สืบเนื่องจากกระทู้
http://pantip.com/topic/34580206
และความคิดเห็นที่ 8 กระทู้ที่ TeDeum7th ตอบมา และผมก็ได้แสดงความคิดเห็นที่ 14
ด้วยความที่ว่า ผมก็เห็นหลายกระทู้ที่ตั้งเป็นทำนองที่ว่า "อายุ 20,30,40 แล้ว ยังดูการ์ตูนอยู่ไหมครับ" "อายุเยอะแล้ว แต่ยังดูการ์ตูน อนิเมะนี่ แปลกรึเปล่า?" "เคืองมั้ย ที่โดนหาว่า โตป่านนี้ยังดูการ์ตูนอีก" "อยากทราบว่าผู้ใหญ่คิดอย่างไรกับคนที่โตแล้วยังดูการ์ตูนอยู่" "เจ็บใจ โดนน้องชายด่าว่าโตแล้วยังดูหนังแปลงร่างปัญญาอ่อน" อะไรทำนองนี้
จึงอยากจะให้คนที่มีความสงสัยหรือโดนว่าในเรื่องพวกนี้ได้อ่านกันนะครับ
ผมอายุ 24 ก็ยังดูการ์ตูนอยู่เลย หาเรื่องใหม่ๆ ดูอยู่เรื่อยๆ ทั้งที่พวกเพื่อนผม ดูซีรี่ย์ฝรั่ง และก็
เป็นคนหนึ่งที่โดนว่ามาแบบเดียวๆกัน ทั้งพวกผู้ใหญ่เอย รุ่นเดียวกันเอย แต่ยังไม่โดนเด็กด่า 555+
ไร้สาระกับพวกที่ชอบบอกว่าดูการ์ตูนยังเป็นเด็กอยู่
ที่เขามองพวกเราเป็นแบบนี้ก็เพราะว่า
1.ค่านิยมสังคมไทย
ค่านิยมของสังคมไทยชอบบอกว่า
"คนที่ดูการ์ตูนอยู่ ยังเป็นเด็ก" เพราะสังคมไทยอย่างที่เรารู้ๆกัน มันวางบรรทัดฐานมาเป็นขั้นๆ
เป็นเด็กต้องทำอะไร >>> เรียน
จบ ม.6 ต้องทำอะไร >>> สอบเข้ามหาวิทยาลัย
จบมหาวิทยาลัยแล้วต้องทำไร >>> ทำงาน
พอทำงานแล้วต้องทำอย่างไร >>> เก็บเงิน แต่งงาน จบ
มันเป็นค่านิยมของสังคมไทยเดิมๆ ที่ยังไม่เปิดกว้าง ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แถมยังบอกได้เลยว่า
เกิน 60% ของผู้ใหญ่ด้วยซ้ำที่ยังมองว่า การ์ตูนคือเรื่องที่ไร้สาระ
30% ของผู้ใหญ่ที่มองว่าเป็นความชอบของบุคคล
10%ของผู้ใหญ่ที่มองถึงประโยชน์ (คหสต. แบ่งตามนี้ละกันตามที่ผมเคยเจอมา)
อย่างสังคมแบบลูกคนจีนก็จะสอนไปอีกแบบหนึ่งใช่ไหมล่ะครับ
หากจะว่าด้วยบริบทสังคมไทย ยาวครับ ยาวแน่นอน เอาเป็นว่าอย่างที่เรารู้ๆกัน
2.ความไม่รู้ของผู้ใหญ่
สังคมไทย เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ต้องเชื่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่บอกว่าอันนี้ดี อันนี้ไม่ดี มันเป็นเพราะแบบนี้ยังไงล่ะ เพราะพวกผู้ใหญ่มองว่า การ์ตูนคือรายการสำหรับเด็ก คนที่ดูยังถือว่าเป็นเด็ก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ที่คนรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่จะมองว่า คนที่ดูการ์ตูนยังไม่โต ยังเป็นเด็กอยู่
