15 ยอดสตรีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

The Cranberries - Zombie เพลงนี้ประนามพวกคลั่งสงครามว่ามีชีวิตจิตใจเหมือนผีดิบ
.
มีผู้หญิงจำนวนมากที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย
ในประเทศสัมพันธมิตร ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อตอนที่สงครามเริ่มใกล้จะแตกหักแล้ว
ในช่วงแรก ๆ ผู้ชายต่างยังไม่มั่นใจมากนัก
แต่แล้วต่อมาก็ยอมรับว่า ไม่เลวเลย
พวกเรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง

รายชื่อผู้หญิงจำนวนนี้ บางรายมืชื่อเสียง
บางรายค่อนข้างลึกลับไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก
แต่ทุกคนต่างเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญมาก




1. Virginia Hall : Allied Spy


Virginia Hall of Special Operations Branch receiving the Distinguished Service Cross
from General Donovan, September 1945 Photo via the CIA
.
" เธอคือสายลับพันธมิตรที่อันตรายที่สุด
เราต้องหาตัวให้พบแล้วจัดการฆ่าเลยทันที "
นี่คือคำสั่งของหน่วยสืบราชการลับเยอรมันนี Gestapo
ที่ระบุเกี่ยวกับ Virginia Hall สตรีชาวอเมริกัน
ที่ร่วมปฏิบัติการอยู่ใน Vichy ฝรั่งเศส
ผู้ช่วยรวบรวมข้อมูลสำคัญจำนวนมากให้สหราชอาณาจักร
ในช่วงต้น ๆ ของสงครามโลก

แม้ว่าความจริงในตอนช่วงแรกประเทศสหรัฐอเมริกา
ยังไม่ยอมเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรป
ขณะเดียวกันผู้หญิงโดยทั่วไปแล้ว
มักจะไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นสายลับ
ยิ่งการที่เธอต้องเดินกะเผลกร่วมกับขาเทียมข้างหนึ่ง
ยิ่งเป็นการง่ายกับการระบุชี้ชัดตัวบุคคล

ในที่สุดอเมริกาตัดสินใจเข้าร่วมรบในสงคราม
Hall ตัดสินใจที่จะไปทำการรบด้วยตนเอง
ด้วยการเดินเท้าข้ามเทือกเขา Pyrenees
แม้ว่าจะมีขาจริงเพียงข้างเดียวจนกระทั่งถึงสเปน
เธอถูกทหารฝรั่งเศสที่ยึดครองพื้นที่แห่งนั้นจับตัวเธอได้
และต้องการจะส่งตัวเธอกลับสหราชอาณาจักร

เธอจึงสารภาพว่าตนเองเป็นสายลับของอเมริกา
แล้วเริ่มลงมืออบรมนักรบกองโจรฝรั่งเศสฝ่ายต่อต้านอักษะ
วิธีการทำลายเส้นทางลำเลียงกำลังพลของนาซี
และการสร้างความโกลาหลวุ่นวายในพื้นที่ต่าง ๆ
เพื่อเตรียมการวันยกพลขึ้นบกของพันธมิตรที่ Normandy
ขณะที่กองกำลังนาซีเยอรมันนีต่างพยายามตามล่าตัวเธออย่างจ้าละหวั่น
สายลับ Gestapo ต่างไม่เคยสงสัยเลยว่าจารชนที่ตามล่าตัว
จะเป็นผู้หญิงพิการที่มีเพียงขาจริงเพียงข้างเดียวอีกข้างเป็นขาเทียม




2. Jacqueline Cochran : Aviator


Jacqueline Cochran in the cockpit of a P-40 fighter plane
(USAF negative number: 117391 AC)
.
ก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2
นักบิน Jacqueline Cochran ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
เธอมีความสามารถในการบินเหนือกว่าผู้หญิงและผู้ชายหลายคน
ต่อมา เธอได้สอบถามอย่างสุภาพกับนายพล Gen. Hap Arnold
เพื่อขอปฏิบัติเที่ยวบินรบในกองทัพสหรัฐอเมริกา
ก็ได้รับคำตอบเบื้องต้นว่า ไม่ ขอบคุณ

แต่เมื่อสงครามเริ่มคุกกรุ่นมากแล้ว
ทางนายพล Hap Arnold ก็ยอมอนุมัติให้เธอเข้าทำงานได้
ช่วงเวลาเพียงสามปี เธออบรมนักบินหญิง
ที่รู้จักกันในชื่อว่า WASPs
ทั้งยังเป็นสตรีคนแรกที่ขับเครื่องบินทิ้งระเบิด
ที่บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค
เธอมีหน้าที่กำกับดูโครงการฝึกอบรมถึง 120 สนามบิน
ภาระกิจดังกล่าวกองทัพสั่งให้สิ้นสุดลงในปี 1944

แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งชื่อเสียงของ Cochran
ที่เป็นสตรีคนแรกที่บินทะลุกำแพงเสียงได้
และได้รับการบันทึกใน National WASP World War II Museum ว่า
เธอทำสถิติความเร็วนานาชาติ ระยะทาง ชั่วโมงบิน มากกว่านักบินคนอื่น ๆ
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจนถึงทุกวันนี้




