สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวพันทิป เจ้าของกระทู้และเพื่อนได้มีโอกาสไปเรียนซัมเมอร์ที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2558 – สิงหาคม 2558 เวลาก็ล่วงเลยมาอย่างยาวนาน ถึงตอนนี้ก็พอมีเวลาว่างตั้งกระทู้ขึ้นแล้วจ้า (ปรบมือ) เราทั้งสองคนมีความคิดที่จะตั้งกระทู้นี้ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้กับท่านอื่นๆที่สนใจการไปเรียนภาษาอังกฤษ รวมทั้งเป็นเหมือน diary ของพวกเราด้วยค่ะ กระทู้นี้จัดทำขึ้นเพื่อแนะนำข้อมูลสำหรับบุคคลที่สนใจการไปเรียนซัมเมอร์ที่ประเทศอังกฤษเพื่อฝึกทักษะด้านภาษาอังกฤษและหาประสบการณ์ใหม่ๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ^^
- เอเจนซี่ , เมือง , โรงเรียน
พวกเราทั้งสองคนยังไม่มีประสบการณ์การไปเรียนที่ต่างประเทศ จึงเลือกใช้บริการของเอเจนซี่ เพื่อความสะดวก แต่หากเพื่อนๆมีช่องทางอื่นในการไปที่สะดวกกว่าอาจจะไปด้วยตนเองโดยไม่ผ่านเอเจนซี่ก็ได้ค่ะ เอเจนซี่ที่เราเลือกเป็นของ Inter study ที่ตั้งอยู่หลังเซนทัลชิดลมค่ะ พี่ๆเอเจนซี่ที่นี่ จะคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำเราตั้งแต่เรื่องการเลือกประเทศ เมือง และโรงเรียนค่ะ โดยเราเลือกประเทศอังกฤษ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีความเป็นอยู่ที่ดีและปลอดภัยที่สุด เมืองที่เลือกคือเมืองBrighton ซึ่งถ้าเทียบกับบ้านเราแล้วก็อาจจะเป็นแถบพัทยาเพราะติดทะเลและมีคนค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว เป็นเมืองแห่งการพักผ่อนสำหรับคนที่นั่นเลยค่ะ โรงเรียนที่เลือกคือ โรงเรียน Language Studies International หรือเราจะเรียกกันว่า LSI ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ >>
http://www.lsi.edu/en/ ซึ่งที่เลือกที่นี่เพราะมีเพื่อนที่รู้จักเคยไปมาก่อน แต่ไปที่ America ค่ะ ทั้งนี้พี่เอเจนซี่แนะนำว่า LSI เป็นโรงเรียนที่มีเครือข่ายเยอะ ระบบการเรียนการสอนทันสมัย และเป็นโรงเรียนใหญ่ มีที่ทานอาหารกลางวันพร้อมค่ะ ซึ่งช่วงที่เราไปเป็นช่วงซัมเมอร์ของโรงเรียนด้วย จะมีกิจกรรมมากมายรอต้องรับพวกเราอยู่แน่นอน พวกเราเลยตงลงเลือกเมืองและโรงเรียนตามนี้เลยค่ะ
หลังจากนั้นพี่เอเจนซี่จะติดต่อกับทาง LSI ให้เรา เรื่องสมัครเรียน ครอสเรียนของเราชื่อ Intensive 30 ซึ่งครอสของที่นี่จะแตกต่างกันตามเวลาที่เรียน Intensive 30 จะเป็นครอสที่เรียนทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายค่า ช่วงเช้าจะแบ่งตามเกรดตามความสามารถของแต่ละคนตอนสอบครั้งแรก ส่วนช่วงบ่ายจะมีวิชาให้เลือกคือ business exam และ speaking ค่ะ เราสามารถไปเลือกที่โรงเรียนตอนไปเรียนครั้งแรกได้เลยค่า นอกจากนี้ก็จะมีเรื่อง จะอยู่กับโฮสไหม ก็คือถ้าอยู่กับโฮสก็คือการเข้าไปอยู่ในบ้านของเจ้าของบ้านที่นั่นนั่นเอง