุกวัน วันละ3 เครื่องเพราะตัวนี้เลยยย TT แต่ทำไงได้ ถ้าไม่มีก็ตายแน่นอน
วางแผนเที่ยว : หนังสือเที่ยว 2 เล่ม
รีวิวหลายๆสำนักจากใน pantip ที่ใช้ดูอ้างอิงเยอะสุดน่าจะเป็น
http://pantip.com/topic/34497193 ของคุณ Techaholic เพราะพอเจอกระทู้นี้ว่าวางแผนเที่ยวคล้ายๆกัน มั๊ง? เลยใช้ดูตามเยอะเลยค่ะ รีวิวดีมากละเอียดมาก อ่านสนุกดี อยากให้เข้าไปชมกันนะคะ
App :สำคัญ Google maps *************************************************
เวป Hyperdia ไว้ดูตารางเวลา รอบรถไฟ บอกถึงขั้น ชานชาลาที่ต้องขึ้นต้อง สังเกตให้ดีๆ
อุปกรณ์ถ่ายภาพ : Iphone 6 , Iphone 6s ล้วนๆเลยค่ะ
ติดตามรูปภาพเพิ่มเติมได้ใน IG #MWinKansai นะคะ
เอาเป็นว่า ด้วยเวลาที่จำกัด วางแผนกันคร่าวๆ คร่าวมากจนเหมือนจะไม่มีแผน งั้นจะเริ่มกันเลยนะคะ > <
Day 1 15.12.58
ขึ้นเครื่องที่สนามบิน ดอนเมือง แอร์ของAirasia น่ารักมากๆ ผู้ประกาศ คุณ ทราย สีเพลิง พูดเล่นกับผู้โดยสารทำให้นั่งยิ้มได้ตลอด เล่นมุขทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แบบเป็นกันเอง แอร์ทุกคนน่ารักบริการดี <3
เครื่องลงจอดที่สนามบินคันไซ
อุณหภูมิตอนนั้น 12องศา แล้วก็รีบเดินไปหาที่นอนในสนามบิน ซึ่งเค้าจัดที่ไว้ให้นอนแล้ว เป็นอาคาร Aero Plaza
มีห้องอาบน้ำ มีผ้าห่มฟรี มีLawson Burger king เปิด 24ชม. ซึ่งความตื่นตาตื่นใจอยากลองของแปลกเลยเลือกกินมาม่าที่ Lawson (จริงๆคืองก)
แล้วก็เข้านอน ~
Day 2 16.12.58
ตื่นตี5 มาล้างหน้าแปรงฟันแต่งหน้าให้เหมือนนอนเต็มอิ่ม8ชม. = = แลกบัตร JR kansai area pass ที่ JR Ticket information center (เปิด 5.30) ตั้งให้ในบัตรเริ่มใช้วันที่ 17-20.12.2558 เพราะวันแรกเราจะไม่ใช้ เราจะไปตะลุย USJกัน ~
แล้วก็ ไปกดตั๋วไปShin-imamiya ฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อน
กดตั๋ว มุ่งหน้าสู่ USJ โดยขึ้น รถไฟ Osaka loop line ไปเปลี่ยนสถานีที่ Nishikujoแล้วไป สถานี Universal city รถไฟเป็นลาย Harry potter ขึ้นไม่ผิดแน่นอน พอไปถึง 8 โมงกว่าๆ ก็ไปเดินเล่นด้วยความฟินน
เข้า USJ ไปเอาแผนที่ที่ประชาสัมพันธ์
