ยังคงแกร่งเหนือกาลเวลา

ล่าเหยื่อโหด เข่นฆ่าไร้น้ำตา

วันนี้จะขอประกาศว่า

มนุษย์ไม่มีทางเทียบพวกข้าได้!
10 อันดับ สัตว์ร้ายที่กลับมา!
10.tuatara

คลานมาในอันดับ 10 กับตัวทัวทารา กิ้งก่ากินเนี้อแห่งนิวซีแลนด์ ยาว 60-65 เซนติเมตร
ทารา (อังกฤษ: Tuatara) เป็นสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ที่สืบเชื้อสายมาจากสัตว์เลื้อยคลานโบราณยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อกว่า 220 ล้านปีก่อน จัดเป็นสัตว์หายาก และอายุยืน สามารถปรับสภาพตัวเองจนอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ คาดการณ์ว่าปัจจุบันมีจำนวนประชากรเหลืออยู่ในธรรมชาติราว 50,000 ตัว
ทัวทารา จัดเป็นสัตว์ที่อยู่ในสกุล Sphenodon พบเฉพาะบนเกาะเหนือ ของนิวซีแลนด์เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น มีทั้งหมด 3 ชนิด (สูญพันธุ์ไปแล้ว 1 ชนิด) เป็นสัตว์ที่สืบเผ่าพันธุ์มาจากที่อยู่ในอันดับ Sphenodontia ที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 200 ล้านปีก่อน ขนาดลำตัวของทัวทาราเล็กกว่าบรรพบุรุษมาก โดยมีความยาวจากหัวถึงหางแค่ 32 นิ้วเท่านั้น ตรงแนวสันหลังจะมีรอยหยักขึ้นมาแบบเดียวกับไดโนเสาร์ เป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาวได้ถึง 200 ปี และเคลื่อนไหวช้าเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคำว่า "ทัวทารา" เป็นภาษาเมารี หมายถึง "รอยหยักตรงแนวสันหลัง"
เชื่อว่า บรรพบุรุษของทัวทาราเดินทางมาสู่นิวซีแลนด์จากออสเตรเลียด้วยการเกาะกับของขยะลอยน้ำมากลางทะเลพร้อม ๆ กับการกำเนิดขึ้นมาของผืนดินนิวซีแลนด์เมื่อกว่า 60 ล้านปีก่อน สายพันธ์ปัจจุบันกำเนิดบนโลกมาเกิน 1 แสนปี
ทัวทารา มีความแตกต่างจากกิ้งก่า ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานส่วนใหญ่ในปัจจุบัน พอสมควร โดยลักษณะที่สำคัญ คือ ไม่มีช่องเปิดของหูชั้นนอก และไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศผู้ ใช้การผสมพันธุ์โดยให้ช่องเปิดใต้ท้องติดกัน และปล่อยน้ำเชื้อผ่านเข้าไป บนกลางหัวของทัวทารามีแผ่นหนังที่คล้ายกับดวงตา ที่ทำหน้าที่เหมือนกับดวงที่สาม เรียกว่า "ตาผนังหุ้ม" สามารถตรวจจับแสงและแรงสั่นสะเทือน รวมทั้งทำหน้าที่เหมือนกับตาของสัตว์ประเภทอื่น ๆ ได้
ทัวทารา เติบโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 70 ปี และเริ่มผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งในปี ค.ศ. 2009 ที่สวนสัตว์ในประเทศอังกฤษ ทัวทาราเพศผู้ตัวหนึ่งอายุ 111 ปี ที่ถูกเลี้ยงในนั้นได้ผสมพันธุ์กับทัวทาราเพศเมีย และได้ไข่และฟักออกเป็นตัวทั้งหมด 11 ตัวด้วยกัน ทัวทาราเมื่อวางไข่เสร็จแล้ว จะไม่กลับมาดูแลหรือฟักไข่ แต่จะปล่อยให้ฟักเองโดยธรรมชาติ ไข่ของทัวทารามีลักษณะเปลือกหยุ่นคล้ายแผ่นหนัง และเมื่อฟักออกมาเป็นตัวแล้ว ทัวทาราขนาดเล็กซึ่งมีความยาวเพียง 3 นิ้ว จะรีบออกมาจากโพรงทันที มิเช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของทัวทาราตัวโตกว่าได้ การศึกษาทัวทาราคาดว่าจะเป็นประโยชน์ ในการทำความเข้าใจสัตว์พวกิ้งก่าและงู
