เวลาอ่านกระทู้พันทิพต่างๆ เขาต้องบอกว่า สวัสดีชาวพันทิพทุกท่านใช่ไหมครับ
ของเราจะขึ้นต้นด้วย นั้นแหละ ข้างบนนั้นแหละ แล้วขอต่อด้วย Hello ! It's me ไม่ใช่ๆ Hello ชาวพันทิพทุกๆท่านนะครับ
ทริปนี้* เหมือจะทริปที่คิดว่าประหยัดนะครับ ทริปนี้เป็นทริปหลังสอบ หลังสอบจริงๆนะ สอบเสร็จเที่ยง ตอนบ่ายขึ้นรถไปเลย โห! เก็บกระเป๋าตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางคืนเลย หนังสงหนังสือไม่อ่านมันแล้ว ขอบอกก่อนนะครับ รูปทั้งหมด มาจากกล้องของiPhone
โอเค ก่อนจะไปถึง
หมู่บ้านที่อากาศที่ดีที่สุดในประเทศไทย ก่อนอื่นก็ต้องนั่งรถถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราชก่อนนะครับ พวกเราออกจากจังหวัดตรังเวลาประมาณบ่ายโมง ถึงนครฯเวลาประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง ออกจากตัวนครฯเพื่อไปนั่งรถ ชิมของอร่อยกันที่ อำเภอปากพนัง ไม่อยากพูดเลย ในอำเภอ
ปากพนังของกินอร่อยๆเยอะมากๆเลย พวกเราเลยขอแนะนำของอร่อยๆ บ้านๆของ ปากพนังนะครับ

นี่คือ
ขนมจีนของปากพนังนะครับ เจ้าของกระทู้กิน น้ำพริกผสมกับน้ำยา เพราะเจ้าของกระทู้ไม่กินเผ็ด แฮะๆ แต่แนะนำเลยคนที่ชอบกินเผ็ดๆ มาชิมของเผ็ดๆได้ที่นครเลยครับ

นี่คือของกินคู่กับขนมจีนนะครับ ผักขนาดนี้คิดว่าเยอะไหม แต่เพื่อนบอกว่ามีร้านที่เยอะกว่านี้อีก ขนาดนี้ยังไม่เยอะอีกหรอเนี่ย !
หูยยยย เลือกไม่ถูกเลย

ยังอยู่ร้านเดิมนะครับ อ๋อ ! ลืมบอกไปร้านนี้อยู่หน้าธนาคาร ธกส.สาขาปากพนังนะครับ เมนูต่อไปคือหมี่แดง คล้ายๆหมี่ผัดกะทิ สีส้มๆน่ากินมากครับ มีกุ้งด้วย กินคู่กับมะม่วงนะครับ อร่อยนะครับ ลองไปทานดูได้เลย นครมีเยอะแยะเป็นร้านที่ขายคู่ขนมจีนซะส่วนใหญ่

เมนูต่อมา
ไอติมไข่แข็ง ชื่อร้านว่า
"ดาราพร" ที่เหลืองๆเป็นแผ่นๆ เป็นไข่แข็งนะครับ อร่อยมว๊ากกก ไอติมก็เป็นรสวานิลา หอมวานิลามาก แก้วละ 20 บาท เรากินได้แค่แก้วเดียวเอง เพราะอิ่มจากขนมจีนและหมี่แดง

วิวแถวๆร้าน ดาราพรนั้นแหละครับ แถวๆนั้นมีร้านขายขนมหลังเก่าๆ เป็นร้านขายพวกกรอบเค็ม หรือครองแครง ข้าวเม่า จะบอกว่าร้านนี้ข้าวเม่าอร่อยมากๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมากินหมดก่อนแล้ว ร้านนี้ขายขนมถุงละ 10 บาทเอง ถูกมากๆ ลองไปอุดหนุนดูนะครับ

