- ที่เลือกสายการบินนี้ นอกจากอยากลองของใหม่แล้ว อีกอย่างก็เพราะราคาเต็มเที่ยวไป-กลับช่วงปีใหม่ ถูกกว่าอีกสองเจ้า (สิงโต 3,600 ฟรี นน.กระเป๋า 15 กก./หางแดง 3,900++ ต้องซื้อ นน. กระเป๋าเพิ่ม ส่วนนกแอร์ถึงจะฟรี นน. กระเป๋าเท่ากับสิงโต แต่ราคาก็พุ่งไป 5,000++)
- สิ่งที่สิงโตต้องปรับปรุงอย่างแรกเลยก็คือระบบเช็คอินออนไลน์ที่ไม่สามารถดำเนินการจนเสร็จสิ้นขั้นตอนได้ โชคดีรหัสที่นั่งที่เลือกไว้ยังถูกบันทึกในระบบ แม้จะกลับมาล็อกอินซ้ำก็ยังอยู่ เลยแคปหน้าจอปริ้นเป็นหลักฐานเวลาเช็คอินที่เคาท์เตอร์ ซึ่งน้องกราวด์ก็ดำเนินการเช็คอินตามข้อมูลในระบบทุกอย่าง อันนี้ขอชื่นชม แต่คงจะดีถ้าระบบมีความสะดวกมากกว่านี้
- ติดตามข่าวการเปิดเทอร์มินัล 2 มาตลอด เห็นภาพข่าวผู้คนมากมายต่อคิวเลยรู้สึกว่ามาแต่เนิ่นๆดีกว่าตกเครื่อง ถึงไฟลท์จะบินบ่ายสองครึ่ง แต่ตัวเองมาตั้งแต่สิบโมงครึ่ง
- พอถึงก็รีบหาหน้าจอบอกข้อมูลเที่ยวบินว่ามีเที่ยวบินเราไหม อยู่เกทไหน แล้วก็ไปต่อแถวเช็คอิน ขนาดช่วงเที่ยงที่คนไม่เยอะเท่าช่วงเช้าหรือเย็น และมีการแยกช่องสำหรับคนที่ไม่มีสัมภาระโหลดไว้แล้ว แต่ก็ใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเคาท์เตอร์
- ระหว่างเข้าคิว ได้ยินเสียงตะโกนของกราวด์ให้ ผดส. ไฟลท์ที่ใกล้จะปิดเช็คอินแยกมาเข้าคิวที่เคาท์เตอร์ใกล้เครื่องสแกนกระเป๋าทั้งสองฝั่ง ฟังแล้วก็รู้สึกสงสารน้องๆ อยากให้ผู้บริหารซื้อไมค์ประจำเคาท์เตอร์ทั้งสองหรือโทรโข่งก็ยังดี และใช้หน้าจอที่อยู่ข้างบนให้เป็นประโยชน์มากกว่าโชว์โลโก้เฉยๆ
- พอเช็คอินเสร็จประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง (เบอร์เกทจะยังไม่ระบุในบัตรโดยสาร เข้าใจว่าเพราะเช็คอินล่วงหน้าเกิน 2 ชม. ก่อนเครื่องออก) ก็ต้องไปดูของที่จะโหลดใต้ท้องเครื่องที่ท้ายแถวเช็คอินตรงจอใหญ่ๆ ถ้าโหลดผ่านก็เข้าจุดตรวจค้นได้เลย ถ้าไม่ผ่านจะมีแสงกระพริบเตือน จนท. จะเอาของต้องห้ามออกแล้วโหลดใหม่ ตอนโหลดผ่านนี่อยากกำมือแล้วทำหน้าสตรองมาก ตอนนั้นกว่าเครื่องจะออกก็อีกสามชั่วโมง เลยขอเดินสำรวจเทอร์มินัลใหม่ซักหน่อย
- ดอนเมืองเทอร์มินัล 2 ถ้าเทียบกับห้างก็คงประมาณเอ็มควอเทียร์ตอนเปิดใหม่ๆ สวยแต่ยังไม่เสร็จ ยังมีร่องรอยการก่อสร้าง ตกแต่ง ฝุ่นสี อยู่ค่อนข้างมาก ที่ดีหน่อยก็ห้องน้ำ ซึ่งก็ยังไม่เสร็จหมด แต่ที่ชั้น 3 เปิดทั้งฝั่งใต้ (ใกล้อาคารจอดรถ 7 ชั้น) และฝั่งเหนือ (ทางเชื่อมไปเทอร์มินัล 1) แล้ว ร้านอาหารเปิดแล้วบางส่วน ราคาก็ตามเรตสนามบิน (แพงเป็นปกติ) จะมีย่อมเยาหน่อยก็เมจิคฟู๊ดดิสทริค แต่ขนาดย่อมเยาแล้ว บะหมี่ยังชามละ 80 ใครอยากประหยัดคงต้องถ่อไปกินที่อาคารสำนักงาน ทดม.