9.coyote

จอมโหดอีกตัวในอเมริกาเหนือ หนักได้ถึง 21 กิโลกรัม ในธรรมชาติ วิ่งได้เร็วถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และโดดได้ใกลถึง 4 เมตร วันนี้จะไปพบจอมโหดแห่งอเมริกาเหนือ
ขนาดตัวของสุนัขแห่งความตายสายพันธ์นี้ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
สัตว์สายพันธ์นี้มีฟันที่คมกริบ แรงกัดที่สามารถหักกระดูกกวาง และพวกมันพบได้ทั่วอเมริกาเหนือ
โดยสามารถพบได้ในเมืองด้วย โคโยตีในเมืองจะออกล่าเหยื่อในเวลาก่อนตะวันนขึ้น และหัวค่ำ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สุนัขสายพันธ์นี้สามารถผสมข้ามสายพันธ์กับหมาป่าได้ มีรายงานการต่อสู้กับจิ้งจอกแดง
และฟันคมกริบของมัน สามารถฉีกคนเป็นชิ้นๆ ราวมีดหั่นเนึ้อ
มันออกลูกครั้งละ 3 ตัว ตั้งท้องครั้งละ 5-7 สัปดาห์ โคโยตีนั้นขึ้นชื่อเรื่องการเป็นพ่อแม่ี่รักลูกอย่างมาก
อาจมีอายุยืนได้ 18 ปี ไคโยตีล่าเหยื่อได้หลายขนาด ตั้งแต่แมวยันหมูป่า รอดชีวิตตั้งแต่ สมัยไพลโตซีน(ยุคน้ำแข็ง)
8.grey wolf

จอมโหดจากกลางยุคไพลโตซีน สุนัขสายพันธ์โหดโคตรจากแดนหิมะ กระโหลกศีรษะยาวได้ถึง 31 เซนติเมตร
สูงได้มากกว่า 1 เมตร และหนักได้เกิน 80 กิโลกรัม เจอได้ในเกือบทุกทวีปของโลก โดยจุดที่มีหมาป่าจอมโหดหนาแน่นที่สุดในโลก จะอยู่ที่เชอร์โนบิล
พวกมันสามารถวิ่งไล่ล่าเหยื่อเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร สังหารไบซัน ไล่เสือพูม่า(ใช้ 2 ตัว) หรือขับหมีกริซลี่
เคยสูญพันธ์ไปจากยุโรปตะวันตกในศตวรรษที่ 19 แต่ในที่สุดพวกมันก็กลับมา เป็นนักล่าที่ครองระบบนิเวศของไซบีเรียอีกด้วย
หมาป่าวูลฟ์อาจกัดได้ด้วยแรงดัน 10000 kps และนั่นคือสาเหตุ ว่าทำไมมันฆ่ากวางมูสตัวโตเต็มวัยได้!
แม่แต่วัวมัสคอกซ์ร่างยักษ์ ก็อาจเป็นเมนูของจอมโหดได้ไม่ยาก เป็นนักล่าที่สามารถล่าเหยื่อเป็นระยะทาง
ติดต่อกันนับร้อยกิโลเมตร เพราะมันสามารถวิ่งไล่ล่าเหยื่อติดต่อกันที่ละหลายชั่วโมง
7.Alligator snapping turtle

เต่าที่โหดที่สุดบนดาวเคราะห์ดวงนี้ มีเกล็ดหนาเตอะ กรามทรงพลัง
และรูปลักษน์ที่ดูน่ากลัว เต่ายักษ์อาจหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และทรงพลัง
พอจะฆ่านกน้ำ แรคคูน หรืองูน้ำบางชนิดได้ กระดองที่คล้ายเกราะ ทำให้นอกจากมนุษย์อย่างเรา แทบไม่มีตัวอะไรหยุดปีศาจติดเกราะ
ตัวนั้ในธรรมชาติได้เลย เต่ายักษ์พรางตัวได้ดีเยี่ยม และสามารถเร่งความเร็วสูงในน้ำเป็นเวลาสั้นๆ
ทำให้เป็นคู่ต่อสู้ ที่ยากต่อการเอาชนะ มันสามารถทำร้ายคนจนสาหัสได้ ลิ้นของมันมีรูปร่างคล้ายหนอน ใช้ล่อเหยื่อได้
