IMDB: 7.8
Rotten Tomatoes: 69%
Director: Richard Donner
Casts: Sean Astin, Josh Brolin & more
Theme: Adventure, Comedy, Family
เนื้อเรื่องโดยสังเขป
Mike Walsh เด็กชายตัวน้อยกำลังจะถูกยึดที่อยู่ เพื่อนำเอามาสร้างเป็นกอล์ฟคลับ รวมถึงบ้านละแวกนั้นด้วย นั่นทำให้เขาเกิดไอเดียที่จะตามล่าหาขุมทรัพย์ของโจรสลัดตาเดียว เพื่อพิทักษ์บ้านของเขา ตามแผนที่ที่เขาได้พบในห้องเก็บของ Mike ชักชวนพี่ชาย Brendon และผองเพื่อนแก๊งค์ The Goonies ออกตามล่าหาสมบัติสานฝันให้เป็นจริง แต่หนทางนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะอุปสรรคเริ่มต้นตั้งแต่ปากทางเข้าอุโมงค์ซ่อนสมบัตินั้นเป็นร้านอาหารที่ถูกโจรแสบตระกูล Fratelli ยึดครองไว้อยู่ แถมยังมีผู้ชายหน้าพิการคล้ายอสูรกายอยู่อีกด้วย
เกร็ดเล็กๆ
1) ชื่อ Goonies นี่เด็กๆ ตั้งมาจากไหนหนอ จริงๆแล้วบริเวณที่ตัวละครอาศัยอยู่เรียกว่า Goon Docks เป็นการแผลงคำมาจากคำว่า Boondocks หรือเป็นแหล่งห่างไกลความเจริญ
2) จริงๆหนังมันต้องยาวกว่านี้ เนื่องจากบทมีประมาณ 120 กว่าหน้า ซึ่งตีออกมาคร่าวๆว่าหนังน่าจะยาวถึงสองชั่วโมงกว่า จึงทำให้ต้องตัดออกไปหลายๆฉาก อย่างเช่นฉากปลาหมึกยักษ์
3) เรือที่เข้าฉากเป็นเรือจริงนะคะ !
4) เอ้…. Spielberg แอบกำกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ถึงแม้เราจะรู้กันดีว่า Spielberg เป็น Executive Producer ก็จริง แต่ในหนังสือชีวประวัติของ Sean Astin ได้กล่าวไว้ว่า Spielberg นั้นกำกับร่วมกับ Donner และเขาก็แย้มๆไว้ว่าสไตล์หนังมีกลิ่นอายความเป็น Spielberg เต็มไปหมด
5) เสียงแหบซ่านของ นั้นไม่ได้อยู่การแสดงทั้งหมดแต่นักแสดง Anne Ramsey ผู้รับบทนี้ เคยเข้ารับการผ่าตัดลิ้นและขากรรไกรในปี 1984 เนื่องมาจากมะเร็งหลอดอาหาร ทำให้พูดเสียงแหบซ่านๆแบบนี้ได้แบบสบายๆ และตัวยาย Ramsey เองก็ชนะรางวัล Saturn Award ในฐานะนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม
6) ไม่แพ้กัน Astin ผู้รับบทนำก็ชนะรางวัล Best Starring Performance By a Young Actor ในงาน Young Artist Awards ครั้งที่ 7 ส่วนแก๊งค์ the Goonies อีกสามคน (Cohen, Feldman, และ Plimpton) ก็มีชื่อเข้าชิงด้วยเหมือนกัน และตัวหนังเองก็ได้เข้าชิง best adventure motion picture ด้วยเช่นกัน
7) เลือกนักแสดงอ่อนประสบการณ์ทำให้หนังประสบความสำเร็จ นักแสดงเด็กแต่ล่ะคนไม่ค่อยจะมีผลงานมากซะเท่าไหร่ มีเพียงแต่ Data หรือเด็กจีนเพียงคนเดียวที่เคยได้เล่นหนังใหญ่อย่าง Indiana Jones and the Temple of Doom Donner ให้ความเห็นว่า การทำแบบนี้ทำให้นักแสดงนั้นดูเป็นเด็กจริงๆ
