ขอเกริ่นนำเล็กน้อยน่ะครับ กระทู้นี้เป็นรีวิวครั้งแรกของผม ซึ่งรูปถ่ายต่างๆจึงเป็นรูปถ่ายของผมและแฟนที่ถ่ายด้วยกันมา เพราะแรกเริ่มไม่ได้มีความคิดที่จะมีการรีวิวในพันทิพ แต่เนื่องจากคิดว่าการรีวิวครั้งนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่จะมีโอกาสได้ไปโตเกียวครั้งแรกเหมือนผม และต้องการไปเที่ยวในสถานที่ ที่คล้ายคลึงกัน จึงได้ตัดสินใจเขียนรีวิวนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำของผมเองด้วย

อย่างที่ขึ้นหัวกระทู้ไว้ข้างต้น ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวโตเกียวเป็นครั้งแรกในชีวิต และมีการทำการบ้านผ่านเวบไซด์ต่างๆ โดยใช้พันทิพเป็นหลัก ในกระทู้นี้จะมีการกล่าวถึงลิงค์ต่างๆ ซึ่งผมได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการไปเที่ยวครั้งนี้ ขออนุญาตและขอบคุณ พี่ๆทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ลำดับแรกผมขอกล่าวถึง plan ในการสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวที่ผมไปในทริปนี้น่ะครับ หลังจากนั้น จะลงรายละเอียดและรูปเล็กน้อย ซึ่งผมเดินทางโดยใช้เวลา 6วัน6คืน ตั้งแต่ 8 ธ.ค. - 15 ธ.ค. 2558 (ซึ่งวันเที่ยวจริงคือ 9 - 14 เพราะ 8ไฟลท์ดึกและ15ไฟลท์เช้า)
จากความตั้งใจของผมคือ เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้ จะได้ทราบถึงวิธีท่องเที่ยวในโตเกียวอย่างง่ายด้วยรถไฟฟ้า JR และ Metro ซึ่งสถานที่ทั้งหมดผมคิดว่าครอบคลุมจุดต่างๆของโตเกียวที่ผู้ไปเที่ยวโตเกียวครั้งแรกคงอยากไปครับ

ซึ่งตลอดการเดินทางนี้ ผมสามารถคุมเวลาและสถานที่วางตามแพลนไว้ได้อย่างดี รวมถึงไม่หลงรถไฟ "โตเกียว" ครับ ขออนุญาติเริ่มเลยน่ะครับ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ

เตรียมตัวก่อนเดินทางเล็กน้อย
1. Application รถไฟที่ควรมีเพื่อใช้เดินทางในโตเกียว คือ City Rail Map และ Tokyosubway ซึ่งทั้ง 2 App เป็นระบบ Offline ไม่ต้องการ Internet ในการใช้งานและสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Store ของทุกคนครับ ซึ่ง City Rail Map นั้นจะครอบคลุมกว่า เพราะจะรวมเส้นทางของ JR บนดินและ Metro ใต้ดิน แต่หากต้องการเดินทางเฉพาะเจาะจงด้วย Metro ให้ใช่ App Tokyosubway ควบคู่จะง่ายกว่าครับ
2. Internet (optional) หากเพื่อนๆต้องการที่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เนตที่โตเกียว แนะนำให้เช่า Pocket Wifi จากไทยไปครับ ราคาประมาณ 200-250 บาท ต่อวัน แต่ถ้าไปเช่าที่โตเกียวจะราคา 350 บาท ต่อวัน / ส่วนตัวผมเปิด AIS Data roaming จากไทยไปจึงไม่มีรายละเอียดของ provider ให้ครับ
3. Website ที่ใช้ในการค้นหาเส้นทางและคำนวนค่าใช้จ่ายด้านการโดยสารในโตเกียว www.hyperdia.com ครับ
4. Camera (Optional) ในทริปนี้ผมใช้กล้อง Fuji X-A2 ครับ เพื่อเป็นอุปกรณ์ในการเก็บภาพความทรงจำครั้งนี้