มาจากกลุ่ม Chelydridae ที่สืบทอดกันมา 70 ล้านปี
6.komodo dragon

อาจยาวได้ถึง 12 ฟุต หนักกว่า 300 ปอนด์ กับราชันย์โหดแห่งเกาะฟลอเรส และเกาะรินกา
สัตว์ร้ายที่สวยงาม และทรงพลังที่สุดในตระกูลกิ้งก่า พิษของมันอาจล้มกวาง หรือฆ่าควายป่าได้ใน
เวลาอันสั้น จอมโหดตัวนี้มีรายงานการฆ่าคนอยู่พอควรด้วย เป็นสัตว์มีพิษที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กำเนิดเมื่อ 4 ล้านปีก่อน จากข้อมูลของมังกรโหดอย่างโคโมโด ทำให้เราคาดว่า เมกะลาเนียอาจเป็นสัตว์มีพิษเช่นกัน
น้ำลายมีแบคทีเรียจำนวนมาก ทำให้แม้แต่จิงโจ้ยักษ์และช้างแคระ ก็อาจไม่รอดจากกิ้งก่าโหดไปได้


5.polar bear

ยินดีต้อนรับ เจ้าแห่งขั้วโลกเหนือ หมีขาว
สัตว์ชนิดนี้เป็นญาติกับหมีกริซลี่ และทรงพลังพอจะฆ่าวาฬโหดอย่างนาวาร สังหารวอลรัสง่ายดาย มาทำความรู้จักกับจอมราชันย์แห่งขั้วโลกกัน
หมีขาวโดยปกติจะหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม มีรายงานการพบหมีขาวหนัก 1 ตัน และสูง 6 ฟุตเมือยืนสี่ขา(ยืน 2 ขา อาจสูงร่วม 13 ฟุต)
หมีขาวกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะซีกโลกทางเหนือ บริเวณขั้วโลกเหนือหรืออาร์กติกเท่านั้น จัดได้ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกนี้ อุ้งเท้าของหมีขาวมีขนรองช่วยให้ไม่ลื่นไถลไปกับความลื่นของพื้นน้ำแข็ง หมีขาวถือเป็นสัตว์ที่เดินทางไกลมาก โดยบางครั้งอาจจะใช้วิธีการนั่งบนแผ่นหรือก้อนน้ำแข็งลอยตามน้ำไป หรือไม่ก็ว่ายน้ำหรือดำน้ำไป ซึ่งหมีขาวจัดเป็นหมีที่ว่ายน้ำและดำน้ำเก่งมาก โดยใช้ขาหน้าพุ้ย หรือบางครั้งก็ใช้ทั้ง 4 ขา เคยมีผู้พบหมีขาวว่ายอยู่ในทะเลที่ห่างจากชายฝั่งไกลถึง 200 ไมล์ (เอาง่ายๆ ระยะนั้นก็จากกรุงเทพถึงโคราช พระเจ้า)
4.green land shark

ถึงรูปร่างจะตลก แต่ความสามารถในการล่าไม่ตลกไปด้วย จอมกระหายเลือดตัวนี้ฆ่าได้แม้แต่ฉลามด้วยกัน ความโหดของมัน
ทำให้ทะเลยุคไมโอซีน(23 ล้านปีก่อน) ต้องนองด้วยเลือดสีแดง อาจหนักมากกว่า 1 ตัน และยาวกว่า 6 เมตร
ดำน้ำที่ 180-550 เมตร แต่เคยมีรายงานการพบที่ 2200 เมตร
3.salwater crocodile

จอมโหดมาจนได้ จระเข้น้ำเค็ม ยาวได้ร่วม 5 เมตรเป็นเรื่องปกติ เจ้าของสถิติในกินเนสบ็ค หนักได้ร่วม 2 ตัน
และยาวถึง 7 เมตร มีรายงานขนาด 9 เมตรที่เบงกอล 7 เมตรที่กัลกักตา อย่างไรก็ตาม จากการประเมินจากซาก ขนาดที่แท้จริงของสัตว์ร้ายเหล่านี้
ควรจะไม่เกิน 6-6.6 เมตร จอมโหดอาจเจอที่อินเดีย อ่าวไทย ทะเลจีนใต้ อินโดนีเซีย ตลอดจนตอนเหนือของออสเตรเลีย
มันฆ่าสัตว์ได้ทุกชนิด ที่อยู่ในช่วงน้ำหนักของมัน ตั้งแต่คน,สุนัข,หมู,ลิง,จิงโจ้,ฉลาม,กระทิง เหยื่อขนาดใหญ่ที่สุด ที่ราชันย์นักล่าเลือกกิน อาจหนักกว่า 1 ตัน จระเข้ชนิดนี้อาจมีแรงกัดเกินกว่า 2300 กิโลกรัม และดำน้ำได้เกินกว่า 30 นาที มันคือสุดยอดนักฆ่าในยุคนี้!