8) เป็นหนึ่งใน 10 ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปี 1985 ก็จริง แต่ก็ยังตามหลัง Rambo: First Blood Part II
9) เด็กอ้วน Chunk หรือ Jeff Cohen นั้นเติบโตและหันหลังให้จอเงิน ผันตัวเองมาเป็น Entertainment Lawyer หรือทนายที่ปรึกษาธุรกิจความบันเทิง (ไม่มั่นใจว่าเข้าใจถูกไหม)
วิจารณ์
หนังให้อารมณ์ hero journey ก็ไม่เชิง ดำเนินเรื่องกระชับ แต่ถ้าขยายเวลาออกหน่อยน่าจะยิ่งสนุกขึ้นไปอีก
จุดเด่นที่เห็นชัดคือการใช้ การเอาสิ่งของรอบตัวมาประยุกต์ใช้เป็นกลไกลเจ๋งๆ อย่างเริ่มแรกเลย ฉากเปิดประตูบ้านให้ Chunk ที่ถ่ายกลไกลเยอะแยะไปหมด มันทำให้เราคิดนะว่าทำเพื่อ ?? เดินเปิดไปประตูบ้านเอาก็ได้แหม่ แต่พอดูไปเรื่อยๆจนถึงฉากกลไกลในถ้ำ ก็ร้องอ๋อขึ้นมาทันทีว่าทำไมหนังถึงทำแบบนี้ อารมณ์แบบบอกใบ้ เป็นลางให้เห็นก่อน ก็เป็นสไตล์การเล่าเรื่องแบบเดียวกับ Spielberg จริงๆนั่นแหละ อันที่จริงคาดว่าการเล่นกับกลไกลน่าจะเปิดตัวตั้งแต่ฉากแรกเลยที่ตัวร้ายแขวนคอ หนีออกจากคุกด้วยซ้ำไป ต่อมาชอบในตัวละคร Data ด้วย เรียกได้ว่าเป็น Bodyguard ของกลุ่ม เขามีเครื่องมือกลไกลรอบตัว คิดค้นประดิษฐ์ขึ้นมา เพราะเด็กคนนี้แหละทำให้พวกเขารอดตายมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งละ ประทับใจที่เอาคนจีนมาเล่นทำให้ฉันแอบรู้สึกว่ามันเข้ากับคาแร้คเตอร์นี้ เพราะคนจีนเป็นพวกหัวนักประดิษฐ์ ประยุกต์เก่ง เป็นพวกตัว top จอมหมกมุ่น
การเลือกนักแสดงที่มีบุคคลิกที่ต่างกันนั้นเป็นอะไรที่ดีมากๆ ทุกคนดูโดดเด่นออกมาทำให้เราสามารถจำตัวละครได้หมดตั้งแต่แรก รวมถึงวิธีการเปิดตัวนักแสดงอีกด้วย ในฉากแรกที่อยู่ในบ้านของพระเอก สามารถเล่านิสัย พื้นเพคร่าวๆ และความสามารถเฉพาะตัวของแต่ล่ะคน แถมยังเป็นลางบอกคนดูได้อีก เพราะตอนช่วงผจญภัยพวกเขาได้ดึงทักษะของตัวเองออกมาใช้ แม้กระทั่งเด็กอ้วน Chunk ที่ดูไม่มีอะไรเลย แต่เขาสามารถหาเพื่อนร่วมทางได้เพิ่มอีกหนึ่งราย แถมยังถ่วงเวลาให้เดอะแก๊งค์มีเวลาล่วงหน้าตามหาสมบัติในถ้ำก่อนที่จะโดนครอบครัวอาชญากรตามล่า
จำได้ไหมพวกเขาตอนปัจจุบัน
สรุปและหาซื้อ
ที่ฉันได้ดูเรื่องนี้ เพราะตอนนั้นตั้งใจจะไปซื้อ DVD ราคาถูก ในงานลดกระหน่ำของบริษัท Catalyst ที่เขาเปิดโกดังขาย และจัดทุกสิ้นปี บังเอิญฉันมองไปเห็นเรื่องนี้วางใกล้ 2001: Space Odyssey ของ Kubrick ที่กำลังจะหยิบซื้ออยู่พอดี เลยจัดการหยิบสองเรื่องมาเลย ไม่รู้อะไรดลใจให้ซื้อเรื่องนี้จริงๆ ทั้งๆที่ไม่ใช่แนวที่ชอบ แต่ก็ไม่ผิดหวังเลยสนุกมาก
– ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ –
