1
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลือกขาย ยาป สตัมป์ ,เดวิด เบ็คแฮม ,รุด ฟาน นิสเตลรอย กระทั่งโละรอย คีน ซึ่งสโมสรก็ยินยอม ไม่อิดออดที่จะทำตาม ทุกคนที่เอ่ยชื่อมานี่ระดับกระดูกสันหลังของทีมทั้งนั้นนะครับ ซึ่งตัดสินขายตอนที่ยังเล่นอยู่ในฟอร์มที่ดีด้วย สาเหตุของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป โดยสาเหตุหลักมาจาก การไม่อยู่ในโอวาทของท่านเซอร์ เช่น เชื่อเมียมากกว่าโค้ช, ปากโป้งเอาเรื่องในห้องแต่งตัวไปเล่ากับสื่อ ทำตัวเป็นดารามากกว่านักฟุตบอล ฯลฯ
2
พยายามนึกถึงทีมกีฬาสักทีมที่เลือกปลดผู้จัดการทีม เพราะขัดแย้งกับนักเตะ แทนที่จะจับพวกนักกีฬาที่ แข็งข้อมาปรับทัศนคติ นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ว่าทีมประเภทนั้นมันจะไปประสบความสำเร็จได้อย่างไร - ลองคิดตามดูนะครับ คุณเป็นเจ้าของสโมสรที่เต็มไปด้วยนักเตะคุณภาพคับแก้ว ราคาไม่อาจประเมินได้ เสียดายเหลือเกินที่จะต้องขายออก ทั้งๆที่นักเตะเหล่านั้น ego สูง และมีทัศนคติที่เป็นผลร้ายต่อทีม - เล่นไล่โค้ชนี่ ความผิดเท่า กบฏ นะครับ ซึ่งอาจต้องขายทิ้งหลายคนด้วยล่ะ เมื่อตัวเลือกนี้มันสุดแสน จะสร้างความลำบากใจและเสียดายที่จะเลือก ก็เลยหันไปปลดโค้ชแทน แล้วเก็บสุดยอดนักเตะเหล่านั้นไว้ เก็บพี่ๆนักฟุตบอลที่เล่นเพื่อให้ทีมแพ้ เล่นให้ผลงานแย่ เพราะตั้งใจไม่เอาด้วยกับผู้ฝึกสอน โถ...พ่อคุณ ตลอดชีวิตนักกีฬากว่า 20 ปีของข้าพเจ้า นักกีฬาแบบที่พูดถึงเนี่ย โคตรน่ารังเกียจเลยว่ะ attitude แบบนี้ ในนักกีฬาที่ใช้กีฬาเป็นเครื่องหากิน - บ้างเรียกมืออาชีพ ถามจริงตอนเด็กๆพวกพี่รวมหัวกันสอบตก เพื่อไล่ครูประจำชั้นหรอครับ หรือมีปมอะไรในใจเป็นพิเศษ
3
เรื่องลึกจริงๆ เป็นยังไงคงไม่มีทางรู้ แน่นอนล่ะ ”มูรินโญ่” ต้องรับผิดชอบกับผลของงานอย่างไม่ต้องสงสัย ข้อหาไหนคนเป็นโค้ชก็ต้องพิจารณาตัวเอง เอานักเตะไม่อยู่ ,ควบคุมทีมไม่ได้ ,ความสัมพันธ์กับผู้เล่นแย่ นิสัยก้าวร้าว ฯลฯ ผู้จัดการทีมมีสิทธิขาดในการเปลี่ยนแปลงทีม ในตอนที่ยังทำได้ “มูรินโญ่”เลือกที่จะไม่ทำ “ในการซ้อมแต่ละวันผมไม่มีอะไรจะบ่นลูกทีมเลย แต่พอมาพิจารณาถึงบางเกมแล้วผมรู้สึกหงุดหงิด เมื่อคิดถึงความแตกต่างของสิ่งที่เขาทำได้ในการซ้อมกับเล่นในสนามจริง เขาหมดความสามารถในการ สร้างแรงจูงใจต่อทีมชุดนี้แล้ว ไม่ว่าจะใส่อะไรให้นักเตะชุดนี้พวกเขาก็ไม่รับ เหมือนร่างกายดื้อยา ปฏิเสธ การรักษา ใช้ยาขนานไหนก็ไม่อาจช่วยได้ ย่อหน้าที่แล้วเป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ยอมเสียสละ อดทนรอ ความสำเร็จในฐานนะแฟนบอลที่ติดตามทีมมานาน แต่ย่อหน้านี้คือความจริง ที่ทีมต้องเลือก