ต่อมาก็ชมวิว ของปากพนังนะครับ ปากพนังก็จะมีท่าเรือของปากพนัง นี้เป็นหลังบ้านของเพื่อน เป็นร้านขายน้ำชา มาม่าต้ม เด็กๆหลังเลิกเรียนก็จะมานั่งร้านนี้แหละครับ เป็นบ้านติดกับคลอง เลยหาถ่ายรูปมาได้
หลังจากที่ไปเที่ยวรอบๆปากพนัง ก็กลับมานอนบ้านเพื่อนในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อรุ่งเช้าจะได้ เตรียมตัวกัน ไปคีรีวง
เราเดินทางออกจากบ้านเพื่อนเวลา เก้าโมงเช้า และแวะกินข้าว ถึงคีรีวงก็น่าจะประมาณ สิบโมงหรือสิบเอ็ดโมงจำไม่ได้

ก็ขับรถไปหาที่พัก เราไปหาที่พักกันถึงต้นน้ำของคีรีวงเลยละครับ ขับไปถึงก็เจอโฮมสเตย์ ชื่อว่า
"ขุนน้ำ รีสอร์ท" เป็นที่พักแบบบ้านๆ

นี่คือเบอร์โทรศัพท์นะครับ ของขุนน้ำรีสอร์ท ที่ถามมานะครับ ที่นี่เขาบริการห้องพัก 2 แบบ
- แบบแรกเป็นแบบห้องพักห้องเล็กๆ ห้องละ 2-3 คน มีแอร์ มีระเบียงหลังห้อง คืนละ 800 บาทครับ
- แบบที่สองเป็นแบบที่พักนะครับ นอนได้กี่คนก็ได้ถ้านอนได้ก็นอนไป คืนละ 600 บาท มีพัดลมให้ 2 ตัว ทีวี มีสิ่งที่จะบอกนะครับ ข้างๆบ้านมีบันไดส่วนตัว ไว้ลงไปเล่นน้ำได้เลย ไม่ต้องไปไหนไกลเลยครับ พวกเราเลยขอพักแบบนี้ ลืมบอกไป ว่าพวกเราไปกัน 6 คนนะครับ พี่เจ้าของที่พักแกตกใจ แกเลยขอ 700 บาท พวกเราก็ไม่ไม่มีอะไร ก็เลยให้ไป 700 บาทครับ

นี่คือที่พักของเราครับ ลืมถ่ายไว้ ถ่ายได้มาแบบนี้ ต้องขอโทษด้วยนะครับ แฮะๆ ! ทางขึ้นก็ขึ้นไปเลยครับ ต้นน้ำเลยครับ เล่นน้ำได้สบายมาก เหมือนสระส่วนตัวเลย
พี่เจ้าของห้องบอกว่าให้เข้าห้องพักช่วงบ่าย เพราะมีคนเพิ่งออกจากห้องพัก เราก็โอเคตกลงครับ เราก็ขับรถไปเที่ยวก่อนแล้วกลับมาเล่นน้ำครับ แต่ขอบอกก่อนนะครับ ว่ารูปหลังจากนี้ไม่ค่อยมี เราเอาแต่ดูของ
อย่างที่ทุกๆคนรู้นะครับ ว่าใน หมู่บ้านคีรีวง มีหลายๆกลุ่มนะครับ แต่จะเอามาเพียงไม่กี่กลุ่มนะครับ
1.กลุ่มลูกไม้ คือ กลุ่มที่ทำประมาณเครื่องประดับจากหิน จาก ลูกไม้ต่างๆครับ

เป็นภาพเครื่องประดับต่างๆนะครับ

ที่นั่นยังขาย Dearm Catcher นะครับ มีให้เลือกเยอะแยะเลยนะครับ
กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มใบไม้ กลุ่มใบไม้คือกลุ่ม ที่จะนำใบไม้มาทำสีเพื่อย้อมนะครับ มีหลายอย่างเลยนะครับ เสื้อ กางเกงเล กระเป๋าต่างๆนะครับ

เสื้อที่จำหน่ายในกลุ่มใบไม้นะครับ
กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มผ้ามัดย้อมนะครับ
หลังจากได้ไปเที่ยวมาดูหลายๆกลุ่มแล้ว เลยกลับเข้าที่พักนะครับ อ๋อ ! ลืมบอก ที่นั่นมีชาพะยอมด้วยนะครับ เมนูแนะนำคือ โกโก้เย็นนะครับ หูย อร่อยลืมเลยละครับ
มาต่อได้ หลังจากเข้าที่พักนะครับ ก็ไปเล่นน้ำตามอัธยาศัย และก็ถ่ายรูปในช่วง Wanna be on Top ! คุ้นๆเหมือนรายการอะไรเลยนะครับ 55555
ก็เที่ยวไปเรื่อยๆละครับ จนมาถึงตอนเย็นอาบนำไปหาอะไรกินตอนเย็นๆแล้วละครับ ก็ไปกินที่ร้านข้าว ติดกับร้าน กาแฟเช๊คอินครับ ช่วงเย็นๆแล้วครับ

