[CR][SR] [CR] พาไปทัวร์ภูทับเบิก เขาค้อ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ด้วยมอเตอร์ไซค์บ้าน บิดให้สุดแล้วหยุดที่ 1,200กิโลเมตร

สวัสดีครับ หลายๆท่านคงอาจเห็นผมในแบบฉบับของคนรีวิวกล้องหรือสินค้าตามแชลแนลต่างๆ
แต่วันนี้ผม "นิวเยีย" หรือตัวแทนช่อง "iNewch" จะมาเล่าเรื่องการออกทริปด้วยมอเตอร์ไซค์คู่ใจ
ซึ่งเป็นทริปปกติของช่องเราอยู่แล้ว โดยรถที่ใช้ก็เอาเท่าที่มีครับ รถบ้านส่งข้าวแกงล้วนๆ 110cc. บ้าง 125cc. บ้าง
แต่ทุกคันล้วนสู้ความไกลอย่างไม่หวั่นครับ ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกๆปีหรือช่วงปิดเทอมมหาวิทยาลัย
เอาหล่ะครับผมก็แนะนำตัวมาพอสมควรแล้ว เรามาร่วมเดินทางไปด้วยกันเลยดีกว่าครับ

หากท่านใดอยากรับชมคลิปแล้ว กดดูตรงนี้ได้เลยครับผม

เอาหล่ะก่อนอื่นเลย นี่ครับรถที่ผมใช้ในการเดินทาง


ซึ่งเราจะไปทั้งหมดราวๆ 4 สถานที่หลักๆ เราจะเกริ่นคร่าวๆให้ฟังก่อนนะครับ ซึ่งก็มีตั้งแต่
1.พระตำหนักเขาค้อ ที่ๆเราจะไปนอนพักที่นั่น อยู่บนเขาที่สงบมากครับอันนี้คุณแม่ผมแนะนำมาอีกที
ที่สำคัญทุกที่ ที่เราจะไปพักต้องกางเต็นท์ได้ด้วยนะครับ เพราะครั้งนี้เราอยากสัมผัสธรรมชาติครับ ฮ่าๆ


2.อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อันนี้เพื่อนผู้หญิงผมอยากไปมากๆครับ ซึ่งคนขับก็แย้งแล้วว่าเฮ้อ เดินทางไปจะคุ้มเร้อ
แต่สุดท้ายก็ต้องไปครับ เพราะเดี๋ยวเขางอล ปล.ขาลงจากเขาเผลอขับไปเหยียบตะปูเข้า ยางแตกอีกตามเดิม(เคยเกิดเมื่อปีที่แล้ว)


3.ตอนแรกในคลิปเราบอกว่าจะไป "ภูลมโล" ซึ่งในภายหลังเราเปลื่ยนเป็น "ภูทับเบิก" แทน
ส่วนเหตุผลว่าทำไมต้องเปลื่ยนต้องติดตามดูในคลิปแล้วหล่ะครับ ฮ่าๆ (เสียดายมากๆ)


4.สถานที่สุดท้ายซึ่งเราไม่ได้วางแผนไว้แต่แรกนั่นคือ "น้ำตกเจ็ดสาวน้อย"
เนื่องจากการเดินทางกลับกทม.ในวันเดียวนั้น ทำให้คนขับเหนื่อยมาก จึงทำการเพิ่มวัน
และได้วางแผนว่าจะไปพักแถวๆสระบุรี ซึ่งเห็นว่าก็มีที่เที่ยวอยู่ใกล้ๆ เลยตรงดิ่งไปที่น้ำตกเลย
ขอบคุณพี่ๆที่อุทยานมากๆครับที่แนะนำที่พักให้พวกเรา เราไปเจอที่พักแจ่มมากใกล้กับน้ำตกเลย
ซึ่งโดยปกติแล้วการเข้าพักเขาจะนับเป็นคนๆ แต่วันนั้นพี่ๆเขาให้เราเหมาเลย เราก็เลยได้พัก6คนในราคาสบายกระเป๋า


โอ้โห เกริ่นสถานที่มาซะร่าวยาว เอาหล่ะเริ่มเล่าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ
อย่างแรกเลย การเตรียมตัว เนื่องจากครั้งนี้เป็นการนอนเต็นท์ครั้งแรก และเราไปหลายที่
จึงไม่อยากไปเช่า หรือ เสี่ยงไปเพื่อวัดดวงว่าจะมีที่นอนหรือป่าว เราเลยต้องลงเงินซื้อเต็นท์
และของจำเป็นในเต็นท์ เช่น ไฟLED กระทะปิกนิค กระดาษทิชชู่ เยอะแยะเต็มไปหมด ค่าใช้จ่ายราวๆ2พันบาทครับ



ซึ่งเมื่อซื้อมาแล้วด้วยความที่ทุกคนใหม่มาก ไม่เคยออกทริปแบบนี้
เลยต้องมาฝึกกางเต็นท์ที่บ้านดูก่อน สภาพก็ออกมาแบบที่เห็นครับ


