การเดินทางครั้งนี้ เดินทางไกลมาถึงเชียงใหม่ ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาวก็ต้องเดินทางขึ้นเหนือซินะ
รู้สึกอยากสัมผัสอากาศหนาวก็เลยหาข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในใจตอนนี้คือแม่กำปอง เป็นกระแสแม่กำปองฟีเวอร์
อันดับแรกก็ต้องหาที่พักในจังหวัดเชียงใหม่ก่อน พวกเราเลยค้นหารีวิวที่พักในพันทิพย์ ไปเจออยู่กระทู้นึงที่รีวิวเกี่ยวกับ Hostel
ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้จักว่า Hostel คืออะไร ก็เลยหาข้อมูลต่อได้ความว่าเป็นที่พักราคาประหยัด ห้องแชร์รูมแบบต่างประเทศ
ที่นักเดินทาง หรือ ชาว Backpacker ชอบใช้บริการ
พวกเราก็เลยนึกสนุกๆกันว่า ทริปนี้ต้องลองใช้บริการ Hostel ดูสักครั้งแล้วล่ะ (จริงๆแล้วพวกเรางบน้อย ฮะๆ)
จากนั้นก็เริ่มค้นหา Hostel หลายๆที่ในเชียงใหม่ แล้วก็ค้นเจอรีวิวพันทิปที่ได้รวม Hostel ในเชียงใหม่ไว้ มีที่น่าสนใจหลายที่เลย
แต่ก็ไปสะดุดตาที่พักอยู่ที่นึง ชื่อ Bunk Boutique Hostel Chiangmai ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ใกล้นิมมาน
แล้วพวกเราก็เข้าไปดูเพจใน Facebook ของทาง Hostel ซึ่งมีรูปที่พักน่ารักๆ และมีแพคเกจทัวร์ที่น่าสนใจเยอะแยะเลย
แล้วก็เลื่อนดูไปเพลินๆ ไปสะดุดเจออยู่โพสต์นึง
กรี๊ดเลยค่ะ มีแพคเก็จแม่กำปองด้วย ราคารวมที่พัก รถรับ - ส่งไปสถานที่ท่องเที่ยวและสามารถจอดแวะข้างทางได้ด้วย
(เพราะเท่าที่ศึกษามาแม่กำปองต้องเหมารถสองแถวหรือที่คนเชียงใหม่เรียกว่ารถแดง หรือไม่ก็ต้องเช่ามอเตอร์ไซต์ขี่ไปเอง)
ซึ่งแก๊งเรามีกันอยู่ 6 คนพอดี เลยกะจะจองแพคเกจสำหรับแก๊ง 6 คนราคาที่ได้เมื่อหารต่อคนแล้วไม่ถึงพัน
เห้ยย!! มันคุ้มมมม ทั้งนอนทั้งเที่ยว ตัดสินใจโทรจองทันทีเลยค่ะ พี่พนักงานต้อนรับก็พูดคุยแบบเป็นกันเองมาก
(พี่พนักงานพูดจาน่ารักมากๆ) ตกลงปลงใจโอนเงินมัดจำเรียบร้อย
19-12-2015
เดินทางถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพตั้งแต่ 7 โมงเช้า ณ สถานีขนส่งอาเขต อากาศค่อนข้างเย็นแต่ยังไม่ถึงกับหนาว พอถึงเชียงใหม่ อันดับแรกเราว่าจะเอาของไปเก็บที่พักก่อน ก็เลยโทรไปถามพี่ๆเค้าว่า เข้าไปเช็คอินได้เลยไหม พี่ๆเค้าก็บอกว่าเข้ามาเช็คอินได้เลย แขกก่อนหน้าเช็คเอาท์ออกไปตั้งแต่ตี 5 แล้ว พวกเราก็เลยโชคดีได้เช็คอินแต่เช้า โทรถามเส้นทางกับพี่ๆที่โรงแรม