ห้องแบบมีคนอื่นอยู่ด้วยหรือห้องเดี่ยว อาหารจะรับด้วยไหม เช้า-เย็น หรือแค่ตอนเช้าอย่างเดียว ส่วนเสริมเพิ่มเติมอื่นๆเช่นขอเป็นบ้านที่มีแต่ผู้หญิง ไม่ทานเนื้อ ไม่ชอบสัตว์เลี้ยง ก็แล้วแต่เราเลยค่า รวมกับ จะรับแท้กซี่ของโรงเรียนเพื่อรับส่งจากบ้านไปสนามบินด้วยมั้ยหรือไม่รับ รับทั้งไปและกลับมั้ย ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นตามส่วนต่างๆนอกจากค่าเรียนก็ตรงนี้เลยค่า ก่อนที่จะโอนเงินให้กับทางเอเจนซี่ก็ต้องเช็คค่าเงินและคุยกันให้ดีก่อนนะค้า จะได้ไม่เกิดปัญหาต่างๆตามมา พอได้ใบเสร็จและจดหมายตอบรับจากทางโรงเรียนกลับมาแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือต้องไปขอวีซ่า พี่ๆเอเจนซี่จะคอยเช็คเอกสารให้เรา ถึงตรงนี้เราก็ต้องคอยเช็คและเตรียมพร้อมเอกสารต่างๆให้ครบและถูกต้องด้วยค่ะ วีซ่าอังกฤษจะอยู่ได้ 6 เดือน ก็ต้องกะช่วงยื่นและช่วงรอผลเอาไว้ให้ดีดีด้วยค่ะ เราได้ยื่นช่วงเดือนเมษายน รอผลประมาณ 1 เดือนค่ะ
- วีซ่าและตั๋วเครื่องบิน
ข้อมูลต่างๆเรื่องวีซ่า เพื่อความถูกต้อง เชคที่นี่เลยค่า >>
https://www.gov.uk/government/publications/apply-for-a-uk-visa-in-thailand/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3 การขอวีซ่าไปเรียนซัมเมอร์จะค่อนข้างง่ายว่าเรื่องอื่นๆเพราะมีเอกสารจากทางโรงเรียนชัดเจนเรื่องที่เรียนที่อยู่ต่างๆ รวมทั้งระยะเวลาในการอยู่ด้วยค่ะ
การจองตั๋วเครื่องบิน แนะนำให้ดูจาก
https://www.cheapticket.com โดยไม่ควรจองล่วงหน้านานเกินไป(6เดือนไรงี้) ควรเช็คราคาเรื่อยๆ ตอนเราไป ตอนแรกดูตั๋วล่วงหน้า 6เดือน เจอราคา 56,000 แต่มาเช็คราคาตอนก่อนไป2เดือน เหลือแค่ 46,000 ค่ะ ซึ่งก็ค่อนข้างถูกกกว่ามากเลย สายการบินตรง มี EVA,British,การบินไทย การบินไทยจะราคาแพงสุด อีวากับบริติชจะไม่ต่างกันมาก การบินไทยจะถึง 7โมงเช้า(เวลาอังกฤษ) แต่อีกสองสายการบินจะถึงช่วงเย็น แต่เนื่องจากเราจองแท็กซี่ให้เค้าไปส่งที่บ้านโฮส พี่เอเจนซี่บอกว่า เราไม่ควรไปถึงตอนเย็น ควรไปถึงก่อน 5โมง เราจึงเลือกการบินไทย หรือถ้าใครอยากได้ราคาที่เซฟกว่าก็จะมีทางเลือกอื่นคือต่อเครื่อง ราคาก็จะถูกกว่า แต่สำหรับมือใหม่ การบินตรงก็นับว่าปลอดภัยกับพวกเรามากทีเดียวค่ะ ^^
- การจัดกระเป๋าและเอกสารที่จำเป็น
กระเป๋าสำหรับพวกเราก็เหมาะจะเป็นกระเป๋าลากค่ะ เพราะให้แบกคงไม่ไหวแน่ๆ ก็เลือกขนาดที่เหมาะสมกับการไปอยู่ 2 เดือน คือไซส์ใหญ่สุด 55 และก็มีกระเป๋าเป้ติดตัวอีกใบไว้ใส่เอกสารต่างๆและของที่นำขึ้นเครื่องค่ะ ในกระเป๋าใหญ่ของเราก็จะมี เสื้อผ้า ถุงเท้า ผ้าพันคอ หมวก (ช่วงมิถุนายน – สิงหาคม เป็นช่วงซัมเมอร์ อากาศก็จะอยู่ที่ประมาณ 15 องศา จนถึงวันที่ร้อนที่สุดก็ขึ้นไปถึง 30 องศาเลยทีเดียว แต่อากาศที่นั่นแปรปรวนมาก ให้เอาเสื้อผ้าหนาๆไปเผื่อก็จะดีมากค่ะ หรือใครอยากไปซื้อที่โน่นก็มีช้อปเยอะมากๆค่ะ) ของใช้ส่วนตัวต่างๆ แปรงสีฟันยาสีฟัน ครีมทาผิว ยาสามัญ ยาประจำตัว ตัวแปลงไฟ ที่อังกฤษจะใช้ไฟ 230V ค่ะ หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปได้เลย กล้อง สายชาร์ตต่างๆ สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราที่ขาดไม่ได้คือ อาหารแห้งต่างๆของไทยค่ะ มาม่า น้ำพริกแห้ง และอาหารกระป๋องต่างๆ งานนี้ก็แล้วแต่ว่าใครอยากพกอะไรไปบ้าง จะไปซื้อหาเอาที่นู่นก็ได้ค่ะ แต่เพื่อความสบายใจก็พกไปให้พร้อมค่ะ =) ส่วนเอกสารที่จำเป็นก็จะเป็นพวกเอกสารที่ส่งไปขอวีซ่า พาสปอต(ติดตัวไว้ตลอดอย่าให้หาย) เอกสารที่โรงเรียนส่งคืนมา ใบรับรองแพทย์ของตัวเองหากมีโรคประจำตัว เตรียมให้พร้อมเพื่อไปเผชิญหน้ากับ ตม ของที่นู่นค่ะ ^^ พวกเอกสารก็นำติดตัวไปบนเครื่องเลยค่ะ พร้อมกับอุปกรณ์แปรงฟันล้างหน้าต่างๆตามสะดวก ระวังเรื่องของเหลวต้องไม่เกินที่กำหนดด้วยนะคะ ส่วนน้ำหนักกระเป๋าเดินทางก็กะให้พอดี แนะนำให้ชั่งก่อนถึงวันเดินทางค่ะ จะได้ไม่วุ่นวายเอาของออกทีหลัง
- เมื่อถึงสนามบิน-บ้านโฮสต์

เมื่อมาถึงดินแดนอิงแลนด์แล้ว ก็ตรงดิ่งไป ตม. ตรงนี้ก็ต่อแถวพักนึง ก็เปิดไลน์ใช้ไวไฟสนามบินรีบบอกที่บ้าน แล้วก็เอา Landing Card ที่กรอกบนเครื่องบินมาเตรียมไว้พร้อมกับพาสปอร์ต และใบตอบรับจากรร ใบรายละเอียดที่พัก(บ้านโฮสต์) เจ้าหน้าที่ค่อนข้างใจดี เค้าก็จะถามเราว่า มากี่วีค มาทำอะไร โรงเรียนชื่ออะไร อะไรประมาณนี้ ในใบรายละเอียดโฮสต์เราเขียนว่า มีสัตว์เลี้ยงคือ a friendly cat เค้าก็แซวๆเรา บอกว่า มีเฟรนด์ลี่แคทด้วยนะ แล้วก็ขำแรงใส่55555 พอผ่าน ตม.มาแล้วไปเอากระเป๋า แล้วหาตู้กดซิมซึ่งมีเยอะมากกก เราเลือกใช้ซิมของ Three เป็นแบบ เนตunlimited ราคา 20ปอนด์ สัญญาณก็โอเคนะ เนตเร็วดี แต่ว่าพออยู่ในตึกบางตึกสัญญาณหายไปเลย55555 แต่ตู้ซิมนี่ต้องจ่ายเป็นบัตรเท่านั้น ไม่มีการหยอดเงินสด
พอซื้อซิมเสร็จแล้วก็ไปหา คนขับแท็กซี่ เค้าจะชูป้ายชื่อเรา พอออกจากอาคารผู้โดยสารไปที่รถเท่านั้นแหละ หนาวมากกกกกกกกก ขนาด summer ของเค้านะเนี่ย 5555555 จากสนามบินฮีทโทรวไปบ้านโฮสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทาง เค้าแวะปั๊มเติมน้ำมัน เราเลยเข้าไปซื้อน้ำกันเพราะหิวน้ำมากก เลือกๆดู เลยเอาขวดที่ถูกที่สุด เลยได้อันนี้มา

ดื่มเข้าไปก็ว่ามันแปลกๆ มันคือน้ำ sparkling รสชาติซ่าๆ เหมือนโซดา ก็เลยไม่กินอีกเลย หลังจากนั้นเวลาจะซื้อก็จะอ่านก่อนตลอด55555
เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งคู่ก็แยกบ้านกันอยู่ บ้านเราสองคนห่างกันกี่กิโลนี่จำไม่ได้ แต่ถ้าเดินก็ 30 นาที ทีเดียว พอไปถึงบ้านโฮสต์ เค้าต้อนรับดีมากก เค้าชงชาให้ก่อนเลย แล้วก็ทำบะหมี่ซองให้กิน สงสัยเห็นเราเป็นเอเชีย 555 แล้วก็เอาของฝากให้เค้า ซื้อนารายาไปให้ เค้าชอบมากก (วิวจากห้องนอน เห็นทะเลลิบๆ)