มีคนรอต่อแถวเข้าประตูอยู่ไม่มากเท่าไหร่ ก็ไปยืนบ้าง รอซักพักก็คนมารอกันเต็มลานแบบล้นหลาม ระหว่างรอก็ดูแผนที่เลือกโซนที่จะเที่ยวเพราะคิดว่าคงเล่นไม่ได้หมด พอ 9.30 ประตูเริ่มเปิดทุกคนค่อยๆสแกนบัตรเข้าไปแบบพรั่งพรู และทุกคนมุ่งหน้าไปทางขวา......โซน Harry potter !!!!! โอ๊ยตื่นเต้น พอถึงคิวได้เข้า ความรู้สึกตอนแข่งวิ่งกีฬาสีตอนม.ปลายก็กลับมา..... วิ่งสิคะรอไร หนาวก็หนาว เหนื่อยก็เหนื่อย วิ่งที่คิดว่าเร็วแล้วเด็กมัธยมวิ่งแซงฉิวไม่เกรงใจพี่เลย TT พนักงานร้านของฝากทุกร้านออกมายืนหน้าร้านโบกมือบ๊ายบายให้กำลังใจ…… หนูจะสู้ค่ะ Y^Y
พอถึงโซน Harry ที่มีป่าสนแน่นทึบ ก็…………....วิ่งต่อ.... ถึงหน้าประตูปราสาทคนไม่มาก บอกเลยว่าใจชื้น
แต่พอเข้าไปคือต่อแถววนรอบปราสาท วนระยะทางไกลอยู่ แต่แทบไม่ได้หยุดยืนเฉยๆเลย เพราะคนยังไม่มากก็เดินๆตามเค้าไปก็ได้เล่น

อันนี้ตู้ล็อกเกอร์ ฝากของ สะดวก รวดเร็ว
***ขอไม่เล่าละกันไปเล่นเองเนอะ ฟินสุดใจขาดดิ้น จ่าย7000เยน ค่าเข้า กรี๊ดไป 20000เยน คุ้มแล้ว พอใจ
Tips
สำหรับใครที่เป็นติ่ง Harry แนะนำว่า วิ่งเถอะ แล้วชีวิตจะดีมาก เพราะนี่วิ่งสู้ฟัดเข้าไปตาเหลือก เล่นเสร็จตั้งแต่ 10.15 เหมือนไม่เสียเวลาเลย เพราะตอนออกมา เห็นคนต่อแถวกันเยอะมากก แบบ เสียเวลาน่าดู
ออกมาเจอร้านชอปปิ้ง เหมือนโดนดูดวิญญาณและสติ หยิบชอปกันหน้ามืดตามัวมากๆ
ไปชิม Butterbeerที่เค้าว่ากันว่าถ้ามาถึงนี่ ไม่กินแสดงว่ามาไม่ถึง .. รีวิวบอกไม่ค่อยอร่อย แต่แววกับมดชอบแฮะ คือแย่งกันกินเพราะงกซื้อมาแก้วเดียวเค้ามีขายหลายแบบ คือจะซื้อแต่ น้ำก็ได้ 600 ¥หรือจะซื้อน้ำ พร้อมแก้วที่ระลึกก็ได้ ก็เพิ่มไปอีก เป็น 1100¥
หลังจากวิญญาณกลับเข้าร่างได้สติก็ออกจากโซน Harry ไปเที่ยวต่อที่โซน Jurassic park เห็นคนแทะน่องไก่ยักษ์ ก็อยากบ้าง เลยเดินหาซื้อ เข้าไปใน Jurassic restaurant แป่วว ไม่ได้ขายที่นี่ เลยไปถ่ายรูปกับกระดูกไดโนเสาร์แก้เขิน
Tips
อยากให้ลองเรียก พนง.ในร้านให้ถ่ายรูปให้ ********* ลองเถอะ สนุกดี 55 เพราะทุกคนจะมีส่วนร่วมในรูปของเราด้วย ********
น่องไก่ยักษ์ขายอยู่ตรงข้ามนี่เอง คนต่อแถวอยู่ ราคา 850¥ ซื้อมาคนละอัน
ถ้าถามว่าอิ่มมั๊ย.. อิ่มดี อยู่ได้ทั้งวัน ถ้าถามว่าอร่อยมั๊ย 5/10 มันจะมี tendon ของไก่ที่กินไม่ได้ แบบ กินไม่ได้จริงๆ ต้องแทะออก เป็นการกินน่องไก่ที่ลำบากมาก แต่ถือว่าคุ้มเพราะอิ่มทนมากจริงๆ ถ้าใครไม่สนไก่ เดินตรงต่อมาโซน Sanfransiscoก็มีร้านของกินขายอยู่เยอะเลย แต่ไม่ทันละอิ่มมาก เสียดายย