แล้วพวกเราก็ไปเรียกรถแดง ถึงกับตะลึงกับค่าโดยสาร ลุงเค้าบอกราคา 300 บาท แพงมากเลยนะนั่น พวกเราก็เลยขอความช่วยเหลือจากพี่ที่โรงแรมอีกครั้ง (รบกวนหน่อยนะคะ) โทรไปถามว่ามีวิธีไปทางอื่นไหม พี่เค้าก็เลยบอกว่าให้เรายื่นโทรศัพท์ให้กับรถแดง เค้าก็คุยภาษาเหนือกันสักพักลุงเค้าก็ยื่นโทรศัพท์คืน เราก็คุยกับพี่เค้าต่อ พี่เค้าบอกว่าตกลงจัดการคุยให้ล่ะตกลงราคาที่ 150 บาท (เฉลี่ยคนละ 25 บาท) เราก็โอเคค่ะ ขอบคุณพี่ๆอีกครั้ง เตรียมพร้อมเดินทางเข้าที่พัก
เดินทางไป Hostel โดยรถสองแถวสีแดง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ในที่สุดก็ถึง Bunk Boutique Hostel จัดการเช็คอินแล้วขึ้นไปเก็บของ พี่รีเซฟชั่นก็พาพวกเราไปห้องพักอีกตึกนึง ห้องน่ารักมาก เป็นสไตล์ไม้ ห้องสว่าง คือชอบมากประทับใจเลย
หลังจากที่เราพักเก็บของล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ 8 โมงกว่าแล้วหาอาหารเช้ากินกัน คิดกันไว้ว่าอยากลองอาหารท้องถิ่น ข้าวซอยนั่นเอง ซึ่งร้านอยู่ไม่ห่างจากโรงแรม แค่ 100 เมตรเอง ( แอบถามพี่รีเซฟล่ะ อิอิ)
หลังจากทานข้าวเสร็จพวกเราก็มานั่งรอรถที่จะไปแม่กำปอง ระหว่างที่รอพวกเราก็ได้นั่งคุยกับพี่รีเซฟชั่น เราก็ชวนพี่เค้าคุยไปเรื่อย ถามเกี่ยวกับจังหวัดเชียงใหม่ ถามโน่นถามนี่พวกเราถามจนถึงห้องพัก พวกเราก็สงสัยกันถามพี่เค้าว่าห้องมีกี่แบบ พี่เค้าก็เลยบอกว่ามีห้อง 3 แบบ คือ ห้อง 2 เตียง 4 เตียง แล้วก็ห้อง 6 เตียงที่พวกเราอยู่กัน ซึ่ง 2 ตึกจะตกแต่งห้องนอนคนละสไตล์กัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของพวกเรา เลยถามพี่เค้าไปว่า พวกหนูขอดูห้องได้ไหมค่ะ พี่เค้าก็ใจดีพาพวกเราขึ้นไปดูห้อง 2 เตียงกับ 4 เตียงซึ่งตอนนี้ยังว่าง รอแขกเข้ามาเช็คอิน
หลังจากที่พวกเราเดินสำรวจห้องพักสักแปป รถที่จะพาพวกเราไปแม่กำปองก็มาพอดี เตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อม เตรียมปอดไปสูดอากาศ พร้อมตะลุยแม่กำปองแล้วว
ระยะทางไกลพอใช้ได้ ลุงคนขับขับรถนิ่มมาก แอบงีบบ้าง เริ่มออกห่างจากตัวเมืองไปเรื่อยๆ เห็นธรรมชาติเยอะขึ้น ริมทางเป็นนาข้าวบ้าง บ้านคนบ้าง ล้อมรอบด้วยภูเขา อากาศเย็น รู้สึกสดชื่นกับอากาศที่มาจากธรรมชาติเมื่อเทียบกับเมืองกรุงแล้วคืออยากเอาอากาศกลับไปด้วยเลย
ถึงแล้ว “แม่กำปอง” หมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน อากาศเย็นสบาย มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