ส่วนอีกบ้านเข้าไปถึงเค้าก็เข้ามากอดเลย นั่งคุยกันซักพัก น่ารักสุดๆไปเลยค่ะ นี่คือผึ้งน้อยที่เค้าบอกว่าเอามาไว้เป็นเพื่อนกับเราค่ะ 55
- การเดินทางในเมือง Brighton
การเดินทางหลักๆในเมืองนี้จะเป็น รถประจำทางค่า ซึ่งเป็นรถบัสส่วนใหญ่จะมี 2 ชั้น โดยการซื้อตั๋วจะสามารถบอกจุดหมายกับคนขับและให้เค้าออกตั๋วให้เลย หรือจะซื้อเป็นตั๋วแบบ one day trip ตั๋วสัปดาห์ ตั๋วเดือน ก็ตามสะดวกเลยค่า ตั๋วเดือนจะถูกที่สุด ในหนึ่งวันจะใช้กี่รอบก็ได้ มีอายุ 1 เดือน สถานที่ซื้อก็จะสามารถซื้อตามร้านที่มีป้ายขายตั๋ว ไปรษณีย์ และในเมืองก็จะมีร้านชื่อ One stop travel เป็นร้านสีแดงๆ ซึ่ง การเดินทางในเมืองโดยรถบัสนี้ จะมีแอพให้โหลดดูเวลารถด้วยนะคะ ชื่อแอพว่า Brighton & Hove Buses เราสามารถดูเวลารถแบบเรียลไทม์เลยค่ะ หรือเราสามารถดาวโหลดแอพ Brighton Guide เป็นแอพที่บอกข้อมูลในเมือง Brighton ไว้เยอะมากเลยทีเดียว (โดยเฉพาะเรื่องร้านอาหารค่ะ ^^) ก่อนไปก็ต้องเตรียมออกกำลังกายไปด้วยนะคะเพราะได้เดินเยอะแน่ๆ ส่วนการเดินทางไปเมืองอื่นที่นี่จะนิยมใช้รถไฟค่ะ เพราะราคาจะถูกกว่าการไปรถโค้ชหรือแท้กซี่ รถโค้ชคือรถที่เอาไว้ไปต่างเมืองค่ะ ต้องจองล่วงหน้า เช่นเดียวกับแท้กซี่ สามารถใช้เดินทางในเมืองและต่างเมืองได้ค่ะ แต่ต้องโทรเรียก และค่าบริการก็ค่อนข้างแพง รถแท้กซี่ในไทยชิดซ้ายไปเลยค่า เพื่อนๆควรมีแอพ google map ติดตัวเอาไว้ด้วยนะคะ เพราะข้อมูลค่อนข้างตรงและครบถ้วนมากค่ะ เรียกได้ว่าพวกเราอยู่รอดด้วย google map เลย
- ไปโรงเรียนวันแรกและการใช้ชีวิตในโรงเรียน
ป้ายที่ต้องลงรถคือป้ายชื่อ George street จะมีเสียงบอกเหมือนบีทีเอสบ้านเราเลยค่ะ พอลงแล้วก็อย่างลืมหันไป thank you ให้คนขับด้วยนะคะ ดูทุกคนที่นี่ทำกัน น่าชื่นชมมากๆ หลังจากนั้นก็เดินหาโรงเรียน ตอนไปวันแรกก็พยายามหาป้ายโรงเรียน ซึ่งในความคิดคือเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ตามที่เอเจนซี่บอก แต่ไปถึงจริงๆ LSI มีขนาดเล็กมาก เป็นตึกแถวคูหาเดียวค่ะ มี4ชั้น และไม่มีโรงอาหาร มีแค่เป็นที่นั่งและไมโครเวฟ เครื่องชงกาแฟ เท่านี้ค่ะ ซึ่งเรียกได้ว่าผิดคาดมากๆ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเราค่ะ นับเป็นเรื่องฮาๆกันไป ครูที่นี่มีไม่มากเหมือนอยู่กันแบบครอบครัว ช่วงซัมเมอร์จะเป็นช่วงที่มีนักเรียนเยอะที่สุดค่ะ ห้องนึงประมาณ 15 คนเลยทีเดียว มีระดับ A1 A2 B1 B2 และadvance ค่ะ พอไปถึงเด็กใหม่ก็ต้องสอบวัดระดับ เพื่อดูว่าตัวเองจะได้เรียนระดับไหนค่ะ ที่นี่จะรับเด็กใหม่เข้าทุกๆวันจันทร์ เพราะฉะนั้นเราจะได้ต้อนรับเพื่อนใหม่ในห้องทุกๆวันจันทร์เลยทีเดียว โดยจะมีนักเรียนที่กลับบ้านทุกๆวันศุกร์เช่นกัน เพื่อนๆก็จะมีหมุนเวียนหน้าใหม่ๆกันไปเรื่อยๆ หรือบางคนอยู่เป็นปีก็มี ก็จะค่อนข้างสนิทกับครูที่นั่นมากๆ เพื่อนส่วนใหญ่เป็นแถบอาหรับ อิตาลี ส่วนน้อยก็จะมี ตุรกี สเปน บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมัน แถบเอเชียก็มี เกาหลี ญี่ปุ่น คนไทยของเราก็มีค่ะ ซึ่งพวกเราโชคดีที่ได้รู้จักกับน้องๆที่อยู่เรียนก่อนพวกเราไปถึง ทำให้สนิทกันมากๆค่ะ ^^
