ผมเห็นถกเถียงเรื่องนี้กันมานาน ผมเองก็ไม่เคยแสดงความเห็นนะครับ นี่เป็นครั้งแรก
คำว่า "ไตรลักษณ์" หมายถึง ลักษณะ 3 ประการของสรรพสิ่งทั้งปวง ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
คำว่า "ลักษณะของสรรพสิ่งทั้งปวง" หมายความว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นอนิจจัง ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นทุกขัง และ ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นอนัตตา
ไม่ได้หมายความว่า ถ้าสิ่งใดที่เป็นอนิจจัง สิ่งนั้นจึงจะเป็นทุกขัง และสิ่งนั้นถึงจะเป็นอนัตตา แบบเดียวกับหลักอิทัปปัจจยตา (เมื่อสิ่งนั้นมี สิ่งนั้นจึงเกิด) หรือแบบตรรกะ
ถ้าจะเขียนให้ดูง่ายๆ ก็คือ อนิจจัง = ทุกขัง = อนัตตา เมื่อทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎนี้ ดังนั้น
ถ้าจะบอกว่า สิ่งใดที่เป็นอนัตตา สิ่งนั้นเป็นทุกขัง ได้หรือไม่? ตอบว่า ได้
ถ้าจะบอกว่า สิ่งใดที่เป็นทุกขัง สิ่งนั้นเป็นอนัตตา ได้หรือไม่? ตอบว่า ได้
ถ้าจะบอกว่า สิ่งใดที่เป็นทุกขัง สิ่งนั้นเป็นอนิจจัง ได้หรือไม่? ตอบว่า ได้
จะสลับไปมาอย่างไรก็ได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีลักษณะทั้ง 3 อย่างนี้ทั้งสิ้น จึงถูกต้องเสมอ
ทีนี้มาพูดถึงเรื่อง "นิพพาน"
ที่พูดกันว่า นิพพานเป็นอัตตา นั่นก็เพราะไปใช้วิธีเทียบคำตรงกันข้ามกับไตรลักษณ์ และเทียบในแบบอิทัปปัจจยตาหรือแบบตรรกะ คือ เพราะนิพพานเที่ยง (นิจจัง) นิพพานเป็นสุข (สุขัง) ดังนั้น นิพพานจึงน่าจะเป็นอัตตา
ซึ่งที่จริงมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย
ถ้าถามว่า สิ่งใดที่เป็นอัตตา สิ่งนั้นต้องเป็นสุขังด้วย ใช่หรือไม่? ตอบว่า ไม่จำเป็น
ถ้าถามว่า สิ่งใดที่เป็นสุขัง สิ่งนั้นต้องเป็นอัตตาด้วย ใช่หรือไม่? ตอบว่า ไม่จำเป็น
ถ้าถามว่า สิ่งใดที่เป็นสุขัง สิ่งนั้นต้องเป็นนิจจังด้วย ใช่หรือไม่? ตอบว่า ไม่จำเป็น
นิพพานเป็นสุขัง (มีผู้พิสูจน์แล้ว) นิพพานเป็นนิจจัง (มีผู้พิสูจน์แล้ว) แต่ไม่ได้หมายความว่า เมื่อเป็นนิจจัง เป็นสุขัง ต้องเป็นอัตตาด้วย
ขอเสริมอีกอย่างครับ เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
สิ่งที่ตรงกันข้ามกับ ดับ คือ ไม่ดับ (เกิดอยู่อย่างนั้นหรือตั้งอยู่ไปเรื่อยๆ)
ถ้าเราลองใช้ตรรกะเดียวกันคือแบบตรงกันข้าม คือ "ไม่เกิดขึ้น ไม่ตั้งอยู่ ไม่ดับไป" ไมได้ เพราะในเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไรให้ดับไป (ไม่มีอะไรตั้งอยู่หรือไม่ตั้งอยู่) ไม่ใช่ ไม่ดับ
ดังนั้น คำว่า ดับไป จึงมี 2 ทางเลือกคือ ไม่ดับ (เกิดอยู่อย่างนั้น) กับ ไม่มีอะไรให้ดับ (เพราไม่มีอะไรเกิด)
นิพพานก็เช่นกัน ไม่มีอะไรที่มาเป็นอัตตาครับ
ปล. ในศาสนาพราหมณ์ เชื่อว่ามีอัตตา (หรืออาตมัน) เป็นวิญญาณอมตะไม่มีวันตาย ถ้าวิญญาณอมตะนั้นนั้นเป็นพวกสัตว์นรก หรือวิญญาณที่ต้องมาเกิดเป็นจัณฑาล คงไม่คิดว่าอัตตาต้องเป็นสุขังเท่านั้นนะครับ