3. Sophie Scholl: German Dissident


20th anniversary of the assassination against Adolf Hitler on July 20th 1944
Graphics by Gerd und E. Aretz : Michel-Katalog-Nr: 431
.
จากข่าวเล่าลือถึงการตายในแนวหน้าจำนวนมาก
และจำนวนคนในชาติที่ล้มตายตลอดเวลา
Sophie มีวัย 21 ปีกับน้องชายของเธอ Hans
และเพื่อนชื่อว่า Christoph Probst
ได้เริ่มต้นแจกใบปลิวในมหาวิทยาลัย Munich
ตามด้วยมหาวิทยาลัย Hamburg
ก่อนใบปลิวนี้แพร่กระจายไปทุกหนทุกแห่ง
ประนามพวกนาซีเยอรมันนี
แล้วเรียกร้องให้ชาวบ้านร่วมกันคัดค้านพวกมัน

พวกเธอเป็นคนเพียงไม่กี่คนในยุคนั้น
ที่กล้าหาญคัดค้านการเมืองนรกของ Hitler
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ไม่นานนักพวกเธอทั้งสามคนก็ถูกจับกุม
โดยพวกสายลับ Gestapo
แล้วถูกตัดสินประหารชีวิตข้อหากบฎ
วาทะกรรมสุดท้ายของเธอคือ

" การตายของฉันไม่สำคัญหรอก
แต่จะทำให้ผู้คนนับหมื่นได้ตื่นจากการหลับใหล
และเริ่มลงมือคัดค้านสงคราม (ที่ก่อขึ้นโดยฮิตเลอร์) "



4. Susan Travers : French Foreign Legion Soldier 


Susan Travers (23 September 1909 – 18 December 2003)
สตรีชาวอังกฤษเพียงคนเดียวที่ช่วยชีวิตของ French Foreign Legion
.
สตรีเพียงคนเดียวที่ขับรถพยาบาลใน French Foreign Legion
Travers ประจำที่ฐานทัพ Free French fort Bir Hakeim ใน Libya
ในตอนที่ถูกล้อมโดยกองทัพเยอรมันนี
เธอปฏิเสธที่จะหลบหนีขณะที่สตรีคนอื่น ๆ
ที่ต่างอพยพหนีออกไปจากฐานทัพหมดแล้ว
Travers กับทหารคนอื่น ๆ ต่างตั้งมั่นสู้รบ
อยู่ภายในค่ายอย่างกล้าหาญถึง 15 วัน
จนกระทั่งเสบียงอาหารเริ่มขาดแคลน
และกองหนุนที่จะมาช่วยคงมาช่วยไม่ได้แล้ว

และแล้ว Travers ก็กระโดดขึ้นบนรถบรรทุก
แล้วตะโกนพูดว่า " ตามมา ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ "
ทั้งกองทัพต่างขับรถยนต์ฝ่าวงล้อมตามเธอในตอนกลางคืน
Travers เป็นคนขับรถนำหน้าขบวน
รถบรรทุกของเธอถูกกระสุนยิงใส่ถึง 11 นัด
แต่ในที่สุดพวกเธอก็เดินทางไปถึงเขตพันธมิตรได้
ช่วยรักษาชีวิตทหาร Free French ได้ถึง 2,500 นาย
มีเสียงเล่าลือว่าเธอไม่เคยเสียเลือดแม้แต่หยดเดียว
เธอมีอายุยืนยาวถึง 71 ปีก่อนตายด้วยโรคชรา




5. Faye Schulman: Partisan Fighter


Photo by Faye Schulman, via Jewish Partisan Educational Foundation
.
หลังจากครอบครัวเธอถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยพวกนาซีเยอรมัน
ในเขตกักกันชาวยิว Lenin ghetto ที่ Poland
Faye Schulman ได้หลบหนีเข้าป่าละแวกนั้น
แล้วเข้าร่วมกลุ่มนักรบกองโจรต่อต้านพวกศัตรู
ด้วยทักษะช่างถ่ายภาพทำให้ Schulman
นอกจากการเข้าร่วมโจมตีอย่างกล้าหาญแล้ว
เธอยังเก็บภาพถ่ายเหตุการณ์ต่าง ๆ
เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของนักรบกองโจรในช่วงสงคราม

ในฐานะที่เป็นผู้หญิงชาวยิวหนึ่งเดียวในกลุ่มกองโจร
Schulman ได้ปกปิดความลับตัวเธอตลอดช่วงเวลาสงคราม
ความกล้าหาญและเสียสละอย่างมากของเธอ
ทำให้มีเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายยืนยันการปฏิบัติการ
เธอให้สัมภาษณ์หลังสงครามสิ้นสุดลงแล้ว

" ฉันต้องการให้ประชาชนรู้ว่ามีการต่อต้านพวกศัตรู
ชาวยิวไม่ใช่พวกฝูงแกะที่เดินไปให้พวกมันเชือดคอง่าย ๆ
ฉันเป็นช่างภาพ ฉันถ่ายภาพ ฉันมีหลักฐาน "