ครั้งที่ผมเรียนม.ปลาย ผมยังจำได้ตอน ม.5 ม.6 โดนด่าเป็นประจำตื่นดูการ์ตูน ทำไมไม่อ่านหนังสือหนังหา ฮ่าๆ นั้นก็เพราะว่า ผู้ใหญ่เหล่านั้นไม่รู้ว่าการ์ตูนคืออะไร เพียงเพราะพวกเขาเห็นว่ามันคือของสำหรับเด็ก มันขึ้นอยู๋กับสภาพแวดล้อมอีกด้วยว่าเราโตมาแบบไหน โตมากับอะไร ถ้าเป็นสังคมในเมืองเป็นผู้ใหญ่ที่รู้โลก เขาจะมีมุมมองต่างๆกับเรื่องแบบนี้ เขาก็จะปล่อยครับ "ให้ๆมันดูไปเถอะ" แต่ ในสังคมแบบชนบทความคิดในเรื่องพวกนี้ ความคิดเขายังแคบ เขายังคงใช้ชีวิตที่เป็นระบบ เป็นขั้นๆ อยู่ เรียกได้ว่ามีส่วนน้อยเท่านั้นที่มองโลกได้กว้าง (ถ้าจะพูดถึงมุมมองแบบคนเมืองกับคนชนบท ยาวแน่ๆ) ดังนั้นเรียกได้ว่า มุมมองของแต่ละสังคมแต่จะเรื่องแบบนี้แตกต่างกันไป
3.ความชอบของบุคคล
ถ้าจะเถียงเรื่องความชอบก็ขอบอกเลยว่า
"ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด" เรื่องแบบนี้ไม่มีใครมาบังคับใครได้ ลองมองกลับกัน อย่างเช่น ผู้ชายที่รักรถชอบเอาเงินไปแต่งรถ ผู้หญิงเขามองยังไงล่ะ มองว่าไร้สาระ แล้วอย่างเช่นผู้หญิงที่ชอบดูซีรี่ย์แล้วบ่อน้ำตาแตก เป็นเกาหลีฟีเว่อร์ หรือติ่งเกาหลี ผู้ชายอย่างเราๆก็มองไปอีกแบบ จริงมั้ย? ก็เป็นจริงล่ะครับ ก็เหมือนที่เขามองดูเรานั่นแหละ ว่าสิ่งที่เราทำไร้สาระทั้งที่อายุก็ 20 30 แล้ว
ตัวผมเองมี 4 สิ่งที่รักและชอบ คือ
1.การ์ตูน ไม่ขออธิบายละกันว่ายังไง ก็เหมือนที่คุณชอบและครับ
2.ฟุตบอล ผมเล่นฟุตบอลไม่เก่ง พอเล่นได้ อย่างน้อยก็เข้าพวกได้ และทุกๆวันที่ฟุตบอลต่างประเทศแข่งขัน ทีมรักผมแข่ง ผมดูเชียร์ตลอด และทุกๆวันก็เปิดเว็บ อ่านข่าวฟุตบอล ข่าวซื้อขายนักเตะทุกวันๆ เรียกได้ว่า บ้าเลย นักเตะคนไหนย้ายไปไหน รู้หมด ดังนั้นผมก็เข้ากับกลุ่มคนพวกนี้ เลยได้เห็นมุมมองของพวกเขา เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่โดนว่า "โตแล้วยังดูการ์ตูนอยู่"
3.การเป็นพ่อค้าแม่ค้า ไม่ใช่นักธุรกิจ ผมรักในการค้าขายตั้งแต่เด็กๆ เพราะบ้านผมเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆในหมู่บ้าน และเป็นที่รวตัวของคนในหมู่บ้าน ได้นั่งคุยกับลูกค้าทั้งค้าประจำและขาจร มันทำให้ได้ร็ถึงมุมมองความคิดคน ซึ่งตอนนี้ยังหาทุนมาเปิดร้านอาหารของตัวเองอยู่
4. สิ่งที่ผมรักและชอบที่สุดก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สาวๆ นั่นเอง อกดูมๆนี่ อื้อหื้มมมมมมมมมมมมม จะเลียให้ล้มเลยทีเดียว 5555+
ดังนั้น เรื่องพวกนี้มันไม่มีอะไรวัดได้ ในตัวการ์ตูนเองยังแฝงเนื้อหา ข้อคิดดีๆมากกว่าหนังบางเรื่องด้วยซ้ำ มุมมอง เนื้อหาของคนเขียนการ์ตูนก็มาจากเรื่องจริงทั้งนั้น เพียงแค่ใส่จินตนาการเข้าไปก็เท่านั้นเอง การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ยังมีออกเยอะแยะไป ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาไม่มีใครมาว่าเรื่องนี้กันหรอกครับ อย่างญี่ปุ่น และอเมริกาเอง พวกการ์ตูน เอนิเมชั่น พวกนี้ทำเป็นธุรกิจไปซะด้วยซ้ำ แถมยังจัดเรทอายุอีกด้วย อย่าไปอายใครถ้าเรายังชอบดูอยู่