ประสบการณ์เรียน Summer ที่ Brighton ^^
- เอเจนซี่ , เมือง , โรงเรียน
พวกเราทั้งสองคนยังไม่มีประสบการณ์การไปเรียนที่ต่างประเทศ จึงเลือกใช้บริการของเอเจนซี่ เพื่อความสะดวก แต่หากเพื่อนๆมีช่องทางอื่นในการไปที่สะดวกกว่าอาจจะไปด้วยตนเองโดยไม่ผ่านเอเจนซี่ก็ได้ค่ะ เอเจนซี่ที่เราเลือกเป็นของ Inter study ที่ตั้งอยู่หลังเซนทัลชิดลมค่ะ พี่ๆเอเจนซี่ที่นี่ จะคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำเราตั้งแต่เรื่องการเลือกประเทศ เมือง และโรงเรียนค่ะ โดยเราเลือกประเทศอังกฤษ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีความเป็นอยู่ที่ดีและปลอดภัยที่สุด เมืองที่เลือกคือเมืองBrighton ซึ่งถ้าเทียบกับบ้านเราแล้วก็อาจจะเป็นแถบพัทยาเพราะติดทะเลและมีคนค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว เป็นเมืองแห่งการพักผ่อนสำหรับคนที่นั่นเลยค่ะ โรงเรียนที่เลือกคือ โรงเรียน Language Studies International หรือเราจะเรียกกันว่า LSI ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ >> http://www.lsi.edu/en/ ซึ่งที่เลือกที่นี่เพราะมีเพื่อนที่รู้จักเคยไปมาก่อน แต่ไปที่ America ค่ะ ทั้งนี้พี่เอเจนซี่แนะนำว่า LSI เป็นโรงเรียนที่มีเครือข่ายเยอะ ระบบการเรียนการสอนทันสมัย และเป็นโรงเรียนใหญ่ มีที่ทานอาหารกลางวันพร้อมค่ะ ซึ่งช่วงที่เราไปเป็นช่วงซัมเมอร์ของโรงเรียนด้วย จะมีกิจกรรมมากมายรอต้องรับพวกเราอยู่แน่นอน พวกเราเลยตงลงเลือกเมืองและโรงเรียนตามนี้เลยค่ะ
หลังจากนั้นพี่เอเจนซี่จะติดต่อกับทาง LSI ให้เรา เรื่องสมัครเรียน ครอสเรียนของเราชื่อ Intensive 30 ซึ่งครอสของที่นี่จะแตกต่างกันตามเวลาที่เรียน Intensive 30 จะเป็นครอสที่เรียนทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายค่า ช่วงเช้าจะแบ่งตามเกรดตามความสามารถของแต่ละคนตอนสอบครั้งแรก ส่วนช่วงบ่ายจะมีวิชาให้เลือกคือ business exam และ speaking ค่ะ เราสามารถไปเลือกที่โรงเรียนตอนไปเรียนครั้งแรกได้เลยค่า นอกจากนี้ก็จะมีเรื่อง จะอยู่กับโฮสไหม ก็คือถ้าอยู่กับโฮสก็คือการเข้าไปอยู่ในบ้านของเจ้าของบ้านที่นั่นนั่นเอง ห้องแบบมีคนอื่นอยู่ด้วยหรือห้องเดี่ยว อาหารจะรับด้วยไหม เช้า-เย็น หรือแค่ตอนเช้าอย่างเดียว ส่วนเสริมเพิ่มเติมอื่นๆเช่นขอเป็นบ้านที่มีแต่ผู้หญิง ไม่ทานเนื้อ ไม่ชอบสัตว์เลี้ยง ก็แล้วแต่เราเลยค่า รวมกับ จะรับแท้กซี่ของโรงเรียนเพื่อรับส่งจากบ้านไปสนามบินด้วยมั้ยหรือไม่รับ รับทั้งไปและกลับมั้ย ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นตามส่วนต่างๆนอกจากค่าเรียนก็ตรงนี้เลยค่า ก่อนที่จะโอนเงินให้กับทางเอเจนซี่ก็ต้องเช็คค่าเงินและคุยกันให้ดีก่อนนะค้า จะได้ไม่เกิดปัญหาต่างๆตามมา พอได้ใบเสร็จและจดหมายตอบรับจากทางโรงเรียนกลับมาแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือต้องไปขอวีซ่า พี่ๆเอเจนซี่จะคอยเช็คเอกสารให้เรา ถึงตรงนี้เราก็ต้องคอยเช็คและเตรียมพร้อมเอกสารต่างๆให้ครบและถูกต้องด้วยค่ะ วีซ่าอังกฤษจะอยู่ได้ 6 เดือน ก็ต้องกะช่วงยื่นและช่วงรอผลเอาไว้ให้ดีดีด้วยค่ะ เราได้ยื่นช่วงเดือนเมษายน รอผลประมาณ 1 เดือนค่ะ
- วีซ่าและตั๋วเครื่องบิน
ข้อมูลต่างๆเรื่องวีซ่า เพื่อความถูกต้อง เชคที่นี่เลยค่า >> https://www.gov.uk/government/publications/apply-for-a-uk-visa-in-thailand/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3 การขอวีซ่าไปเรียนซัมเมอร์จะค่อนข้างง่ายว่าเรื่องอื่นๆเพราะมีเอกสารจากทางโรงเรียนชัดเจนเรื่องที่เรียนที่อยู่ต่างๆ รวมทั้งระยะเวลาในการอยู่ด้วยค่ะ
การจองตั๋วเครื่องบิน แนะนำให้ดูจาก https://www.cheapticket.com โดยไม่ควรจองล่วงหน้านานเกินไป(6เดือนไรงี้) ควรเช็คราคาเรื่อยๆ ตอนเราไป ตอนแรกดูตั๋วล่วงหน้า 6เดือน เจอราคา 56,000 แต่มาเช็คราคาตอนก่อนไป2เดือน เหลือแค่ 46,000 ค่ะ ซึ่งก็ค่อนข้างถูกกกว่ามากเลย สายการบินตรง มี EVA,British,การบินไทย การบินไทยจะราคาแพงสุด อีวากับบริติชจะไม่ต่างกันมาก การบินไทยจะถึง 7โมงเช้า(เวลาอังกฤษ) แต่อีกสองสายการบินจะถึงช่วงเย็น แต่เนื่องจากเราจองแท็กซี่ให้เค้าไปส่งที่บ้านโฮส พี่เอเจนซี่บอกว่า เราไม่ควรไปถึงตอนเย็น ควรไปถึงก่อน 5โมง เราจึงเลือกการบินไทย หรือถ้าใครอยากได้ราคาที่เซฟกว่าก็จะมีทางเลือกอื่นคือต่อเครื่อง ราคาก็จะถูกกว่า แต่สำหรับมือใหม่ การบินตรงก็นับว่าปลอดภัยกับพวกเรามากทีเดียวค่ะ ^^
- การจัดกระเป๋าและเอกสารที่จำเป็น
กระเป๋าสำหรับพวกเราก็เหมาะจะเป็นกระเป๋าลากค่ะ เพราะให้แบกคงไม่ไหวแน่ๆ ก็เลือกขนาดที่เหมาะสมกับการไปอยู่ 2 เดือน คือไซส์ใหญ่สุด 55 และก็มีกระเป๋าเป้ติดตัวอีกใบไว้ใส่เอกสารต่างๆและของที่นำขึ้นเครื่องค่ะ ในกระเป๋าใหญ่ของเราก็จะมี เสื้อผ้า ถุงเท้า ผ้าพันคอ หมวก (ช่วงมิถุนายน – สิงหาคม เป็นช่วงซัมเมอร์ อากาศก็จะอยู่ที่ประมาณ 15 องศา จนถึงวันที่ร้อนที่สุดก็ขึ้นไปถึง 30 องศาเลยทีเดียว แต่อากาศที่นั่นแปรปรวนมาก ให้เอาเสื้อผ้าหนาๆไปเผื่อก็จะดีมากค่ะ หรือใครอยากไปซื้อที่โน่นก็มีช้อปเยอะมากๆค่ะ) ของใช้ส่วนตัวต่างๆ แปรงสีฟันยาสีฟัน ครีมทาผิว ยาสามัญ ยาประจำตัว ตัวแปลงไฟ ที่อังกฤษจะใช้ไฟ 230V ค่ะ หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปได้เลย กล้อง สายชาร์ตต่างๆ สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราที่ขาดไม่ได้คือ อาหารแห้งต่างๆของไทยค่ะ มาม่า น้ำพริกแห้ง และอาหารกระป๋องต่างๆ งานนี้ก็แล้วแต่ว่าใครอยากพกอะไรไปบ้าง จะไปซื้อหาเอาที่นู่นก็ได้ค่ะ แต่เพื่อความสบายใจก็พกไปให้พร้อมค่ะ =) ส่วนเอกสารที่จำเป็นก็จะเป็นพวกเอกสารที่ส่งไปขอวีซ่า พาสปอต(ติดตัวไว้ตลอดอย่าให้หาย) เอกสารที่โรงเรียนส่งคืนมา ใบรับรองแพทย์ของตัวเองหากมีโรคประจำตัว เตรียมให้พร้อมเพื่อไปเผชิญหน้ากับ ตม ของที่นู่นค่ะ ^^ พวกเอกสารก็นำติดตัวไปบนเครื่องเลยค่ะ พร้อมกับอุปกรณ์แปรงฟันล้างหน้าต่างๆตามสะดวก ระวังเรื่องของเหลวต้องไม่เกินที่กำหนดด้วยนะคะ ส่วนน้ำหนักกระเป๋าเดินทางก็กะให้พอดี แนะนำให้ชั่งก่อนถึงวันเดินทางค่ะ จะได้ไม่วุ่นวายเอาของออกทีหลัง
- เมื่อถึงสนามบิน-บ้านโฮสต์
เมื่อมาถึงดินแดนอิงแลนด์แล้ว ก็ตรงดิ่งไป ตม. ตรงนี้ก็ต่อแถวพักนึง ก็เปิดไลน์ใช้ไวไฟสนามบินรีบบอกที่บ้าน แล้วก็เอา Landing Card ที่กรอกบนเครื่องบินมาเตรียมไว้พร้อมกับพาสปอร์ต และใบตอบรับจากรร ใบรายละเอียดที่พัก(บ้านโฮสต์) เจ้าหน้าที่ค่อนข้างใจดี เค้าก็จะถามเราว่า มากี่วีค มาทำอะไร โรงเรียนชื่ออะไร อะไรประมาณนี้ ในใบรายละเอียดโฮสต์เราเขียนว่า มีสัตว์เลี้ยงคือ a friendly cat เค้าก็แซวๆเรา บอกว่า มีเฟรนด์ลี่แคทด้วยนะ แล้วก็ขำแรงใส่55555 พอผ่าน ตม.มาแล้วไปเอากระเป๋า แล้วหาตู้กดซิมซึ่งมีเยอะมากกก เราเลือกใช้ซิมของ Three เป็นแบบ เนตunlimited ราคา 20ปอนด์ สัญญาณก็โอเคนะ เนตเร็วดี แต่ว่าพออยู่ในตึกบางตึกสัญญาณหายไปเลย55555 แต่ตู้ซิมนี่ต้องจ่ายเป็นบัตรเท่านั้น ไม่มีการหยอดเงินสด
พอซื้อซิมเสร็จแล้วก็ไปหา คนขับแท็กซี่ เค้าจะชูป้ายชื่อเรา พอออกจากอาคารผู้โดยสารไปที่รถเท่านั้นแหละ หนาวมากกกกกกกกก ขนาด summer ของเค้านะเนี่ย 5555555 จากสนามบินฮีทโทรวไปบ้านโฮสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทาง เค้าแวะปั๊มเติมน้ำมัน เราเลยเข้าไปซื้อน้ำกันเพราะหิวน้ำมากก เลือกๆดู เลยเอาขวดที่ถูกที่สุด เลยได้อันนี้มา
ดื่มเข้าไปก็ว่ามันแปลกๆ มันคือน้ำ sparkling รสชาติซ่าๆ เหมือนโซดา ก็เลยไม่กินอีกเลย หลังจากนั้นเวลาจะซื้อก็จะอ่านก่อนตลอด55555
เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งคู่ก็แยกบ้านกันอยู่ บ้านเราสองคนห่างกันกี่กิโลนี่จำไม่ได้ แต่ถ้าเดินก็ 30 นาที ทีเดียว พอไปถึงบ้านโฮสต์ เค้าต้อนรับดีมากก เค้าชงชาให้ก่อนเลย แล้วก็ทำบะหมี่ซองให้กิน สงสัยเห็นเราเป็นเอเชีย 555 แล้วก็เอาของฝากให้เค้า ซื้อนารายาไปให้ เค้าชอบมากก (วิวจากห้องนอน เห็นทะเลลิบๆ)
ส่วนอีกบ้านเข้าไปถึงเค้าก็เข้ามากอดเลย นั่งคุยกันซักพัก น่ารักสุดๆไปเลยค่ะ นี่คือผึ้งน้อยที่เค้าบอกว่าเอามาไว้เป็นเพื่อนกับเราค่ะ 55
- การเดินทางในเมือง Brighton
