กฏไตรลักษณ์

วิธีการที่จะเกิดปัญญาเพื่อนำมาใช่ดับทุกข์นั้นพระพุทธเจ้าสอนว่า ให้นำเอาขันธ์ ๕ (คือร่างกายและจิตใจ) ของเรามาพิจารณาให้เข้าใจและเห็นแจ้งถึงความจริงสูงสุดของชีวิต ซึ่งความจริงสูงสุดนี้มี ๓ ประการ ที่เรียกว่า ไตรลักษณ์ ที่หมายถึง ลักษณะ ๓ ประการของสิ่งปรุงแต่งทั้งหลาย (แต่เราชอบเรียกความจริงนี้ว่าเป็นกฎไตรลักษณ์ เพราะมันเป็นกฎที่เกิดต่อมาจากกฏอิทัปปัจจยตาอีกที) ซึ่งลักษณะทั้ง ๓ นั้นก็ได้แก่

๑. อนัตตลักษณะ หรือ อนัตตา คือ ความไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง (หรือไม่ใช่อัตตา)
๒. อนิจจลักษณะ หรือ อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง (หรือไม่เป็นอมตะ)
๓. ทุกขลักษณะ หรือ ทุกขัง คือ สภาวะที่ต้องทน (หรือ มีความยากลำบากในการดำรงอยู่)

อัตตาเป็นความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ที่เชื่อว่ามีสิ่งที่เป็นตัวตนของมันเอง โดยไม่ต้องอาศัยเหตุและปัจจัยใดๆมาปรุงแต่งให้มันเกิดขึ้นมา ดังนั้นสิ่งที่เป็นอัตตาจึงมีลักษณะเที่ยง (นิจจัง) หรือไม่เปลี่ยนแปลง หรือเป็นอมตะ และไม่มีสภาวะที่ต้องทน (สุงขัง) เพราะมันไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งอื่น มันจึงมีการดำรงอยู่ (ตั้งอยู่) อย่างสุขสบาย ซึ่งนี่เป็นแค่ “ความเชื่อ” ที่ยังไม่มีใครมาพิสูจน์ให้เราเห็นความจริงได้ ซึ่งสิ่งที่ศาสนาพรามหณ์สอนว่าเป็นอัตตาก็ได้แก่ จิตใจของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายนั่นเอง แต่สำหรับพุทธศาสนาแล้ว คำว่า อัตตา นี้จะเป็นแค่คำสมมติเพื่อใช้เรียกสิ่งต่างๆเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงว่าจะเป็นตัวตนจริงๆอย่างที่ศาสนาพราหมณ์สอน เช่น คำว่า ตัวเรา หรือ พ่อ แม่ ลูก รถยนต์ บ้าน ต้นไม้ สัตว์ เป็นต้น อย่างคำสอนที่พระพุทธเจ้าสอนว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นต้น

ในความเป็นจริงนั้นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมา ต้องอาศัยเหตุและปัจจัยมาปรุงแต่งให้เกิดขึ้น  เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วจึงหาตัวตนจริงๆของตนเองไม่มี มีแต่สิ่งปรุงแต่งที่ไม่ใช่ตัวตนจริงๆเท่านั้น (ที่เรียกว่าอนัตตา) ซึ่งสิ่งปรุงแต่งที่เกิดขึ้นมานี้เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่สามารถตั้งอยู่อย่างถาวร (หรือเป็นอมตะ) ได้ เพราะไม่ช้าก็เร็ว สิ่งปรุงแต่งทั้หลายก็ต้องแตก (ใช้กับวัตถุ) หรือดับ (ใช้กับจิต) ไปในที่สุด (ที่เรียกว่าอนิจจัง)  และแม้ขณะที่ยังตั้งอยู่ สิ่งปรุงแต่งทั้งหลาย ก็ยังต้องทนที่จะประคับประคองสภาพการปรุงแต่งของมันเอาไว้ด้วยความยากลำบากอีกด้วย (ที่เรียกว่าทุกขัง) ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นมาแล้วจะเป็นตัวตนที่แท้จริง ที่เที่ยง และไม่มีสภาวะที่ต้องทน ซึ่งนี่ก็แสดงถึงว่า จิตใจของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายนี้ไม่ได้เป็นอัตตาตามที่ศาสนาพราหมณ์สอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่