ถ้าเราสบตาใครเกินสามครั้ง คุณคิดว่ามันใช่ไหม

คืองี้เมื่อวันศุกหลังเลิกงาน ผมต้องไปต่อรถที่เซ็นจูรี่พอถึงเซ็นจูรี่ ผมก้กำลังเดินไปซื้อตั๋วรถตู้เข้าหมู่บ้าน ในจังหวะที่จะเดินไปซื้อตั๋ว ก้มี ผญ คนหนึ่งยืนก้มหน้าซื้อตั๋วรถตู้อยุ่ พอคนขายตั๋วยื่นตั๋วให้ถอนเงินเสร็จ เขาก้เงยหน้ามามองผมเพราะผมอยุ่ฝั่งตรงกันข้ามกับเขาที่กำลังจะไปซื้อตั๋วรถตู้ คือตาก้สบตาและ แต่ผมอ่ะไม่ได้คิดอะไรเพราะผมเคยเห็นเขาก่อนหน้านี้แล้วคือเขาขึ้นรถตู้ที่นี่บ่อยๆและทิศทางการมองมันบังคับให้เปนทางนั้น พอเขาซื้อตั๋วเสดเขาก้ไปยืนรอรถอยุ่ด้านข้างประตูทางเข้า ส่วนผมก้ไปยืนซื้อตั๋ว ซื้อเสดผมก้เดินมานั่งรอรถอยุ่ตรงบันไดทางขึ้น ซึ่งเขาก้ยืนอยุ่หลังผมนั่นเอง พอนั่งไปสักพัก เขาเดินลงบันไดมาตรงที่ผมนั่งนั่นและ ทำไมถึงรุ้ว่าเปนเขาเพราะว่าผมจำรองเท้ากับสีกระโปรงเขาได้ เหมือนเขาจะเดินไปซื้ออะไรสักอย่าง พอเขาเดินเลยผมไปเกือบจะถึงฟุตบาท เขาหันมามองผม คือจังหวะเนี่ยมันทำให้ผมเริ่มคิดล่ะไง เพราะคนเราจะต้องมองแต่ข้างหน้าไงว่ามีสิ่งกรีดขว้างอะไรมั้ย แต่นี่หันมามองผม คือมันผิดธรรมชาติอ่ะ ก้มองกันอยุ่แวบนึงจนผมเองเขินเลยหลบตาไปทางอื่น ส่วนเขาก้หันกลับ แล้วก้เดินหายไปในฝูงคน ผ่านไปสักพัก ผมก้หันไปมองคนขายตั๋ว เพราะผมต้องรอฟังคนขายตั๋วตะโกนบอกให้ต่อแถวขึ้นรถตู้ คือคนขายตั๋วจะอยุ่ด้านหลังผมเยื้องไปทางขวา จังหวะที่ผมหันไป ผมเหนรองเท้าคู่เดิมกระโปรงสีเดิม ยืนอยู่หลังผมเยื้องๆไปทางขวาหน่อยๆ ผมก้มั่นใจได้ว่าเปนเขา คือเขาก้กลับมายืนที่เดิมที่ตอนแรกที่เขายืนนั่นและ ผ่านไปสักพัก คราวนี้คนขายตั๋วก้ตะโกนบอกว่า ตั๋วสีชมพูยืนต่อแถวรอขึ้นรถได้เลยค่ะ ผมก้ไปยืนต่อแถวตามคิว คือรถตู้ที่นี่จะยืนตามคิวที่คนขายตั๋วเขียนเลขไว้บนตั๋ว พอต่อแถวผมก้มองหาเขาว่าเขาไปไหน คือผมซื้อตั๋วต่อจากเขา(ผมได้ตั๋วเลขเก้า ส่วนเขาได้เลข8) เพราะฉะนั้นผมต้องยืนต่อจากเขา ก้พยายามมองหาจนรถตู้มาจอด คนในแถวด้านหน้าเริ่มขยับขึ้นไปทีล่ะคนสองคน ผมก้ยังส่ายตามองหาเขาน่ะ จนผมมองไปเหนเขา คราวนี้ก้มองตากัน(อีกล่ะหรอ)ผมเลยทำ
ท่าทางด้วยภาษามือบอกเขาว่ารถมาล่ะน่ะ เขาก้วิ่งลงมาอยุ่ข้างหน้าผม พอแถวเดินไปจนถึงคิวเขา เขาก้เลือกนั่งเบาะหน้ารถฝั่งประตู ผมก้เดินไปชะโงกดูแถวเบาะตอนด้านหลังเต็มเกือบหมดเหลือแต่แถวหลังสุดที่ว่างทั้งสี่ที่ แต่ผมเปนคนไม่ชอบนั่งแถวหลังสุดเพราะมันแคบ คือขาผมยาว ผมก้เลยเลยเลือนั่งเบาะข้างเขาซึ่งมันเปนเบาะพับเล็กๆ พอคนขึ้นรถกันหมด รถก้ออกจากเซ็นจูรี่วิ่งไปจะขึ้นทางด่วน พอรถวิ่งขึ้นทางด่วน วิ่งผ่านสโมสรทหารบก ไหล่เขามากระทบ