นี่ก็วิวจากร้านกาแฟเช๊คอินครับ หลังฝนตก เลยมีหมอกบางๆ ไม่ใช่ควันอินโดนะครับ หมอกนะครับหมอก
ลืมบอกไปว่า เราไปช่วงน่าจะเป็นฤดูฝนนะครับ ฝนตกแต่ตอนไปเที่ยว แดดออกครับ ยังดี โชคเข้าข้างๆ เห้อออ !
หลังจากกินข้าวเสร็จนะครับ โอ้โห ! ฝนครับฝน ฝนไม่ได้มาเล่นๆนะครับ ฝนตกมาแบบ คิดว่าจะได้ไม่ตกอีกแล้ว โห สุดยอด เรารอจนฝนหยุดครับ แต่ครับแต่ ! แต่ฝนไม่ยอมหยุด เราก็รอครับ จนเออ ไม่รอแล้วไปเลย ขับรถออกไปเลย
ก่อนจะถึงที่พักครับ จะมีทางให้รถข้ามเพื่อจะขึ้นไปข้างบนที่เป็นต้นน้ำ

นี่คือทางที่ต้องข้ามไป แต่ เรื่องยังไม่จบแค่นั้นครับ น้ำครับน้ำ น้ำมันแรงและท่วมสะพานครับ รถไปไม่ได้ครับ หน้าซีดกันละครับ จะไปยังไงๆ เลยโทรให้เจ้าของที่พักมารับครับ ยังโชคดีอยู่ๆ
ฝนก็ยังไม่หยุดตกนะครับ แล้วน้ำที่เราไปเล่นกันมันก็ขึ้นมาเรื่อยๆ จนเจ้าของที่พักบอกว่า อย่านอนหลับลึกนะ ถ้ามีอะไรเขาก็จะมาเคาะที่ห้องนะครับ แต่พวกเราก็หลับกันลงได้ครับ เย็นมากๆเลยครับ แอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เลยครับ นอนหลับสบายๆมาก
พอตื่นเช้ามาก็เก็บที่พักที่จะกลับนครกันครับ ก็แวะซื้อของฝากกันครับ ของฝากที่นี่ก็จะมี ทุเรียนกวน มังคุดกวน อร่อยมาก
ก่อนกลับเราก็แวะขึ้นไปที่อากาศที่ดีที่สุดคือ เขาธงครับที่นั่นอากาศสบายมากๆ
ก่อนกลับก็ขอสักการะวัดพระธาตุของนครก่อนนะครับ