กำเนิดตั้งแต่ 5 ล้านปีก่อน เก่าแก่กว่าโคโมโดซะอีก!
2.Bluntnose Sixgill Shark (Hexanchus griseus)

จอมโหดจากทะเลลึก ใหญ่โตได้น้องๆ เกรทไวท์ ขนาดปกติก็อยู่ที่ราวๆ 4-5 เมตร แต่เคยมีรายงานขนาดยาวถึง 8 เมตร
ทำให้มันใหญ่โต และทรงพลังกว่าฉลามเสือเสียอีก เป็นนักว่ายน้ำที่อดทนมาก ตระกูลฉลามหกเหงือกกำเนิดบนโลกเมื่อ 200 ล้านปีก่อน
โดยเจ้าฉลามหกเหงือกบลันท์โนส มีขนาดที่ใหญ่และทรงพลังที่สุด กินแฮกฟิส แลมเพรย์ และสัตว์เปลือกแข็งเป็นอาหารหลัก
มีรายงานการฆ่าปลาทูน่าเป็นเมนูด้วยนะ
1.great white shark

พระเอกของเรา ฉลามขาวยักษ์ เป็นปลานักล่าที่ใหญ่และดุร้ายที่สุดในปัจจุบัน มีแรงกัดระดับหลายหมื่นจูลส์ ในความลึกมึดทะมึน มองเห็นได้ในระยะ 8 เมตร ได้กลิ่นเลือดใกลหลายร้อยเมตร ขนาดตัวของนักล่ายักษ์นั้นไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพที่อยู่อาศัยและอาหาร ฉลามขาวยักษ์ในสภาพที่มีอาหารสมบูรณ์ จะยาว 7 เมตรขึ้นไป บางรายงานคาดการ์ณว่าสำหรับตัวที่ใหญ่จริงๆ อาจยาวถึง 9 เมตร และหนักได้ 4-6 ตัน
แต่ในสภาพที่มีการจับปลามากเกินไป ก็ก็จะอยู่แค่ 4-4.8 เมตรเท่านั้น จากฟอสซิลฟัน คาดว่าพัฒนาให้มีขนาดใหญ่ เพื่อฆ่าวาฬเล็ก
เคยมีรายงานฉลามขาวยักษ์โจมตีคนอยู่บ่อยๆ เพราะขนาดที่ใหญ่โต คนที่ถูกโจมตีจึงแทบไม่มีทางรอด และเป็นสัตว์นักล่าที่สวยงาม และยิ่งใหญ่เอามากด้วย จอมโหดแห่งทะเลอาจว่ายน้ำไม่หยุดถึง 3000 กิโลเมตรได้ในเวลาสั้นๆ ดำน้ำได้ลึกเกิน 4000 ฟุตด้วย ในระดับ species กำเนิดมาบนโลก 16 ล้านปีเข้าไปแล้ว ในระดับ order Lamniformes ก็มีมาบนโลกเกิน 100 ล้านปี
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.arkive.org/greenland-shark/somniosus-microcephalus/
https://en.wikipedia.org/wiki/Alligator_snapping_turtle
http://www.arkive.org/coyote/canis-latrans/
http://www.arkive.org/komodo-dragon/varanus-komodoensis/
http://www.arkive.org/grey-wolf/canis-lupus/
http://carnivoraforum.com/topic/9327180/2/#new
http://carnivoraforum.com/topic/9333507/1/
http://www.arkive.org/great-white-shark/carcharodon-carcharias/
http://carnivoraforum.com/topic/9333402/6/#new
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2
10 อันดับ สัตว์นักล่าที่รอดมาจากยุคโบราณ
ล่าเหยื่อโหด เข่นฆ่าไร้น้ำตา
วันนี้จะขอประกาศว่า
มนุษย์ไม่มีทางเทียบพวกข้าได้!