แต่
อย่าลืมใช้ชีวิตบนความเป็นจริงในสังคมด้วย อย่ามัวแต่ดู
จนไม่ทำมาหากิน จนลืมหน้าที่ของตัวเอง ดูน่ะดูได้แต่ก็อย่าลืมหน้าที่ตัวเองว่าตอนนี้ควรทำอะไร ไม่ใช่ว่าดูการ์ตูนจนไม่เรียนไม่สอบ ดูการ์ตูนจนไม่ทำงานทำการ ถ้าคุณ
ทำในสิ่งที่ชอบควบคู่กับการใช้ชีวิตในสังคมแบบนี้ไปด้วย ไม่มีใครมาว่าคุณได้หรอกครับว่าจะเป็นเด็ก มันดีกว่าพวกที่มองเราว่าเด็ก
ทำตัวบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ โตแล้ว แต่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ ทำมาหากินไม่เป็น ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หรือเรียนไม่จบ คำพูดที่คนพวกนั้นว่าเรา
สามารถย้อนไปตบหน้ามันได้ แถมตบแรงกว่าเลยด้วยซ้ำ ยิ่งคุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรือการเรียนมากเท่าไหร่ คุณยิ่งตบแรงมากขึ้นเท่านั้นครับ
#อย่าให้ความคิดในแง่ลบของคนอื่น มาทำลายสิ่งที่เรารักเราชอบ
อย่าเอาสิ่งที่เรารักเราชอบ ไปตัดสินคนอื่น#
ปล.1 ขอ Tag ห้อง มนุษย์เงินเดือนด้วย
ปล.2 ฝากไว้แค่นี้ครับ หากจะอ้างอิงบริบทสังคมไทยไปด้วยนี่ ยาวครับ ถ้าอยากอ่านกัน ก็รีเควสมา ว่างๆผมจะนั่งรวบรวมข้อมูล เขียนเป็นบทความให้ได้อ่านกันครับ และจะเขียนให้ดีกว่านี้
[บ่น เตือนใจ อะไรก็ว่าไป] แด่คนที่โดนว่า "พวกดูการ์ตูนยังเป็นเด็ก"
และความคิดเห็นที่ 8 กระทู้ที่ TeDeum7th ตอบมา และผมก็ได้แสดงความคิดเห็นที่ 14
ด้วยความที่ว่า ผมก็เห็นหลายกระทู้ที่ตั้งเป็นทำนองที่ว่า "อายุ 20,30,40 แล้ว ยังดูการ์ตูนอยู่ไหมครับ" "อายุเยอะแล้ว แต่ยังดูการ์ตูน อนิเมะนี่ แปลกรึเปล่า?" "เคืองมั้ย ที่โดนหาว่า โตป่านนี้ยังดูการ์ตูนอีก" "อยากทราบว่าผู้ใหญ่คิดอย่างไรกับคนที่โตแล้วยังดูการ์ตูนอยู่" "เจ็บใจ โดนน้องชายด่าว่าโตแล้วยังดูหนังแปลงร่างปัญญาอ่อน" อะไรทำนองนี้ จึงอยากจะให้คนที่มีความสงสัยหรือโดนว่าในเรื่องพวกนี้ได้อ่านกันนะครับ
ผมอายุ 24 ก็ยังดูการ์ตูนอยู่เลย หาเรื่องใหม่ๆ ดูอยู่เรื่อยๆ ทั้งที่พวกเพื่อนผม ดูซีรี่ย์ฝรั่ง และก็เป็นคนหนึ่งที่โดนว่ามาแบบเดียวๆกัน ทั้งพวกผู้ใหญ่เอย รุ่นเดียวกันเอย แต่ยังไม่โดนเด็กด่า 555+
ไร้สาระกับพวกที่ชอบบอกว่าดูการ์ตูนยังเป็นเด็กอยู่
ที่เขามองพวกเราเป็นแบบนี้ก็เพราะว่า
1.ค่านิยมสังคมไทย
ค่านิยมของสังคมไทยชอบบอกว่า "คนที่ดูการ์ตูนอยู่ ยังเป็นเด็ก" เพราะสังคมไทยอย่างที่เรารู้ๆกัน มันวางบรรทัดฐานมาเป็นขั้นๆ
เป็นเด็กต้องทำอะไร >>> เรียน
จบ ม.6 ต้องทำอะไร >>> สอบเข้ามหาวิทยาลัย