PS ในส่วนของการเตรียมตัวอื่นๆ เช่น การทำ passport, การจองโรงแรม, การจองตั๋วเครื่องบิน, เสื้อผ้าการแต่งตัว, ประวัติความเป็นมา และ ฤดูกาลของญี่ปุ่น ผมขอละไว้น่ะครับ คิดว่าข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ น่าจะหาได้ค่อนข้างง่าย
_________________________________________________________________________________________________________
Trip Plan
Day 1 : Ueno Park / Senjoji Temple / Akihabara / ตึกม่วง (Takeya) / Ameyoko Street
Day 2 : Tokyo One piece Tower/ Roppongi Hill / Mt.Fuji
Day 3 : Mt.Fuji / Kawaguchiko lake / Chureito Pagoda-เจดีย์แดง / Shinjuku
Day 4 : ตลาดปลา Tsukiji / Odaiba
Day 5 : Shinjuku / Harajuku / Shibuya
Day 6 : Tokyo Imperial Palace / Tokyo Sky tree (ตามแพลนจริงๆคือ Yokohama ครับ)
**การเดินทางในแต่ละวันผมจะไม่ได้ให้รายละเอียดในส่วนของ exit เพราะสามารถเดินหาได้เอง ไม่ยาก โดยดูตามป้ายบอกทางในสถานีครับ**

การเดินทางในโตเกียวนั้น หลักๆต้องใช้รถไฟ JR และ Metro ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่ง สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟทั้ง 2 ประเภท ควรทำการศึกษาแผนที่รถไฟและสถานีไว้ล่วงหน้าน่ะครับ ในรีวิวนี้ผมจะขอยึดตามเส้นทางที่ผมใช้
ลิงค์ด้านล่างเป็น แผนที่รถไฟ 2 ประเภทครับ ขออนุญาตเจ้าของเพจด้วยครับ
https://ashleeoverseas.files.wordpress.com/2012/01/tk-map.jpg <<< Tokyo Metro line
http://www.matthewbeard.com/beardtrips/2008/Japan/images/img3.jpg <<< Tokyo JR Railway line

นอกจากนี้ ตั๋วรถไฟ ผมเลือกใช้บัตร Suica ซึ่งสามารถใช้ขึ้นได้ทั้ง JR & Metro และเป็นบัตรประเภทเติมเงินครับ ใช้หมดก็เติม ทั้งทริปผมใช้ไปประมาณ 4,500 Yen ครับ
http://pantip.com/topic/31163031 <<< วิธีเติมเงินบัตร Suica ครับ [CR] ติวเตอร์ตู่ครับ

PS ผมเดินทางโดยสายการบิน Air Asia X ลง Terminal 2 และพักที่ Guest House Wasabi ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานี Mikawashima ย่าน Ueno น่ะครับ ราคาย่อมเยา เป็นห้อง Private ราคาอยู่ราวๆ 2 พันบาท ต่อคืน โดยจองผ่าน Agoda.com ครับ
_________________________________________________________________________________________________________
Day 1 Ueno Park / Senjoji Temple / Akihabara / ตึกม่วง (Takeya) / Ameyoko Street

การเดินทางเข้าไปในโตเกียวโดยใช้เวลาเร็วที่สุดหากคุณพัก ย่าน Nippori และ Ueno ผมเลือกนั่งรถไฟฟ้า Keisei Skyliner ซึ่งเดินทางจากสนามบิน Narita ไปถึง Nippori และ Ueno station ใช้เวลาราวๆ 40 นาที ซึ่งสามารถดูรายละเอียดทั้งหมดได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/index.html
ซึ่งส่วนตัวผมซื้อตั๋ว Round Trip และ + Tokyo Subway 1 day ticket ราคา 4,700 Yen ครับ

Ueno Park : Ueno station / JR & Metro / สวนสาธารณะแห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ซึ่งเป็นแหล่งเดินเล่นถ่ายรูปพักผ่อน สบายๆครับ >>> http://pantip.com/topic/13104556 [CR] คุณ บ้านกรุ๊ปโอ