10 อันดับ สัตว์ร้ายที่กลับมา!
10.tuatara
คลานมาในอันดับ 10 กับตัวทัวทารา กิ้งก่ากินเนี้อแห่งนิวซีแลนด์ ยาว 60-65 เซนติเมตร
ทารา (อังกฤษ: Tuatara) เป็นสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ที่สืบเชื้อสายมาจากสัตว์เลื้อยคลานโบราณยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อกว่า 220 ล้านปีก่อน จัดเป็นสัตว์หายาก และอายุยืน สามารถปรับสภาพตัวเองจนอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ คาดการณ์ว่าปัจจุบันมีจำนวนประชากรเหลืออยู่ในธรรมชาติราว 50,000 ตัว
ทัวทารา จัดเป็นสัตว์ที่อยู่ในสกุล Sphenodon พบเฉพาะบนเกาะเหนือ ของนิวซีแลนด์เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น มีทั้งหมด 3 ชนิด (สูญพันธุ์ไปแล้ว 1 ชนิด) เป็นสัตว์ที่สืบเผ่าพันธุ์มาจากที่อยู่ในอันดับ Sphenodontia ที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 200 ล้านปีก่อน ขนาดลำตัวของทัวทาราเล็กกว่าบรรพบุรุษมาก โดยมีความยาวจากหัวถึงหางแค่ 32 นิ้วเท่านั้น ตรงแนวสันหลังจะมีรอยหยักขึ้นมาแบบเดียวกับไดโนเสาร์ เป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาวได้ถึง 200 ปี และเคลื่อนไหวช้าเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคำว่า "ทัวทารา" เป็นภาษาเมารี หมายถึง "รอยหยักตรงแนวสันหลัง"
เชื่อว่า บรรพบุรุษของทัวทาราเดินทางมาสู่นิวซีแลนด์จากออสเตรเลียด้วยการเกาะกับของขยะลอยน้ำมากลางทะเลพร้อม ๆ กับการกำเนิดขึ้นมาของผืนดินนิวซีแลนด์เมื่อกว่า 60 ล้านปีก่อน สายพันธ์ปัจจุบันกำเนิดบนโลกมาเกิน 1 แสนปี
ทัวทารา มีความแตกต่างจากกิ้งก่า ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานส่วนใหญ่ในปัจจุบัน พอสมควร โดยลักษณะที่สำคัญ คือ ไม่มีช่องเปิดของหูชั้นนอก และไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศผู้ ใช้การผสมพันธุ์โดยให้ช่องเปิดใต้ท้องติดกัน และปล่อยน้ำเชื้อผ่านเข้าไป บนกลางหัวของทัวทารามีแผ่นหนังที่คล้ายกับดวงตา ที่ทำหน้าที่เหมือนกับดวงที่สาม เรียกว่า "ตาผนังหุ้ม" สามารถตรวจจับแสงและแรงสั่นสะเทือน รวมทั้งทำหน้าที่เหมือนกับตาของสัตว์ประเภทอื่น ๆ ได้
