จากกระทู้เก่าของผมที่ถามว่า
ถ้าไม่มีอะไรเป็นอัตตาอยู่เลย แล้วคำว่าอนัตตามันจะเปรียบเทียบอ้างอิงกับอะไร ?
ก็มีท่านสมาชิกผู้มีเกียรติหลายท่านลงความเห็นต่างๆนา แต่มันไม่ค่องตรงประเด็นเท่าไหร่
วันนี้จะเอาพระไตรปิฏกมาให้ท่านได้พิจารณาอีกทีหนึ่งในเรื่องของอัตตาว่านี่ใช่หรือไม่ ดังนี้...
.........ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุง
แต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าธรรมชาติอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว
อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว จักไม่ได้มีแล้วไซร้ การสลัดออก
ซึ่งธรรมชาติที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว จะไม่พึง
ปรากฏในโลกนี้เลย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะธรรมชาติอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็น
แล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่ ฉะนั้น การสลัด
ออกซึ่งธรรมชาติที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว
จึงปรากฏ ฯ
แต่ผมจะดัดแปลงนิดหน่อยคำว่า " ธรรมชาติ" เป็นคำว่า "อัตตา" เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณา
ว่ามันเป็นอันเดียวกันหรือไม่. ดังนี้
.........ดูกรภิกษุทั้งหลาย อัตตาอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุง
แต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่
.........ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าอัตตาอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้วอันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว
ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว จักไม่ได้มีแล้วไซร้ การสลัดออกซึ่งอนัตตาที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว
อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว จะไม่พึงปรากฏในโลกนี้เลย
..........ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะอัตตาอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว
ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่ ฉะนั้น การสลัดออกซึ่งอนัตตาที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว
จึงปรากฏ ฯ
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย โปรดใช้วิจารณญาณ และปัญญาบารมีที่สั่งสมมาอย่างเต็มที่
และอย่างเป็นระบบ
ห ุ หุ หุ
เชิญท่านมมม. เป็นคนแรกเลย ถ้ายังอยู่ในบอร์ดนี้อยู่ตอนนี้
จงโปรดพิจารณาการเปรียบเทียบต่อไปนี้
ถ้าไม่มีอะไรเป็นอัตตาอยู่เลย แล้วคำว่าอนัตตามันจะเปรียบเทียบอ้างอิงกับอะไร ?
ก็มีท่านสมาชิกผู้มีเกียรติหลายท่านลงความเห็นต่างๆนา แต่มันไม่ค่องตรงประเด็นเท่าไหร่
วันนี้จะเอาพระไตรปิฏกมาให้ท่านได้พิจารณาอีกทีหนึ่งในเรื่องของอัตตาว่านี่ใช่หรือไม่ ดังนี้...
.........ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุง
แต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าธรรมชาติอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว
อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว จักไม่ได้มีแล้วไซร้ การสลัดออก
ซึ่งธรรมชาติที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว จะไม่พึง
ปรากฏในโลกนี้เลย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะธรรมชาติอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็น
แล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่ ฉะนั้น การสลัด
ออกซึ่งธรรมชาติที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว
จึงปรากฏ ฯ
แต่ผมจะดัดแปลงนิดหน่อยคำว่า " ธรรมชาติ" เป็นคำว่า "อัตตา" เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณา
ว่ามันเป็นอันเดียวกันหรือไม่. ดังนี้
.........ดูกรภิกษุทั้งหลาย อัตตาอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุง
แต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่
.........ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าอัตตาอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้วอันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว
ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว จักไม่ได้มีแล้วไซร้ การสลัดออกซึ่งอนัตตาที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว
อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว จะไม่พึงปรากฏในโลกนี้เลย
..........ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะอัตตาอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว
ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่ ฉะนั้น การสลัดออกซึ่งอนัตตาที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว
จึงปรากฏ ฯ
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย โปรดใช้วิจารณญาณ และปัญญาบารมีที่สั่งสมมาอย่างเต็มที่
และอย่างเป็นระบบ
ห ุ หุ หุ
เชิญท่านมมม. เป็นคนแรกเลย ถ้ายังอยู่ในบอร์ดนี้อยู่ตอนนี้