กลับมาต่อแล้ว กับจังหวัดที่ 2 ของ ทริปทำงานและเที่ยวใต้ในครั้งนี้
หลังจากที่ รีวิวตอนที่ 1 จังหวัดระนองไปแล้ว
ถ้าเกิดใครมีอะไรดลใจอยากอ่าน ก็คลิกตามลิ้งค์ข้างล่างเลยนะ
แปะ!!
http://pantip.com/topic/34520091
ไปต่อกันเลยที่จังหวัดพังงา งา งา งา

เราเดินทางออกจากจังหวัดระนองมาถึง จังหวัดพังงา ตอน 6 โมงเย็น และกำลังจะข้ามไปเกาะคอเขากันแหละ
ว่าแล้วเราก็โทรหาพี่รุ่ง ผู้ที่จะมาดูแลเราในทริปนี้
เรา : สวัสดีค่ะ พี่รุ่งนี่หนูโทรจาก….นะคะ พอดีอยากถามว่า หนูจะไปพักที่ไหนดีค่ะ บนเกาะคอเขา
พี่รุ่ง : อ๋อ น้อง...เองหรอ มา มา พักที่รีสอร์ทพี่ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ลดให้
เรา : ขอบคุณมากเลยค่ะ เดี๋ยวถึงแล้วหนูโทรหาพี่นะคะ
พี่รุ่ง : เดี๋ยวก่อนนะ ก่อนเราจะข้ามมาเกาะคอเขา หาอะไรกินมาด้วยนะ เพราะที่นี่ไม่มีอะไรให้กินเลย
เรา : ขอบคุณค่ะ
วางสายไป ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
ด้วยความที่เราและทีมงานกลัวจะไม่มีอะไรให้ตกถึงท้อง ทุกคนเลยแวะ หาเสบียงกันใหญ่
อ่ะ ตุนเว้ยยย สิ่งที่ได้มาก็ไม่พ้น มาม่าคัพ ไส้กรอก และ เบียร์ จากร้านมินิมาร์ท นอกชานเมือง
แต่อีกใจเราก็ไม่เชื่อนะ ว่า เห้ย!! นั่นเกาะคอเขานะเว้ย โรงแรมก็ดูหรูหราหลายที่ จะไม่มีของกิน หรือนักท่องเที่ยวเลยหรอวะ
และ การเดินทางข้ามไปเกาะคอเขา คือ มาขึ้นเรือที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม เรือที่เราจะข้ามเป็นเรือ แพขนานยนต์ ไปได้ทั้งคนทั้งรถ เลยนะ

ซึ่งราคาไม่แพง รถคันละ 150 บาท/1เที่ยว รวมคนในรถด้วย ส่วนราคาต่อคนก็คนละ 10 บาทเท่านั้น
(แนะนำการท่องเที่ยวบนเกาะคอเขา ควรมีรถไปจะสะดวกกว่าน้า)
ใช้เวลาประมาณ 10 – 20 นาที ก็จะถึงเกาะคอเขา ขับรถลงเรือเรียบร้อย รอเรือออกอย่างเดียวแหละ
ในระหว่างการเดินทาง จะเล่าความรู้สึกคร่าวๆของเรา เกี่ยวกับเกาะคอเขาให้ฟังกัน
“เกาะคอเขา” ได้ยินชื่อนี้ครั้งแรกก็แบบ เห้ย!! มันมีอะไรน่าสนใจหว้า
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เข้าอากู๋เลยจ้า และแล้วสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า โอ้โห!! เนี้ยหรอเกาะคอเขา
ทะเลสวยมาก!!! เกาะนี้ก็สวย!!! โห!!! มีแบบนี้ด้วยหรอ ตื่นเต้นชะมัด อดใจรอไม่ไหวแล้วนะ
ระหว่างที่อยู่บนเรือได้สักพัก ก็มีคนในรถพูดขึ้นมาว่า
เห้ยยยย!! แต่เกาะนี้เค้าเล่ากันว่า เคยโดนสึนามิ นี่ ที่ถล่ม ตายกันทั้งเกาะเลย
อ้าว ฮิบหายแล้วไง ดีนะเราซื้อเบียร์มา กะว่าคืนจะอัดเบียร์ให้หลับไปเลย เจออะไรแปลกปลอมก็ไม่ตื่น เอาดิ๊!!
ทำใจไปได้สักระยะ ว่าเออคงไม่มีอะไร เค้าคงไปเกิดกันหมดแล้วเนอะ เนอะ
เอาหล่ะ!!! ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็เดินทางมาถึงเกาะคอเขา
เรามาถึงที่เกาะเวลาประมาณ 1 ทุ่ม เตรียมขับรถขึ้นจากเรือ
นั่นไง ร้านมินิมาร์ท นั่นไง ร้านอาหาร นั่นไง ร้านเหล้ายังมีเลย แถมมีนักท่องเที่ยวต่างชาตินั่งอยู่ด้วย 1- 2 โต๊ะ ไหนพี่รุ่งบอกไม่มีอะไรขายไง
พวกเราขับรถผ่านร้านที่กล่าวมาไปได้ไม่ถึง 3 เมตร เพราะคิดว่าข้างหน้าจะมีแบบ Hi!! นี่เมืองศรีวิไลนะ แต่มันไม่ใช่
ทุกอย่างเริ่มไม่แปลเปลี่ยน ไฟที่ร้านอาหาร มินิมาร์ท ร้านเหล้า ค่อย ๆ เลือนลาง
เหลือแต่ความมืด นั่งคิดและพูดขึ้นมาว่า เออพี่เค้าไม่ได้หลอกเราจริงด้วย แม้แต่หมากะแมวริมถนนยังไม่มีเล๊ยยยยย
นี่เรามาทำอะไรที่นี่วะ? มันน่าเที่ยวตรงไหนวะเนี้ย? ที่มีความคิดนี้ขึ้นมาเพราะ เหตุการณ์สึนามิเป็นตัวเร้าอารมณ์ทั้งนั้น ฮือออออออออออ!!
ตั้งสติ โทรหาพี่รุ่ง เจ้าของรีสอร์ทค่ะ
คุยเสร็จสับเรียบร้อยเข้าใจตรงกัน ขับไปตามทาง
ซอยไหนวะ?
พี่รุ่งบอกให้สังเกตจะมีวัดข้างหน้า
ไหนวัดวะ?
ทุกอย่างแบบเป็นสีดำไปหมด
งมหาทางไปรีสอร์ทอยู่ 15 นาที
และแล้วก็มีแสงจากสวรรค์ (เว่อร์ไว้ก่อน 5555 ) ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วววววววววว
ที่นี่คือ C&N เกาะคอเขา บีช รีสอร์ท
เห้ออ ดีใจบวกเหนื่อย กว่าจะเจอรีสอร์ท

ถึงหน้าล็อบบี้แล้ว มีพนักงานคอยต้อนรับและเอาน้ำสับปะรดมาให้เราทานกัน

เช็คอินเรียบร้อย ไปดูห้องพักกันดีกว่า
แท่น แท๊นนนนนนนน ถึงห้องของเราแล้ว

ห้องพักสะอาด ดูดีจัง
แต่ทำไมเตียงต้องมีใต้เตียงด้วย เดี๋ยวมีใครไปนอนใต้เตียงทำไงวะเนี้ย จินตการสำคัญกว่าสติละ ตั้งแต่มาถึงที่นี่
พอ พอ ไปดูห้องน้ำ นี่ก็ห้องน้ำ ที่แบบไฟสลัวสุด สุด!! ทุกอย่าง

ดูเป็นใจ
สำรวจห้องเสร็จแล้ว ขอนั่งพักสักแปปนึงเนอะ
เห้ยย!!! ใครเล่นตลกอะไรกะเราอีกวะเนี้ย
ไฟเริ่ม ติด ๆ ดับ ๆ ไม่หาย หลาย 10 รอบ
เอาแล้วไง บอกแล้ว