ก่อนหน้านี้ไหล่เราสองคนไม่โดนกันน่ะ ผมก้เลยมองเหลือบหางตาไป ผมจึงรุ้ว่าเขาหลับ แล้วหัวเขาก้เอนมาทางผมแต่ยังไม่ถึงก่ะซบน่ะ เปนงี้อยุ่นานมาก จนมีอยุ่จังหว่ะนึง หัวเขาเอนมาซบไหล่ผม เท่านั้นล่ะหัวใจนี้เต้นถี่ๆผิดจังหวะเดิมไปหมด คราวนี้เริ่มคิดว่าถ้าเขาลงรถ จะลงไปขอเบอดีไหม รึว่าเรายิ้มคิดไปเองทั้งหมดรึป่าว ก้คิดแบบนี้ตลอดทาง แล้วเขาก้ตื่นก่อนจะถึงแยกลำลูกกา คือตอนที่เขาซบไหล่อ่ะเขาซบได้ประมาณไม่ถึงสิบวิได้มั้ง รถก้วิ่งไปเรื่อยๆ รถตู้สายนี้จะจอดอยุ่สองที่ คือคลองสาม(ก้คือบ้านผม) และคลองสี่ แต่รถตู้คันนี้จะวิ่งไปส่งคนที่ลงคลองสี่ก่อนแล้วค่อยวนไปส่งคนที่คลองสาม ขณะที่รถวิ่งไปคลองสี่ ผมก้คิดว่าจะลงไปขอเบอเขาดีไหม หรือเราคิดเองเออเองว่ะ ถ้าลงไปแล้วมีผู้ปกครองหรือแฟนเขามารับ เราจะยังกล้าอยุ่ไหม ก้คิดไปตลอดทาง จนรถวิ่งมาถึงคลองสี่ รถก้จอดให้คนลง แต่เขาไม่ลง คือแบบในใจนี่ดีใจมาก พูดในใจว่า เขาลงไม่โว้ย 5555. พอคนที่คลองสี่ลงหมด ก้เหลือเขากับผมที่นั่งเบาะคู่หน้า และเบาะตอนหลังกี่คนนี่ไม่แน่ใจ รถก้ออกตัวเพื่อที่จะวิ่งไปส่งคนที่คลองสาม จากนั้นก้คิดขึ้นได้ว่าตัวเองมีกฎของตัวเองอยุ่ว่า เราจะไม่จีบคนแถวบ้าน/แฟนเก่าเพื่อน/รุ่นน้อง(หมายถึงสมัยมหาลัย)/น้องสาวเพื่อน คนในออฟฟิด ก้คิดน่ะว่า เราจะแหกกฎตัวเองหรอว่ะ คิดแบบนี้ซ้ำๆวนไปวนมา ตลอดระยะที่รถวิ่ง จนรถมาถึงคลองสาม เขาเปิดประตูก้าวลงรถ ผมคิดว่าไม่ดีกว่ากลัวว่าถ้าวันนึง ถ้าเราเลิกกันล่ะ จะมีปัญหาไรตามมาไหม คือผมกลัวความรู้สึกคนเปนพอ่เปนแม่ เพราะท่านต้องใช้ชีวิตอยุ่ในหมู่บ้านนี้ ก้เลยตัดใจไปว่าอย่าเลย เปนหวงความรู้สึกพ่อแม่เกินที่จะทำแบบนั้น เขาเดินลงแล้วเลี้ยวซ้ายไปโดยไม่มีใครมารับ ส่วนผมเดินแล้วเลี้ยวขวากลับบ้าน(คือละแวกที่ผมอยู่จะมีหมู่บ้านเยอะ แต่ก้อยุ๋ใกล้ๆกันและ ถ้าถามผมว่า ผมไม่เคยเห็นเขามาก่อนหรอ ตอบเลยว่าไม่ ด้วยนิสัยผมไม่ค่อยออกไปเดินเล่นแถวบ้าน) คืนนั้นก้เอาแต่คิดเรื่องนี้ เกือบจะตลอด(วันนั้นวันศุก ย้ำให้กลัวลืม) ก้คิดเรื่องนี้มาตลอดจนเมื่อคืน(คืนวันอาทิด) ก้คิดว่า เอาว่ะเปนไงเปนกัน ถ้าเจออีกครั้งคราวนี้ต้องขอเบอและ ก้คิดว่าคงได้เจอและเพราะเขาจะมาขึ้นรถตู้สายนี้กลับบ้านบ่อย แต่มาขึ้นตอนไหนนี่ ผมไม่แน่ใจ คือที่ผมจะถามคือ ผมคิดไปเองป่ะว่ะกับเหตุการทั้งหมด อยากแน่ใจมากกว่านี้ นี่ก้ไม่มั่นใจหรอก
     ปล.1 ถ้าจะด่าเรื่องภาษา ด่าเลยครับ ด่าได้เลย แต่อย่าด่าแรงน่ะ เดี้ยวผมสะอึก
     ปล.2 ถ้าจะด่าเรื่องย่อหน้า ก้ด่าเหอะ ผมไม่เก่งเรื่องพวกนี้อ่ะ และนี่ก้ครั้งแรกในชีวิตที่ทำแบบนี้ เอออย่าด่าแรงล่ะ เดี้ยวผมสะอึก
     ปล.3 อันนี้คือเรื่องจิง ถ้าจะคิดว่าแต่งขึ้นก้ไม่เปนไร ผมโอเค ผมไม่เดือดร้อน ก้บอกอยู่ว่า ผมโอเค 555555
     ปล.4 จขกท. โสดน่ะ งั้นไม่ผิดที่คิดจะชอบใคร
     ปล.5 ถ้าถามว่าทำไม ปล. มันเยอะจัง คือคนเราจะหลุดจากกรอบบ้างไม่ได้ไง
     ปล.6 จขกท. ปีใหม่ไม่ได้ไปไหนน่ะ บอกคนคนนั้นเพื่อเขาอยากจะรู้ 55555.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่