Sensoji Temple : Asakusa station / Metro / เป็นวัดที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว วัดแดง โคมดัง ครับ >>> link เยอะมากครับ การไปสะดวก ไม่งงครับ ขึ้นจากสถานีเดินนิดเดียวถึง

Akihabara : Akihabara station / Metro / ย่านของคนรัก Manga Model Cosplay Game centre จัดเต็มเลยครับ แต่ผมเน้นเดินๆดูบรรยากาศมากกว่า > http://pantip.com/topic/32314857 [CR] คุณ สมาชิกหมายเลข 1519331

ตึกม่วง (Takeya) : Ueno-Hirokoji station / Metro / ช็อปกระจายครับ ที่ซื้อขนมฝากชื่อดัง มีขนมมากมาย รวมถึงน้ำหอมราคาถูกแต่ไม่ต้องหาพวก Tokyo Banana หรือ ขนมดังเมืองฮอกไกโดที่นี่น่ะครับ สามารถหาได้ที่แอร์พอร์ตขาออกได้เลย เสริมนิดนึงครับ ที่นี่สำหรับคนที่ซื้อของเยอะมากๆ เค้ามีบริการส่งของถึงโรงแรมด้วยน่ะครับ ค่าบริการ 800 Yen ต่อกล่อง ซึ่งใหญ่ประมาณนึง สามารถบรรจุขนมได้เต็มๆ2 ตะกร้าครับ >>> http://pantip.com/topic/30864510 [CR] คุณ JP Mystic

Ameyoko Street เป็นถนนชอปปิ้งราคาย่อมเยาครับ เดินเล่นสบายๆมีของทุกอย่าง อาหาร เสื้อผ้า รองเท้า ขนม เครื่องสำอางค์ ของมือ2 แต่แนะนำร้านซูชิหน้าล้น "Miuramisaki Kou" ครับ อร่อยและคุ้มค่ามากๆ ครับ ถ้าเดินมาจากตึก Takeya เข้าท้ายซอย Ameyoko ร้านนี้จะอยู่ด้านหน้าๆครับ
ขอบอกว่า ร้านนี้เป็นร้านเดียวที่ทำการบ้านไป เพราะแฟนชอบทานซูชิ และประกอบกับหลายๆท่านบอกว่า ญี่ปุ่นร้านไหนก็อร่อย ซึ่งก็จริงครับ แต่ร้านนี้ย้ำว่า "คุ้มค่า" จริงๆครับ รูปร้านอยู่ด้านล่าง ที่เป็นป้ายสีน้ำเงินน่ะครับ

รูปเล็กน้อย ของวันแรกครับ ขอความกรุณาวิจารณ์ในด้านสร้างสรรค์น่ะครับ


_________________________________________________________________________________________________
Day 2 : Tokyo One piece Tower / Roppongi Hill / Lake Kawaguchiko Mt.Fuji

Tokyo One piece Tower : Kamiyacho station / Metro ซึ่งจริงๆแล้ว Tokyo Tower ยังสามารถขึ้นชมวิวด้านบนได้ปกติ แต่เกิดจากความเข้าใจผิดของผม ทำให้นึกว่า One piece ครองทั้ง Tower แต่ก็ไม่สนใจครับ เพราะแฟน One piece อยู่แล้ว ถ้าใครที่สนใจเหมือนกันก็ จองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ Japanican.com ครับ ค่าตั๋ว 3,000 yen แต่ถ้าไปซื้อหน้าทางเข้าจะ 3,200 yen ครับ

Roppongi Hill : Roppongi station / Metro จุดนี้ผมเฉยๆน่ะครับ ก็เดินเล่นถ่ายเมืองละก็มีแมงมุม แต่จุด peak ซึ่งผมไม่ได้ขึ้นไปคือ Sky deck ที่ไปดูวิวเมือง และ โตเกียว Tower แบบชัดเจนครับ >> http://pantip.com/topic/30837310 [CR] คุณ พนอจัน

Lake Kawaguchiko Mt.Fuji : ส่วนนี้ผมเดินทางด้วย Keio Highway Bus ครับ ซึ่งต้องไปขึ้นที่ Shinjuku station วิธีการจองตั๋วและการเดินทางดูตาม link ด้านล่างได้เลยครับ [CR] www.mu-ku-ra.com ครับ
http://www.mu-ku-ra.com/2015/01/highway-bus-shinjuku-kawaguchiko.html <<< วิธีจองรถบัส
http://www.mu-ku-ra.com/2015/02/Bus-shinjuku-to-kawaguchiko.html <<< วิธีเดินทางไปที่สถานีรถบัสที่ Shinjuku
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม. ก็ถึง Lake Kawaguchiko ครับ ผมเข้าพักที่ Kawaguchiko Station Inn ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถบัส เดินแค่ 2 นาทีครับ
สำหรับเพื่อนๆที่คิดจะจองที่นี่ ผมแนะนำให้ส่ง e-mail ตรงไปหาโรงแรมเลยครับ เพราะจอง OTA ไม่เคยได้ ห้องเค้าน้อย เต็มตลอดเวย์
order@st-inn.com <<< Kawaguchiko Station Inn e-mail ครับ ค่าห้องสำหรับ 2 ท่าน ต่อคืน 9,000 yen เท่านั้นครับ

          มาถึงจุดนี้ผมขอเล่าเรื่องเชิงบรรยายความรู้สึกเล็กน้อยน่ะครับ คือ ความตั้งใจผมครั้งนี้ ต้องการมาเห็น Fuji-San แบบเต็มๆ แต่จาก weather forecast ตั้งแต่ผมลงเครื่องบินก็บอกว่า คืนที่ผมมาถึง lake ฝนจะตก และวันที่ผม plan ไว้ว่าจะเที่ยวชมธรรมชาติรอบ lake Kawaguchiko โดยมี Fuji-San เป็น Back ground นั้น ฝนก็จะตกทั้งวัน จนถึง 5 โมงเย็น ซึ่งพระอาทิตย์ก็จะตกไปแล้ว (ช่วงที่ผมไปพระอาทิตย์ตกประมาณ 16:30 ของทุกวัน)
          จริงๆแล้ว ตอนแรกก็ได้มีการพูดคุยกับแฟนและเพื่อนอีก 2 คน เค้าบอกว่า จะเปลี่ยนวันดีมั้ย แต่ด้วยความที่ผมจองโรงแรมและรถบัสทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว ผมจึงยืนยันว่าให้ไปตามวันเวลาที่กำหนดไว้แหละ สรุปก็คือเราเดินทางถึงที่พักเวลา 3 ทุ่มของวันที่ 2 ครับ เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ฝนก็ตกตามพยากรณ์อากาศครับ ถึงจุดนี้อารมณ์ มันนอยด์ๆไปหมดเลยครับ ได้แต่ภาวนาว่าวันรุ่งขึ้น พยากรณ์จะผิดพลาด
          แต่ถึงกระนั้น เราก็พักผ่อนเปลือยเปล่าไปกับ Onsen ที่โรงแรมครับ ดีที่ตอนดึกไม่มีแขกท่านอื่นมาแช่ออนเซ็นเลย ก็เลยสบายเรา แยกห้อง ชาย 2 หญิง 2 ครับ สบายตัวกันไป อีกเรื่องนึง ที่นี่เป็นห้องน้ำรวมน่ะครับ แต่สามารถล็อคประตูเวลาอาบน้ำได้ครับ ไม่ต้องห่วง ส่วนผมอาบในที่อาบน้ำออนเซ็นเลย ออ อีกอย่าง โรงแรมนี้คนไทยพักค่อนข้างเยอะน่ะครับ แล้วก็มีเวลาเปิดปิดประตูโรงแรมด้วย เกิน 5ทุ่ม ปิดประตูห้ามเข้าออกครับ
         นอนครับ เฝ้าภาวนาให้ฟ้าสางวันพรุ่ง!

รูปเล็กน้อย ของวันที่ 2 ครับ



ไว้จะมาเขียนต่อน่ะครับ ต้องบอกว่าวันที่ 3 เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นจริงๆ และจะทำให้ผมจำทริปนี้ไม่ลืมเลย !!!