การเดินทางหลักๆในเมืองนี้จะเป็น รถประจำทางค่า ซึ่งเป็นรถบัสส่วนใหญ่จะมี 2 ชั้น โดยการซื้อตั๋วจะสามารถบอกจุดหมายกับคนขับและให้เค้าออกตั๋วให้เลย หรือจะซื้อเป็นตั๋วแบบ one day trip ตั๋วสัปดาห์ ตั๋วเดือน ก็ตามสะดวกเลยค่า ตั๋วเดือนจะถูกที่สุด ในหนึ่งวันจะใช้กี่รอบก็ได้ มีอายุ 1 เดือน สถานที่ซื้อก็จะสามารถซื้อตามร้านที่มีป้ายขายตั๋ว ไปรษณีย์ และในเมืองก็จะมีร้านชื่อ One stop travel เป็นร้านสีแดงๆ ซึ่ง การเดินทางในเมืองโดยรถบัสนี้ จะมีแอพให้โหลดดูเวลารถด้วยนะคะ ชื่อแอพว่า Brighton & Hove Buses เราสามารถดูเวลารถแบบเรียลไทม์เลยค่ะ หรือเราสามารถดาวโหลดแอพ Brighton Guide เป็นแอพที่บอกข้อมูลในเมือง Brighton ไว้เยอะมากเลยทีเดียว (โดยเฉพาะเรื่องร้านอาหารค่ะ ^^) ก่อนไปก็ต้องเตรียมออกกำลังกายไปด้วยนะคะเพราะได้เดินเยอะแน่ๆ ส่วนการเดินทางไปเมืองอื่นที่นี่จะนิยมใช้รถไฟค่ะ เพราะราคาจะถูกกว่าการไปรถโค้ชหรือแท้กซี่ รถโค้ชคือรถที่เอาไว้ไปต่างเมืองค่ะ ต้องจองล่วงหน้า เช่นเดียวกับแท้กซี่ สามารถใช้เดินทางในเมืองและต่างเมืองได้ค่ะ แต่ต้องโทรเรียก และค่าบริการก็ค่อนข้างแพง รถแท้กซี่ในไทยชิดซ้ายไปเลยค่า เพื่อนๆควรมีแอพ google map ติดตัวเอาไว้ด้วยนะคะ เพราะข้อมูลค่อนข้างตรงและครบถ้วนมากค่ะ เรียกได้ว่าพวกเราอยู่รอดด้วย google map เลย
- ไปโรงเรียนวันแรกและการใช้ชีวิตในโรงเรียน
ป้ายที่ต้องลงรถคือป้ายชื่อ George street จะมีเสียงบอกเหมือนบีทีเอสบ้านเราเลยค่ะ พอลงแล้วก็อย่างลืมหันไป thank you ให้คนขับด้วยนะคะ ดูทุกคนที่นี่ทำกัน น่าชื่นชมมากๆ หลังจากนั้นก็เดินหาโรงเรียน ตอนไปวันแรกก็พยายามหาป้ายโรงเรียน ซึ่งในความคิดคือเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ตามที่เอเจนซี่บอก แต่ไปถึงจริงๆ LSI มีขนาดเล็กมาก เป็นตึกแถวคูหาเดียวค่ะ มี4ชั้น และไม่มีโรงอาหาร มีแค่เป็นที่นั่งและไมโครเวฟ เครื่องชงกาแฟ เท่านี้ค่ะ ซึ่งเรียกได้ว่าผิดคาดมากๆ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเราค่ะ นับเป็นเรื่องฮาๆกันไป ครูที่นี่มีไม่มากเหมือนอยู่กันแบบครอบครัว ช่วงซัมเมอร์จะเป็นช่วงที่มีนักเรียนเยอะที่สุดค่ะ ห้องนึงประมาณ 15 คนเลยทีเดียว มีระดับ A1 A2 B1 B2 และadvance ค่ะ พอไปถึงเด็กใหม่ก็ต้องสอบวัดระดับ เพื่อดูว่าตัวเองจะได้เรียนระดับไหนค่ะ ที่นี่จะรับเด็กใหม่เข้าทุกๆวันจันทร์ เพราะฉะนั้นเราจะได้ต้อนรับเพื่อนใหม่ในห้องทุกๆวันจันทร์เลยทีเดียว โดยจะมีนักเรียนที่กลับบ้านทุกๆวันศุกร์เช่นกัน เพื่อนๆก็จะมีหมุนเวียนหน้าใหม่ๆกันไปเรื่อยๆ หรือบางคนอยู่เป็นปีก็มี ก็จะค่อนข้างสนิทกับครูที่นั่นมากๆ เพื่อนส่วนใหญ่เป็นแถบอาหรับ อิตาลี ส่วนน้อยก็จะมี ตุรกี สเปน บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมัน แถบเอเชียก็มี เกาหลี ญี่ปุ่น คนไทยของเราก็มีค่ะ ซึ่งพวกเราโชคดีที่ได้รู้จักกับน้องๆที่อยู่เรียนก่อนพวกเราไปถึง ทำให้สนิทกันมากๆค่ะ ^^