ทัวทารา เติบโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 70 ปี และเริ่มผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งในปี ค.ศ. 2009 ที่สวนสัตว์ในประเทศอังกฤษ ทัวทาราเพศผู้ตัวหนึ่งอายุ 111 ปี ที่ถูกเลี้ยงในนั้นได้ผสมพันธุ์กับทัวทาราเพศเมีย และได้ไข่และฟักออกเป็นตัวทั้งหมด 11 ตัวด้วยกัน ทัวทาราเมื่อวางไข่เสร็จแล้ว จะไม่กลับมาดูแลหรือฟักไข่ แต่จะปล่อยให้ฟักเองโดยธรรมชาติ ไข่ของทัวทารามีลักษณะเปลือกหยุ่นคล้ายแผ่นหนัง และเมื่อฟักออกมาเป็นตัวแล้ว ทัวทาราขนาดเล็กซึ่งมีความยาวเพียง 3 นิ้ว จะรีบออกมาจากโพรงทันที มิเช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของทัวทาราตัวโตกว่าได้ การศึกษาทัวทาราคาดว่าจะเป็นประโยชน์ ในการทำความเข้าใจสัตว์พวกิ้งก่าและงู
9.coyote
จอมโหดอีกตัวในอเมริกาเหนือ หนักได้ถึง 21 กิโลกรัม ในธรรมชาติ วิ่งได้เร็วถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และโดดได้ใกลถึง 4 เมตร วันนี้จะไปพบจอมโหดแห่งอเมริกาเหนือ
ขนาดตัวของสุนัขแห่งความตายสายพันธ์นี้ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
สัตว์สายพันธ์นี้มีฟันที่คมกริบ แรงกัดที่สามารถหักกระดูกกวาง และพวกมันพบได้ทั่วอเมริกาเหนือ
โดยสามารถพบได้ในเมืองด้วย โคโยตีในเมืองจะออกล่าเหยื่อในเวลาก่อนตะวันนขึ้น และหัวค่ำ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สุนัขสายพันธ์นี้สามารถผสมข้ามสายพันธ์กับหมาป่าได้ มีรายงานการต่อสู้กับจิ้งจอกแดง
และฟันคมกริบของมัน สามารถฉีกคนเป็นชิ้นๆ ราวมีดหั่นเนึ้อ
มันออกลูกครั้งละ 3 ตัว ตั้งท้องครั้งละ 5-7 สัปดาห์ โคโยตีนั้นขึ้นชื่อเรื่องการเป็นพ่อแม่ี่รักลูกอย่างมาก
อาจมีอายุยืนได้ 18 ปี ไคโยตีล่าเหยื่อได้หลายขนาด ตั้งแต่แมวยันหมูป่า รอดชีวิตตั้งแต่ สมัยไพลโตซีน(ยุคน้ำแข็ง)
8.grey wolf
จอมโหดจากกลางยุคไพลโตซีน สุนัขสายพันธ์โหดโคตรจากแดนหิมะ กระโหลกศีรษะยาวได้ถึง 31 เซนติเมตร
สูงได้มากกว่า 1 เมตร และหนักได้เกิน 80 กิโลกรัม เจอได้ในเกือบทุกทวีปของโลก โดยจุดที่มีหมาป่าจอมโหดหนาแน่นที่สุดในโลก จะอยู่ที่เชอร์โนบิล
พวกมันสามารถวิ่งไล่ล่าเหยื่อเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร สังหารไบซัน ไล่เสือพูม่า(ใช้ 2 ตัว) หรือขับหมีกริซลี่
เคยสูญพันธ์ไปจากยุโรปตะวันตกในศตวรรษที่ 19 แต่ในที่สุดพวกมันก็กลับมา เป็นนักล่าที่ครองระบบนิเวศของไซบีเรียอีกด้วย
หมาป่าวูลฟ์อาจกัดได้ด้วยแรงดัน 10000 kps และนั่นคือสาเหตุ ว่าทำไมมันฆ่ากวางมูสตัวโตเต็มวัยได้!