อย่ามาที่นี่ ถ้ายังไม่หาย จะสวดมนต์แล้วนะ
เอาไงดี คิดบวกก่อนดีกว่า โทรหา Reception
สักพัก พนักงานคนหนึ่งเดินมาที่ห้องเพื่อมาดูไฟให้
พนักงาน : อ๋อ พอดี ต้องเสียบคีย์การ์ดให้แน่นอ่าค่ะ ไฟถึงจะไม่ติด ๆ ดับ ๆ
เรา : ขอบคุณค่ะ
เออค่อยหายใจคล่อง โล่งไปยันไส้
เหตุการณ์เริ่มปกติ หยิบเบียร์ที่แช่ไว้ในตู้เย็น เดินไปกินที่ริมสระว่ายน้ำของรีสอร์ทดีกว่า
เดินกลับไปทางล็อบบี้ ไกลได้อีกจ้า
ถึงสักที เปิดเบียร์ นั่งจิบ ริมสระ ฟังเสียงคลื่นทะเล ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ชีวิตจะดีอะไรขนาดนี้

ชิลพอแล้ว ไปนอนดีกว่า ตื่นเช้ามา มีโปรแกรมรอเราอยู่
สวัสดีตอนเช้า โอ้ยยย 6 โมงที่นี่ยังมืดอยู่เลย
แง่มผ้าม่านและ ประตู เดินออกไปนอกห้องพัก
เดินไปริมชายหาด
โอ้ยยยย!!! ความคิดเมื่อคืนหายไปเลย วิว 3 ล้านบาท มากกกกกกกกกกกกก

หาด C&N เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ทะเลใส หาดทรายก็ขาว
สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวนะ แนะนำที่นี่เลย
มีตาข่ายวอลเล่ย์บอลให้เล่นกัน เพลิน เพลิน ด้วยนะ

เดินเล่นสักพัก พนักงานก็นำอาหารมาวางไว้ให้ที่โต๊ะ เราสั่งแซนวิสแฮมชีสไป

กินข้าว เสร็จแล้วเรียบร้อย
อยากรู้จักเกาะคอเขามากกว่านี้และ พุ่งตัวออกเดินทางกันเถอะ
ที่แรกที่เราจะไปกันวันนี้ คือ
“เกาะผ้า”
การเดินทางไปเกาะผ้า คือ เหมาเรือหางยาวจากท่าเรือเกาะคอเขา ไป ราคาประมาณ 1,500 บาท ต่อ 1 ลำ นั่งได้เกือบ 10 คน เลยแหละ
เรือมารอแล้วววว ไปกันเถอะ

การเดินทางไปเกาะผ้าใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระหว่างเดินทาง เราก็ได้ความรู้เกี่ยวกับเกาะคอเขา และเกาะผ้ามากมาย
เกาะคอเขา มีสิ่งที่น่าสนใจมากนะ และยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากมาตั้งแต่โบราณ โบราณยังไงเดี๋ยวจะบอกทีหลัง
ระหว่างเดินทางไปเกาะผ้า เราเจอเกาะนึง แต่ลืมชื่อไปแล้ว เป็นเนินทรายกลางทะเล

และไฮไลท์ของเกาะนี้ เค้ามีไว้สำหรับจัด Dinner ให้คู่รัก หรือคนที่มาฮันนีมูนด้วยนะ เค้าจะพามาส่งและพอดินเนอร์เสร็จเค้าก็จะมารับ มีคนคอยบริการอย่างดี เค้ารับเพียงวันละ 1 คู่เท่านั้น ราคาก็ไม่ใช่น้อยเลยแหละ
ถ่ายรูปพี่คนขับเรือซะหน่อยยยยย
แชะ

