คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ปัญหาก็เกิดจากการฝึกและพัฒนาที่แตกต่างจากของญี่ปุ่น ผู้เกี่ยวข้องรู้แต่แก้ไขลำบาก
ญี่ปุ่นปูพื้นฐานเด็กมาตั้งแต่ชั้นประถม เขาทำเป็นกิจกรรมชมรม ไม่ได้เน้นว่าโตขึ้นต้องมาเป็นนักกีฬา
ส่วนเราในระดับยุวชน-เยาวชน ต้นสังกัดโรงเรียนของเด็กจะเร่งให้เด็กลงเล่นเป็นทีมให้ได้เร็วที่สุด ญี่ปุ่นปูพื้นฐานเพื่อเป็นกิจกรรมของเด็กอย่างหนึ่ง การแข่งขันไม่ได้มากมาย แต่ของเรารีบสร้างเพื่อให้ลงแข่งขันในรายการต่างๆ ซึ่งในระดับยุวชน-เยาวชนภายในประเทศ ซึ่งมีการแข่งขันรออยู่มากมาย
ถามว่าผู้เกี่ยวข้องกับนักกีฬารู้ไหม ตอบเลยว่ารู้ "แต่ทำไมถึงแก้ไขไม่ได้"
โค้ชของต้นสังกัด ก็คือครู- อาจารย์ มีหน้าที่หลักคือให้การศึกษานักเรียน กีฬาวอลเลย์บอลทำด้วยใจรัก และทำทีมจุดมุ่งหมายเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน เร่งสร้างนักกีฬาให้เล่นเป็นทีมได้เร็วที่สุด เพราะอายุการใช้งานของเด็กมีเวลาจำกัด (ทำวอลเลย์บอลตามโรงเรียนไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดต้องใจรักจริงๆ) และ ครู- อาจารย์ เหล่านี้คงไม่มีเวลาที่จะมาเข้าอบรมกับทางสมาคมที่ต้องใช้ระยะเวลายาวๆได้
โค้ชทีมชาติ เมื่อเรียกตัวเด็กมาแล้วก็ต้องทำให้เด็กเล่นร่วมกันได้ เพื่อให้ทันตามกำหนดการแข่งขัน จขกท. อาจจะถามว่าแล้วทำไมไม่ฝึกเด็ก ก็ตอบว่าเวลาไม่เพียงพอ หากเก็บตัวยาวใครจะคุมเด็ก.. ปัญหาที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง U18 ชุดชิงแช้มป์โลก ต้นสังกัดของโค้ชไม่อนุมัติให้หยุดเพื่อมาคุมเด็กๆ จะมาได้ก็เวลานอกราชการ เหลือเพียงครูไก่คนเดียวที่ดูแลเด็ก ... ปัญหาต่อมาเมื่อเรียกเด็กเข้าแค้มป์ทีมชาติแล้ว แต่ทุกสัปดาห์เด็กยังต้องกลับไปลงทำการแข่งขันให้ต้นสังกัดตลอดเวลา แม้แต่ก่อนหน้าจะเดินทางไปชิงแช้มป์โลก 1อาทิตย์เด็กยังต้องไปทำการแข่งขันให้กับต้นสังกัด การแข่งขันในระดับ ยุวชน-เยาวชน เรามีมาก ยิ่งช่วงปิดเทอมแทบไม่ต้องพูดถึง หาเวลาเรียกตัวเด็กมาฝึกคงยาก นี่หระปัญหาการพัฒนาของเด็กเรา
ส่วนทีมชาติชุดใหญ่ต้องบอกว่า สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างกล้ามเนื้อนักกีฬา เพราะที่ผ่านมา ต้นสังกัดโรงเรียน/สโมสร ไม่ได้เน้นเรื่องนี้ จะมีก็ปีนี้ที่
บีจี สุพรีม ขอนแก่น เน้นในเรื่องนี้มากขึ้น ภาระของทีมชาติก็ลดน้อยลงหน่อย
เรื่องการฝึก...เพียวเคยพูดว่า การฝึกกับต้นสังกัดนำมาใช้กับทีมชาติไม่ได้
..................วุ้นก็เคยพูดว่า ได้มาเข้าแค้มป์ทีมชาติไทยพอกลับไปเล่นกับต้นสังกัดก็เล่นแทบไม่ได้ เพราะระบบไม่เหมือนกัน
เรื่องการพัฒนาสมาคมก็เคยออกมาพูดปัญหาที่เกิดขึ้น คือ"หาโอกาสนำเด็กมาพัฒนาไม่ได้" ตอนนี้ถึงได้มีการทำสัญญาชัดเจนกับโครงการเด็กสูง
ญี่ปุ่นปูพื้นฐานเด็กมาตั้งแต่ชั้นประถม เขาทำเป็นกิจกรรมชมรม ไม่ได้เน้นว่าโตขึ้นต้องมาเป็นนักกีฬา
ส่วนเราในระดับยุวชน-เยาวชน ต้นสังกัดโรงเรียนของเด็กจะเร่งให้เด็กลงเล่นเป็นทีมให้ได้เร็วที่สุด ญี่ปุ่นปูพื้นฐานเพื่อเป็นกิจกรรมของเด็กอย่างหนึ่ง การแข่งขันไม่ได้มากมาย แต่ของเรารีบสร้างเพื่อให้ลงแข่งขันในรายการต่างๆ ซึ่งในระดับยุวชน-เยาวชนภายในประเทศ ซึ่งมีการแข่งขันรออยู่มากมาย