เอาหล่ะถึงวันนัดหมาย รวมพลที่บ้านหัวหน้าทีมในเวลา 05.00น. หรือตี 5 นั่นเอง
เช้ามืดแบบนี้ ถนนโล่งแน่ๆ จัดไปเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า แพ็คของขึ้นรถเสร็จก็เกือบๆ 6โมงเช้าพอดี
เราใช้เส้นทางมุ่งสู่รังสิต ขับยาวออกไปจะเป็นเส้นทาง สระบุรี-หล่มสัก ทางนี้ผ่านทุ่งทานตะวันเยอะ
เหมาะแก่การถ่ายรูปแต่รถคันที่นำทางพวกเรา ไม่รู้อินดี้ไปไหนขับเลยทุกสวนเลย เห้ออออ T_T
และเราก็มาหยุดพักที่ปั๊มน้ำมัน จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายเปิดรายการครับ



เอาเป็นว่าภาพบนถนนผมให้ไปดูในคลิปแล้วกัน มาถึงสาระสำคัญนิดๆหากท่านจะเดินทางแบบเรา
รถที่ผมขับคือ Fino ซึ่งเป็นคันเดียวที่เป็น 110cc. และไม่มีระบบหม้อน้ำ ทำให้วิ่งระยะทางไกลๆไม่ค่อยได้
ขึ้นเขาก็แรงม้าไม่เพียงพอ ทำให้คนซ้อนต้องลงอยู่บ่อยๆ และนี่คือภาพครับ




เมื่อเราถึงเส้นทางที่ความชันลดระดับลง ทำให้การขับนั้นสบายมากขึ้น เราจึงวิ่งตามเส้นทางในมือถือ
ตรงไปยังพระตำหนักเขาค้อ ซึ่งทางขึ้นก็โหดใช่ย่อยเหมือนกันครับ แต่ก็พอที่จะขึ้นไหวกันทุกคัน
เราออกเดินทางตั้งแต่6โมง ถึงปลายทางในเวลา4โมงเย็นครับ พอไปถึงก็จัดการติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอสถานที่
เลยสอบถามค่าใช้จ่ายในการกางเต็นท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่คุยดีมากๆเลยครับ พี่เขาบอกว่าหากจะเช่าคิด 300บาท พร้อมเครื่องนอน
แต่หากนำเต็นท์มาเองคิดค่าสถานที่100บาท ไม่นับรายหัวซึ่งถือว่าถูกมากๆเลยครับ เราจึงกางกัน2เต็นท์ติดๆกัน







หลังจากนั้นก็อาบน้ำ และเวลาในยามเย็นก็หมดไปครับ ไวมากๆ อากาศก็หนาวกำลังดี
ค่ำๆก็เลยนำเตาปิคนิคมาต้มมาม่า อ้อ! บนเขามีร้านค้านะครับ แจ่มมาก มีขายทุกอย่างเลย
ก็เลยเหมามาม่ามาเพียบ ฮ่าๆ ช้อนพลาสติกเขาก็มีขายนะครับ
แต่ก่อนจะอาบน้ำนั้น เรามีเกมนึงมาให้สมาชิกในทริป (เฉพาะผู้ชายละกัน) ได้เล่น
นั่นคือการ โอ นอย ออก เพื่อจะชิงได้อาบน้ำอุ่น ปล.มีเพียง1ห้องเท่านั้นที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น



และต่อจากนี้ก็เป็นบรรยากาศยามเช้าครับ วันที่เราไปเป็นคืนที่มีฝนดาวตกพอดี
แต่เนื่องจากเราลืมเอาสายลั่นชัตเตอร์ไปเลยอดถ่ายครับ ถ่ายมาแต่รูปดาวธรรรมดา
สปีดแค่30วิแทบไม่เห็นอะไร เราเลยข้ามรูปตรงนั้นไปดีกว่า อาย ><

สิ่งที่เห็นได้จากหน้าเต็นท์เราเองคือที่นั่ง กับแสงไฟที่ทางที่พักเปิดให้ทั้งคืน และมีเจ้าหน้าที่มาปิดในตอนเช้า


เอาหล่ะครับ ในเมื่อผมตื่นผมก็จะปลุกเพื่อนขึ้นมาถ่ายรูป หรือ ถ่ายรายการด้วยกัน
และนี่คือผลกำไรสำหรับการตื่นเช้าครับ วิวสวยมากๆๆครับ ผมเลยจัดแจงถ่าย Timelapse ซะเลย
ซึ่งท่านต้องชมในคลิปเท่านั้น บอกเลยครับว่าคุ้มมากๆ




และเมื่อรุ่งเช้าผ่านไป เราก็เก็บเต็นท์เตรียมเดินทางลงจากเขาเพื่อไปยังทุ่งแสลงหลวง
แต่ในคลิปไม่ได้ถ่ายไปช่วงนึงคือ เราลงจากเขาไปตัวเมืองระยะทาง40กิโลเมตร
และขึ้นเขามาใหม่อีก 40กิโลเมตร เพื่อไปซื้อเนื้อหมูมาไว้ทำอาหารกินบนภูทับเบิก
เพราะตอนแรกเรากลัวว่าบนนั้นจะไม่มีอะไรขายเลย โอ้พระ แต่กลับผิดคาดข้างบนมีขายทุกอย่างครับ
แต่เราพักไปดูทุ่งแสลงหลวงก่อนละกัน ^_^




โดยรวมแล้วขับมาที่นี่ก็ไกลพอสมควร แถมรถผมยางแตกอีกตะหาก
ถามว่าขึ้นมาทำไม มาเพื่ออะไร ทางเพื่อนผมตอบได้เต็มปากว่า
ขึ้นมา "นอน" ครับ ....