เสร็จก็ไปต่อที่ เครื่องเล่น Spiderman เดินเข้าไปนึกว่าต่อแถวไม่นาน ที่ไหนได้ พาวนในตึกอีกแล้ว TT แล้วแบบอันนี้นานจริง เดินแล้วหยุดๆ อืดๆ .......กลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง........ เดินในแถวไม่มีภาพสไปเดอร์แมนซักตัว คิดว่านี่เดินผิดตึกรึเปล่า -* - การ์ตูนก็พูดภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่ออกอีก พอได้เล่น ด้วยความที่ฟินขาดใจกับเครื่องเล่น Harry ไปแล้ว อันนี้เลยให้ 8/10 หักคะแนนที่ต่อแถวนาน แต่ก็สนุกดี
ต่อด้วยการเดินวนไปถ่ายรูปที่ Universal Wonderland เครื่องเล่น ฟรุ้งฟริ้ง น่ารักมาก น่ารักจน...ไม่เล่น เพราะเค้ามากันเป็นคู่ๆ แบบ เล่นกันน่ารักๆหวานๆ ใครมาเป็นคู่ก็เอาเลยค่า พอดีมดมากับแวว ... เบี้ยนเกิน การที่ไปนั่งถ้วยหมุนแล้วมองหน้ากัน..คงไม่โอเค ไปเดินถ่ายรูปเล่น เล่นตู้ สติกเกอร์ แล้วก็ออกมาดูร้านของฝากน่ารักๆ
เดินผ่านโซน Harryอีกรอบ ก็ไปถ่ายรูปกับรถของรอน วิสลี่ย์ ไปเจอ สองสาวญี่ปุ่น ที่หันหาคนถ่ายรูปให้ ก็ไปถ่ายให้เค้า สลับกันๆ เสร็จ เค้าก็หัวเราะกันคิกคัก แล้วก็ชวนเราถ่ายรูปด้วย
เข้าไปถ่ายรูปกับรถไฟที่ชานชาลา 9 ¾ จุดเด่นคือ ยืนอยู่ซักพักรถไฟจะปล่อยไอน้ำออกมาฟู่ววววววว!!!! คือแววถ่ายให้มดได้ อย่างสวยงาม พอตัวเองวิ่งเข้าไปถ่าย ยืนรอไอน้ำ พอไอน้ำพุ่ง... วิ่งหนีจ้า นางตกใจ คนรอบๆก็หัวเราะไป....ไม่อายเท่าไหร่
ที่โซน Harry จะมีโชว์สด สลับกันไป ตารางโชว์ขอได้พร้อมกับตอนขอแผนที่ที่ประชาสัมพันธ์นะคะ
พระอาทิตใกล้ตกดินแล้ว > <
ต่อไปก็เริ่มเย็น ไปนั่งดู The voice of an Angle สุดอลังการ แบบไม่ค่อยอิน เพราะนั่งไกลมากกกก และเป็นภาษาญี่ปุ่นฟังไม่ออก พอจบต่อด้วย Space fantacy the ride คือพอโชว์จบคนวิ่งเข้าไปเต็มเลย แบบเยอะมากพร้อมใจ - -

อันนี้ยืมภาพจากในเน็ตมา
Tips
ตู้ล็อกเกอร์ของเครื่องเล่นนี้ ต้องหยอดเหรียญ 100เยนก่อน คือแบบโง่งมตู้อยู่นานมาก เพราะไม่รู้ว่าต้องใช้เหรียญ - - (ก็ตอนHarry มันไม่ต้องใช้นี่นา TT)
พอออกมาแถวยาวไปจนถึงถนน เลยใช้วิชามาร เข้าแถว single ride ได้เข้าไปเลยแบบไม่ต้องรอ เข้าไปด้านใน เค้าจะจับเราไปผสมกลุ่มที่เป็นคี่ มดแววก็แยกกันเล่น มดเจอชาวยุ่นวัยรุ่นกลุ่มใหญ่มากชวนคุยตบมือกันเริงร่า กรี๊ดไป 20000 แบบครั้งที่แล้ว ส่วน แววเจอกลุ่มผู้ชายเหมือนกัน ที่หล่อนิ่ง เงียบมากก จากที่จะกรี๊ด 20000 แบบครั้งที่แล้ว ...เหลือกรี๊ดไป 10 ¥ เดินออกมาหน้าจ๋อย
ออกมาก็เดินเล่นหาของฝากแล้วก็ออกมากิน ทาโกะยากิที่ห้าง Universal city walk ชั้น 4เป็นมื้อเย็น
กลับโรงแรมประมาน 3 ทุ่ม วางแผนเที่ยววันที่เหลือกันถึง ตี 1 กว่า ก็นะ ก่อนมาไม่ได้เตรียมก็ต้องมาเตรียมกันตอนนี้