อีกที อีกที
แชะ
ส่วนเกาะผ้า เป็นเกาะเล็ก ๆ พี่รุ่งบอกเดี๋ยวเห็นแล้ว เราจะนึกถึง เกาะในการ์ตูนขายหัวเราะเลย
ที่ได้ชื่อเกาะผ้าก็เพราะว่า เกาะนี้เนี้ย สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้ตามมรสุมเลย เพราะทรายจะพัดเปลี่ยนทิศทาง
เริ่มเห็นเกาะผ้าแล้ว เห็นมั๊ย ? นั่นอ่ะ ที่เป็นเนินทรายเล็ก ๆ นั่นแหละ

ถึงแล้วจ้า เกาะผ้า นึกอารมณ์แบบมีเกาะและก็มีต้นมะพร้าว 1 ต้น ออกมั๊ย แบบนั้นเลย ฮ่า ๆ น่ารักดีนะเกาะนี้
เริ่มเดินสำรวจเกาะกันดีกว่า ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์สุด ๆ มีทั้งปู มีทั้งหอย เดินเต็มเกาะไปหมด

ผักบุ้งทะเลเยอะมากกกกกก

และ ที่นี่มีซากปะการัง ที่ถูกคลื่นทะเลซัดมา บนเกาะ เต็มเลย

นี่แหละ!! ที่มาของเพลงฝากรอยเท้าเอาไว้
เดินทางกันต่อเลยดีกว่า เรือรอเราอยู่ตรงนั้น
ระหว่างเดินทางกลับจากเกาะผ้า พี่คนขับเรือก็จอดเรือและดึงอวน ดักปลามาให้เราดู

มีไข่ปลาหมึกติดมาด้วย ใส ๆ ห้อย ๆ อยู่

แถมมีปลาหลุดอวนมา พี่คนขับเรือหยิบปลาขึ้นมา
แหมะ วันนี้ได้เมนูแล้ว พี่คนขับเรือ บอกเราแบบนั้น ฮ่า ๆ ๆ
เรานั่งเรือกลับมาจากเกาะผ้ากัน เพื่อนั่งรถไปชมสถานที่ ที่เรารู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ ตั้งแต่หาข้อมูลแล้ว
ที่ต่อไปคือ แหล่งโบราณคดีทุ่งตึก หรือเมืองตะโกลา ในสมัยก่อน
ที่นี่เคยเป็นแหล่งค้าขายในสมัยก่อน เป็นศูนย์กลางของการส่งสินค้า และท่าเรือ ที่รุ่งเรืองมาก ในหลายศตวรรษมาแล้ว
ถึงแล้ววววว เข้าไปเดินดูกันดีกว่า
ด้านหน้าสุดเป็นห้องเก็บพวก เศษแก้ว เครื่องใช้ และมีประวัติ

ทางเข้าอยู่นี่

มีการขุดค้นพบ ซากโบราณ ภาชนะกระเบื้อง สมัยราชวงศ์ถังของจีน และเครื่องแก้ว ลูกปัด ที่พบมากในอินเดีย และอียิปต์
คิดดูสิ ขนาดเรา เดิน ๆ อยู่ ยังเจอเศษ กระเบื้อง เศษแก้ว เลย
หยิบขึ้นมาดูเล่นหลายชิ้นเลยแหละ
นอกจากนี้ยังมี สนามบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นมาตั้งเป็นฐานที่นี่ด้วยนะ แต่ตอนนี้ไม่เหลือร่องรอยให้เห็นแล้วแหละ
เพราะหลังจากเกิดสึนามิ ที่นี่ก็กลายเป็นที่ ที่ชาวบ้านเริ่มใช้ทำประโยชน์ แบบเลี้ยงวัว เลี้ยงควายแทนแล้ววว
ส่วนถ้าใครอยากชมทุ่งหญ้าสะวันนา ที่นี่ก็มีนะ แต่อาจจะไม่ค่อยสะวันเท่าไหร่ เพราะหญ้าขึ้นเป็นหย่อม ๆ