จบมหาวิทยาลัยแล้วต้องทำไร >>> ทำงาน
พอทำงานแล้วต้องทำอย่างไร >>> เก็บเงิน แต่งงาน จบ
มันเป็นค่านิยมของสังคมไทยเดิมๆ ที่ยังไม่เปิดกว้าง ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แถมยังบอกได้เลยว่า
เกิน 60% ของผู้ใหญ่ด้วยซ้ำที่ยังมองว่า การ์ตูนคือเรื่องที่ไร้สาระ
30% ของผู้ใหญ่ที่มองว่าเป็นความชอบของบุคคล
10%ของผู้ใหญ่ที่มองถึงประโยชน์ (คหสต. แบ่งตามนี้ละกันตามที่ผมเคยเจอมา)
อย่างสังคมแบบลูกคนจีนก็จะสอนไปอีกแบบหนึ่งใช่ไหมล่ะครับ
หากจะว่าด้วยบริบทสังคมไทย ยาวครับ ยาวแน่นอน เอาเป็นว่าอย่างที่เรารู้ๆกัน
2.ความไม่รู้ของผู้ใหญ่
สังคมไทย เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ต้องเชื่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่บอกว่าอันนี้ดี อันนี้ไม่ดี มันเป็นเพราะแบบนี้ยังไงล่ะ เพราะพวกผู้ใหญ่มองว่า การ์ตูนคือรายการสำหรับเด็ก คนที่ดูยังถือว่าเป็นเด็ก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ที่คนรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่จะมองว่า คนที่ดูการ์ตูนยังไม่โต ยังเป็นเด็กอยู่
ครั้งที่ผมเรียนม.ปลาย ผมยังจำได้ตอน ม.5 ม.6 โดนด่าเป็นประจำตื่นดูการ์ตูน ทำไมไม่อ่านหนังสือหนังหา ฮ่าๆ นั้นก็เพราะว่า ผู้ใหญ่เหล่านั้นไม่รู้ว่าการ์ตูนคืออะไร เพียงเพราะพวกเขาเห็นว่ามันคือของสำหรับเด็ก มันขึ้นอยู๋กับสภาพแวดล้อมอีกด้วยว่าเราโตมาแบบไหน โตมากับอะไร ถ้าเป็นสังคมในเมืองเป็นผู้ใหญ่ที่รู้โลก เขาจะมีมุมมองต่างๆกับเรื่องแบบนี้ เขาก็จะปล่อยครับ "ให้ๆมันดูไปเถอะ" แต่ ในสังคมแบบชนบทความคิดในเรื่องพวกนี้ ความคิดเขายังแคบ เขายังคงใช้ชีวิตที่เป็นระบบ เป็นขั้นๆ อยู่ เรียกได้ว่ามีส่วนน้อยเท่านั้นที่มองโลกได้กว้าง (ถ้าจะพูดถึงมุมมองแบบคนเมืองกับคนชนบท ยาวแน่ๆ) ดังนั้นเรียกได้ว่า มุมมองของแต่ละสังคมแต่จะเรื่องแบบนี้แตกต่างกันไป
3.ความชอบของบุคคล
ถ้าจะเถียงเรื่องความชอบก็ขอบอกเลยว่า "ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด" เรื่องแบบนี้ไม่มีใครมาบังคับใครได้ ลองมองกลับกัน อย่างเช่น ผู้ชายที่รักรถชอบเอาเงินไปแต่งรถ ผู้หญิงเขามองยังไงล่ะ มองว่าไร้สาระ แล้วอย่างเช่นผู้หญิงที่ชอบดูซีรี่ย์แล้วบ่อน้ำตาแตก เป็นเกาหลีฟีเว่อร์ หรือติ่งเกาหลี ผู้ชายอย่างเราๆก็มองไปอีกแบบ จริงมั้ย? ก็เป็นจริงล่ะครับ ก็เหมือนที่เขามองดูเรานั่นแหละ ว่าสิ่งที่เราทำไร้สาระทั้งที่อายุก็ 20 30 แล้ว
ตัวผมเองมี 4 สิ่งที่รักและชอบ คือ
1.การ์ตูน ไม่ขออธิบายละกันว่ายังไง ก็เหมือนที่คุณชอบและครับ