- เมื่อเปิดเทอร์มินัล 2 แล้ว เทอร์มินัล 1 ซึ่งใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เลยโล่งขึ้นเยอะ
- พอบ่ายโมงก็ได้เวลาเข้าจุดตรวจค้น ซึ่งส่วนนี้ดูโอ่โถงกว่าที่เก่ามาก จนท. เยอะกว่า เครื่องสแกนเยอะกว่า เข้ามาในส่วนอาคารเทียบเครื่องบิน สกายพอร์ตใหญ่ขึ้น กาแฟแมงดาวได้พื้นที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวเบอร์เกอร์คิง เคเอฟซี แมคโดนัล ที่ไม่ต้องกระจุกในคูหาแคบๆ อีกต่อไปแล้ว แถมมีร้านใหม่อย่าง The Coffee Club Naraya ส่วนคริสปี้ครีมที่เสมือนเป็น OTOP ของสนามบินดอนเมือง เห็นมีคนหิ้วแต่ไม่ได้สังเกตว่าร้านย้ายไปอยู่ตรงไหน
- เคยอ่านจากในเน็ตว่าสิงโตชอบเทียบบัสเกต แต่เที่ยวบินวันนี้สิงโตเทียบงวง ส่วนอีกสองเจ้าเทียบบัสเกตซะงั้น (NST มีบินแค่สามเจ้าครับ)
- ตอนจะขึ้นเครื่อง มีคู่รักวัยกลางคนซึ่งเข้าใจว่ามาแบบ Fly-thru โวยกราวด์ว่าไฟลท์ก่อนหน้าจากอุดรฯ ที่ดีเลย์ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่รู้ตกลงกันยังไงเพราะตัวเองก็เข้างวงไปแล้ว แต่สุดท้ายทั้งสองก็ได้ไปพร้อมกัน
- บรรยากาศของเที่ยวบิน เหมือนสิงโตจะอยู่ระหว่างหางแดงกับนก ได้ยินมาว่าลูกเรือหลายคนก็มาจากสองสายที่ว่า เครื่องบินใช้ Boeing 737-800 แทบจะเหมือนไฟลท์นกแอร์ที่เคยไปเมื่อ ก.ค. นิตยสารบางกว่าทั้งนกและหางแดง ของขายไม่เยอะเท่า แจกโอริโอ้กับน้ำดื่ม (ผลิตโดยกรุงเทพน้ำทิพย์เหมือนนกแอร์ แต่กราฟฟิกบนฝา นกดูไฮโซกว่ามาก) เสียงประกาศมีทั้งเปิดเทปและหน.ลูกเรือพูด ซึ่งบางคำก็ดูกระด้างไปนิด อย่างเช่นตอนอธิบายเรื่องความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน มีศัพท์ว่า "จนกว่าจะมีคำสั่ง..." ซึ่งแม้ว่าหากเกิดเหตุจริงลูกเรือจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ถ้าคุณหญิงคุณนายฟังแล้วอาจสะดุดหูจนแอบมีอารมณ์ขึ้นก็เป็นได้
- ตอนประกาศสถานะเที่ยวบินปัจจุบัน (ไม่แน่ใจว่าศัพท์เทคนิคเรียกว่าอะไร) ด้วยความที่กัปตันเป็นชาวต่างประเทศ (เข้าใจว่าเป็นอินโดฯ) พูดเร็วมาก หน.ลูกเรือเลยต้องแปลอีกที ซึ่งก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่
- บ่นเยอะขนาดนี้แต่ก็ยังให้กำลังใจกับสายการบินน้องใหม่นะ ยังต้องเก็บประสบการณ์อีกเยอะหากจะยังอยากยืนยงในตลาดโลว์คอสต์ ส่วน ทอท. ได้โบนัสเยอะก็ช่วยทำเพื่อประชาชนบ้าง ที่ชมก็รับไว้ไม่เหลิง ที่ติก็ฟังแล้วเอาไปปรับปรุง ทำสิ่งอันเป็นหน้าตาประเทศก็เอาให้ดีที่สุดนะ
