สวัสดีค่ะ ยาวนิดหน่อยนะคะ
ตอนนี้เรียนอยู่ ม.6 กำลังจบปีหน้าเดือนกุมภาค่ะ
คือตอนนี้เราติดคณะที่อยากเข้ามากกกกกกกแล้ว แต่คณะนั้นค่อข้างแพง คือเหยียบแสนต่อเทอม
รายได้ของครอบครัวเรามาจากแม่คนเดียวค่ะ เพราะแยกทางกับพ่อแล้ว *ไม่ติดต่อกันอีกเลยค่ะ*
มีรายรับประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน
ไหนจะค่าหอพัก ค่ากินอยู่ของเราอีก
ทางญาติก็ไม่เห็นด้วยค่ะ ป้าชอบมาพูดกับแม่ว่ามันไม่คุ้มนะ จะให้เรียนแล้วเป็นหนี้ อย่างงู้นอย่างงี้ จบมาแล้วจะมีงานทำไหม
อาจเป็นเพราะคณะที่เราจะเข้าเพิ่งเปิดใหม่ และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักค่ะ แถมค่านิยมอีก
*คณะนั้น ค่อนข้างเกี่ยวกับดนตรีค่ะ แต่เป็นพวกเบื้องหลัง*
เราบอกแม่ไปว่า เราจะพยายามหาเงินช่วยทุกช่องทาง และมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แม่ก็ไม่เชื่อ
คงเป็นเพราะนิสัยเป็นคนค่อนข้างเอื่อยเฉื่อยค่ะ จะมีความกระตือรือร้นสนใจแค่สิ่งที่ชอบเท่านั้น ส่วนอะไรที่ไม่ชอบก็แทบจะไม่แตะ ไม่สนใจ
แล้ววันนี้เช้าแม่ก็มาให้ความหวังเราค่ะ มาบอกว่าถ้าจะเรียนแล้วต้องขอทุนช่วยค่าเทอมให้ได้นะ เราก็เริ่มมีความหวังค่ะ
แต่พอตอนเย็นๆ ป้าก็มาหาค่ะ แล้วก็มาพูดแบบเดิมอีก หลังจากนั้นแม่ก็มาเรียกเราคุยค่ะ ถามว่าหาคณะอื่นเรียนได้มั้ย เรียนมหาลัยอื่นได้มั้ย
อ่าว.....
เราก็เข้าใจป้านะคะว่าอาจจะเป็นห่วง แต่คือนี่มันชีวิตเรานะ...
แล้วตอนนี้แม่ยืนยันคำเดียวเลยค่ะว่าจะต้องเรียนคณะอื่น เรียนอย่างอื่น
แล้วเราเป็นคนที่เกลียดคำพูดที่ว่า เรียนๆไปเถอะคณะไหนก็ได้ จบออกมาแล้วมีงานทำก็พอ <<ป้าเราชอบพูดประมาณนี้ค่ะ
เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าเราจะมีความกระตือรือร้นแค่ในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่สนใจเท่านั้น
เราไม่มีความคิดที่จะเข้าคณะอื่นเลยค่ะ
หลายคนก็ชอบถามว่า ถ้าไม่ติดล่ะ ไม่คิดจะเผื่อเลือกหน่อยเหรอ...
เรามั่นใจว่าเราติดค่ะ เราจึงไม่เผื่อใจใดๆทั้งสิ้น
*รู้ว่าการคิดแบบนี้มันไม่ค่อยดีค่ะ...แต่ก็ไม่มีคณะอื่นที่อยากเข้าเลยจริงๆ...*
แล้วนี่สรุปเราต้องทำยังไง...ต้องทำใจเลยรึเปล่าคะ
เราจะไม่ได้เรียนคณะที่ชอบ แล้วไปเรียนคณะอื่นแบบเซ็งๆสินะคะ
เราต้องพูดกับแม่แบบไหน คือเคยโน้มน้าวมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จซะทีล่ะค่ะ...