ทุ่งหญ้าแบบ หย่อม หย่อม ของที่นี่ ฮ่า ๆ ๆ
ตอนที่ 2 ของจังหวัดพังงา อ่านต่อได้เลยจ้า
http://pantip.com/topic/34598180
[SR] // เมื่อฉันทำงานไป เที่ยวไป สุขใจจริงเอย ตอนที่ 2 จังหวัดพังงา //
หลังจากที่ รีวิวตอนที่ 1 จังหวัดระนองไปแล้ว
ถ้าเกิดใครมีอะไรดลใจอยากอ่าน ก็คลิกตามลิ้งค์ข้างล่างเลยนะ
แปะ!! http://pantip.com/topic/34520091
ไปต่อกันเลยที่จังหวัดพังงา งา งา งา
เราเดินทางออกจากจังหวัดระนองมาถึง จังหวัดพังงา ตอน 6 โมงเย็น และกำลังจะข้ามไปเกาะคอเขากันแหละ
ว่าแล้วเราก็โทรหาพี่รุ่ง ผู้ที่จะมาดูแลเราในทริปนี้
เรา : สวัสดีค่ะ พี่รุ่งนี่หนูโทรจาก….นะคะ พอดีอยากถามว่า หนูจะไปพักที่ไหนดีค่ะ บนเกาะคอเขา
พี่รุ่ง : อ๋อ น้อง...เองหรอ มา มา พักที่รีสอร์ทพี่ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ลดให้
เรา : ขอบคุณมากเลยค่ะ เดี๋ยวถึงแล้วหนูโทรหาพี่นะคะ
พี่รุ่ง : เดี๋ยวก่อนนะ ก่อนเราจะข้ามมาเกาะคอเขา หาอะไรกินมาด้วยนะ เพราะที่นี่ไม่มีอะไรให้กินเลย
เรา : ขอบคุณค่ะ
วางสายไป ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
ด้วยความที่เราและทีมงานกลัวจะไม่มีอะไรให้ตกถึงท้อง ทุกคนเลยแวะ หาเสบียงกันใหญ่
อ่ะ ตุนเว้ยยย สิ่งที่ได้มาก็ไม่พ้น มาม่าคัพ ไส้กรอก และ เบียร์ จากร้านมินิมาร์ท นอกชานเมือง
แต่อีกใจเราก็ไม่เชื่อนะ ว่า เห้ย!! นั่นเกาะคอเขานะเว้ย โรงแรมก็ดูหรูหราหลายที่ จะไม่มีของกิน หรือนักท่องเที่ยวเลยหรอวะ
และ การเดินทางข้ามไปเกาะคอเขา คือ มาขึ้นเรือที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม เรือที่เราจะข้ามเป็นเรือ แพขนานยนต์ ไปได้ทั้งคนทั้งรถ เลยนะ
ซึ่งราคาไม่แพง รถคันละ 150 บาท/1เที่ยว รวมคนในรถด้วย ส่วนราคาต่อคนก็คนละ 10 บาทเท่านั้น
(แนะนำการท่องเที่ยวบนเกาะคอเขา ควรมีรถไปจะสะดวกกว่าน้า)
ใช้เวลาประมาณ 10 – 20 นาที ก็จะถึงเกาะคอเขา ขับรถลงเรือเรียบร้อย รอเรือออกอย่างเดียวแหละ
ในระหว่างการเดินทาง จะเล่าความรู้สึกคร่าวๆของเรา เกี่ยวกับเกาะคอเขาให้ฟังกัน
“เกาะคอเขา” ได้ยินชื่อนี้ครั้งแรกก็แบบ เห้ย!! มันมีอะไรน่าสนใจหว้า
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เข้าอากู๋เลยจ้า และแล้วสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า โอ้โห!! เนี้ยหรอเกาะคอเขา