เล่าประสบการณ์ครั้งแรกในการใช้บริการดอนเมืองเทอร์มินัล 2+ไทยไลอ้อนแอร์ กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช
- สิ่งที่สิงโตต้องปรับปรุงอย่างแรกเลยก็คือระบบเช็คอินออนไลน์ที่ไม่สามารถดำเนินการจนเสร็จสิ้นขั้นตอนได้ โชคดีรหัสที่นั่งที่เลือกไว้ยังถูกบันทึกในระบบ แม้จะกลับมาล็อกอินซ้ำก็ยังอยู่ เลยแคปหน้าจอปริ้นเป็นหลักฐานเวลาเช็คอินที่เคาท์เตอร์ ซึ่งน้องกราวด์ก็ดำเนินการเช็คอินตามข้อมูลในระบบทุกอย่าง อันนี้ขอชื่นชม แต่คงจะดีถ้าระบบมีความสะดวกมากกว่านี้
- ติดตามข่าวการเปิดเทอร์มินัล 2 มาตลอด เห็นภาพข่าวผู้คนมากมายต่อคิวเลยรู้สึกว่ามาแต่เนิ่นๆดีกว่าตกเครื่อง ถึงไฟลท์จะบินบ่ายสองครึ่ง แต่ตัวเองมาตั้งแต่สิบโมงครึ่ง
- พอถึงก็รีบหาหน้าจอบอกข้อมูลเที่ยวบินว่ามีเที่ยวบินเราไหม อยู่เกทไหน แล้วก็ไปต่อแถวเช็คอิน ขนาดช่วงเที่ยงที่คนไม่เยอะเท่าช่วงเช้าหรือเย็น และมีการแยกช่องสำหรับคนที่ไม่มีสัมภาระโหลดไว้แล้ว แต่ก็ใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเคาท์เตอร์
- ระหว่างเข้าคิว ได้ยินเสียงตะโกนของกราวด์ให้ ผดส. ไฟลท์ที่ใกล้จะปิดเช็คอินแยกมาเข้าคิวที่เคาท์เตอร์ใกล้เครื่องสแกนกระเป๋าทั้งสองฝั่ง ฟังแล้วก็รู้สึกสงสารน้องๆ อยากให้ผู้บริหารซื้อไมค์ประจำเคาท์เตอร์ทั้งสองหรือโทรโข่งก็ยังดี และใช้หน้าจอที่อยู่ข้างบนให้เป็นประโยชน์มากกว่าโชว์โลโก้เฉยๆ
- พอเช็คอินเสร็จประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง (เบอร์เกทจะยังไม่ระบุในบัตรโดยสาร เข้าใจว่าเพราะเช็คอินล่วงหน้าเกิน 2 ชม. ก่อนเครื่องออก) ก็ต้องไปดูของที่จะโหลดใต้ท้องเครื่องที่ท้ายแถวเช็คอินตรงจอใหญ่ๆ ถ้าโหลดผ่านก็เข้าจุดตรวจค้นได้เลย ถ้าไม่ผ่านจะมีแสงกระพริบเตือน จนท. จะเอาของต้องห้ามออกแล้วโหลดใหม่ ตอนโหลดผ่านนี่อยากกำมือแล้วทำหน้าสตรองมาก ตอนนั้นกว่าเครื่องจะออกก็อีกสามชั่วโมง เลยขอเดินสำรวจเทอร์มินัลใหม่ซักหน่อย
- ดอนเมืองเทอร์มินัล 2 ถ้าเทียบกับห้างก็คงประมาณเอ็มควอเทียร์ตอนเปิดใหม่ๆ สวยแต่ยังไม่เสร็จ ยังมีร่องรอยการก่อสร้าง ตกแต่ง ฝุ่นสี อยู่ค่อนข้างมาก ที่ดีหน่อยก็ห้องน้ำ ซึ่งก็ยังไม่เสร็จหมด แต่ที่ชั้น 3 เปิดทั้งฝั่งใต้ (ใกล้อาคารจอดรถ 7 ชั้น) และฝั่งเหนือ (ทางเชื่อมไปเทอร์มินัล 1) แล้ว ร้านอาหารเปิดแล้วบางส่วน ราคาก็ตามเรตสนามบิน (แพงเป็นปกติ) จะมีย่อมเยาหน่อยก็เมจิคฟู๊ดดิสทริค แต่ขนาดย่อมเยาแล้ว บะหมี่ยังชามละ 80 ใครอยากประหยัดคงต้องถ่อไปกินที่อาคารสำนักงาน ทดม.