เสียดายที่เขาบูรณะอยู่เลยไม่ได้ขึ้นไปข้างบน เราเลยแวะซื้อของฝากนะครับ ถ้าจะไปโซนของฝาก ขอให้ท้องว่างๆก่อนนะครับ ทุกร้านเขาจะมีของให้เราชิมเยอะแยะเลย ส่วนใหญ่ก็จะมีขนมลากับข้าวเม่าทอดให้ชิมกันนะครับ
นี่แหละครับ นี่เป็นการีวิวครั้งแรกนะครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ
แท๊กผิดห้องก็ขออภัยด้วยนะครับ มีอะไรติก็คอมเม้นได้เลยนะครับ
ขอบคุณครับ
แก้ไข**
ลืมสิ่งท้ายค่าใช้จ่ายนะครับ
เราลงเงินด้วยประมาณคนละ 400 บาท 6 คนก็ 2400 บาท
ค่าที่พัก 700 บาท
ค่ากินส่วนตัวคนละ 200 บาท ก็ 800 นะครับ
ค่าน้ำมันรถ 500 บาท
ค่าตั๋วจากตรังมานครคนละ 130 บาท 780 บาท
ส่วนตั๋วกลับก็แล้วแต่จะกลับจากไหนนะครับ
รวมๆก็ คนละประมาณ 460 ก็ตีไว้ก็ 500 ละครับ
[CR] [Review] - Avengers มากกว่า Backpacker ณ คีรีวง และมุมมองต่างๆในนครศรีฯ *งบไม่มากอย่างที่คิด #Trip_Bunmee
ทริปนี้* เหมือจะทริปที่คิดว่าประหยัดนะครับ ทริปนี้เป็นทริปหลังสอบ หลังสอบจริงๆนะ สอบเสร็จเที่ยง ตอนบ่ายขึ้นรถไปเลย โห! เก็บกระเป๋าตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางคืนเลย หนังสงหนังสือไม่อ่านมันแล้ว ขอบอกก่อนนะครับ รูปทั้งหมด มาจากกล้องของiPhone
โอเค ก่อนจะไปถึงหมู่บ้านที่อากาศที่ดีที่สุดในประเทศไทย ก่อนอื่นก็ต้องนั่งรถถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราชก่อนนะครับ พวกเราออกจากจังหวัดตรังเวลาประมาณบ่ายโมง ถึงนครฯเวลาประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง ออกจากตัวนครฯเพื่อไปนั่งรถ ชิมของอร่อยกันที่ อำเภอปากพนัง ไม่อยากพูดเลย ในอำเภอปากพนังของกินอร่อยๆเยอะมากๆเลย พวกเราเลยขอแนะนำของอร่อยๆ บ้านๆของ ปากพนังนะครับ
นี่คือขนมจีนของปากพนังนะครับ เจ้าของกระทู้กิน น้ำพริกผสมกับน้ำยา เพราะเจ้าของกระทู้ไม่กินเผ็ด แฮะๆ แต่แนะนำเลยคนที่ชอบกินเผ็ดๆ มาชิมของเผ็ดๆได้ที่นครเลยครับ
นี่คือของกินคู่กับขนมจีนนะครับ ผักขนาดนี้คิดว่าเยอะไหม แต่เพื่อนบอกว่ามีร้านที่เยอะกว่านี้อีก ขนาดนี้ยังไม่เยอะอีกหรอเนี่ย !
หูยยยย เลือกไม่ถูกเลย
ยังอยู่ร้านเดิมนะครับ อ๋อ ! ลืมบอกไปร้านนี้อยู่หน้าธนาคาร ธกส.สาขาปากพนังนะครับ เมนูต่อไปคือหมี่แดง คล้ายๆหมี่ผัดกะทิ สีส้มๆน่ากินมากครับ มีกุ้งด้วย กินคู่กับมะม่วงนะครับ อร่อยนะครับ ลองไปทานดูได้เลย นครมีเยอะแยะเป็นร้านที่ขายคู่ขนมจีนซะส่วนใหญ่
เมนูต่อมาไอติมไข่แข็ง ชื่อร้านว่า "ดาราพร" ที่เหลืองๆเป็นแผ่นๆ เป็นไข่แข็งนะครับ อร่อยมว๊ากกก ไอติมก็เป็นรสวานิลา หอมวานิลามาก แก้วละ 20 บาท เรากินได้แค่แก้วเดียวเอง เพราะอิ่มจากขนมจีนและหมี่แดง