--- เดินทางกลับโรงแรมด้วยความประทับใจในวิถีชีวิตของชาวแม่กำปอง หมดพลังงานกันไปตามๆกัน ร่างกายต้องการการพักผ่อน ขอเข้าห้องอาบน้ำ นอนหลับเอาแรงซักงีบก่อนละกัน
เวลาประมาณทุ่มนึงพวกเราก็เริ่มหิว ก็ผลัดกันไปอาบน้ำเตรียมตัวไปหาอะไรกินกัน ระหว่างรอเพื่อนๆอาบน้ำแต่งองค์ทรงเครื่องกันครบทุกคน เราก็ไปเดินเล่น แล้วก็กะว่าจะไปถามคุณพี่รีเซฟชั่นว่ามีอะไรน่าอร่อยบ้างแถวๆนี้ พอตกกลางคืนแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นๆนิด ยิ่งบริเวณโฮสเทลในตอนกลางคืน สวยกว่าตอนกลางวันมากเลย
หลังจากพูดคุย สอบถามพี่รีเซฟชั่นได้ข้อมูลมาเยอะแยะเลย เลือกไม่ถูกเลยว่าจะไปที่ไหนดี พวกเราก็เลยลงความเห็นกันว่ากินๆๆ ต้องกินก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก็ลังเลอยู่หลายร้านเลย มีร้านอาหารที่ติดกับโรงแรมก็น่ารักน่านั่งมาก ถัดมาก็เป็นร้านพิษซ่า Homemade ราคาไม่แพงด้วย แล้วก็มีร้านอาหารกึ่งบาร์ชื่อ Bristo บรรยากาศดีมาก ฝรั่งเต็มเลย (กรี๊ดๆๆ ฝรั่งน่ารักจัง 555 ) แล้วก็เลยไปอีกจะมีอาหารท้องถิ่น เฮือนม่วนใจ มีข้าวซอย แล้วก็จุดแถวๆนี้ติดที่เรียกว่าสันติธรรมพอเดินไปอีกนิด ก็เจอหมูกระทะเต็มเลย เชียงใหม่เมืองหมูกระทะจริงๆ
พอกลับมาถึงที่พัก พี่รีเซฟชั่นเค้าก็แซวว่าไปทานอะไรกันมา แล้วก็บอกว่าไม่ไปเดินเล่นกันหรอกาดมืด หน้าเซ็นทรัลกาดสวนแล้ว เดินไปแค่ 150 เมตรเอง หรือไม่ก็ไปเดินเล่นไปกินขนมแถวนิมมาน ก็เดินไปอีกประมาณ 300 เมตรก็เข้าสู่เขตนิมมาน ก็เลยแพลนไว้ว่าจะไปเดินกาดมืด หน้าเซ็นทรัลกาดสวนแก้วก่อน นิมมานค่อยไปค่ำๆดึกๆละกัน สามทุ่มกว่าแล้ว พวกเรารู้สึกเพลียมาก คงได้เวลาเข้านอน หลังจากที่สู้บุกป่าฝ่าดงกันมาทั้งวัน ก็ได้เวลาพักผ่อนซักที
20-12-2015
เช้าแล้วหรอเนี่ย เร็วจังเลย เมื่อคืนหลับสนิทเลย ที่นอน นอนสบายมากๆ เดี๋ยวไปอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันดีกว่า
ตอนเช้าๆแบบนี้อากาศดีมากเลยก็ต้องหากิจกรรมอะไรสักอย่างทำสินะ เพื่อนๆบางคนก็เหมือนจะงอแง ไม่ยอมตื่น งั้นใครจะนอนต่อก็นอนไป เราไปหาอะไรทำดีกว่า อิอิ
ไปรบกวนพี่รีเซฟชั่นอีกตามเคย พี่เค้าก็บอกว่า เค้ามีจักรยานให้เช่านะ ราคาไม่แพงวันละ 50 บาท ถ้าครึ่งวัน 30 บาท 3 ชั่วโมง 20 บาท เอาไปปั่นเล่นรอบๆ ตอนเช้าๆแบบนี้รถไม่เยอะและอากาศค่อนข้างดี อุ้ย..ถูกจังเราก็เอา 3 ชั่วโมงปั่นเล่นช่วงเช้าแค่ 20 บาทเอง