แม่แต่วัวมัสคอกซ์ร่างยักษ์ ก็อาจเป็นเมนูของจอมโหดได้ไม่ยาก เป็นนักล่าที่สามารถล่าเหยื่อเป็นระยะทาง
ติดต่อกันนับร้อยกิโลเมตร เพราะมันสามารถวิ่งไล่ล่าเหยื่อติดต่อกันที่ละหลายชั่วโมง
7.Alligator snapping turtle
เต่าที่โหดที่สุดบนดาวเคราะห์ดวงนี้ มีเกล็ดหนาเตอะ กรามทรงพลัง
และรูปลักษน์ที่ดูน่ากลัว เต่ายักษ์อาจหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และทรงพลัง
พอจะฆ่านกน้ำ แรคคูน หรืองูน้ำบางชนิดได้ กระดองที่คล้ายเกราะ ทำให้นอกจากมนุษย์อย่างเรา แทบไม่มีตัวอะไรหยุดปีศาจติดเกราะ
ตัวนั้ในธรรมชาติได้เลย เต่ายักษ์พรางตัวได้ดีเยี่ยม และสามารถเร่งความเร็วสูงในน้ำเป็นเวลาสั้นๆ
ทำให้เป็นคู่ต่อสู้ ที่ยากต่อการเอาชนะ มันสามารถทำร้ายคนจนสาหัสได้ ลิ้นของมันมีรูปร่างคล้ายหนอน ใช้ล่อเหยื่อได้
มาจากกลุ่ม Chelydridae ที่สืบทอดกันมา 70 ล้านปี
6.komodo dragon
อาจยาวได้ถึง 12 ฟุต หนักกว่า 300 ปอนด์ กับราชันย์โหดแห่งเกาะฟลอเรส และเกาะรินกา
สัตว์ร้ายที่สวยงาม และทรงพลังที่สุดในตระกูลกิ้งก่า พิษของมันอาจล้มกวาง หรือฆ่าควายป่าได้ใน
เวลาอันสั้น จอมโหดตัวนี้มีรายงานการฆ่าคนอยู่พอควรด้วย เป็นสัตว์มีพิษที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กำเนิดเมื่อ 4 ล้านปีก่อน จากข้อมูลของมังกรโหดอย่างโคโมโด ทำให้เราคาดว่า เมกะลาเนียอาจเป็นสัตว์มีพิษเช่นกัน
น้ำลายมีแบคทีเรียจำนวนมาก ทำให้แม้แต่จิงโจ้ยักษ์และช้างแคระ ก็อาจไม่รอดจากกิ้งก่าโหดไปได้
ยินดีต้อนรับ เจ้าแห่งขั้วโลกเหนือ หมีขาว
สัตว์ชนิดนี้เป็นญาติกับหมีกริซลี่ และทรงพลังพอจะฆ่าวาฬโหดอย่างนาวาร สังหารวอลรัสง่ายดาย มาทำความรู้จักกับจอมราชันย์แห่งขั้วโลกกัน
หมีขาวโดยปกติจะหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม มีรายงานการพบหมีขาวหนัก 1 ตัน และสูง 6 ฟุตเมือยืนสี่ขา(ยืน 2 ขา อาจสูงร่วม 13 ฟุต)
หมีขาวกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะซีกโลกทางเหนือ บริเวณขั้วโลกเหนือหรืออาร์กติกเท่านั้น จัดได้ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกนี้ อุ้งเท้าของหมีขาวมีขนรองช่วยให้ไม่ลื่นไถลไปกับความลื่นของพื้นน้ำแข็ง หมีขาวถือเป็นสัตว์ที่เดินทางไกลมาก โดยบางครั้งอาจจะใช้วิธีการนั่งบนแผ่นหรือก้อนน้ำแข็งลอยตามน้ำไป หรือไม่ก็ว่ายน้ำหรือดำน้ำไป ซึ่งหมีขาวจัดเป็นหมีที่ว่ายน้ำและดำน้ำเก่งมาก โดยใช้ขาหน้าพุ้ย หรือบางครั้งก็ใช้ทั้ง 4 ขา เคยมีผู้พบหมีขาวว่ายอยู่ในทะเลที่ห่างจากชายฝั่งไกลถึง 200 ไมล์ (เอาง่ายๆ ระยะนั้นก็จากกรุงเทพถึงโคราช พระเจ้า)
4.green land shark
ถึงรูปร่างจะตลก แต่ความสามารถในการล่าไม่ตลกไปด้วย จอมกระหายเลือดตัวนี้ฆ่าได้แม้แต่ฉลามด้วยกัน ความโหดของมัน
ทำให้ทะเลยุคไมโอซีน(23 ล้านปีก่อน) ต้องนองด้วยเลือดสีแดง อาจหนักมากกว่า 1 ตัน และยาวกว่า 6 เมตร
ดำน้ำที่ 180-550 เมตร แต่เคยมีรายงานการพบที่ 2200 เมตร
3.salwater crocodile
จอมโหดมาจนได้ จระเข้น้ำเค็ม ยาวได้ร่วม 5 เมตรเป็นเรื่องปกติ เจ้าของสถิติในกินเนสบ็ค หนักได้ร่วม 2 ตัน
และยาวถึง 7 เมตร มีรายงานขนาด 9 เมตรที่เบงกอล 7 เมตรที่กัลกักตา อย่างไรก็ตาม จากการประเมินจากซาก ขนาดที่แท้จริงของสัตว์ร้ายเหล่านี้
ควรจะไม่เกิน 6-6.6 เมตร จอมโหดอาจเจอที่อินเดีย อ่าวไทย ทะเลจีนใต้ อินโดนีเซีย ตลอดจนตอนเหนือของออสเตรเลีย
มันฆ่าสัตว์ได้ทุกชนิด ที่อยู่ในช่วงน้ำหนักของมัน ตั้งแต่คน,สุนัข,หมู,ลิง,จิงโจ้,ฉลาม,กระทิง เหยื่อขนาดใหญ่ที่สุด ที่ราชันย์นักล่าเลือกกิน อาจหนักกว่า 1 ตัน จระเข้ชนิดนี้อาจมีแรงกัดเกินกว่า 2300 กิโลกรัม และดำน้ำได้เกินกว่า 30 นาที มันคือสุดยอดนักฆ่าในยุคนี้!