6-7. Frances Eliza Wills กับ Harriet Ida Pickens : Naval Officers


Lt.(jg.) Harriet Ida Pickens and Ens. Frances Wills, สตรีคู่แรกที่เป็นครูฝึก Negro Waves
นักเรียนนายเรือที่จบการศึกษาที่ Naval Reserve Midshipmen's School (WR) Northampton, MA
.
แม้ว่าจะมีผู้หญิงจำนวนมากมายที่ทำหน้าที่เป็นกลาสีเรือ
ใน Naval Reserve (WAVES) ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่สำหรับ Frances Eliza Wills กับ Harriet Ida Pickens
ต่างเป็นนายทหารเรือคู่แรกที่เป็นคนผิวดำ
ที่ต้องเผชิญหน้ากับการเหยียดผิวในยุคนั้น
แม้ว่าภายในกองทัพก็ยังคงมีความรู้สึกเรื่องนี้เช่นกัน

ทั้ง Wills กับ Pickens ต้องเอาชนะกำแพงที่ขวางกั้นเรื่องนี้อย่างแรง
เพราะสังคมต่างคาดหวังในเรื่องหน้าที่การงานดังกล่าวนี้
น่าจะเหมาะสมกับทหารผิวขาวที่มีนับพันคนมากกว่าคนผิวดำ
ทั้งคู่เป็นเรือตรีสตรีผิวดำคู่แรกในกองทัพเรือ U.S. Navy
และได้รับมอบหมายให้สอนที่ Hunter Naval Training Station ใน Bronx
แม้ว่าจะมีสตรีผิวดำอีก 72 คนที่ทำงานใน WAVES
ในช่วงเวลาเดียวกันแต่มีหน้าที่การงานที่ด้อยกว่า Wills กับ Pickens




8. Veronica Lake : Actor/Icon


Veronica Lake Paramount publicity headshot, ca. 1940s Paramount Pictures
.
ดาราภาพยนต์ Veronica Lake
มีชื่อเสียงอย่างมากกับการตัดผมสั้นของเธอ
เพราะภาพลักษณ์ของเธอจะมีผมยาวหยักศก
ที่จะต้องปรากฎตัวในภาพยนต์เช่นนี้มาตลอด
การทำหน้าที่เป็นดาราภาพยนต์ในวงการนี้

ในช่วงปี 1940 หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้น
การตัดผมสั้นของเธอ ทำเพื่อชาติ
มีสตรีอเมริกันหลายพันคนที่ตัดผมเลียนแบบเธอ
หลังจากต้องเข้าทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก

เธอให้สัมภาษณ์ในหลายปีต่อมาว่า
อุบัติเหตุในโรงงานลดลงถึง 22%
หลังจากการตัดผมสั้นของเธอ
มีผู้หญิงอีกหลายคนทำตามแบบเธอ

แม้ว่าหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
งานแสดงของเธอจะเริ่มลดน้อยถอยลงก็ตาม
แต่บทบาทครั้งสำคัญของเธอยังไม่มีใครลืมเลย




9. Gertrude Boyarski: Partisan Fighter


Gertrude Boyarski ในงานแต่งงานปี 1946 Photo provided by Jewish Partisan Education Foundation
.
หลังจากหลบหนีออกมาจาก Derechin
ค่ายกักกันชาวยิว Polish Jewish ghetto
พร้อมกับพ่อแม่พี่น้องของเธอในช่วงวัยรุ่นตอนนั้น
แต่แล้วต้องเห็นภาพสยองขวัญที่แต่ละคนในครอบครัว
ต่างค่อย ๆ ล้มหายตายจากไปทีละคน
จากการยิงทิ้งของกองทหาร SS
และสมัครพรรคพวกมันในท้องถิ่น

Boyarski หลบหนีรอดไปได้จนพบกับ
กลุ่มนักรบกองโจรรัสเซีย
และขอร้องหัวหน้ากองโจรว่า

" ฉันต้องการล้างแค้นให้กับครอบครัวทุกคน "

เรื่องราวของเธอเป็นเรื่องเล่าขานของชาวรัสเซียมากที่สุด
เกี่ยวกับการแก้แค้นของเธอกับพวกนาซีเยอรมันนี
หลังจากไม่นานที่เธอเข้าร่วมรบกับพวกนักรบกองโจร

Boyarski กับเพื่อนของเธอคนหนึ่งบุกเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
หิ้วถังน้ำมันก๊าดเผาทำลายสะพานไม้ของพวกเยอรมันนี
ที่ใช้ลำเลียงพลและเสบียงอาหารยุทธปัจจัย

แม้ว่าพวกนาซีเยอรมันพยายามจะตอบโต้และยิงใส่ทั้งคู่
แต่ Boyarski กับเพื่อนของเธอต่างไม่ยอมลดละ
ด้วยการใช้มือและเท้าพยายามทำลายสะพานไม้ที่ลุกไหม้
ท่ามกลางเปลวไฟที่เผาไหม้คนทั้งสองตลอดเวลา
จนกระทั่งทั้งคู่ตายท่ามกลางเปลวไฟ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่