ถามว่าผู้เกี่ยวข้องกับนักกีฬารู้ไหม ตอบเลยว่ารู้ "แต่ทำไมถึงแก้ไขไม่ได้"
โค้ชของต้นสังกัด ก็คือครู- อาจารย์ มีหน้าที่หลักคือให้การศึกษานักเรียน กีฬาวอลเลย์บอลทำด้วยใจรัก และทำทีมจุดมุ่งหมายเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน เร่งสร้างนักกีฬาให้เล่นเป็นทีมได้เร็วที่สุด เพราะอายุการใช้งานของเด็กมีเวลาจำกัด (ทำวอลเลย์บอลตามโรงเรียนไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดต้องใจรักจริงๆ) และ ครู- อาจารย์ เหล่านี้คงไม่มีเวลาที่จะมาเข้าอบรมกับทางสมาคมที่ต้องใช้ระยะเวลายาวๆได้
โค้ชทีมชาติ เมื่อเรียกตัวเด็กมาแล้วก็ต้องทำให้เด็กเล่นร่วมกันได้ เพื่อให้ทันตามกำหนดการแข่งขัน จขกท. อาจจะถามว่าแล้วทำไมไม่ฝึกเด็ก ก็ตอบว่าเวลาไม่เพียงพอ หากเก็บตัวยาวใครจะคุมเด็ก.. ปัญหาที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง U18 ชุดชิงแช้มป์โลก ต้นสังกัดของโค้ชไม่อนุมัติให้หยุดเพื่อมาคุมเด็กๆ จะมาได้ก็เวลานอกราชการ เหลือเพียงครูไก่คนเดียวที่ดูแลเด็ก ... ปัญหาต่อมาเมื่อเรียกเด็กเข้าแค้มป์ทีมชาติแล้ว แต่ทุกสัปดาห์เด็กยังต้องกลับไปลงทำการแข่งขันให้ต้นสังกัดตลอดเวลา แม้แต่ก่อนหน้าจะเดินทางไปชิงแช้มป์โลก 1อาทิตย์เด็กยังต้องไปทำการแข่งขันให้กับต้นสังกัด การแข่งขันในระดับ ยุวชน-เยาวชน เรามีมาก ยิ่งช่วงปิดเทอมแทบไม่ต้องพูดถึง หาเวลาเรียกตัวเด็กมาฝึกคงยาก นี่หระปัญหาการพัฒนาของเด็กเรา
ส่วนทีมชาติชุดใหญ่ต้องบอกว่า สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างกล้ามเนื้อนักกีฬา เพราะที่ผ่านมา ต้นสังกัดโรงเรียน/สโมสร ไม่ได้เน้นเรื่องนี้ จะมีก็ปีนี้ที่
บีจี สุพรีม ขอนแก่น เน้นในเรื่องนี้มากขึ้น ภาระของทีมชาติก็ลดน้อยลงหน่อย
เรื่องการฝึก...เพียวเคยพูดว่า การฝึกกับต้นสังกัดนำมาใช้กับทีมชาติไม่ได้
..................วุ้นก็เคยพูดว่า ได้มาเข้าแค้มป์ทีมชาติไทยพอกลับไปเล่นกับต้นสังกัดก็เล่นแทบไม่ได้ เพราะระบบไม่เหมือนกัน
เรื่องการพัฒนาสมาคมก็เคยออกมาพูดปัญหาที่เกิดขึ้น คือ"หาโอกาสนำเด็กมาพัฒนาไม่ได้" ตอนนี้ถึงได้มีการทำสัญญาชัดเจนกับโครงการเด็กสูง
แสดงความคิดเห็น
แบบนี้...ต้องฝึกการเคลื่อนที่ไม๊???
คงไม่แต่ชุดเล็ก...หรอกครับชุดใหญ่เราก้เป้น...ไทยมีปฎิกิริยาที่เร็วไม่แพ้ญี่ปุ่น
แต่...มันเป็นความคุ้นเคยการเคลื่อนที่แบบนี้ครับ....
แต่ที่ต่างคือการเคลื่อนตัว ญี่ปุ่นจะออกตัววิ่งรับ...แต่ไทยเราเคลื่อนที่ด้วยการพุ่งรับ ซึ่งทั้ง2แบบแตกต่างกันชัดเจน
แบบญี่ปุ่นสามารถไปถึงบอลแบบเต็มมือและสามารถคอนโทรลลูกได้...แต่แบบไทยเราไปถึงบอลแต่...ไม่เต็มมือการคอนโทรลลูกทำได้ยากครับ....
นี่คือคำตอบที่ชัดเจน.....SETที่3 แต้มไทย19 เวียต18 ลูกที่ทัดดาวเสริฟท์ ....
ลูกนี้ชะงักครับ แต่ดูที่ขา...ลากขาข้างนึง..เหมือนพุ่งหาบอล...
ซึ่งแบบนี้U23เห็นได้หลายคนมากในเวลาอยู่แดนหลัง สังเกตุดูได้เลยครับ ไทยอยู่แดนหลังจะย่อตัวย่อขาแล้วพุ่งรับ
ในขณะที่ทีมญี่ปุ่น ย่อตัวจะเคลื่อนขาไปข้างหน้า1ขาเพื่อการยืดหยุ่น
แต่ไทยเราจะย่อ ขาทั้ง2ข้างอยู่แนวเดียวกัน...เท่ากับไทยเราเคลื่อนที่ช้ากว่า1ก้าวแล้วครับ...