[CR] ~~~Nonstop Trip 2 สาวตะลุย Kansai เที่ยว 5 วัน อยากกินได้กิน อยากเที่ยวได้เที่ยว ที่Osaka Kobe Kyoto ~~~
เป็นการโพสรีวิวเที่ยวครั้งแรกเลยค่ะ เพราะไปเที่ยว(ตปท)ด้วยกันครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนก็ มองข้ามๆมันไปก่อนแล้วกันนะคะ
ที่ทำรีวิวครั้งนี้เพราะ ตั้งแต่กลับมาจากทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ ก็มี เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ถามกันมาเยอะมาก ทั้งเรื่องที่เที่ยว ที่กิน งบที่ใช้ การเดินทาง นู่นนี่นั่น เลยคิดว่าอธิบายกันทีเดียวไปเลย สำหรับทุกคนที่สนใจนะคะ ^^
เนื่องด้วยวันว่างที่มีจำกัด แววเรียน 6 ปี ปิดเทอมนี้เป็นหยุดยาวครั้งสุดท้าย มดเรียนปีสุดท้าย บังเอิญปีนี้ได้ปิดปีใหม่นาน
ชวนเพื่อนๆคนอื่นไม่มีใครว่างก็ไปกัน 2คนเลยแล้วกัน
คุยกันตอน ตุลาคม ล็อกวันว่างช่วงกลางเดือนถึงสิ้นเดือนธันวาได้ ก็จองตั๋วจองที่พักก่อนเลย หลังจากนั้นใครว่างก็วางทริปกันไป
จริงๆคือไม่ว่างทั้งคู่ แววสอบเสร็จ 11 มดสอบเสร็จ 14 ธค บิน 15 = =” พร้อมมากแค่ไหน ไปดูกันค่า~
ขั้นตอนการเตรียมตัว
ซื้อตั๋วเครื่องบิน : หาตั๋วราคาถูกจากเพจFB ติดโปร จองตั๋วไปโอซาก้า สนามบินคันไซ ได้ในราคา 9700กว่าบาท ได้น้ำหนักกระเป๋าขาไป 20 Kg ขากลับ 25 Kg ไม่มีข้าวบนเครื่องคุยกันไว้ว่าจะประหยัดตรงนี้หากินกันเอาเอง
เที่ยวบินของสายการบิน Air asiaขาออกวันที่ 15/12/2558 เวลา 15.40 น. ถึงKansai airport ประมาณ 4 ทุ่ม ขาเข้า 21/12/2558 เวลา 23.30 น. ถึง สนามบินดอนเมืองตี 4
ซื้อตั๋วรถไฟ : Kansai area pass 6300¥ เงินไทย 1860 บาท (HIS)
บัตรเที่ยว : universal japan 7200¥ เงินไทย 2100 บาท (HIS)
จองที่พัก : ผ่าน App Hostel world >>> Hotel TOYO คืนละ 4400¥ นอน2 คน ห้องเสื่อญี่ปุ่น ห้องน้ำรวม มีห้องน้ำเล็กๆย่อย ดีมาก สะอาด สดใส ไฉไล วิ้งวับ มีน้ำดื่มเครื่องซักผ้า น้ำอุ่น ไดร์เป่าผม สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว รองเท้าแตะ ตู้เย็น ทีวี แอร์ฮีทเตอร์ ไม้แขวนเสื้อ ไวไฟ และนู่นนี่นั่นมากมายให้บริการ พนง.ใจดีมากๆ พูดภาษาอังกฤษได้แจ่มมาก
****เดี๋ยวจะมีภาพรีวิวที่พักให้นะคะ*****
Pocket Wifi : Samurai wifiวันละ 200 บาท (ทริปนี้นับว่าเที่ยวจริง 5 วันก็เป็น 1000 บาท) เครื่องกินแบตมากค่าพาวเวอร์แบงค์หมดทุกวัน วันละ3 เครื่องเพราะตัวนี้เลยยย TT แต่ทำไงได้ ถ้าไม่มีก็ตายแน่นอน