วิวแถวๆร้าน ดาราพรนั้นแหละครับ แถวๆนั้นมีร้านขายขนมหลังเก่าๆ เป็นร้านขายพวกกรอบเค็ม หรือครองแครง ข้าวเม่า จะบอกว่าร้านนี้ข้าวเม่าอร่อยมากๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมากินหมดก่อนแล้ว ร้านนี้ขายขนมถุงละ 10 บาทเอง ถูกมากๆ ลองไปอุดหนุนดูนะครับ
ต่อมาก็ชมวิว ของปากพนังนะครับ ปากพนังก็จะมีท่าเรือของปากพนัง นี้เป็นหลังบ้านของเพื่อน เป็นร้านขายน้ำชา มาม่าต้ม เด็กๆหลังเลิกเรียนก็จะมานั่งร้านนี้แหละครับ เป็นบ้านติดกับคลอง เลยหาถ่ายรูปมาได้
หลังจากที่ไปเที่ยวรอบๆปากพนัง ก็กลับมานอนบ้านเพื่อนในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อรุ่งเช้าจะได้ เตรียมตัวกัน ไปคีรีวง
เราเดินทางออกจากบ้านเพื่อนเวลา เก้าโมงเช้า และแวะกินข้าว ถึงคีรีวงก็น่าจะประมาณ สิบโมงหรือสิบเอ็ดโมงจำไม่ได้
ก็ขับรถไปหาที่พัก เราไปหาที่พักกันถึงต้นน้ำของคีรีวงเลยละครับ ขับไปถึงก็เจอโฮมสเตย์ ชื่อว่า "ขุนน้ำ รีสอร์ท" เป็นที่พักแบบบ้านๆ
นี่คือเบอร์โทรศัพท์นะครับ ของขุนน้ำรีสอร์ท ที่ถามมานะครับ ที่นี่เขาบริการห้องพัก 2 แบบ
- แบบแรกเป็นแบบห้องพักห้องเล็กๆ ห้องละ 2-3 คน มีแอร์ มีระเบียงหลังห้อง คืนละ 800 บาทครับ
- แบบที่สองเป็นแบบที่พักนะครับ นอนได้กี่คนก็ได้ถ้านอนได้ก็นอนไป คืนละ 600 บาท มีพัดลมให้ 2 ตัว ทีวี มีสิ่งที่จะบอกนะครับ ข้างๆบ้านมีบันไดส่วนตัว ไว้ลงไปเล่นน้ำได้เลย ไม่ต้องไปไหนไกลเลยครับ พวกเราเลยขอพักแบบนี้ ลืมบอกไป ว่าพวกเราไปกัน 6 คนนะครับ พี่เจ้าของที่พักแกตกใจ แกเลยขอ 700 บาท พวกเราก็ไม่ไม่มีอะไร ก็เลยให้ไป 700 บาทครับ
นี่คือที่พักของเราครับ ลืมถ่ายไว้ ถ่ายได้มาแบบนี้ ต้องขอโทษด้วยนะครับ แฮะๆ ! ทางขึ้นก็ขึ้นไปเลยครับ ต้นน้ำเลยครับ เล่นน้ำได้สบายมาก เหมือนสระส่วนตัวเลย
พี่เจ้าของห้องบอกว่าให้เข้าห้องพักช่วงบ่าย เพราะมีคนเพิ่งออกจากห้องพัก เราก็โอเคตกลงครับ เราก็ขับรถไปเที่ยวก่อนแล้วกลับมาเล่นน้ำครับ แต่ขอบอกก่อนนะครับ ว่ารูปหลังจากนี้ไม่ค่อยมี เราเอาแต่ดูของ
อย่างที่ทุกๆคนรู้นะครับ ว่าใน หมู่บ้านคีรีวง มีหลายๆกลุ่มนะครับ แต่จะเอามาเพียงไม่กี่กลุ่มนะครับ
1.กลุ่มลูกไม้ คือ กลุ่มที่ทำประมาณเครื่องประดับจากหิน จาก ลูกไม้ต่างๆครับ
เป็นภาพเครื่องประดับต่างๆนะครับ
ที่นั่นยังขาย Dearm Catcher นะครับ มีให้เลือกเยอะแยะเลยนะครับ
กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มใบไม้ กลุ่มใบไม้คือกลุ่ม ที่จะนำใบไม้มาทำสีเพื่อย้อมนะครับ มีหลายอย่างเลยนะครับ เสื้อ กางเกงเล กระเป๋าต่างๆนะครับ
เสื้อที่จำหน่ายในกลุ่มใบไม้นะครับ
กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มผ้ามัดย้อมนะครับ