ที่นี่มีบริการ Free bar ด้วยพวกเราก็ขอจัดสักหน่อย
10 โมงกว่าแล้ว ถึงเวลาต้องกลับแล้วซิ ช่วงเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน อยากอยู่ต่ออีกซัก 2-3 วัน
แต่ต้องกลับไปทำหน้าที่นักศึกษา ขอบคุณทริปแม่กำปองจาก Bunk Boutique Hostel ประทับใจมาก
ทั้งเรื่องโปรแกรม และราคาที่ถูกใจ ขอบคุณพี่ๆสตาฟประจำโฮสเทลที่คอยช่วยเหลือเป็นอย่างดี
โรงแรมตกแต่งสวย สะอาด เหมือนอยู่เมืองนอก สไตล์โมเดิร์น เน้นงานไม้ มีกาแฟโอวัลตินไว้บริการลูกค้า
มีโซนนั่งเล่น พบปะ เล่นเกมส์ต่อไม้ มีกิจกรรมให้ทำเยอะเลย หิวก็เดินไปทานได้ หรือจะเช่าจักรยานแค่วันละ 50 บาท
แต่ถ้าเช่าแค่ 1 - 2 ชั่วโมงก็ได้ ราคาต่อรองได้ พี่รีเซฟชั่นใจดีแล้วเป็นกันเอง
ใกล้ๆมีทั้งร้านอาหารตามสั่งง่ายๆ ข้าวซอยแม่สายใจของกินทางเหนือ ที่พักอยู่ใกล้ 7-11 เดินไปอีกนิดก็เป็นเซนทรัลกาดสวนแก้ว
หรือเดินไปถนนนิมมานเหมินตร์ที่มีร้านเยอะจนเลือกไม่ถูก การเดินทางก็สะดวก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
แต่เราจองเหมาห้อง 6 เตียง เลยไม่ได้แชร์กับชาวต่างชาติ แอบเสียดายนิดนึง ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ Friendly มากเลย
ได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักด้วย เป็นการฝึกภาษาไปในตัว (คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เนียนๆไป 555)
มาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นแก็งค์แนะนำที่นี่เลย ถ้ามีโอกาสกลับมาเชียงใหม่จะมาพักที่นี่อีก แต่จะไปที่ไหนติดตามตอนต่อไป
[CR] ทัวร์ยกแก๊งค์...ท้าลมหนาว
รู้สึกอยากสัมผัสอากาศหนาวก็เลยหาข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในใจตอนนี้คือแม่กำปอง เป็นกระแสแม่กำปองฟีเวอร์
อันดับแรกก็ต้องหาที่พักในจังหวัดเชียงใหม่ก่อน พวกเราเลยค้นหารีวิวที่พักในพันทิพย์ ไปเจออยู่กระทู้นึงที่รีวิวเกี่ยวกับ Hostel
ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้จักว่า Hostel คืออะไร ก็เลยหาข้อมูลต่อได้ความว่าเป็นที่พักราคาประหยัด ห้องแชร์รูมแบบต่างประเทศ
ที่นักเดินทาง หรือ ชาว Backpacker ชอบใช้บริการ
พวกเราก็เลยนึกสนุกๆกันว่า ทริปนี้ต้องลองใช้บริการ Hostel ดูสักครั้งแล้วล่ะ (จริงๆแล้วพวกเรางบน้อย ฮะๆ)
