รถบัสทัวร์มาเลย์ซิ่งแหกโค้งตกเขาดอยสะเก็ดดับ 14 ศพ! เจ็บอีก 12 ราย ก.ท่องเที่ยวฯ-ประกันช่วยเหยื่อเสียชีวิตรายละ 1.6 ล้าน ตำรวจเตรียมดำเนินคดีคนขับ พบเฉี่ยวชนเก๋ง 4 คันก่อนประสบอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเชียงใหม่ได้รับรายงานเหตุด่วนว่า มีรถบัสปรับอากาศโดยสารรับนักท่องเที่ยว ของบริษัท วีระพันธ์ทัวร์ฯ ทะเบียน 30-0485 เชียงใหม่ ได้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนเสาไฟฟ้าและตกข้างทางที่เป็นเขาบริเวณทางหลวงสาย 118 เชียงใหม่-เชียงราย กิโลเมตรที่ 43 บ้านปางแฟน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
เบื้องต้นมีรายงานว่า ภายในรถทัวร์คันเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน พนักงานบนรถ และคนขับ รวม 24 คน โดยรถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนเฉี่ยวชนรถเก๋งซูซูกิ ยี่ห้อสวิฟท์ ที่มีผู้โดยสารและคนขับรวม 2 คน ตกข้างทางด่านปางแฟนด้วย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ระดมเข้าช่วยเหลือที่เกิดเหตุ พร้อมนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ดและโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่แล้ว ในจำนวนนี้มีอาการสาหัสด้วย
ทางด้านสำนักงาน คปภ.เชียงใหม่เร่งทำการตรวจสอบการทำประกันภัยของรถทัวร์รายนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และมีรายงานว่าก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าว คนขับได้ขับมาด้วยความเร็วตลอดทางจากเชียงราย ทำให้เส้นทางสัญจรสายเชียงใหม่-เชียงรายตรงจุดเกิดเหตุการจราจรติดขัดไปด้วย
ต่อมา นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมส่วนราชการผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่และอำนวยการดูแลผู้บาดเจ็บ และประสานกรณีผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการสื่อสารด้านภาษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลทุกคนแล้ว โดยมีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 26 คน อยู่ในรถทัวร์ 24 คน รถเก๋งที่ถูกเฉี่ยวชนอีก 2 คน
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย (โดยเสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย ที่โรงพยาบาลอีก 3 ราย เป็นหญิง 9 ราย ชาย 5 ราย) ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 13 ราย และอีก 1 รายเป็นไกด์สาวชาวไทย ชื่อ น.ส.ภัทรา พรมใจจอม อายุ 34 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งสิ้น 12 ราย แบ่งเป็นอาการสาหัส 3 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 1 ราย, โรงพยาบาลนครพิงค์ 1 ราย และโรงพยาบาลแมคคอมิค 1 ราย มีอาการบาดเจ็บปานกลาง 6 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย
หลังจากนั้น ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ผู้เสียชีวิตจะได้เงินจากค่าประกันภัย และเงินจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมรายละ 1,600,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บจะได้รับการดูแลรักษาตามอาการ รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ขณะที่ผู้บาดเจ็บที่ทุพพลภาพ จะได้รับการช่วยเหลือรายละ 6 แสนบาท
ด้านนายสมพร บัวหลวง อายุ 58 ปี คนขับรถบัส ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลดอยสะเก็ด เชียงใหม่ และอาจถูกส่งตัวต่อไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีตำรวจเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะหลบหนี แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะต้องรอสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อน
จากการสอบสวนทราบว่า นายสมพรได้ขับรถนำนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไปท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย และขากลับได้เฉี่ยวชนรถยนต์ในท้องที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย แล้วขับหลบหนีมาด้วยความเร็ว ถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งและเส้นทางลงเขา ทำให้เสียหลักพุ่งชนรถยนต์เก๋ง จนเสียหลักลงข้างทาง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
พ.ต.อ.นันทิศักดิ์ วรรณ์ยางค์กูร ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด เปิดเผยว่า เบื้องต้นเตรียมดำเนินคดีกับนายสมพร ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและมีผู้บาดเจ็บ รวมถึงมีการทำให้เสียทรัพย์ เพราะรถคันอื่นๆ ต้องมาประสบอุบัติเหตุด้วย ทั้งนี้พบว่ามีรถคู่กรณีที่ถูกเฉี่ยวชนแล้วรวมทั้งหมด 4 คัน อยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 2 คัน และ จ.เชียงราย 2 คัน ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องระบบเบรกขัดข้องหรือไม่ ต้องรอสอบปากคำคนขับรถเสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่แน่ชัดอีกครั้ง
สำหรับถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บ้านปางแฟน เคยเกิดอุบัติใหญ่ขึ้นหลายครั้ง มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จนชาวบ้านเรียกกันว่า "โค้ง 100 ศพ" อย่างเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2550 คณะครูจากจันทบุรีมาทัศนะศึกษาดูงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งคนขับไม่ชำนาญทาง ไม่สามารถควบคุมรถได้ พุ่งชนราวสะพานลงไปในลำน้ำกวง เสียชีวิต 21 ศพ บาดเจ็บจำนวนมาก.