ทะเลสวยมาก!!! เกาะนี้ก็สวย!!! โห!!! มีแบบนี้ด้วยหรอ ตื่นเต้นชะมัด อดใจรอไม่ไหวแล้วนะ
ระหว่างที่อยู่บนเรือได้สักพัก ก็มีคนในรถพูดขึ้นมาว่า
เห้ยยยย!! แต่เกาะนี้เค้าเล่ากันว่า เคยโดนสึนามิ นี่ ที่ถล่ม ตายกันทั้งเกาะเลย
อ้าว ฮิบหายแล้วไง ดีนะเราซื้อเบียร์มา กะว่าคืนจะอัดเบียร์ให้หลับไปเลย เจออะไรแปลกปลอมก็ไม่ตื่น เอาดิ๊!!
ทำใจไปได้สักระยะ ว่าเออคงไม่มีอะไร เค้าคงไปเกิดกันหมดแล้วเนอะ เนอะ
เอาหล่ะ!!! ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็เดินทางมาถึงเกาะคอเขา
เรามาถึงที่เกาะเวลาประมาณ 1 ทุ่ม เตรียมขับรถขึ้นจากเรือ
นั่นไง ร้านมินิมาร์ท นั่นไง ร้านอาหาร นั่นไง ร้านเหล้ายังมีเลย แถมมีนักท่องเที่ยวต่างชาตินั่งอยู่ด้วย 1- 2 โต๊ะ ไหนพี่รุ่งบอกไม่มีอะไรขายไง
พวกเราขับรถผ่านร้านที่กล่าวมาไปได้ไม่ถึง 3 เมตร เพราะคิดว่าข้างหน้าจะมีแบบ Hi!! นี่เมืองศรีวิไลนะ แต่มันไม่ใช่
ทุกอย่างเริ่มไม่แปลเปลี่ยน ไฟที่ร้านอาหาร มินิมาร์ท ร้านเหล้า ค่อย ๆ เลือนลาง
เหลือแต่ความมืด นั่งคิดและพูดขึ้นมาว่า เออพี่เค้าไม่ได้หลอกเราจริงด้วย แม้แต่หมากะแมวริมถนนยังไม่มีเล๊ยยยยย
นี่เรามาทำอะไรที่นี่วะ? มันน่าเที่ยวตรงไหนวะเนี้ย? ที่มีความคิดนี้ขึ้นมาเพราะ เหตุการณ์สึนามิเป็นตัวเร้าอารมณ์ทั้งนั้น ฮือออออออออออ!!
ตั้งสติ โทรหาพี่รุ่ง เจ้าของรีสอร์ทค่ะ
คุยเสร็จสับเรียบร้อยเข้าใจตรงกัน ขับไปตามทาง
ซอยไหนวะ?
พี่รุ่งบอกให้สังเกตจะมีวัดข้างหน้า
ไหนวัดวะ?
ทุกอย่างแบบเป็นสีดำไปหมด
งมหาทางไปรีสอร์ทอยู่ 15 นาที
และแล้วก็มีแสงจากสวรรค์ (เว่อร์ไว้ก่อน 5555 ) ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วววววววววว
ที่นี่คือ C&N เกาะคอเขา บีช รีสอร์ท
เห้ออ ดีใจบวกเหนื่อย กว่าจะเจอรีสอร์ท
ถึงหน้าล็อบบี้แล้ว มีพนักงานคอยต้อนรับและเอาน้ำสับปะรดมาให้เราทานกัน
เช็คอินเรียบร้อย ไปดูห้องพักกันดีกว่า
แท่น แท๊นนนนนนนน ถึงห้องของเราแล้ว
ห้องพักสะอาด ดูดีจัง
แต่ทำไมเตียงต้องมีใต้เตียงด้วย เดี๋ยวมีใครไปนอนใต้เตียงทำไงวะเนี้ย จินตการสำคัญกว่าสติละ ตั้งแต่มาถึงที่นี่
พอ พอ ไปดูห้องน้ำ นี่ก็ห้องน้ำ ที่แบบไฟสลัวสุด สุด!! ทุกอย่าง
สำรวจห้องเสร็จแล้ว ขอนั่งพักสักแปปนึงเนอะ
เห้ยย!!! ใครเล่นตลกอะไรกะเราอีกวะเนี้ย
ไฟเริ่ม ติด ๆ ดับ ๆ ไม่หาย หลาย 10 รอบ