กีฬาเป็น มากกว่ากีฬาไปแล้วในโลกยุคปัจจุบัน มิสเตอร์ Abramovic เอาเงินมาบริหารทีม ย่อมต้องการผล ซึ่งทีมก็มาไกลมากพวกเรารักและเคารพคุณจากหัวใจตรงจุดนั้น เราไม่เคยลืมว่าคุณเองเป็นนักธุรกิจ คุณประเมินจากตัวแปรและความสุ่มเสี่ยงรอบด้านแล้วจึงค่อยตัดสินใจ แต่คุณลืมประเมินหัวใจแฟนบอล เราพร้อมอยู่กับทีม ร่วมทุกข์ร่วมสุขเติบโตไปด้วยกันกับทีม ทั้งโดนเพื่อนล้อเต็มไทม์ไลน์ทุก social ที่มี ขนาดกลับบ้านยังมีน้องเคาะห้องมาถากถาง เราอยู่มาได้ตั้งแต่ยังไม่มีคุณ ตั้งแต่ไม่เคยมีลุ้นแชมป์อะไร บางปีดีหน่อยก็ได้ลุ้นบอลถ้วยเล็กๆ เราอยู่มาแล้ว คุณประเมินหัวใจพวกเราต่ำไป
4
โชคดีบอส ที่นี่คุณเป็นตำนานเสมอ เสียดายที่เรามีเวลาด้วยกันไม่เท่า อาร์แซน เวนเกอร์กับอาเซนอล หรือเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับแมนยู ครั้งแรกที่เราพบกันคุณประกาศว่าคุณ คือ "The Special One" สิบปีให้หลังคุณกลับมาพร้อมกับบอกพวกเราว่า ที่นี่ทำให้คุณเป็น "The Happy One" รู้อะไรมั้ยบอส เราไม่เคยตอบแทนอะไรคุณเลย นอกจากร้องเรียกชื่อคุณสุดเสียง เชื่อมั่นและยืนเคียงข้างคุณสุดหัวใจ 6 ปีกว่าในฐานะผู้จัดการของเชลซี แต่ในฐานะตำนานของ Stamford Bridge เราจะคิดถึงคุณตลอดไป "The Forever One"
Top of Form
Bottom of Form
The Forever One ::: ทำไม "มู" ต้องรับผิดชอบ
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลือกขาย ยาป สตัมป์ ,เดวิด เบ็คแฮม ,รุด ฟาน นิสเตลรอย กระทั่งโละรอย คีน ซึ่งสโมสรก็ยินยอม ไม่อิดออดที่จะทำตาม ทุกคนที่เอ่ยชื่อมานี่ระดับกระดูกสันหลังของทีมทั้งนั้นนะครับ ซึ่งตัดสินขายตอนที่ยังเล่นอยู่ในฟอร์มที่ดีด้วย สาเหตุของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป โดยสาเหตุหลักมาจาก การไม่อยู่ในโอวาทของท่านเซอร์ เช่น เชื่อเมียมากกว่าโค้ช, ปากโป้งเอาเรื่องในห้องแต่งตัวไปเล่ากับสื่อ ทำตัวเป็นดารามากกว่านักฟุตบอล ฯลฯ
2
พยายามนึกถึงทีมกีฬาสักทีมที่เลือกปลดผู้จัดการทีม เพราะขัดแย้งกับนักเตะ แทนที่จะจับพวกนักกีฬาที่ แข็งข้อมาปรับทัศนคติ นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ว่าทีมประเภทนั้นมันจะไปประสบความสำเร็จได้อย่างไร - ลองคิดตามดูนะครับ คุณเป็นเจ้าของสโมสรที่เต็มไปด้วยนักเตะคุณภาพคับแก้ว ราคาไม่อาจประเมินได้ เสียดายเหลือเกินที่จะต้องขายออก ทั้งๆที่นักเตะเหล่านั้น ego สูง และมีทัศนคติที่เป็นผลร้ายต่อทีม - เล่นไล่โค้ชนี่ ความผิดเท่า กบฏ นะครับ ซึ่งอาจต้องขายทิ้งหลายคนด้วยล่ะ เมื่อตัวเลือกนี้มันสุดแสน จะสร้างความลำบากใจและเสียดายที่จะเลือก ก็เลยหันไปปลดโค้ชแทน แล้วเก็บสุดยอดนักเตะเหล่านั้นไว้ เก็บพี่ๆนักฟุตบอลที่เล่นเพื่อให้ทีมแพ้ เล่นให้ผลงานแย่ เพราะตั้งใจไม่เอาด้วยกับผู้ฝึกสอน โถ...