==========
หลายๆคนอาจจะคิดว่า ทำไมไม่ดูรายได้ครอบครัวก่อน ทำไมไม่คิดให้ดีก่อน ทำไมไม่ปรึกษาแม่ก่อน
เป็นเพราะตอนสมัคร ทุกอย่างมันปุบปับมากค่ะ รร เดินเรื่องเร็วมาก เราก็คิดว่าจะเอาไปเซอร์ไพรส์แม่ทีเดียวเลยน่ะค่ะ
แล้วเราอยู่ รร ประจำค่ะ แม่ก็ทำงานไม่ค่อยว่าง เลยไม่ค่อยได้คุยกันเลยค่ะ
แม่ก็เพิ่งรู้ว่าติดคณะนั้นแล้ว ก็เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองค่ะ
**ไม่รู้จะติดแท็กอะไรดีล่ะค่ะ เลยแท็กดนตรีไว้ด้วย เพราะอยากรู้พวกอาชีพเบื้องหลังวงการดนตรีด้วย แท็กถูกรึเปล่าคะ**
อยากเรียนคณะที่ค่าเทอมแพงแต่อาจทำให้ครอบครัวลำบาก ต้องทำยังไง
ตอนนี้เรียนอยู่ ม.6 กำลังจบปีหน้าเดือนกุมภาค่ะ
คือตอนนี้เราติดคณะที่อยากเข้ามากกกกกกกแล้ว แต่คณะนั้นค่อข้างแพง คือเหยียบแสนต่อเทอม
รายได้ของครอบครัวเรามาจากแม่คนเดียวค่ะ เพราะแยกทางกับพ่อแล้ว *ไม่ติดต่อกันอีกเลยค่ะ*
มีรายรับประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน
ไหนจะค่าหอพัก ค่ากินอยู่ของเราอีก
ทางญาติก็ไม่เห็นด้วยค่ะ ป้าชอบมาพูดกับแม่ว่ามันไม่คุ้มนะ จะให้เรียนแล้วเป็นหนี้ อย่างงู้นอย่างงี้ จบมาแล้วจะมีงานทำไหม
อาจเป็นเพราะคณะที่เราจะเข้าเพิ่งเปิดใหม่ และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักค่ะ แถมค่านิยมอีก
*คณะนั้น ค่อนข้างเกี่ยวกับดนตรีค่ะ แต่เป็นพวกเบื้องหลัง*
เราบอกแม่ไปว่า เราจะพยายามหาเงินช่วยทุกช่องทาง และมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แม่ก็ไม่เชื่อ
คงเป็นเพราะนิสัยเป็นคนค่อนข้างเอื่อยเฉื่อยค่ะ จะมีความกระตือรือร้นสนใจแค่สิ่งที่ชอบเท่านั้น ส่วนอะไรที่ไม่ชอบก็แทบจะไม่แตะ ไม่สนใจ
แล้ววันนี้เช้าแม่ก็มาให้ความหวังเราค่ะ มาบอกว่าถ้าจะเรียนแล้วต้องขอทุนช่วยค่าเทอมให้ได้นะ เราก็เริ่มมีความหวังค่ะ
แต่พอตอนเย็นๆ ป้าก็มาหาค่ะ แล้วก็มาพูดแบบเดิมอีก หลังจากนั้นแม่ก็มาเรียกเราคุยค่ะ ถามว่าหาคณะอื่นเรียนได้มั้ย เรียนมหาลัยอื่นได้มั้ย
อ่าว.....
เราก็เข้าใจป้านะคะว่าอาจจะเป็นห่วง แต่คือนี่มันชีวิตเรานะ...
แล้วตอนนี้แม่ยืนยันคำเดียวเลยค่ะว่าจะต้องเรียนคณะอื่น เรียนอย่างอื่น
แล้วเราเป็นคนที่เกลียดคำพูดที่ว่า เรียนๆไปเถอะคณะไหนก็ได้ จบออกมาแล้วมีงานทำก็พอ <<ป้าเราชอบพูดประมาณนี้ค่ะ
เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าเราจะมีความกระตือรือร้นแค่ในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่สนใจเท่านั้น
เราไม่มีความคิดที่จะเข้าคณะอื่นเลยค่ะ
หลายคนก็ชอบถามว่า ถ้าไม่ติดล่ะ ไม่คิดจะเผื่อเลือกหน่อยเหรอ...
เรามั่นใจว่าเราติดค่ะ เราจึงไม่เผื่อใจใดๆทั้งสิ้น
*รู้ว่าการคิดแบบนี้มันไม่ค่อยดีค่ะ...แต่ก็ไม่มีคณะอื่นที่อยากเข้าเลยจริงๆ...*
แล้วนี่สรุปเราต้องทำยังไง...ต้องทำใจเลยรึเปล่าคะ
เราจะไม่ได้เรียนคณะที่ชอบ แล้วไปเรียนคณะอื่นแบบเซ็งๆสินะคะ
เราต้องพูดกับแม่แบบไหน คือเคยโน้มน้าวมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จซะทีล่ะค่ะ...
==========
หลายๆคนอาจจะคิดว่า ทำไมไม่ดูรายได้ครอบครัวก่อน ทำไมไม่คิดให้ดีก่อน ทำไมไม่ปรึกษาแม่ก่อน
เป็นเพราะตอนสมัคร ทุกอย่างมันปุบปับมากค่ะ รร เดินเรื่องเร็วมาก เราก็คิดว่าจะเอาไปเซอร์ไพรส์แม่ทีเดียวเลยน่ะค่ะ
แล้วเราอยู่ รร ประจำค่ะ แม่ก็ทำงานไม่ค่อยว่าง เลยไม่ค่อยได้คุยกันเลยค่ะ
แม่ก็เพิ่งรู้ว่าติดคณะนั้นแล้ว ก็เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองค่ะ
**ไม่รู้จะติดแท็กอะไรดีล่ะค่ะ เลยแท็กดนตรีไว้ด้วย เพราะอยากรู้พวกอาชีพเบื้องหลังวงการดนตรีด้วย แท็กถูกรึเปล่าคะ**