คนเชียงใหม่เที่ยวเชียงใหม่.

สวัสดีค่ะ เราชื่ออุ๋มอิ๋ม หรือเรียกสั้นๆว่า อิ๋ม
สองสามวันที่ผ่านมาเราเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ เราเที่ยว2วัน//ไม่พักโรงแรม ไม่เช่ารถ ง่ายๆคือกลับไปนอนบ้านและใช้รถตัวเองค่าใช้จ่ายเลยน้อย
ทริปนี้เราไปเที่ยวกับพี่สาวและเพื่อนๆของเรา โดยเราทั้งหมดออกความเห็นกันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้างในจังหวัดเชียงใหม่ โดยสถานที่เที่ยวเรามีตามนี้ค่ะ ปล.เราอยู่โรงเรียนที่นับถือศาสนาคริส พอกินเลี้ยงเสร็จก็ไปเที่ยวต่อเลยค่ะ ภาพที่เที่ยวสวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เลยเป็นชุดนักเรียน
- สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ Queen Sirikit Botanicgarden แม่ริม
- Chic 39 แม่ริม
- เมืองแกน แม่แตง
- สวนกล้วยไม้สายน้ำผึ้งออร์คิด แม่ริม
- อุทยานหลวงราชพฤษ์
ซึ่งสถานที่ที่เราไปมีข้อดีข้อเสียต่างกันแล้วสถานที่บางแห่งก็กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดและนักท่องเที่ยวชาวเชียงใหม่ด้วยค่ะ สถานที่บางแห่งตอนนี้คนเลยเยอะเป็นพิเศษ

มาเริ่มที่แรกกันดีกว่า
   สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ Queen Sirikit Botanicgarden เราไปวันที่ 23 ธันวาที่ผ่านมาค่ะ
ทางไปคือเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกสะเมิงแล้วขับรถตรงไปเรื่อยๆตามทางสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ Queen Sirikit Botanicgarden จะอยู่ทางซ้ายมือจุดเด่นที่สังเกตได้คือจะมีต้นไม้ต้นใหญ่ๆสูงๆบริเวณลำต้นจะมีผีเสื้อตัวใหญ่ๆหลายตัวเกาะอยู่ค่ะ
ค่าบริการ(วันที่23) : ผู้ใหญ่ 40 บาท, นักเรียน/นักศึกษา 10 บาท
ผู้สูงอายุเกิน 60 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พระภิกษุสามเณร และผู้พิการ ไม่เสียค่าเข้าชม
ค่ารถบริการนำชมสวน ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
รถบัส คันละ 200 บาท รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 100 บาท(เราไปรถเก๋งเขาคิดคันละ 60บาท เราเลยไม่แน่ใจเหมือนกัน)
เรากับเพื่อนๆเลยจ่ายค่าเข้าทั้งหมด 220 บาท (ผู้ใหญ่4คน รถเก๋ง1คัน) วันที่เราไปเราได้บัตรขึ้น Canpoy Walkway ฟรี!!!!
แล้วเราก็ขึ้นไป ตอนแรกที่ไปถึงจะเห็นสวนเป็นวงกลมอยู่ตรงกลางบริเวณที่จอดรถ ฝั่งขวามือจะเป็นทางไป Canpoy Walkway ผ่าน Canpoy Walkway ไปอีกนิดจะเป็นจุดชมวิวของ สวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เราอยู่ตรงจุดชมวิวถ่ายลงมา อันนี้เป็น Canpoy Walkway ที่เราบอกไว้มันจะโคลงนิดถาเดินแรงเขามีป้ายห้ามเยอะแยะเลย แต่ที่สะคัญคือ1เมตรอยู่ได้แค่ 5คน!!! เราก็เดินไปเรื่อยๆพอถึงทางแยกกลับเราก็ออกมาเลยจริงๆมันมีที่เดินไปจุดชมวิวอีกแต่ว่าเราไม่ไหวแล้วตอนเราไปแดดร้อนแล้วCanpoy Walkwayยังไม่ค่อยมั่นคงสำหรับเราเพื่อนเราก็กลัวความสูงเลยตัดสินใจเดินกลับ555555555 พอเราลงCanpoy Walkway ก็ขับรถขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเจอจุดชุมวิวอีกที่//เราไม่ได้ถ่ายมา แล้วใกล้ๆจะมีน้ำพุด้วย ปล.น้ำพุพุ่งสูงมาก แบบในรูปเลย เวลาลมมาก็จะมีไอน้ำพัดมาตามลมคือเย็นสบายมาก ใกล้ๆก็จะมีกังหันลมให้ถ่ายรูปสวยๆ แต่ว่าเนินสูงมากเราขึ้นไปแล้วก็สไลด์ลงมา คือวินาทีนั้นเพื่อนๆช่วยด้วยยย!!! หลังจากนั้นเรากับเพื่อนๆเลยถ่ายรูปต่อนิดหน่อยแล้วก็เดินเข้าไปชมในอาคารเรือนกระจกค่ะ ซึ่งอาคารแต่ละที่จะมีพืชพันธุ์ไม้ต่างชนิดกันออกไปซึ่งแน่นอนค่ะเราเข้าไม่ครบทุกอันเพราะมันร้อนสุดๆที่แรกที่เข้าไปคืออาคารกล้วยไม้และเฟิน โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนชอบเกี่ยวกับพืชและชอบดอกไม้(บางชชนิด)มากๆๆที่เที่ยวเลยออกแนวป่า555555 หลังจากถ่ายรูปเสร็จเราก็เดินไปที่อาคารอื่นต่อ อาคารต่อไปที่เราเข้าคือป่าดิบชื้น <เราบอกแล้วว่าป่าาาา> ตามชื่ออาคารคือป่าดิบชื้นข้างในคือชื้นมากๆสำหรับเราเราว่ามันเย็นดีชอบบบๆๆ อาคารหลังถัดไปคือพลาดไม่ได้เรียกได้ว่าเป็นอาคารที่ใครไปแล้วไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปชิคๆแนวๆถือว่าพลาดมาก<วัยรุ่น>นั่นก็คืออาคารพืชทนแล้งในอาคารส่วนใหญ๋ก็จะเป็นกระบองเพชรอาคารนี้เลยเป็นที่นิยมของฮิปเตอร์มากๆๆๆ แล้วเราก็เดินทะลุมาเจออาคารบอนสีและหน้าวัว ก็เหมือนชื่ออาคารภายในก็จะเป็นบอนสีและหน้าวัวหลายสายพันธุ์ ปล.อาคารนี้เราไม่ได้ถ่ายภาพมา เดินไปอีกอาคารใกล้ๆกันคืออาคารพืชกินแมลง แล้วก็ไปอาคารสัปปะรดสี เขามีที่นั่งถ่ายรูป อ่ะๆนั่งถ่ายสักหน่อยเราก็วกไปวนมากสักพักเราก็กลับเพราะว่ามันเย็นมากแล้วเราก็กลับบ้าน นี่คือวันที่หนึ่งที่เราไปเที่ยวครึ่งวันกับเพื่อนๆและพี่สาวของเรา ไว้มาต่อน้ะ