หลังจากได้ไปเที่ยวมาดูหลายๆกลุ่มแล้ว เลยกลับเข้าที่พักนะครับ อ๋อ ! ลืมบอก ที่นั่นมีชาพะยอมด้วยนะครับ เมนูแนะนำคือ โกโก้เย็นนะครับ หูย อร่อยลืมเลยละครับ
มาต่อได้ หลังจากเข้าที่พักนะครับ ก็ไปเล่นน้ำตามอัธยาศัย และก็ถ่ายรูปในช่วง Wanna be on Top ! คุ้นๆเหมือนรายการอะไรเลยนะครับ 55555
ก็เที่ยวไปเรื่อยๆละครับ จนมาถึงตอนเย็นอาบนำไปหาอะไรกินตอนเย็นๆแล้วละครับ ก็ไปกินที่ร้านข้าว ติดกับร้าน กาแฟเช๊คอินครับ ช่วงเย็นๆแล้วครับ
นี่ก็วิวจากร้านกาแฟเช๊คอินครับ หลังฝนตก เลยมีหมอกบางๆ ไม่ใช่ควันอินโดนะครับ หมอกนะครับหมอก
ลืมบอกไปว่า เราไปช่วงน่าจะเป็นฤดูฝนนะครับ ฝนตกแต่ตอนไปเที่ยว แดดออกครับ ยังดี โชคเข้าข้างๆ เห้อออ !
หลังจากกินข้าวเสร็จนะครับ โอ้โห ! ฝนครับฝน ฝนไม่ได้มาเล่นๆนะครับ ฝนตกมาแบบ คิดว่าจะได้ไม่ตกอีกแล้ว โห สุดยอด เรารอจนฝนหยุดครับ แต่ครับแต่ ! แต่ฝนไม่ยอมหยุด เราก็รอครับ จนเออ ไม่รอแล้วไปเลย ขับรถออกไปเลย
ก่อนจะถึงที่พักครับ จะมีทางให้รถข้ามเพื่อจะขึ้นไปข้างบนที่เป็นต้นน้ำ
นี่คือทางที่ต้องข้ามไป แต่ เรื่องยังไม่จบแค่นั้นครับ น้ำครับน้ำ น้ำมันแรงและท่วมสะพานครับ รถไปไม่ได้ครับ หน้าซีดกันละครับ จะไปยังไงๆ เลยโทรให้เจ้าของที่พักมารับครับ ยังโชคดีอยู่ๆ
ฝนก็ยังไม่หยุดตกนะครับ แล้วน้ำที่เราไปเล่นกันมันก็ขึ้นมาเรื่อยๆ จนเจ้าของที่พักบอกว่า อย่านอนหลับลึกนะ ถ้ามีอะไรเขาก็จะมาเคาะที่ห้องนะครับ แต่พวกเราก็หลับกันลงได้ครับ เย็นมากๆเลยครับ แอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เลยครับ นอนหลับสบายๆมาก
พอตื่นเช้ามาก็เก็บที่พักที่จะกลับนครกันครับ ก็แวะซื้อของฝากกันครับ ของฝากที่นี่ก็จะมี ทุเรียนกวน มังคุดกวน อร่อยมาก
ก่อนกลับเราก็แวะขึ้นไปที่อากาศที่ดีที่สุดคือ เขาธงครับที่นั่นอากาศสบายมากๆ
ก่อนกลับก็ขอสักการะวัดพระธาตุของนครก่อนนะครับ
เสียดายที่เขาบูรณะอยู่เลยไม่ได้ขึ้นไปข้างบน เราเลยแวะซื้อของฝากนะครับ ถ้าจะไปโซนของฝาก ขอให้ท้องว่างๆก่อนนะครับ ทุกร้านเขาจะมีของให้เราชิมเยอะแยะเลย ส่วนใหญ่ก็จะมีขนมลากับข้าวเม่าทอดให้ชิมกันนะครับ
นี่แหละครับ นี่เป็นการีวิวครั้งแรกนะครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ
แท๊กผิดห้องก็ขออภัยด้วยนะครับ มีอะไรติก็คอมเม้นได้เลยนะครับ
ขอบคุณครับ
แก้ไข**
ลืมสิ่งท้ายค่าใช้จ่ายนะครับ
เราลงเงินด้วยประมาณคนละ 400 บาท 6 คนก็ 2400 บาท
ค่าที่พัก 700 บาท
ค่ากินส่วนตัวคนละ 200 บาท ก็ 800 นะครับ
ค่าน้ำมันรถ 500 บาท
ค่าตั๋วจากตรังมานครคนละ 130 บาท 780 บาท
ส่วนตั๋วกลับก็แล้วแต่จะกลับจากไหนนะครับ
รวมๆก็ คนละประมาณ 460 ก็ตีไว้ก็ 500 ละครับ