http://goo.gl/JKu0Lv
สลดอีกแล้ว ... รถบัส ‘ทัวร์มาเลย์’ แหกโค้ง ตกเขาดอยสะเก็ด ดับ14 เจ็บอีก12 จ.เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเชียงใหม่ได้รับรายงานเหตุด่วนว่า มีรถบัสปรับอากาศโดยสารรับนักท่องเที่ยว ของบริษัท วีระพันธ์ทัวร์ฯ ทะเบียน 30-0485 เชียงใหม่ ได้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนเสาไฟฟ้าและตกข้างทางที่เป็นเขาบริเวณทางหลวงสาย 118 เชียงใหม่-เชียงราย กิโลเมตรที่ 43 บ้านปางแฟน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
เบื้องต้นมีรายงานว่า ภายในรถทัวร์คันเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน พนักงานบนรถ และคนขับ รวม 24 คน โดยรถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนเฉี่ยวชนรถเก๋งซูซูกิ ยี่ห้อสวิฟท์ ที่มีผู้โดยสารและคนขับรวม 2 คน ตกข้างทางด่านปางแฟนด้วย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ระดมเข้าช่วยเหลือที่เกิดเหตุ พร้อมนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ดและโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่แล้ว ในจำนวนนี้มีอาการสาหัสด้วย
ทางด้านสำนักงาน คปภ.เชียงใหม่เร่งทำการตรวจสอบการทำประกันภัยของรถทัวร์รายนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และมีรายงานว่าก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าว คนขับได้ขับมาด้วยความเร็วตลอดทางจากเชียงราย ทำให้เส้นทางสัญจรสายเชียงใหม่-เชียงรายตรงจุดเกิดเหตุการจราจรติดขัดไปด้วย
ต่อมา นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมส่วนราชการผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่และอำนวยการดูแลผู้บาดเจ็บ และประสานกรณีผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการสื่อสารด้านภาษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลทุกคนแล้ว โดยมีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 26 คน อยู่ในรถทัวร์ 24 คน รถเก๋งที่ถูกเฉี่ยวชนอีก 2 คน
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย (โดยเสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย ที่โรงพยาบาลอีก 3 ราย เป็นหญิง 9 ราย ชาย 5 ราย) ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 13 ราย และอีก 1 รายเป็นไกด์สาวชาวไทย ชื่อ น.ส.ภัทรา พรมใจจอม อายุ 34 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งสิ้น 12 ราย แบ่งเป็นอาการสาหัส 3 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 1 ราย, โรงพยาบาลนครพิงค์ 1 ราย และโรงพยาบาลแมคคอมิค 1 ราย มีอาการบาดเจ็บปานกลาง 6 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย
หลังจากนั้น ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ผู้เสียชีวิตจะได้เงินจากค่าประกันภัย และเงินจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมรายละ 1,600,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บจะได้รับการดูแลรักษาตามอาการ รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ขณะที่ผู้บาดเจ็บที่ทุพพลภาพ จะได้รับการช่วยเหลือรายละ 6 แสนบาท
ด้านนายสมพร บัวหลวง อายุ 58 ปี คนขับรถบัส ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลดอยสะเก็ด เชียงใหม่ และอาจถูกส่งตัวต่อไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีตำรวจเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะหลบหนี แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะต้องรอสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อน
จากการสอบสวนทราบว่า นายสมพรได้ขับรถนำนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไปท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย และขากลับได้เฉี่ยวชนรถยนต์ในท้องที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย แล้วขับหลบหนีมาด้วยความเร็ว ถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งและเส้นทางลงเขา ทำให้เสียหลักพุ่งชนรถยนต์เก๋ง จนเสียหลักลงข้างทาง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
พ.ต.อ.นันทิศักดิ์ วรรณ์ยางค์กูร ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด เปิดเผยว่า เบื้องต้นเตรียมดำเนินคดีกับนายสมพร ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและมีผู้บาดเจ็บ รวมถึงมีการทำให้เสียทรัพย์ เพราะรถคันอื่นๆ ต้องมาประสบอุบัติเหตุด้วย ทั้งนี้พบว่ามีรถคู่กรณีที่ถูกเฉี่ยวชนแล้วรวมทั้งหมด 4 คัน อยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 2 คัน และ จ.เชียงราย 2 คัน ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องระบบเบรกขัดข้องหรือไม่ ต้องรอสอบปากคำคนขับรถเสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่แน่ชัดอีกครั้ง
สำหรับถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บ้านปางแฟน เคยเกิดอุบัติใหญ่ขึ้นหลายครั้ง มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จนชาวบ้านเรียกกันว่า "โค้ง 100 ศพ" อย่างเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2550 คณะครูจากจันทบุรีมาทัศนะศึกษาดูงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งคนขับไม่ชำนาญทาง ไม่สามารถควบคุมรถได้ พุ่งชนราวสะพานลงไปในลำน้ำกวง เสียชีวิต 21 ศพ บาดเจ็บจำนวนมาก.
http://goo.gl/JKu0Lv