พ่อคุณ ตลอดชีวิตนักกีฬากว่า 20 ปีของข้าพเจ้า นักกีฬาแบบที่พูดถึงเนี่ย โคตรน่ารังเกียจเลยว่ะ attitude แบบนี้ ในนักกีฬาที่ใช้กีฬาเป็นเครื่องหากิน - บ้างเรียกมืออาชีพ ถามจริงตอนเด็กๆพวกพี่รวมหัวกันสอบตก เพื่อไล่ครูประจำชั้นหรอครับ หรือมีปมอะไรในใจเป็นพิเศษ
3
เรื่องลึกจริงๆ เป็นยังไงคงไม่มีทางรู้ แน่นอนล่ะ ”มูรินโญ่” ต้องรับผิดชอบกับผลของงานอย่างไม่ต้องสงสัย ข้อหาไหนคนเป็นโค้ชก็ต้องพิจารณาตัวเอง เอานักเตะไม่อยู่ ,ควบคุมทีมไม่ได้ ,ความสัมพันธ์กับผู้เล่นแย่ นิสัยก้าวร้าว ฯลฯ ผู้จัดการทีมมีสิทธิขาดในการเปลี่ยนแปลงทีม ในตอนที่ยังทำได้ “มูรินโญ่”เลือกที่จะไม่ทำ “ในการซ้อมแต่ละวันผมไม่มีอะไรจะบ่นลูกทีมเลย แต่พอมาพิจารณาถึงบางเกมแล้วผมรู้สึกหงุดหงิด เมื่อคิดถึงความแตกต่างของสิ่งที่เขาทำได้ในการซ้อมกับเล่นในสนามจริง เขาหมดความสามารถในการ สร้างแรงจูงใจต่อทีมชุดนี้แล้ว ไม่ว่าจะใส่อะไรให้นักเตะชุดนี้พวกเขาก็ไม่รับ เหมือนร่างกายดื้อยา ปฏิเสธ การรักษา ใช้ยาขนานไหนก็ไม่อาจช่วยได้ ย่อหน้าที่แล้วเป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ยอมเสียสละ อดทนรอ ความสำเร็จในฐานนะแฟนบอลที่ติดตามทีมมานาน แต่ย่อหน้านี้คือความจริง ที่ทีมต้องเลือก กีฬาเป็น มากกว่ากีฬาไปแล้วในโลกยุคปัจจุบัน มิสเตอร์ Abramovic เอาเงินมาบริหารทีม ย่อมต้องการผล ซึ่งทีมก็มาไกลมากพวกเรารักและเคารพคุณจากหัวใจตรงจุดนั้น เราไม่เคยลืมว่าคุณเองเป็นนักธุรกิจ คุณประเมินจากตัวแปรและความสุ่มเสี่ยงรอบด้านแล้วจึงค่อยตัดสินใจ แต่คุณลืมประเมินหัวใจแฟนบอล เราพร้อมอยู่กับทีม ร่วมทุกข์ร่วมสุขเติบโตไปด้วยกันกับทีม ทั้งโดนเพื่อนล้อเต็มไทม์ไลน์ทุก social ที่มี ขนาดกลับบ้านยังมีน้องเคาะห้องมาถากถาง เราอยู่มาได้ตั้งแต่ยังไม่มีคุณ ตั้งแต่ไม่เคยมีลุ้นแชมป์อะไร บางปีดีหน่อยก็ได้ลุ้นบอลถ้วยเล็กๆ เราอยู่มาแล้ว คุณประเมินหัวใจพวกเราต่ำไป
4
โชคดีบอส ที่นี่คุณเป็นตำนานเสมอ เสียดายที่เรามีเวลาด้วยกันไม่เท่า อาร์แซน เวนเกอร์กับอาเซนอล หรือเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับแมนยู ครั้งแรกที่เราพบกันคุณประกาศว่าคุณ คือ "The Special One" สิบปีให้หลังคุณกลับมาพร้อมกับบอกพวกเราว่า ที่นี่ทำให้คุณเป็น "The Happy One" รู้อะไรมั้ยบอส เราไม่เคยตอบแทนอะไรคุณเลย นอกจากร้องเรียกชื่อคุณสุดเสียง เชื่อมั่นและยืนเคียงข้างคุณสุดหัวใจ 6 ปีกว่าในฐานะผู้จัดการของเชลซี แต่ในฐานะตำนานของ Stamford Bridge เราจะคิดถึงคุณตลอดไป "The Forever One"
Top of Form
Bottom of Form