เอาแล้วไง บอกแล้ว
เอาไงดี คิดบวกก่อนดีกว่า โทรหา Reception
สักพัก พนักงานคนหนึ่งเดินมาที่ห้องเพื่อมาดูไฟให้
พนักงาน : อ๋อ พอดี ต้องเสียบคีย์การ์ดให้แน่นอ่าค่ะ ไฟถึงจะไม่ติด ๆ ดับ ๆ
เรา : ขอบคุณค่ะ
เออค่อยหายใจคล่อง โล่งไปยันไส้
เหตุการณ์เริ่มปกติ หยิบเบียร์ที่แช่ไว้ในตู้เย็น เดินไปกินที่ริมสระว่ายน้ำของรีสอร์ทดีกว่า
เดินกลับไปทางล็อบบี้ ไกลได้อีกจ้า
ถึงสักที เปิดเบียร์ นั่งจิบ ริมสระ ฟังเสียงคลื่นทะเล ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ชีวิตจะดีอะไรขนาดนี้
ชิลพอแล้ว ไปนอนดีกว่า ตื่นเช้ามา มีโปรแกรมรอเราอยู่
สวัสดีตอนเช้า โอ้ยยย 6 โมงที่นี่ยังมืดอยู่เลย
แง่มผ้าม่านและ ประตู เดินออกไปนอกห้องพัก
เดินไปริมชายหาด
โอ้ยยยย!!! ความคิดเมื่อคืนหายไปเลย วิว 3 ล้านบาท มากกกกกกกกกกกกก
หาด C&N เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ทะเลใส หาดทรายก็ขาว
สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวนะ แนะนำที่นี่เลย
มีตาข่ายวอลเล่ย์บอลให้เล่นกัน เพลิน เพลิน ด้วยนะ
เดินเล่นสักพัก พนักงานก็นำอาหารมาวางไว้ให้ที่โต๊ะ เราสั่งแซนวิสแฮมชีสไป
กินข้าว เสร็จแล้วเรียบร้อย
อยากรู้จักเกาะคอเขามากกว่านี้และ พุ่งตัวออกเดินทางกันเถอะ
ที่แรกที่เราจะไปกันวันนี้ คือ
“เกาะผ้า”
การเดินทางไปเกาะผ้า คือ เหมาเรือหางยาวจากท่าเรือเกาะคอเขา ไป ราคาประมาณ 1,500 บาท ต่อ 1 ลำ นั่งได้เกือบ 10 คน เลยแหละ
เรือมารอแล้วววว ไปกันเถอะ
การเดินทางไปเกาะผ้าใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระหว่างเดินทาง เราก็ได้ความรู้เกี่ยวกับเกาะคอเขา และเกาะผ้ามากมาย
เกาะคอเขา มีสิ่งที่น่าสนใจมากนะ และยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากมาตั้งแต่โบราณ โบราณยังไงเดี๋ยวจะบอกทีหลัง
ระหว่างเดินทางไปเกาะผ้า เราเจอเกาะนึง แต่ลืมชื่อไปแล้ว เป็นเนินทรายกลางทะเล
และไฮไลท์ของเกาะนี้ เค้ามีไว้สำหรับจัด Dinner ให้คู่รัก หรือคนที่มาฮันนีมูนด้วยนะ เค้าจะพามาส่งและพอดินเนอร์เสร็จเค้าก็จะมารับ มีคนคอยบริการอย่างดี เค้ารับเพียงวันละ 1 คู่เท่านั้น ราคาก็ไม่ใช่น้อยเลยแหละ
ถ่ายรูปพี่คนขับเรือซะหน่อยยยยย
แชะ
อีกที อีกที
แชะ
ส่วนเกาะผ้า เป็นเกาะเล็ก ๆ พี่รุ่งบอกเดี๋ยวเห็นแล้ว เราจะนึกถึง เกาะในการ์ตูนขายหัวเราะเลย