จากนั้นก็เริ่มค้นหา Hostel หลายๆที่ในเชียงใหม่ แล้วก็ค้นเจอรีวิวพันทิปที่ได้รวม Hostel ในเชียงใหม่ไว้ มีที่น่าสนใจหลายที่เลย
แต่ก็ไปสะดุดตาที่พักอยู่ที่นึง ชื่อ Bunk Boutique Hostel Chiangmai ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ใกล้นิมมาน
แล้วพวกเราก็เข้าไปดูเพจใน Facebook ของทาง Hostel ซึ่งมีรูปที่พักน่ารักๆ และมีแพคเกจทัวร์ที่น่าสนใจเยอะแยะเลย
แล้วก็เลื่อนดูไปเพลินๆ ไปสะดุดเจออยู่โพสต์นึง
(เพราะเท่าที่ศึกษามาแม่กำปองต้องเหมารถสองแถวหรือที่คนเชียงใหม่เรียกว่ารถแดง หรือไม่ก็ต้องเช่ามอเตอร์ไซต์ขี่ไปเอง)
ซึ่งแก๊งเรามีกันอยู่ 6 คนพอดี เลยกะจะจองแพคเกจสำหรับแก๊ง 6 คนราคาที่ได้เมื่อหารต่อคนแล้วไม่ถึงพัน
เห้ยย!! มันคุ้มมมม ทั้งนอนทั้งเที่ยว ตัดสินใจโทรจองทันทีเลยค่ะ พี่พนักงานต้อนรับก็พูดคุยแบบเป็นกันเองมาก
(พี่พนักงานพูดจาน่ารักมากๆ) ตกลงปลงใจโอนเงินมัดจำเรียบร้อย
19-12-2015
เดินทางถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพตั้งแต่ 7 โมงเช้า ณ สถานีขนส่งอาเขต อากาศค่อนข้างเย็นแต่ยังไม่ถึงกับหนาว พอถึงเชียงใหม่ อันดับแรกเราว่าจะเอาของไปเก็บที่พักก่อน ก็เลยโทรไปถามพี่ๆเค้าว่า เข้าไปเช็คอินได้เลยไหม พี่ๆเค้าก็บอกว่าเข้ามาเช็คอินได้เลย แขกก่อนหน้าเช็คเอาท์ออกไปตั้งแต่ตี 5 แล้ว พวกเราก็เลยโชคดีได้เช็คอินแต่เช้า โทรถามเส้นทางกับพี่ๆที่โรงแรม แล้วพวกเราก็ไปเรียกรถแดง ถึงกับตะลึงกับค่าโดยสาร ลุงเค้าบอกราคา 300 บาท แพงมากเลยนะนั่น พวกเราก็เลยขอความช่วยเหลือจากพี่ที่โรงแรมอีกครั้ง (รบกวนหน่อยนะคะ) โทรไปถามว่ามีวิธีไปทางอื่นไหม พี่เค้าก็เลยบอกว่าให้เรายื่นโทรศัพท์ให้กับรถแดง เค้าก็คุยภาษาเหนือกันสักพักลุงเค้าก็ยื่นโทรศัพท์คืน เราก็คุยกับพี่เค้าต่อ พี่เค้าบอกว่าตกลงจัดการคุยให้ล่ะตกลงราคาที่ 150 บาท (เฉลี่ยคนละ 25 บาท) เราก็โอเคค่ะ ขอบคุณพี่ๆอีกครั้ง เตรียมพร้อมเดินทางเข้าที่พัก
เดินทางไป Hostel โดยรถสองแถวสีแดง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ในที่สุดก็ถึง Bunk Boutique Hostel จัดการเช็คอินแล้วขึ้นไปเก็บของ พี่รีเซฟชั่นก็พาพวกเราไปห้องพักอีกตึกนึง ห้องน่ารักมาก เป็นสไตล์ไม้ ห้องสว่าง คือชอบมากประทับใจเลย