- เมื่อเปิดเทอร์มินัล 2 แล้ว เทอร์มินัล 1 ซึ่งใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เลยโล่งขึ้นเยอะ
- พอบ่ายโมงก็ได้เวลาเข้าจุดตรวจค้น ซึ่งส่วนนี้ดูโอ่โถงกว่าที่เก่ามาก จนท. เยอะกว่า เครื่องสแกนเยอะกว่า เข้ามาในส่วนอาคารเทียบเครื่องบิน สกายพอร์ตใหญ่ขึ้น กาแฟแมงดาวได้พื้นที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวเบอร์เกอร์คิง เคเอฟซี แมคโดนัล ที่ไม่ต้องกระจุกในคูหาแคบๆ อีกต่อไปแล้ว แถมมีร้านใหม่อย่าง The Coffee Club Naraya ส่วนคริสปี้ครีมที่เสมือนเป็น OTOP ของสนามบินดอนเมือง เห็นมีคนหิ้วแต่ไม่ได้สังเกตว่าร้านย้ายไปอยู่ตรงไหน
- เคยอ่านจากในเน็ตว่าสิงโตชอบเทียบบัสเกต แต่เที่ยวบินวันนี้สิงโตเทียบงวง ส่วนอีกสองเจ้าเทียบบัสเกตซะงั้น (NST มีบินแค่สามเจ้าครับ)
- ตอนจะขึ้นเครื่อง มีคู่รักวัยกลางคนซึ่งเข้าใจว่ามาแบบ Fly-thru โวยกราวด์ว่าไฟลท์ก่อนหน้าจากอุดรฯ ที่ดีเลย์ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่รู้ตกลงกันยังไงเพราะตัวเองก็เข้างวงไปแล้ว แต่สุดท้ายทั้งสองก็ได้ไปพร้อมกัน
- บรรยากาศของเที่ยวบิน เหมือนสิงโตจะอยู่ระหว่างหางแดงกับนก ได้ยินมาว่าลูกเรือหลายคนก็มาจากสองสายที่ว่า เครื่องบินใช้ Boeing 737-800 แทบจะเหมือนไฟลท์นกแอร์ที่เคยไปเมื่อ ก.ค. นิตยสารบางกว่าทั้งนกและหางแดง ของขายไม่เยอะเท่า แจกโอริโอ้กับน้ำดื่ม (ผลิตโดยกรุงเทพน้ำทิพย์เหมือนนกแอร์ แต่กราฟฟิกบนฝา นกดูไฮโซกว่ามาก) เสียงประกาศมีทั้งเปิดเทปและหน.ลูกเรือพูด ซึ่งบางคำก็ดูกระด้างไปนิด อย่างเช่นตอนอธิบายเรื่องความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน มีศัพท์ว่า "จนกว่าจะมีคำสั่ง..." ซึ่งแม้ว่าหากเกิดเหตุจริงลูกเรือจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ถ้าคุณหญิงคุณนายฟังแล้วอาจสะดุดหูจนแอบมีอารมณ์ขึ้นก็เป็นได้
- ตอนประกาศสถานะเที่ยวบินปัจจุบัน (ไม่แน่ใจว่าศัพท์เทคนิคเรียกว่าอะไร) ด้วยความที่กัปตันเป็นชาวต่างประเทศ (เข้าใจว่าเป็นอินโดฯ) พูดเร็วมาก หน.ลูกเรือเลยต้องแปลอีกที ซึ่งก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่
- บ่นเยอะขนาดนี้แต่ก็ยังให้กำลังใจกับสายการบินน้องใหม่นะ ยังต้องเก็บประสบการณ์อีกเยอะหากจะยังอยากยืนยงในตลาดโลว์คอสต์ ส่วน ทอท. ได้โบนัสเยอะก็ช่วยทำเพื่อประชาชนบ้าง ที่ชมก็รับไว้ไม่เหลิง ที่ติก็ฟังแล้วเอาไปปรับปรุง ทำสิ่งอันเป็นหน้าตาประเทศก็เอาให้ดีที่สุดนะ