วางแผนเที่ยว : หนังสือเที่ยว 2 เล่ม
รีวิวหลายๆสำนักจากใน pantip ที่ใช้ดูอ้างอิงเยอะสุดน่าจะเป็น
http://pantip.com/topic/34497193 ของคุณ Techaholic เพราะพอเจอกระทู้นี้ว่าวางแผนเที่ยวคล้ายๆกัน มั๊ง? เลยใช้ดูตามเยอะเลยค่ะ รีวิวดีมากละเอียดมาก อ่านสนุกดี อยากให้เข้าไปชมกันนะคะ
App :สำคัญ Google maps *************************************************
เวป Hyperdia ไว้ดูตารางเวลา รอบรถไฟ บอกถึงขั้น ชานชาลาที่ต้องขึ้นต้อง สังเกตให้ดีๆ
อุปกรณ์ถ่ายภาพ : Iphone 6 , Iphone 6s ล้วนๆเลยค่ะ
ติดตามรูปภาพเพิ่มเติมได้ใน IG #MWinKansai นะคะ
เอาเป็นว่า ด้วยเวลาที่จำกัด วางแผนกันคร่าวๆ คร่าวมากจนเหมือนจะไม่มีแผน งั้นจะเริ่มกันเลยนะคะ > <
Day 1 15.12.58
ขึ้นเครื่องที่สนามบิน ดอนเมือง แอร์ของAirasia น่ารักมากๆ ผู้ประกาศ คุณ ทราย สีเพลิง พูดเล่นกับผู้โดยสารทำให้นั่งยิ้มได้ตลอด เล่นมุขทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แบบเป็นกันเอง แอร์ทุกคนน่ารักบริการดี <3
เครื่องลงจอดที่สนามบินคันไซ
อุณหภูมิตอนนั้น 12องศา แล้วก็รีบเดินไปหาที่นอนในสนามบิน ซึ่งเค้าจัดที่ไว้ให้นอนแล้ว เป็นอาคาร Aero Plaza
มีห้องอาบน้ำ มีผ้าห่มฟรี มีLawson Burger king เปิด 24ชม. ซึ่งความตื่นตาตื่นใจอยากลองของแปลกเลยเลือกกินมาม่าที่ Lawson (จริงๆคืองก)
แล้วก็เข้านอน ~
Day 2 16.12.58
ตื่นตี5 มาล้างหน้าแปรงฟันแต่งหน้าให้เหมือนนอนเต็มอิ่ม8ชม. = = แลกบัตร JR kansai area pass ที่ JR Ticket information center (เปิด 5.30) ตั้งให้ในบัตรเริ่มใช้วันที่ 17-20.12.2558 เพราะวันแรกเราจะไม่ใช้ เราจะไปตะลุย USJกัน ~
แล้วก็ ไปกดตั๋วไปShin-imamiya ฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อน
กดตั๋ว มุ่งหน้าสู่ USJ โดยขึ้น รถไฟ Osaka loop line ไปเปลี่ยนสถานีที่ Nishikujoแล้วไป สถานี Universal city รถไฟเป็นลาย Harry potter ขึ้นไม่ผิดแน่นอน พอไปถึง 8 โมงกว่าๆ ก็ไปเดินเล่นด้วยความฟินน
เข้า USJ ไปเอาแผนที่ที่ประชาสัมพันธ์
มีคนรอต่อแถวเข้าประตูอยู่ไม่มากเท่าไหร่ ก็ไปยืนบ้าง รอซักพักก็คนมารอกันเต็มลานแบบล้นหลาม ระหว่างรอก็ดูแผนที่เลือกโซนที่จะเที่ยวเพราะคิดว่าคงเล่นไม่ได้หมด พอ 9.30 ประตูเริ่มเปิดทุกคนค่อยๆสแกนบัตรเข้าไปแบบพรั่งพรู และทุกคนมุ่งหน้าไปทางขวา......โซน Harry potter !!!!! โอ๊ยตื่นเต้น พอถึงคิวได้เข้า ความรู้สึกตอนแข่งวิ่งกีฬาสีตอนม.ปลายก็กลับมา..... วิ่งสิคะรอไร หนาวก็หนาว เหนื่อยก็เหนื่อย วิ่งที่คิดว่าเร็วแล้วเด็กมัธยมวิ่งแซงฉิวไม่เกรงใจพี่เลย TT พนักงานร้านของฝากทุกร้านออกมายืนหน้าร้านโบกมือบ๊ายบายให้กำลังใจ…… หนูจะสู้ค่ะ Y^Y