เพราะ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง = ทุกขัง = อนัตตา) ไม่ใช่ตรรกะ ดังนั้น นิพพาน จึงไม่ใช่ อัตตา
คำว่า "ไตรลักษณ์" หมายถึง ลักษณะ 3 ประการของสรรพสิ่งทั้งปวง ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
คำว่า "ลักษณะของสรรพสิ่งทั้งปวง" หมายความว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นอนิจจัง ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นทุกขัง และ ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นอนัตตา
ไม่ได้หมายความว่า ถ้าสิ่งใดที่เป็นอนิจจัง สิ่งนั้นจึงจะเป็นทุกขัง และสิ่งนั้นถึงจะเป็นอนัตตา แบบเดียวกับหลักอิทัปปัจจยตา (เมื่อสิ่งนั้นมี สิ่งนั้นจึงเกิด) หรือแบบตรรกะ
ถ้าจะเขียนให้ดูง่ายๆ ก็คือ อนิจจัง = ทุกขัง = อนัตตา เมื่อทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎนี้ ดังนั้น
ถ้าจะบอกว่า สิ่งใดที่เป็นอนัตตา สิ่งนั้นเป็นทุกขัง ได้หรือไม่? ตอบว่า ได้
ถ้าจะบอกว่า สิ่งใดที่เป็นทุกขัง สิ่งนั้นเป็นอนัตตา ได้หรือไม่? ตอบว่า ได้
ถ้าจะบอกว่า สิ่งใดที่เป็นทุกขัง สิ่งนั้นเป็นอนิจจัง ได้หรือไม่? ตอบว่า ได้
จะสลับไปมาอย่างไรก็ได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีลักษณะทั้ง 3 อย่างนี้ทั้งสิ้น จึงถูกต้องเสมอ
ทีนี้มาพูดถึงเรื่อง "นิพพาน"
ที่พูดกันว่า นิพพานเป็นอัตตา นั่นก็เพราะไปใช้วิธีเทียบคำตรงกันข้ามกับไตรลักษณ์ และเทียบในแบบอิทัปปัจจยตาหรือแบบตรรกะ คือ เพราะนิพพานเที่ยง (นิจจัง) นิพพานเป็นสุข (สุขัง) ดังนั้น นิพพานจึงน่าจะเป็นอัตตา
ซึ่งที่จริงมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย
ถ้าถามว่า สิ่งใดที่เป็นอัตตา สิ่งนั้นต้องเป็นสุขังด้วย ใช่หรือไม่? ตอบว่า ไม่จำเป็น
ถ้าถามว่า สิ่งใดที่เป็นสุขัง สิ่งนั้นต้องเป็นอัตตาด้วย ใช่หรือไม่? ตอบว่า ไม่จำเป็น
ถ้าถามว่า สิ่งใดที่เป็นสุขัง สิ่งนั้นต้องเป็นนิจจังด้วย ใช่หรือไม่? ตอบว่า ไม่จำเป็น
นิพพานเป็นสุขัง (มีผู้พิสูจน์แล้ว) นิพพานเป็นนิจจัง (มีผู้พิสูจน์แล้ว) แต่ไม่ได้หมายความว่า เมื่อเป็นนิจจัง เป็นสุขัง ต้องเป็นอัตตาด้วย
ขอเสริมอีกอย่างครับ เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
สิ่งที่ตรงกันข้ามกับ ดับ คือ ไม่ดับ (เกิดอยู่อย่างนั้นหรือตั้งอยู่ไปเรื่อยๆ)
ถ้าเราลองใช้ตรรกะเดียวกันคือแบบตรงกันข้าม คือ "ไม่เกิดขึ้น ไม่ตั้งอยู่ ไม่ดับไป" ไมได้ เพราะในเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไรให้ดับไป (ไม่มีอะไรตั้งอยู่หรือไม่ตั้งอยู่) ไม่ใช่ ไม่ดับ
ดังนั้น คำว่า ดับไป จึงมี 2 ทางเลือกคือ ไม่ดับ (เกิดอยู่อย่างนั้น) กับ ไม่มีอะไรให้ดับ (เพราไม่มีอะไรเกิด)
นิพพานก็เช่นกัน ไม่มีอะไรที่มาเป็นอัตตาครับ
ปล. ในศาสนาพราหมณ์ เชื่อว่ามีอัตตา (หรืออาตมัน) เป็นวิญญาณอมตะไม่มีวันตาย ถ้าวิญญาณอมตะนั้นนั้นเป็นพวกสัตว์นรก หรือวิญญาณที่ต้องมาเกิดเป็นจัณฑาล คงไม่คิดว่าอัตตาต้องเป็นสุขังเท่านั้นนะครับ