บุญเหมือนเงาตามตัว บาปเหมือนแอกทับคอวัว : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ



พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

...

ผู้ชอบบุญนั้นมันต้องพิจารณาเห็นด้วยตนเองว่า
การทำบุญนี้มันต้องมีผลเป็นสุขแน่นอน
เห็นแจ้งด้วยปัญญาของตนแล้ว
แล้วก็เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าด้วย

สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย  การสั่งสมบุญนำมาซึ่งความสุขดังนี้  
นี่  พระพุทธเจ้าเล็งญาณพิจารณาเห็นแล้ว
บุคคลที่จะมีความสุขมากน้อยเพียงใดนั้น
มันขึ้นอยู่กับบุญกุศลความดีที่บุคคลทำเท่านั้นเองแหละ  
พระองค์รู้แจ้งด้วยปัญญาแล้ว  
บุญกุศลที่บุคคลทำแต่ชาติก่อนนู้นก็มาอำนวยผลในชาตินี้
อย่างนี้นะ บุญกุศลที่บุคคลกระทำความดีในชาตินี้
มันก็ติดสอยห้อยตามไปอำนวยความสุขให้ในชาติหน้าต่อไป


พระองค์ยังเปรียบไว้ว่า บุญกุศลนี่บุคคลสั่งสมอบรมให้เกิดมีในตนแล้ว
เป็น “ของเบาที่สุด” ไม่ทำบุคคลใดให้หนักหน่วงเลย
อุปมาเหมือนดั่ง “เงาติดตามตัว”  
ธรรมดาเงานี้ไม่หนักไม่หน่วงเลย
คนไปที่ไหน เงาก็ไปที่นั่น ติดตามไปอยู่อย่างนั้น
อันบุญกุศลที่บุคคลกระทำบำเพ็ญให้เกิดมีในจิตใจของตนแล้ว
ก็ย่อมติดตามบุคคลผู้นั้นไปทุกแห่งทุกหน  
แม้ว่าละโลกนี้ไปแล้วบุญกุศลก็ไม่ทอดทิ้ง  

ก็นำดวงจิตไปเกิดที่สุขสบายต่อไปเหมือนกับเงาติดตามตัว
พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบไว้อย่างนี้  

ทรงเปรียบเทียบบาปอกุศลไว้เหมือนกับ “แอกทับคอวัว”
ที่กำลังลากเกวียนไปอยู่ เพิ่นว่า  นั่นแหละมันก็มีแต่ความหนักหน่วง

ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ทนทุกข์ทรมานนะบรรดาวัวควายที่มนุษย์เอาแอกทับคอ
แล้วก็เขาก็ไล่ให้ดันล้อดันเกวียนที่บรรทุกสัมภาระอันหนักไปตามทาง
แสนทุกข์แสนยากแสนลำบาก  ฉันใดบาปอกุศลที่บุคคลกระทำในโลกนี้แล้ว
มันก็ย่อมติดสอยห้อยตามไปอำนวยผลให้เป็นทุกข์ในชาติต่อๆไป
  

บาปกรรมที่บุคคลทำในชาติก่อนมันก็ติดตามมาอำนวยผลให้เป็นทุกข์ในชาตินี้  
ถ้าบาปอกุศลอย่างแรงกล้าที่ท่านเรียกว่า “อุปฆาตกรรม”
มันตามมาทันเมื่อไรมันให้ผลเมื่อนั้น คนผู้นั้นตายโหง  ไม่ได้ตายดี

ไม่ได้เจ็บป่วยไข้หลายวันหลายเดือนแล้วจึงตาย
เกิดตกต้นไม้ตาย  ควายชนตาย  รถชนตาย  รถคว่ำตาย
ตึกถล่มตาย เครื่องบินตกตาย  หมู่นี้มันล้วนตั้งแต่อุปฆาตกรรม
กรรมที่เขาทำไว้แต่ชาติก่อนนั้นมันตามมาตัดรอนชีวิตเข้าไป
ให้ตายลงโดยที่ไม่ถึงเวลาที่ควรจะตายก็ตายเสียอย่างนี้นะ  
นี่แหละไอ้ที่คนเกิดอุบัติเหตุตายโหงตายห่าอยู่หมู่นี้  นี่โหย..
มันล้วนตั้งแต่ชาติ  ถ้าเอามาเทียบกับคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ล้วนแต่กรรมชั่วที่คนเหล่านั้นแหละทำมาแต่ก่อนนู่น  
ไปทำให้คนอื่นล้มๆตายๆลงด้วยอุบัติเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง  

...

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"คุณธรรมบรรเทากิเลส"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่