หลังจากที่เราพักเก็บของล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ 8 โมงกว่าแล้วหาอาหารเช้ากินกัน คิดกันไว้ว่าอยากลองอาหารท้องถิ่น ข้าวซอยนั่นเอง ซึ่งร้านอยู่ไม่ห่างจากโรงแรม แค่ 100 เมตรเอง ( แอบถามพี่รีเซฟล่ะ อิอิ)
หลังจากทานข้าวเสร็จพวกเราก็มานั่งรอรถที่จะไปแม่กำปอง ระหว่างที่รอพวกเราก็ได้นั่งคุยกับพี่รีเซฟชั่น เราก็ชวนพี่เค้าคุยไปเรื่อย ถามเกี่ยวกับจังหวัดเชียงใหม่ ถามโน่นถามนี่พวกเราถามจนถึงห้องพัก พวกเราก็สงสัยกันถามพี่เค้าว่าห้องมีกี่แบบ พี่เค้าก็เลยบอกว่ามีห้อง 3 แบบ คือ ห้อง 2 เตียง 4 เตียง แล้วก็ห้อง 6 เตียงที่พวกเราอยู่กัน ซึ่ง 2 ตึกจะตกแต่งห้องนอนคนละสไตล์กัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของพวกเรา เลยถามพี่เค้าไปว่า พวกหนูขอดูห้องได้ไหมค่ะ พี่เค้าก็ใจดีพาพวกเราขึ้นไปดูห้อง 2 เตียงกับ 4 เตียงซึ่งตอนนี้ยังว่าง รอแขกเข้ามาเช็คอิน
หลังจากที่พวกเราเดินสำรวจห้องพักสักแปป รถที่จะพาพวกเราไปแม่กำปองก็มาพอดี เตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อม เตรียมปอดไปสูดอากาศ พร้อมตะลุยแม่กำปองแล้วว
ระยะทางไกลพอใช้ได้ ลุงคนขับขับรถนิ่มมาก แอบงีบบ้าง เริ่มออกห่างจากตัวเมืองไปเรื่อยๆ เห็นธรรมชาติเยอะขึ้น ริมทางเป็นนาข้าวบ้าง บ้านคนบ้าง ล้อมรอบด้วยภูเขา อากาศเย็น รู้สึกสดชื่นกับอากาศที่มาจากธรรมชาติเมื่อเทียบกับเมืองกรุงแล้วคืออยากเอาอากาศกลับไปด้วยเลย
--- เดินทางกลับโรงแรมด้วยความประทับใจในวิถีชีวิตของชาวแม่กำปอง หมดพลังงานกันไปตามๆกัน ร่างกายต้องการการพักผ่อน ขอเข้าห้องอาบน้ำ นอนหลับเอาแรงซักงีบก่อนละกัน
เวลาประมาณทุ่มนึงพวกเราก็เริ่มหิว ก็ผลัดกันไปอาบน้ำเตรียมตัวไปหาอะไรกินกัน ระหว่างรอเพื่อนๆอาบน้ำแต่งองค์ทรงเครื่องกันครบทุกคน เราก็ไปเดินเล่น แล้วก็กะว่าจะไปถามคุณพี่รีเซฟชั่นว่ามีอะไรน่าอร่อยบ้างแถวๆนี้ พอตกกลางคืนแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นๆนิด ยิ่งบริเวณโฮสเทลในตอนกลางคืน สวยกว่าตอนกลางวันมากเลย
หลังจากพูดคุย สอบถามพี่รีเซฟชั่นได้ข้อมูลมาเยอะแยะเลย เลือกไม่ถูกเลยว่าจะไปที่ไหนดี พวกเราก็เลยลงความเห็นกันว่ากินๆๆ ต้องกินก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก็ลังเลอยู่หลายร้านเลย มีร้านอาหารที่ติดกับโรงแรมก็น่ารักน่านั่งมาก ถัดมาก็เป็นร้านพิษซ่า Homemade ราคาไม่แพงด้วย แล้วก็มีร้านอาหารกึ่งบาร์ชื่อ Bristo บรรยากาศดีมาก ฝรั่งเต็มเลย (กรี๊ดๆๆ ฝรั่งน่ารักจัง 555 ) แล้วก็เลยไปอีกจะมีอาหารท้องถิ่น เฮือนม่วนใจ มีข้าวซอย แล้วก็จุดแถวๆนี้ติดที่เรียกว่าสันติธรรมพอเดินไปอีกนิด ก็เจอหมูกระทะเต็มเลย เชียงใหม่เมืองหมูกระทะจริงๆ