พอถึงโซน Harry ที่มีป่าสนแน่นทึบ ก็…………....วิ่งต่อ.... ถึงหน้าประตูปราสาทคนไม่มาก บอกเลยว่าใจชื้น
แต่พอเข้าไปคือต่อแถววนรอบปราสาท วนระยะทางไกลอยู่ แต่แทบไม่ได้หยุดยืนเฉยๆเลย เพราะคนยังไม่มากก็เดินๆตามเค้าไปก็ได้เล่น
อันนี้ตู้ล็อกเกอร์ ฝากของ สะดวก รวดเร็ว
***ขอไม่เล่าละกันไปเล่นเองเนอะ ฟินสุดใจขาดดิ้น จ่าย7000เยน ค่าเข้า กรี๊ดไป 20000เยน คุ้มแล้ว พอใจ
Tips
สำหรับใครที่เป็นติ่ง Harry แนะนำว่า วิ่งเถอะ แล้วชีวิตจะดีมาก เพราะนี่วิ่งสู้ฟัดเข้าไปตาเหลือก เล่นเสร็จตั้งแต่ 10.15 เหมือนไม่เสียเวลาเลย เพราะตอนออกมา เห็นคนต่อแถวกันเยอะมากก แบบ เสียเวลาน่าดู
ออกมาเจอร้านชอปปิ้ง เหมือนโดนดูดวิญญาณและสติ หยิบชอปกันหน้ามืดตามัวมากๆ
ไปชิม Butterbeerที่เค้าว่ากันว่าถ้ามาถึงนี่ ไม่กินแสดงว่ามาไม่ถึง .. รีวิวบอกไม่ค่อยอร่อย แต่แววกับมดชอบแฮะ คือแย่งกันกินเพราะงกซื้อมาแก้วเดียวเค้ามีขายหลายแบบ คือจะซื้อแต่ น้ำก็ได้ 600 ¥หรือจะซื้อน้ำ พร้อมแก้วที่ระลึกก็ได้ ก็เพิ่มไปอีก เป็น 1100¥
หลังจากวิญญาณกลับเข้าร่างได้สติก็ออกจากโซน Harry ไปเที่ยวต่อที่โซน Jurassic park เห็นคนแทะน่องไก่ยักษ์ ก็อยากบ้าง เลยเดินหาซื้อ เข้าไปใน Jurassic restaurant แป่วว ไม่ได้ขายที่นี่ เลยไปถ่ายรูปกับกระดูกไดโนเสาร์แก้เขิน
Tips
อยากให้ลองเรียก พนง.ในร้านให้ถ่ายรูปให้ ********* ลองเถอะ สนุกดี 55 เพราะทุกคนจะมีส่วนร่วมในรูปของเราด้วย ********
น่องไก่ยักษ์ขายอยู่ตรงข้ามนี่เอง คนต่อแถวอยู่ ราคา 850¥ ซื้อมาคนละอัน
ถ้าถามว่าอิ่มมั๊ย.. อิ่มดี อยู่ได้ทั้งวัน ถ้าถามว่าอร่อยมั๊ย 5/10 มันจะมี tendon ของไก่ที่กินไม่ได้ แบบ กินไม่ได้จริงๆ ต้องแทะออก เป็นการกินน่องไก่ที่ลำบากมาก แต่ถือว่าคุ้มเพราะอิ่มทนมากจริงๆ ถ้าใครไม่สนไก่ เดินตรงต่อมาโซน Sanfransiscoก็มีร้านของกินขายอยู่เยอะเลย แต่ไม่ทันละอิ่มมาก เสียดายย