2.ฟุตบอล ผมเล่นฟุตบอลไม่เก่ง พอเล่นได้ อย่างน้อยก็เข้าพวกได้ และทุกๆวันที่ฟุตบอลต่างประเทศแข่งขัน ทีมรักผมแข่ง ผมดูเชียร์ตลอด และทุกๆวันก็เปิดเว็บ อ่านข่าวฟุตบอล ข่าวซื้อขายนักเตะทุกวันๆ เรียกได้ว่า บ้าเลย นักเตะคนไหนย้ายไปไหน รู้หมด ดังนั้นผมก็เข้ากับกลุ่มคนพวกนี้ เลยได้เห็นมุมมองของพวกเขา เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่โดนว่า "โตแล้วยังดูการ์ตูนอยู่"
3.การเป็นพ่อค้าแม่ค้า ไม่ใช่นักธุรกิจ ผมรักในการค้าขายตั้งแต่เด็กๆ เพราะบ้านผมเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆในหมู่บ้าน และเป็นที่รวตัวของคนในหมู่บ้าน ได้นั่งคุยกับลูกค้าทั้งค้าประจำและขาจร มันทำให้ได้ร็ถึงมุมมองความคิดคน ซึ่งตอนนี้ยังหาทุนมาเปิดร้านอาหารของตัวเองอยู่
4. สิ่งที่ผมรักและชอบที่สุดก็คือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้น เรื่องพวกนี้มันไม่มีอะไรวัดได้ ในตัวการ์ตูนเองยังแฝงเนื้อหา ข้อคิดดีๆมากกว่าหนังบางเรื่องด้วยซ้ำ มุมมอง เนื้อหาของคนเขียนการ์ตูนก็มาจากเรื่องจริงทั้งนั้น เพียงแค่ใส่จินตนาการเข้าไปก็เท่านั้นเอง การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ยังมีออกเยอะแยะไป ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาไม่มีใครมาว่าเรื่องนี้กันหรอกครับ อย่างญี่ปุ่น และอเมริกาเอง พวกการ์ตูน เอนิเมชั่น พวกนี้ทำเป็นธุรกิจไปซะด้วยซ้ำ แถมยังจัดเรทอายุอีกด้วย อย่าไปอายใครถ้าเรายังชอบดูอยู่
แต่ อย่าลืมใช้ชีวิตบนความเป็นจริงในสังคมด้วย อย่ามัวแต่ดูจนไม่ทำมาหากิน จนลืมหน้าที่ของตัวเอง ดูน่ะดูได้แต่ก็อย่าลืมหน้าที่ตัวเองว่าตอนนี้ควรทำอะไร ไม่ใช่ว่าดูการ์ตูนจนไม่เรียนไม่สอบ ดูการ์ตูนจนไม่ทำงานทำการ ถ้าคุณทำในสิ่งที่ชอบควบคู่กับการใช้ชีวิตในสังคมแบบนี้ไปด้วย ไม่มีใครมาว่าคุณได้หรอกครับว่าจะเป็นเด็ก มันดีกว่าพวกที่มองเราว่าเด็กทำตัวบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ โตแล้ว แต่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ ทำมาหากินไม่เป็น ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หรือเรียนไม่จบ คำพูดที่คนพวกนั้นว่าเราสามารถย้อนไปตบหน้ามันได้ แถมตบแรงกว่าเลยด้วยซ้ำ ยิ่งคุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรือการเรียนมากเท่าไหร่ คุณยิ่งตบแรงมากขึ้นเท่านั้นครับ
อย่าเอาสิ่งที่เรารักเราชอบ ไปตัดสินคนอื่น#
ปล.1 ขอ Tag ห้อง มนุษย์เงินเดือนด้วย
ปล.2 ฝากไว้แค่นี้ครับ หากจะอ้างอิงบริบทสังคมไทยไปด้วยนี่ ยาวครับ ถ้าอยากอ่านกัน ก็รีเควสมา ว่างๆผมจะนั่งรวบรวมข้อมูล เขียนเป็นบทความให้ได้อ่านกันครับ และจะเขียนให้ดีกว่านี้