พวกพลังงานทางเลือกและรถยนต์ส่วนบุคคลใช้พลังงานไฟฟ้าแล้ว ส่วนมากบอกว่ารถใช้น้ำมันจะหมดไป

แต่ผมเห็นต่าง ผมกลับมองว่า ยิ่งน้ำมันถูกเท่าไหร่ พลังงานทางเลือกอื่นสิจะเกิดยากขึ้นเท่านั้น เพราะรถใช้พลังงานแบบเดิมๆ

แล้วถ้าน้ำมันลงขนาดนี้ แทบจะไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องหาพลังงานทดแทน สมัยบาร์เรลละ 100 USD มีคนบอกจะหมดโลกใน 30 ปี

ตอนนี้ อเมริกา  ส่งออกน้ำมันได้ อิหร่าน เพิ่งยกเลิกคว่ำบาตร ลิเบียส่งออกได้ แสดงว่า คงอีกนาน กว่าน้ำมันจะหมด

ทีนี้ ปัญหาหลักที่รถรถยนต์ส่วนบุคคลใช้พลังงานอื่นนอกจากน้ำมันสู้ ไม่ได้คือ

ระยะเวลาการ Recharge energy น้ำมันหมด เราไปปั้ม 10 นาที ใส่เต็มก็วิ่งต่องได้แล้ว ไฟฟ้า คงยาก NGV ยังนานเลย

อีกตัวนึงคือ การเก็บพลังงานต่อการเติม 1 ครั้ง ผมไม่แน่ใจน่ะว่า รถไฟฟ้า กับ รถใช้น้ำมัน เก็บพลังงานต่อการเดินทาง 1 ครั้ง

ที่ความเร็วเท่ากัน อะไรใช้พื้นที่และน้ำหนักน้อยกว่า พอเจ้าของบ.ผลิตรถรู้สึกว่าน้ำมันยังเป็นงี้ งบวิจัยพลังงานไฟฟ้าคงต้องลดไป

คงต้องไปวิจัยการทำให้ประหยัดน้ำมัน น่าจะตอบโจทย์กว่า และต่อยอดกับสิ่งที่มีเดิมอยู่แล้วมากกว่า

เพราะโดยพื้นฐานน่าจะมีแต่ TESLA ที่ผลิตรถยนต์ส่วนบุคคลใช้พลังงานไฟฟ้า อย่างเดียว พอไม่มีคนแข่งกันวิจัย เทคโนโลยีก็ไปช้า


วกมาที่ โรงไฟฟ้า ผมเห็นว่า เรามีโรงไฟฟ้าดีเซล น้ำมันเตา คือไม่ต้องไปสร้างใหม่หรอก ใช้ของที่มี เดิมกำลังการผลิต ก็เพิ่มได้โข ทีนี้

พลังงานทางเลือก พวกลม แสงอาทิตย์ นี่สิ จะตกที่นั่งลำบาก หากน้ำมันลงขนาดนี้ ผมยังเคยคิดเล่นๆเลย ตอนนี้ หากเรามีเครื่องปั่นไฟ

เผลอๆ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเกือบเท่าค่าไฟที่ได้จากการจ่ายค่าไฟให้การไฟฟ้าแล้วมั้ง