เราอยู่ที่นี่พักถ่ายรูปราวๆ 1ชั่วโมง ผมไม่ได้ไปถ่ายด้วยหรอกครับ ตามประสาคนขับรถ มันเหนื่อยครับ
ก็เลยปล่อยสาวๆไปถ่ายรูปกันเอง ส่วนพวกผมนอนถ่ายตรงนั้นแหละครับ ฮ่าๆ เหมือนทุ่งสนามหลวงเลย
เอาหล่ะ หลังจากพักกันมาพอสมควร เราเดินทางต่อกันไปที่ภูลมโล(ในตอนแรก)
ซึ่งจะใช้เส้นทางที่ผ่านจังหวัดพิษณุโลกครับ แน่นอนว่าถนนส่วนใหญ่อยู่บนภูเขา ลมเย็นๆ ขับชิวๆ



คราวนี้ขับตามทางมาเรื่อยๆเราจะเจอกับด่านผ่านทางไปสู่ "อุทยานยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก"
ตรงนี้ท่านต้องเสียค่าผ่านทางนะครับผม ไม่ใช่ทางหลัก แต่เราเลือกผ่านที่นี่เพราะทางมันไม่ชันเกินไป
ไม่งั้นรถ Fino ผมขึ้นไม่ไหวแน่ๆครับพี่น้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า หากมาในวัน จ.-ศ. เฉพาะคนไทย
ลดค่าผ่านทาง 50% แต่ว่าถึงวันที่ 31ธค.นี้นะครับ แถมยังมีสิทธิ์ของนักเรียน-นักศึกษาอีก ใช้เป็นส่วนลดเพิ่มได้ครับ





คราวนี้ก็ถึงเวลาขับขึ้นเขา ลงเขาแบบโหด ระหว่างทางจะไม่มีจุดแวะพักใดๆทั้งนั้นครับ
จะมีแต่โค้งซ้าย-ขวา หน้าหลังเอ้ย ไม่ใช่ คือมันจะเป็นทางขึ้นที่ชันพอสมควร
จะมีจุดพักเพียงจุดเดียวคือ "ลานหินแตก" ครับ เราก็แวะถ่ายรูปอยู่พักนึง
แต่ก็โดนคนนำทางบ่นว่า ไวๆหน่อย เดี๋ยวจะถึงมืดค่ำเอา



และเราก็ถึง "ภูทับเบิก" ครับผม ขณะนั้นเป็นเวลา1ทุ่ม ก็กว่าจะกางเต็นท์จัดของก็เกือบๆ3ทุ่มเลยทีเดียว
แผนกแม่ครัวก็จัดแจงต้มน้ำซุปกับหั่นหมูเรียบร้อย พร้อมจะเติมพลังงานแก่ทุกคนในทริปแล้ว


ตอนเช้า เอาอีกแล้วครับ!!! ไอ้นิว ปลุกเพื่อนมาถ่ายรูปกับวีดีโออีกแล้ว ฮ่าๆ
แต่วันนี้ตื่นสายหน่อยนึง เป็น 05.30 หรือตีห้าครึ่งนั่นเอง รู้สึกคุ้มกว่าเมื่อวานนะ
เพราะวันนี้หมอกเยอะกว่ามากๆ นอนไม่ได้ตัวหนาวสั่นทั้งๆที่ห่มผ้ามิดชิดกว่าเมื่อวาน
และนี่คือภาพบรรยากาศครับ ซึ่งผมทำ Timelapse ไว้เช่นเดิม (ต้องดูในคลิปนะค้าบบบ ><)




เนื่องจากหมอกที่หนามากๆๆๆ ทำให้เราไม่สามารถลงจากเขาได้ในตอนเช้าตรู่ตามกำหนดการเดิม
เราเลยเก็บเต็นท์อย่างเอื่อยๆ และก็กินเข้าเช้าเสริมแรงก่อนละกัน และนี่คือภาพ !



เมื่อเราประเมิณสถานการ์ณว่าน่าจะพอไหวสำหรับการขับขี่ เราเลยขับรถลงเขากันครับ ซึ่งขับกลับทางเดิม
และแน่นอนต้องผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง เลยถามเจ้าหน้าที่เขา เขาบอกว่าเอาบัตรเก่ามาโชว์เป็นหลักฐานได้
ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม หรือ จ่ายใหม่แต่อย่างใด ผมนี่โล่งอกเลย นึกว่าได้เสียเงินอีกแล้ว ^_^


** สถานที่สุดท้าย ขอต่อในคอมเม้นท์ต่อไปนะครับ เนื่องจากตัวอักษรไม่พอครับ **