เสร็จก็ไปต่อที่ เครื่องเล่น Spiderman เดินเข้าไปนึกว่าต่อแถวไม่นาน ที่ไหนได้ พาวนในตึกอีกแล้ว TT แล้วแบบอันนี้นานจริง เดินแล้วหยุดๆ อืดๆ .......กลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง........ เดินในแถวไม่มีภาพสไปเดอร์แมนซักตัว คิดว่านี่เดินผิดตึกรึเปล่า -* - การ์ตูนก็พูดภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่ออกอีก พอได้เล่น ด้วยความที่ฟินขาดใจกับเครื่องเล่น Harry ไปแล้ว อันนี้เลยให้ 8/10 หักคะแนนที่ต่อแถวนาน แต่ก็สนุกดี
ต่อด้วยการเดินวนไปถ่ายรูปที่ Universal Wonderland เครื่องเล่น ฟรุ้งฟริ้ง น่ารักมาก น่ารักจน...ไม่เล่น เพราะเค้ามากันเป็นคู่ๆ แบบ เล่นกันน่ารักๆหวานๆ ใครมาเป็นคู่ก็เอาเลยค่า พอดีมดมากับแวว ... เบี้ยนเกิน การที่ไปนั่งถ้วยหมุนแล้วมองหน้ากัน..คงไม่โอเค ไปเดินถ่ายรูปเล่น เล่นตู้ สติกเกอร์ แล้วก็ออกมาดูร้านของฝากน่ารักๆ
เดินผ่านโซน Harryอีกรอบ ก็ไปถ่ายรูปกับรถของรอน วิสลี่ย์ ไปเจอ สองสาวญี่ปุ่น ที่หันหาคนถ่ายรูปให้ ก็ไปถ่ายให้เค้า สลับกันๆ เสร็จ เค้าก็หัวเราะกันคิกคัก แล้วก็ชวนเราถ่ายรูปด้วย
เข้าไปถ่ายรูปกับรถไฟที่ชานชาลา 9 ¾ จุดเด่นคือ ยืนอยู่ซักพักรถไฟจะปล่อยไอน้ำออกมาฟู่ววววววว!!!! คือแววถ่ายให้มดได้ อย่างสวยงาม พอตัวเองวิ่งเข้าไปถ่าย ยืนรอไอน้ำ พอไอน้ำพุ่ง... วิ่งหนีจ้า นางตกใจ คนรอบๆก็หัวเราะไป....ไม่อายเท่าไหร่
ที่โซน Harry จะมีโชว์สด สลับกันไป ตารางโชว์ขอได้พร้อมกับตอนขอแผนที่ที่ประชาสัมพันธ์นะคะ
พระอาทิตใกล้ตกดินแล้ว > <
ต่อไปก็เริ่มเย็น ไปนั่งดู The voice of an Angle สุดอลังการ แบบไม่ค่อยอิน เพราะนั่งไกลมากกกก และเป็นภาษาญี่ปุ่นฟังไม่ออก พอจบต่อด้วย Space fantacy the ride คือพอโชว์จบคนวิ่งเข้าไปเต็มเลย แบบเยอะมากพร้อมใจ - -
อันนี้ยืมภาพจากในเน็ตมา
Tips
ตู้ล็อกเกอร์ของเครื่องเล่นนี้ ต้องหยอดเหรียญ 100เยนก่อน คือแบบโง่งมตู้อยู่นานมาก เพราะไม่รู้ว่าต้องใช้เหรียญ - - (ก็ตอนHarry มันไม่ต้องใช้นี่นา TT)
พอออกมาแถวยาวไปจนถึงถนน เลยใช้วิชามาร เข้าแถว single ride ได้เข้าไปเลยแบบไม่ต้องรอ เข้าไปด้านใน เค้าจะจับเราไปผสมกลุ่มที่เป็นคี่ มดแววก็แยกกันเล่น มดเจอชาวยุ่นวัยรุ่นกลุ่มใหญ่มากชวนคุยตบมือกันเริงร่า กรี๊ดไป 20000 แบบครั้งที่แล้ว ส่วน แววเจอกลุ่มผู้ชายเหมือนกัน ที่หล่อนิ่ง เงียบมากก จากที่จะกรี๊ด 20000 แบบครั้งที่แล้ว ...เหลือกรี๊ดไป 10 ¥ เดินออกมาหน้าจ๋อย
ออกมาก็เดินเล่นหาของฝากแล้วก็ออกมากิน ทาโกะยากิที่ห้าง Universal city walk ชั้น 4เป็นมื้อเย็น
กลับโรงแรมประมาน 3 ทุ่ม วางแผนเที่ยววันที่เหลือกันถึง ตี 1 กว่า ก็นะ ก่อนมาไม่ได้เตรียมก็ต้องมาเตรียมกันตอนนี้