Classic Reviewer
[CR] Classic Reviewer ::: The Goonies 1985 [เขียนเรื่องและผลิตโดย Steven Spielberg ]
เนื้อเรื่องโดยสังเขป
1) ชื่อ Goonies นี่เด็กๆ ตั้งมาจากไหนหนอ จริงๆแล้วบริเวณที่ตัวละครอาศัยอยู่เรียกว่า Goon Docks เป็นการแผลงคำมาจากคำว่า Boondocks หรือเป็นแหล่งห่างไกลความเจริญ
4) เอ้…. Spielberg แอบกำกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ถึงแม้เราจะรู้กันดีว่า Spielberg เป็น Executive Producer ก็จริง แต่ในหนังสือชีวประวัติของ Sean Astin ได้กล่าวไว้ว่า Spielberg นั้นกำกับร่วมกับ Donner และเขาก็แย้มๆไว้ว่าสไตล์หนังมีกลิ่นอายความเป็น Spielberg เต็มไปหมด
7) เลือกนักแสดงอ่อนประสบการณ์ทำให้หนังประสบความสำเร็จ นักแสดงเด็กแต่ล่ะคนไม่ค่อยจะมีผลงานมากซะเท่าไหร่ มีเพียงแต่ Data หรือเด็กจีนเพียงคนเดียวที่เคยได้เล่นหนังใหญ่อย่าง Indiana Jones and the Temple of Doom Donner ให้ความเห็นว่า การทำแบบนี้ทำให้นักแสดงนั้นดูเป็นเด็กจริงๆ
8) เป็นหนึ่งใน 10 ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปี 1985 ก็จริง แต่ก็ยังตามหลัง Rambo: First Blood Part II
9) เด็กอ้วน Chunk หรือ Jeff Cohen นั้นเติบโตและหันหลังให้จอเงิน ผันตัวเองมาเป็น Entertainment Lawyer หรือทนายที่ปรึกษาธุรกิจความบันเทิง (ไม่มั่นใจว่าเข้าใจถูกไหม)
หนังให้อารมณ์ hero journey ก็ไม่เชิง ดำเนินเรื่องกระชับ แต่ถ้าขยายเวลาออกหน่อยน่าจะยิ่งสนุกขึ้นไปอีก
การเลือกนักแสดงที่มีบุคคลิกที่ต่างกันนั้นเป็นอะไรที่ดีมากๆ ทุกคนดูโดดเด่นออกมาทำให้เราสามารถจำตัวละครได้หมดตั้งแต่แรก รวมถึงวิธีการเปิดตัวนักแสดงอีกด้วย ในฉากแรกที่อยู่ในบ้านของพระเอก สามารถเล่านิสัย พื้นเพคร่าวๆ และความสามารถเฉพาะตัวของแต่ล่ะคน แถมยังเป็นลางบอกคนดูได้อีก เพราะตอนช่วงผจญภัยพวกเขาได้ดึงทักษะของตัวเองออกมาใช้ แม้กระทั่งเด็กอ้วน Chunk ที่ดูไม่มีอะไรเลย แต่เขาสามารถหาเพื่อนร่วมทางได้เพิ่มอีกหนึ่งราย แถมยังถ่วงเวลาให้เดอะแก๊งค์มีเวลาล่วงหน้าตามหาสมบัติในถ้ำก่อนที่จะโดนครอบครัวอาชญากรตามล่า
จำได้ไหมพวกเขาตอนปัจจุบัน
ที่ฉันได้ดูเรื่องนี้ เพราะตอนนั้นตั้งใจจะไปซื้อ DVD ราคาถูก ในงานลดกระหน่ำของบริษัท Catalyst ที่เขาเปิดโกดังขาย และจัดทุกสิ้นปี บังเอิญฉันมองไปเห็นเรื่องนี้วางใกล้ 2001: Space Odyssey ของ Kubrick ที่กำลังจะหยิบซื้ออยู่พอดี เลยจัดการหยิบสองเรื่องมาเลย ไม่รู้อะไรดลใจให้ซื้อเรื่องนี้จริงๆ ทั้งๆที่ไม่ใช่แนวที่ชอบ แต่ก็ไม่ผิดหวังเลยสนุกมาก
– ขอบคุณที่อ่านและติดตามค่ะ –
Classic Reviewer