พอกลับมาถึงที่พัก พี่รีเซฟชั่นเค้าก็แซวว่าไปทานอะไรกันมา แล้วก็บอกว่าไม่ไปเดินเล่นกันหรอกาดมืด หน้าเซ็นทรัลกาดสวนแล้ว เดินไปแค่ 150 เมตรเอง หรือไม่ก็ไปเดินเล่นไปกินขนมแถวนิมมาน ก็เดินไปอีกประมาณ 300 เมตรก็เข้าสู่เขตนิมมาน ก็เลยแพลนไว้ว่าจะไปเดินกาดมืด หน้าเซ็นทรัลกาดสวนแก้วก่อน นิมมานค่อยไปค่ำๆดึกๆละกัน สามทุ่มกว่าแล้ว พวกเรารู้สึกเพลียมาก คงได้เวลาเข้านอน หลังจากที่สู้บุกป่าฝ่าดงกันมาทั้งวัน ก็ได้เวลาพักผ่อนซักที
ไปรบกวนพี่รีเซฟชั่นอีกตามเคย พี่เค้าก็บอกว่า เค้ามีจักรยานให้เช่านะ ราคาไม่แพงวันละ 50 บาท ถ้าครึ่งวัน 30 บาท 3 ชั่วโมง 20 บาท เอาไปปั่นเล่นรอบๆ ตอนเช้าๆแบบนี้รถไม่เยอะและอากาศค่อนข้างดี อุ้ย..ถูกจังเราก็เอา 3 ชั่วโมงปั่นเล่นช่วงเช้าแค่ 20 บาทเอง
แต่ต้องกลับไปทำหน้าที่นักศึกษา ขอบคุณทริปแม่กำปองจาก Bunk Boutique Hostel ประทับใจมาก
ทั้งเรื่องโปรแกรม และราคาที่ถูกใจ ขอบคุณพี่ๆสตาฟประจำโฮสเทลที่คอยช่วยเหลือเป็นอย่างดี
โรงแรมตกแต่งสวย สะอาด เหมือนอยู่เมืองนอก สไตล์โมเดิร์น เน้นงานไม้ มีกาแฟโอวัลตินไว้บริการลูกค้า
มีโซนนั่งเล่น พบปะ เล่นเกมส์ต่อไม้ มีกิจกรรมให้ทำเยอะเลย หิวก็เดินไปทานได้ หรือจะเช่าจักรยานแค่วันละ 50 บาท
แต่ถ้าเช่าแค่ 1 - 2 ชั่วโมงก็ได้ ราคาต่อรองได้ พี่รีเซฟชั่นใจดีแล้วเป็นกันเอง
ใกล้ๆมีทั้งร้านอาหารตามสั่งง่ายๆ ข้าวซอยแม่สายใจของกินทางเหนือ ที่พักอยู่ใกล้ 7-11 เดินไปอีกนิดก็เป็นเซนทรัลกาดสวนแก้ว
หรือเดินไปถนนนิมมานเหมินตร์ที่มีร้านเยอะจนเลือกไม่ถูก การเดินทางก็สะดวก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
แต่เราจองเหมาห้อง 6 เตียง เลยไม่ได้แชร์กับชาวต่างชาติ แอบเสียดายนิดนึง ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ Friendly มากเลย
ได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักด้วย เป็นการฝึกภาษาไปในตัว (คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เนียนๆไป 555)
มาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นแก็งค์แนะนำที่นี่เลย ถ้ามีโอกาสกลับมาเชียงใหม่จะมาพักที่นี่อีก แต่จะไปที่ไหนติดตามตอนต่อไป