ที่ได้ชื่อเกาะผ้าก็เพราะว่า เกาะนี้เนี้ย สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้ตามมรสุมเลย เพราะทรายจะพัดเปลี่ยนทิศทาง
เริ่มเห็นเกาะผ้าแล้ว เห็นมั๊ย ? นั่นอ่ะ ที่เป็นเนินทรายเล็ก ๆ นั่นแหละ
ถึงแล้วจ้า เกาะผ้า นึกอารมณ์แบบมีเกาะและก็มีต้นมะพร้าว 1 ต้น ออกมั๊ย แบบนั้นเลย ฮ่า ๆ น่ารักดีนะเกาะนี้
เริ่มเดินสำรวจเกาะกันดีกว่า ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์สุด ๆ มีทั้งปู มีทั้งหอย เดินเต็มเกาะไปหมด
ผักบุ้งทะเลเยอะมากกกกกก
และ ที่นี่มีซากปะการัง ที่ถูกคลื่นทะเลซัดมา บนเกาะ เต็มเลย
นี่แหละ!! ที่มาของเพลงฝากรอยเท้าเอาไว้
เดินทางกันต่อเลยดีกว่า เรือรอเราอยู่ตรงนั้น
ระหว่างเดินทางกลับจากเกาะผ้า พี่คนขับเรือก็จอดเรือและดึงอวน ดักปลามาให้เราดู
มีไข่ปลาหมึกติดมาด้วย ใส ๆ ห้อย ๆ อยู่
แถมมีปลาหลุดอวนมา พี่คนขับเรือหยิบปลาขึ้นมา
แหมะ วันนี้ได้เมนูแล้ว พี่คนขับเรือ บอกเราแบบนั้น ฮ่า ๆ ๆ
เรานั่งเรือกลับมาจากเกาะผ้ากัน เพื่อนั่งรถไปชมสถานที่ ที่เรารู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ ตั้งแต่หาข้อมูลแล้ว
ที่ต่อไปคือ แหล่งโบราณคดีทุ่งตึก หรือเมืองตะโกลา ในสมัยก่อน
ที่นี่เคยเป็นแหล่งค้าขายในสมัยก่อน เป็นศูนย์กลางของการส่งสินค้า และท่าเรือ ที่รุ่งเรืองมาก ในหลายศตวรรษมาแล้ว
ถึงแล้ววววว เข้าไปเดินดูกันดีกว่า
ด้านหน้าสุดเป็นห้องเก็บพวก เศษแก้ว เครื่องใช้ และมีประวัติ
ทางเข้าอยู่นี่
มีการขุดค้นพบ ซากโบราณ ภาชนะกระเบื้อง สมัยราชวงศ์ถังของจีน และเครื่องแก้ว ลูกปัด ที่พบมากในอินเดีย และอียิปต์
คิดดูสิ ขนาดเรา เดิน ๆ อยู่ ยังเจอเศษ กระเบื้อง เศษแก้ว เลย
หยิบขึ้นมาดูเล่นหลายชิ้นเลยแหละ
นอกจากนี้ยังมี สนามบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นมาตั้งเป็นฐานที่นี่ด้วยนะ แต่ตอนนี้ไม่เหลือร่องรอยให้เห็นแล้วแหละ
เพราะหลังจากเกิดสึนามิ ที่นี่ก็กลายเป็นที่ ที่ชาวบ้านเริ่มใช้ทำประโยชน์ แบบเลี้ยงวัว เลี้ยงควายแทนแล้ววว
ส่วนถ้าใครอยากชมทุ่งหญ้าสะวันนา ที่นี่ก็มีนะ แต่อาจจะไม่ค่อยสะวันเท่าไหร่ เพราะหญ้าขึ้นเป็นหย่อม ๆ
ทุ่งหญ้าแบบ หย่อม หย่อม ของที่นี่ ฮ่า ๆ ๆ
ตอนที่ 2 ของจังหวัดพังงา อ่านต่อได้เลยจ้า
http://pantip.com/topic/34598180