紅葉 Walk alone in Kyoto Day 2

กระทู้สนทนา

เที่ยวต่างประเทศ Backpack บันทึกนักเดินทาง เที่ยวญี่ปุ่น ภาพถ่าย

วันที่ 2 ของการเดินทางยังคงอยู่กันที่เกียวโต ถ้าใครที่อ่านการเดินทางวันแรกไม่ทัน ก็มาตาม link นี้ได้เลยครับ
Day 1- http://pantip.com/topic/34595658

สำหรับการเดินทางในวันที่ 2 นี้ จุดหมายปลายทางคือ Arashiyama area ครับ แม้จะเป็นแถบชานเมืองของเกียวโต แต่ก็เป็นจุดที่คนมาเที่ยวชมใบไม้แดงมากที่สุดจุดหนึ่งของญี่ปุ่น การเดินทางสามารถนั่งรถบัสจากสถานีรถไฟเกียวโตได้ แต่จะใช้เวลาสักหน่อยครับ ถ้าอยากจะประหยัดเวลาแนะนำให้นั่ง JR Sagano line จากสถานีเกียวโต มาลงที่ Saga-Arashiyama station ได้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีครับ

credit by http://www.matsuri-japan.com/p/transports.html

Arashiyama area มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง และมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ผมจึงขอใช้เวลา 1 วันในที่แห่งนี้ครับ เนื่องจากใช้ 2 เท้าเดินมาตลอดเมื่อวาน รู้สึกเมื่อเท้าทั้งสองอย่างแรง วันนี้จึงขอใช้จักรยานปั่นท้าลมหนาวเที่ยวชมให้ทั่ว ซึ่งมีร้านจักรยานให้เช่าอยู่ด้านหลัง JR Saga-Arashiyama station ค่าเช่าคิด 1,000 Yen ต่อวัน และต้องนำจักรยานมาคืนก่อนเวลา 17.00 ครับ หลังจากที่จ่ายเงินแล้วก็จะได้แผนที่หน้าตาประมาณนี้ครับ

credit by http://f.ptcdn.info/395/010/000/1380618686-GBJNTOAras-o.jpg

#Bamboo groove
open : เปิดตลอด
Fees : -
ทางเดินท่ามกลางป่าไผ่แห่งนี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เนื่องจากมีความสวยงามและอยู่ไม่ไกลจากวัด Tenryuji และ Togetsukyo Bridge ที่แห่งนี้ในยามบ่ายจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนแบบว่า "โอยยย นี่จะมาทำอะไรกันนักหนาาา" ผมจึงเลือกที่จะไปที่แห่งนี้ในตอนเช้าครับ เพื่อที่จะได้มีคนติดอยู่ในภาพน้อยที่สุด แต่ยังไงก็ยากอยู่ดี เพราะมีคนที่ไปเช้ากว่า 555 วันที่ไปมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาถ่าย prewedding ถึง 2 คู่ครับ ถ้าใครสนใจก็สามารถพาคู่ของตัวเองมาถ่ายนะครับ

#Tenryuji Temple (天龍寺)
open : 8:30 to 17:30 (until 17:00 from late October to late March)
Fees : 500 Yen
หลังจากเดินผ่านป่าไผ่มาสักครู่ ก็มาถึงวัด Tenryuji ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในแถบนี้ก็ว่าได้ ที่ยิ่งกว่าก็คือภายในวัดมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าจดจำอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจครับที่จะเจอกับกองทัพนักท่องเที่ยวที่นี่ (โดยเฉพาะคนไทย) โชคไม่ดีที่ท้องฟ้าวันนี้ค่อนข้างหม่นสลับกับมีฝนประปรายทำให้รูปที่ออกมาไม่สวยเท่าที่ควรครับ

#Jojakkoji temple
open : 9:00 to 17:00 (entry until 16:30)
Fees : 400 Yen
หลังจากเดินชมอยู่นานก็ได้เวลาไปยังที่หมายต่อไปครับ นั่นคือวัด Jojakkoji ฟังดูไม่ค่อยจะคุ้นหูเท่าไหร่ใช่ไหมครับ เพราะในหนังสือท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่ลงวัดนี้ครับ ผมเองก็รู้จักจากหนังสือชื่อ Kyoto Momiji และจากเพื่อนๆใน pantip นี่เอง การเดินทางจะต้องผ่านป่าไผ่ข้ามทางรถไฟขึ้นไปบนเขาค่อนข้างไกล ด้วยเหตุนี้เองทำให้ไม่ค่อยฮิตในหมู่คนไทยเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่สำหรับคนญี่ปุ่นครับ กว่า 90% ของนักที่นี่เป็นคนญี่ปุ่น และที่สำคัญส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย

ถ้าใครที่จะมาเกียวโต อยากแนะนำวัดนี้อยู่ใน Check list นะครับ เพราะสวยม้าาาาาาาาาาาาาากจีจี

#Adashino Nenbutsuji Temple
open : 9:00 to 17:00 (until 16:00 from December to February)
Fees : 500 Yen
วัดแห่งนี้เกือบอยู่สุดทางถ้าปั่นมาจากวัด Jojakkoji เป็นวัดที่มีคนมาน้อยมากๆๆเมื่อเทียบกับวัดอื่นๆ ผมเดาว่าน่าจะเป็นจากระยะทางที่ค่อนข้างไกลและต้องขึ้นเขามาอีก ผมเองปั่นจักรยานมาได้ครึ่งทางก็ต้องยอมแพ้และใช้การจูงแทน --"
วัดนี้เป็นวัดที่ผมชอบมากที่สุด เพราะนอกจากใบไม้แดงที่แดงได้ใจแล้ว ยังมีความน่าสนใจคือ วัดนี้เต็มไปด้วย "หลุมศพ"

#Nisonin Temple
open : 9:00 to 16:30
Fees : 500 Yen
หลังจากปั่นจักรยานลงจากเขา ผมแวะที่วัด Nisonin จริงๆแล้วไม่ได้อยู่ใน List แต่เห็นทางเดินเข้าก็เลยทนไม่ไหว ขอเข้าไปชมครับ สวยมากจีจี

#Togetsukyo Bridge
open : ตลอดเวลา
Fees : -
สุดท้ายสำหรับวันนี้ ไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่สะพาน Togetsukyo ซึ่งเป็นจุดที่คนพลุกพล่านมากถึงมากที่สุด แต่ก็สดชื่นมากที่สุดเช่นกันครับ