นักพูดนั้น แพ้นักการตลาดวันยังค่ำครับ แต่ดูเหมือนนักพูดยัง "ดีแต่พูด" ต่อไป ไม่ปั๊ดถะนาอะไรเลย

กระทู้คำถาม
นักพูดนั้น   สร้างแค่ความประทับใจให้คนฟังครับ   เพราะเป็นเรื่อง "นามธรรม" เท่านั้น

แต่นักการตลาด   จะสร้างทั้งความประทับใจในคำพูด  และความประทับใจในการกระทำอันเป็น "รูปธรรม"



ที่เห็น ๆ  ประเทศไทยมีนักการตลาดการเมืองที่เก่ง ๆ อยู่  3  คน

หนึ่งคือ ทักษิณ  ชินวัตร      สองคือ สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์     และสาม ไกอู่  เอ๊ย ไม่ใช่ ๆ  บ่แหม่น ๆ
คือ มิ่งขวัญ  แสงสุวรรณ

สามคนนี้   เคยสร้างผลงานการตลาดการเมืองให้คนไทยประทับใจมานักต่อนักแล้ว

ขณะที่   นักพูดอย่าง ปชป.  ได้แต่พูดโจมตี



ปชป. ก็พยายามนะครับ   พยายามใช้กลยุทธการตลาดในทางการเมือง

อย่างเรื่องเชคสองพัน  แต่เพราะความอ่อนหัด  ดีแต่พูดจนฝังดีเอ็นเอแล้ว   เมื่อต้องมาทำอะไรให้เป็นรูปธรรม
เลยแป๊ก

และการตลาดที่ประทับคนไทยที่สุดของ ปชป. ก็คือ   ไข่ชั่งกิโล




เมื่อ ดร.สมคิด   จาตุศรีพิทักษ์    ใช้การตลาดในเรื่อง "ช้อปช่วยชาติ"   ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นี้
พรรคการเมือง และนักการเมืองที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ ก็คือ  พรรคดีแต่พูด

เพราะกระทบฐานเสียงเข้าอย่างจัง

จึงได้เห็นแหลหนีทหารออกมาพูดเชิงไม่เห็นด้วยในทันที  (ความจริง ไอ้หมอนี่มันก็พูดติเขาใครไหนไปทุกเรื่องนั่นแหละ)




แทนที่จะคิด  จะวางแผน  สร้างแนวทาง    นำเสนอความคิดเห็นที่มองเห็นภาพ มองเห็นความเป็นรูปธรรม
วัน ๆ เอาแต่ "พูด"

พูดหะรูหะราไปหมดทุกเรื่อง   แต่เวลาทำ    คนละทีปกับที่พูดทุกทีทุกเรื่อง



ยึดพรรคเลยครับปี้เต่ป
ผมเชียร์
pompom
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่