กำเนิดตั้งแต่ 5 ล้านปีก่อน เก่าแก่กว่าโคโมโดซะอีก!
2.Bluntnose Sixgill Shark (Hexanchus griseus)
จอมโหดจากทะเลลึก ใหญ่โตได้น้องๆ เกรทไวท์ ขนาดปกติก็อยู่ที่ราวๆ 4-5 เมตร แต่เคยมีรายงานขนาดยาวถึง 8 เมตร
ทำให้มันใหญ่โต และทรงพลังกว่าฉลามเสือเสียอีก เป็นนักว่ายน้ำที่อดทนมาก ตระกูลฉลามหกเหงือกกำเนิดบนโลกเมื่อ 200 ล้านปีก่อน
โดยเจ้าฉลามหกเหงือกบลันท์โนส มีขนาดที่ใหญ่และทรงพลังที่สุด กินแฮกฟิส แลมเพรย์ และสัตว์เปลือกแข็งเป็นอาหารหลัก
มีรายงานการฆ่าปลาทูน่าเป็นเมนูด้วยนะ
1.great white shark
พระเอกของเรา ฉลามขาวยักษ์ เป็นปลานักล่าที่ใหญ่และดุร้ายที่สุดในปัจจุบัน มีแรงกัดระดับหลายหมื่นจูลส์ ในความลึกมึดทะมึน มองเห็นได้ในระยะ 8 เมตร ได้กลิ่นเลือดใกลหลายร้อยเมตร ขนาดตัวของนักล่ายักษ์นั้นไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพที่อยู่อาศัยและอาหาร ฉลามขาวยักษ์ในสภาพที่มีอาหารสมบูรณ์ จะยาว 7 เมตรขึ้นไป บางรายงานคาดการ์ณว่าสำหรับตัวที่ใหญ่จริงๆ อาจยาวถึง 9 เมตร และหนักได้ 4-6 ตัน
แต่ในสภาพที่มีการจับปลามากเกินไป ก็ก็จะอยู่แค่ 4-4.8 เมตรเท่านั้น จากฟอสซิลฟัน คาดว่าพัฒนาให้มีขนาดใหญ่ เพื่อฆ่าวาฬเล็ก
เคยมีรายงานฉลามขาวยักษ์โจมตีคนอยู่บ่อยๆ เพราะขนาดที่ใหญ่โต คนที่ถูกโจมตีจึงแทบไม่มีทางรอด และเป็นสัตว์นักล่าที่สวยงาม และยิ่งใหญ่เอามากด้วย จอมโหดแห่งทะเลอาจว่ายน้ำไม่หยุดถึง 3000 กิโลเมตรได้ในเวลาสั้นๆ ดำน้ำได้ลึกเกิน 4000 ฟุตด้วย ในระดับ species กำเนิดมาบนโลก 16 ล้านปีเข้าไปแล้ว ในระดับ order Lamniformes ก็มีมาบนโลกเกิน 100 ล้านปี
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.arkive.org/greenland-shark/somniosus-microcephalus/
https://en.wikipedia.org/wiki/Alligator_snapping_turtle
http://www.arkive.org/coyote/canis-latrans/
http://www.arkive.org/komodo-dragon/varanus-komodoensis/
http://www.arkive.org/grey-wolf/canis-lupus/
http://carnivoraforum.com/topic/9327180/2/#new
http://carnivoraforum.com/topic/9333507/1/
http://www.arkive.org/great-white-shark/carcharodon-carcharias/
http://carnivoraforum.com/topic/9333402/6/#new
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2